เทียนหย่วยกรุ๊ปกับลี่ซื่อกรุ๊ปมีความร่วมมือกันหลายอย่าง
แต่ประธานเทียนหย่วยกรุ๊ปเข้ามาพูดคุย ไม่ใช่เพื่อปรึกาเรื่องความสัมพันธ์ของสองบริษัท
มีความหมายอื่นแอบแฝง สวี่รั่วฉิงหลับตาลงเล็กน้อย เม้มริมฝีปากที่เย็นเยือก มองดูพื้นหินอ่อนเรียบเนียน
ครึ่งนาทีผ่านไป เธอก็เริ่มหมดเรี่ยวแรง มือของลี่ถิงเซิ่งที่จับไหล่เธออยู่กระชับขึ้นเล็กน้อย เสียงต่ำเฉยชาของชายหนุ่มแทรกเข้าไปในหูเธออย่างควบคุมไม่ได้
“เธอไม่ชอบดื่มไวน์”
คำพูดของลี่ถิงเซิ่ง ทำให้คุณหวังแห่งเทียนหย่วยกรุ๊ปสีหน้าไม่ดีเล็กน้อย
แต่เขาไม่อาจทำให้ลี่ซื่อกรุ๊ปขุ่นเคืองได้ ได้แต่ระงับความไม่พอใจไว้
“ประธานหวัง” สวี่รั่วฉิงที่นอกจากแนะนำตัวเองแล้วก็ไม่ได้ส่งสายตาใดๆให้คุณหวังเลยส่งเสียงออกมาเบาๆ
เธอเหลือบมองชายหนุ่มตรงหน้า จากนั้นปากแดงที่ปิดแน่นมาตลอด ก็ขยับเล็กน้อย
น้ำเสียงมีความประหลาดใจ แต่ก็มีสไตล์
“เด็กเสิร์ฟ ไวน์”
ลี่ถิงเซิ่งกวาดตามองไปที่สวี่รั่วฉิงความเย็นชาในแววตาทำให้คุณหวังที่อยู่ด้านข้างรู้สึกขนลุกขึ้นมา
เพื่อนผู้หญิงของลี่ถิงเซิ่งไม่ฟังความคิดเห็นของเขา น่ากลัวเกินไปแล้ว
บริกรถือแก้วไวน์แดงเข้ามาอย่างรวดเร็ว สวี่รั่วฉิงเอื้อมมือออกไป หยิบแก้วไวน์ขึ้นมา ชนแก้วกับคุณหวังเบาๆ เม้มปากจิบไวน์แดงไปหนึ่งอึก
รอยลิปสติกสีแดงพิมพ์อยู่บนแก้วไวน์ ดูสดใสและมีเสน่ห์
“ประธานหวัง แบบนี้พอใจหรือยัง?” น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงไม่ได้มีความเอาใจคุณหวังแม้แต่น้อย
เธอเพียงแค่ทำตามหน้าที่ของตัวเอง
ความสำคัญของการชนแก้วในโอกาสทางสังคม ไม่มีใครรู้ดีเท่าสวี่รั่วฉิงที่เคยเป็นคุณหนูลูกเศรษฐี
แม้ว่าบนตัวเธอจะไม่เหลือเลือดของตระกูลสวี่ แต่ก็ได้รับการสั่งสอนด้านมารยาททางสังคมที่หลากหลาย
บนตัวคุณหวังยิ่งขนลุกมากขึ้น
เดิมทีเขาเพียงแค่อย่างเข้ามาสังเกตเพื่อนสาวของประธานลี่ใกล้ๆเท่านั้น
ผู้หญิงสวยที่เย็นชาใครบ้างไม่รัก?
