“แขวนไว้เถอะ” ลี่ถิงเซิ่งวางแท็บเล็ตไว้บนโต๊ะ “ถ้าไม่เกี่ยวข้องถึงระดับบริษัท เรื่องอื่นก็ไม่จำเป็นต้องแทรกแซง ถึงยังไงแอนนาก็เป็นนักปรุงน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ป มีชื่อเสียงในหลินชวนเป็นเรื่องดี”
“แต่ว่า—“ หลี่อานยังมีคำที่อยากพูด แต่ก็ถูกลี่ถิงเซิ่งหยุดไว้
เขาเหลือบมองหลี่อานอย่างเย็นชา “คำบางคำพูดมากเกินไปก็ไม่น่าสนใจแล้ว ฉันจะพักผ่อน”
พูดจบ ลี่ถิงเซิ่งก็เดินขึ้นชั้นบนไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน
หลี่อานมองไปที่เงาของชายหนุ่ม แววตาเผยความไม่เข้าใจ
ประธานลี่ไม่รู้หรอว่าการผลักแอนนาไปบนเวทีในเวลานี้ จะถูกสวี่รั่วยีมองเป็นหนามยอกอก?
……
สามวันหลังจากนั้น โพสต์เกี่ยวกับแอนนานักปรุงน้ำหอม ก็ได้รับความนิยมบนอินเตอร์เน็ต
ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนที่ตัดสินใจชื่นชอบสวี่รั่วฉิงเพราะรูปภาพใช้ความพยายามอย่างมาก นำผลงานปรุงน้ำหอมและประวัติของแอนนาที่ต่างประเทศมาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต
พริบตาเดียวยอดวิวก็ทะลุ100ล้าน จำนวนคอมเมนต์เกิน10ล้านในโพสต์มีภาพถ่ายชีวิตประจำวันที่ต่างประเทศของสวี่รั่วฉิงมากมาย ทั้งหมดได้มาจากบัญชีโซเชียลของสวี่รั่วฉิง
“คุณพระ ที่แท้พี่สาวแอนในชีวิตประจำวันน่ารักขนาดนี้เชียวหรอ? ฉันยังนึกว่าเธอเป็นคนเย็นชาเสียอีก!”
“ชีวิตประจำวันน่ารัก ก็เพราะรักการใช้ชีวิตไง! เมื่อเจอกับคนที่ไม่สนใจก็จะเย็นชา ฉันชอบคนบุคลิคแบบนี้!
“ใช่ใช่ใช่ สามารถอาศัยหน้าตาหากินได้แต่อาศัยความสามารถหากิน ในเมื่ออาศัยความสามารถหากิน แล้วทำไมต้องทำหน้าดีใส่คนที่ไม่ชอบล่ะ?”
“เธอยังเข้าร่วมทีมรถผู้หญิงของยุโรปด้วย? ฉันยังนึกว่าซุปเปอร์คาร์คือเงินเยอะแล้วไม่ได้ใช้เสียอีก…..”
“ตอนนี้ฉันไปสมัครงานที่ลี่ซื่อกรุ๊ปทันไหม? ฉันอยากเป็นผู้ช่วยของพี่สาวแอน”
ไม่เพียงแค่นักข่าวที่นั่งคุกเข่ารอสวี่รั่วฉิงอยู่นอกประตูตึกลี่ซื่อกรุ๊ปตลอดทั้งวัน ยังมีผู้คนที่กลายเป็นแฟนคลับจากการเห็นโพสต์
พี่สาวพนักงานในล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งของลี่ซื่อกรุ๊ปมองดูของขวัญที่กองเป็นภูเขา ริมฝีปากกระตุกเล็กน้อย
“ช่วงสามวันมานี้นี่เป็นของขวัญชิ้นที่เท่าไหร่แล้ว? ผู้ดูแลแอนจะเอาข้าวของพวกนี้กลับไปยังไงล่ะ? นี่มันสูงเท่ากับเนินภูเขาเล็กๆเลย…..”