โดยเฉพาะในระหว่างที่เธอยกมือยังมีท่วงท่าที่ดูแพง ไม่มีความประจบประแจง
ผู้ชายในแวววงไฮโซ เห็นผู้หญิงสวยมาไม่รู้เท่าไหร่
แต่พวกหล่อนส่วนมากแค่ประจบประแจง
แต่เพื่อนสาวของประธานลี่ แววตาที่มองเขาเย็นชาราวกับฤดูหนาวอันหนาวเหน็บราวกับไม่สนใจพลังและความร่ำรวยที่อยู่บนตัวเขา
เฉพาะผู้หญิงที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยเงินทองเท่านั้น ถึงจะมีสายตาแบบนี้
เมื่อกี้สวี่รั่วฉิงยกแก้วมาชนกับเขา สายตาที่เย็นชานั้นราวกับทำการกุศล
คุณหวังคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็ดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ เขาจิบไวน์อย่างเร่งรีบ เหลือบมองไปที่ลี่ถิงเซิ่ง “ประธานลี่ เพื่อนสาวของคุณไม่ธรรมดาจริงๆ”
ริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรงของลี่ถิงเซิ่ง ทรยศต่ออารมณ์ของเขา
เขาโค้งรอยยิ้มเย้ยหยันขึ้น “แน่นอน”
คุณหวังหึอย่างเย็นชา
ต่อให้สาวสวยจะเย็นชาแค่ไหน ก็ยังยอมจำนนต่อลี่ถิงเซิ่ง?
แต่ก็แค่ผู้หญิงที่หลงใหลเงินและหน้าตา!
ถ้าเขาหน้าตาเหมือนลี่ถิงเซิ่ง เกรงว่าผู้หญิงสวยอย่างสวี่รั่วฉิงจะจู่โจมเข้ามาหาเองไหม?
คุณหวังจากไปด้วยความโมโห
สวี่รั่วฉิงวางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะ กวาดสายตาไปที่ริมฝีปากที่เม้มแน่นของลี่ถิงเซิ่ง ครุ่นคิดเล็กน้อย พูดเสียงเบา “ประธานลี่ คุณหึงหรอ?”
ลี่ถิงเซิ่งหันไปด้านข้าง วางมือข้างหนึ่งไว้ที่ขอบโต๊ะ มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋าสูทของเขา
สูทสีดำบนตัว ช่างพิถีพิถัน
เนคไทผูกอย่างแน่นหนา ไม่มีโอกาสใช้ประโยชน์ใดๆได้
รอยยิ้มที่เหมือนมีแต่ไม่มีตรงมุมปาก มีความหาเรื่อง
เขาราวกับได้ฟังเรื่องตลกอะไรมา ก้มศีรษะลงเล็กน้อย
ระยะห่างของทั้งสอง เพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร
สวี่รั่วฉิงไม่แม้แต่จำเป็นต้องเขย่งเท้า ก็สามารถจับเนคไทของชายหนุ่ม บังคับให้เขาก้มศีรษะที่สูงส่งลงมา จูบลงบนมุมปากของเขา
สายตาของเธอกวาดมองไปรอบด้าน ร่างที่คุ้นเคยกำลังเดินมาทางนี้
“ประธานลี่ คุณสวี่มาแล้ว” เสียงของสวี่รั่วฉิงไม่ดัง
ยังไม่ทันรอการตอบรับใดๆ เธอก็ดึงเนคไทของชายหนุ่ม ประทับริมฝีปากสีแดงบนเขาเบาๆ
เป็นเพราะเมื่อกี้พึ่งดื่มไวน์ บนริมฝีปากของชายหนุ่มยังมีรสชาติไวน์แดงข้างอยู่
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้หลับตา ดวงตาที่แหลมคมของเขามองดูหญิงสาวที่ดึงเนคไทเขาอยู่ตลอด
ขนตาสั่นเล็กน้อย
การเคลื่อนไหวแม้ว่าจะเด็ดขาด แต่ก็ยังลังเลที่จะตัดสินใจ
คำพูดของเธอเมื่อกี้ เขาได้ยินอย่างชัดเจน
มือซ้ายของลี่ถิงเซิ่ง ผละออกจากโต๊ะ แล้วลูบหลังคอของหญิงสาวช้าๆ
มือของเขาเย็นมาก ที่หลังคอของสวี่รั่วฉิงขนลุกขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
จูบที่ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ไม่มีอารมณ์เสน่หาเท่าไหร่
ไม่มีใครวางแผนที่จะไปให้ลึกกว่านี้ เพียงแค่เล่นละครเท่านั้น
ในใจของสวี่รั่วฉิงคิดแบบนี้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดๆ ราวกับมีอารมณ์บางอย่างที่เธอไม่อาจเข้าใจคว้าหัวใจเธอไว้
แน่นขึ้นเรื่อยๆ
หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
เธอปล่อยเนคไทของชายหนุ่มเบาๆ เงยหน้าขึ้น
ริมฝีปากเรียบของชายหนุ่ม ถูกย้อมด้วยสีแดงพราวเสน่ห์
ดวงตาที่ลึกล้ำของลี่ถิงเซิ่งเป็นอารมณ์ซับซ้อนที่สวี่รั่วฉิงอ่านไม่เข้าใจ เขาค่อยๆคลายมือที่ลูบคอของเธอ หยิบผ้าเปียกบนโต๊ะ เช็ดที่มุมปากเบาๆ
จากนั้นก็ทิ้งลงไปในถังขยะ
“แอนนา! แกนังสารเลว! วันนี้ฉันจะต้อง—“
สวี่รั่วยีที่เห็นทุกอย่าง เหยียบรองเท้าส้นสูงเสียงดัง
บนตัวเธอไม่เหลือร่องรอยความอ่อนโยนและสงบเสงี่ยมของคุณหนูอีกต่อไป ใบหน้าที่แต่งหน้าอย่างสวยงามก็บิดเบี้ยวขึ้นมา
ในมือเธอบังเอิญถือแก้วไวน์อยู่พอดี
สวี่รั่วยีไม่คิดเยอะ ยื่นมืออกไป สาดของเหลวในแก้วใส่หน้าสวี่รั่วฉิงทันที
รอบด้านต่างส่งเสียงตกใจ
ตรงนี้แม้ว่าจะเป็นจุดพักผ่อน แต่คนก็ไม่นับว่าน้อย
เมื่อกี้ผู้คนไม่น้อยต่างเห็นลี่ถิงเซิ่งกับสวี่รั่วฉิงจูบกัน ตอนนี้สนยเข้ามาหาถึงที่ ก็นับว่าสมเหตุสมผล
ผู้คนต่างมองทั้งสามด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วซุบซิบกันอย่างสนุกสนาน
บนใบหน้าของสวี่รั่วฉิงไม่มีการแสดงออกใดๆ
ในเมื่อเมื่อกี้เธอทำแบบนั้นลงไป จึงเป็นสัญญาณการเปิดสงคราม
ไวน์ไหลลงตามคางที่เรียบเนียนของเธอ หยดลงบนหน้าเธอทีละหยดละหยด
ชุดเดรสทั้งชุดค่อยๆเปลี่ยนสี ค่อยๆเปลี่ยนจากสีขาวเป็นดวงดาวบนท้องฟ้า
ไวน์แดงย้อมหน้าอกของสวี่รั่วฉิงเป็นสีแดง ผ้าดูดซับน้ำเข้าไป ค่อยๆเปลี่ยนเป็นโปร่งใส
สวี่รั่วฉิงหยิบผ้าเปียกบนโต๊ะขึ้นมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย เช็ดไวน์บนใบหน้าของเธอเบาๆ
ทันใดนั้น สูทสีดำก็ตกลงบนศีรษะของเธอ
“ใส่ซะ” ลี่ถิงเซิ่งพูดเสียงเคร่งขรึม
ดวงตาของสวี่รั่วฉิงชะงักเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นทันที เธอทิ้งผ้าเปียกในมือ สวมเสื้อสูทของชายหนุ่มด้วยความสง่า ติดกระดุมเรียบร้อย
ถ้าเป็นหญิงสาวในอดีต เธอจะอยู่ให้ห่างจากทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสวี่รั่วยีด้วยตัวเอง
วันนี้หลังจากได้รับคำสัญญาจากเขาแล้ว สิ่งที่ทำก็ค่อนข้างผิดปกติ
สายตาของลี่ถิงเซิ่งหยุดลงบนร่างของสวี่รั่วฉิงไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ละสายตา
ดวงตาสีดำเข้มกวาดไปที่สวี่รั่วยีที่ตื่นตระหนก อารมณ์ในสายตาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ริมฝีปากบางของชายหนุ่มขยับ คำพูดเดียวก็ทำเอาทุกคนในที่นั้นตกใจจนทิ้งแก้วในมือ
“สวี่รั่วยี เธอแตะคนของฉัน ได้พิจารณาถึงจุดจบหรือยัง?