“จะไม่ใช่ได้ยังไงล่ะ? วันนี้ตอนที่ผู้ดูแลแอนมา เห็นของขวัญมากมายขนาดนี้ ก็แทบจะโยนทิ้งทันที”
“อย่าว่าแต่ผู้ดูแลแอนเลย ฉันเห็นวันนี้พอประธานลี่มาเห็นของขวัญมากมายขนาดนี้ อารมณ์ก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน สีหน้าดำมืดแบบนั้น…..เหอะเหอะ ฉันไม่เคยเห็นประธานลี่เป็นแบบนั้นเลยนะ!”
“ไม่ให้เป็นงั้นไง? ของขวัญพวกนั้นไม่ใช่แค่ผู้หญิงส่งมา ฉันเห็นมีหนุ่มหล่อไม่น้อยเอามาให้เหมือนกันนะ” ขณะที่พูด พี่สาวพนักงานก็เข้าไปใกล้ตัวเพื่อนร่วมงาน พูดเสียงต่ำ “ถ้าเรื่องของผู้ดูแลแอนกับประธานลี่เป็นจริง งั้นประธานลี่ก็ต้องหึงหวงไม่ใช่หรอ”
ชั้นบนสุดของตึกลี่ซื่อกรุ๊ป ภายในห้องทำงานของลี่ถิงเซิ่ง
แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้องผ่านหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้สวี่รั่วฉิงหรี่ตาลงอย่างไม่รู้ตัว
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่กองของขวัญมุมโต๊ะเธอด้วยใบหน้ามืดมน
ริมฝีปากของชายหนุ่มเม้มแน่นจนกลายเป็นเส้นตรง ออร่าเย็นเยือกทั่วร่างแสดงให้เห็นว่าในตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี
ลี่ถิงเซิ่งกำลังจะเอ่ยปากพูด ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว มองไปที่ประตูห้องทำงานอย่างไม่พอใจ
อ้อมแขนของหลี่อานกอดกองของขวัญหนึ่งกอง ฝีเท้าไม่คงที่
ของขวัญกระทั่งบดบังใบหน้าของหลี่อาน เขามองอะไรไม่เห็นเลย ได้เพียงคลำไปข้างหน้า จากนั้นก็วางของขวัญไว้ที่มุมโต๊ะทำงานของสวี่รั่วฉิง
หลี่อานปาดเหงื่อบนหน้าผาก “แอนนา นี่เป็นรอบที่สี่ของวันนี้แล้ว……แฟนคลับตรงหน้าประตูของเธอก็น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า คุกเข่าอยู่ทั้งวัน บ้าคลั่งยิ่งกว่าพวกคลั่งไคล้อีก”
ลี่ถิงเซิ่งพ่นลมอย่างเย็นชา ดึงมือกลับมาหน้าดต๊ะทำงานโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วเปิดคอมพิวเตอร์
นิ้วมือเรียวยาวเคาะแป้นพิมพ์ด้วยความรวดเร็ว ไม่ส่งสายตาเป็นกุศลให้ทางนั้นอีก
สวี่รั่วฉิงหยิบนิตยสารขึ้นมาบังหน้าตัวเอง พูดเสียงเบื่อหน่าย “ไม่ต้องพูดแล้ว ทุกวันนี้ฉันต้องแต่งหน้าปลอมตัวถึงจะกล้ามาบริษัท”
วันนี้เธอกระทั่งพันผ้าพันคอและสวมหมวกที่มียอดแหลมมาทำงาน ผลลัพธ์คือยังคงถูกคนกลุ่มนั้นจับได้
สวี่รั่วฉิงไร้หนทาง วิ่งจากโรงรถมาที่บริษัทด้วยรองเท้าส้นสูง7-8เซนติเมตรมาตลอดทาง ในที่สุดถึงโล่งใจได้
พรุ่งนี้เธอจะไม่ใส่รองเท้าส้นสูงอีกเด็ดขาด!
ต่อให้ระบบของบริษัทจะกำหนดให้พนักงานหญิงสวมรองเท้าส้นสูง เธอก็จะใส่รองเท้ากีฬา!
ไม่อย่างนั้นวิ่งฝ่ากลุ่มคนพวกนั้นไม่ได้แน่นอน!
“สิ่งที่เธอเจอมาฟังดูน่าเศร้าเกินไปแล้ว…..” หลี่อานพูดพร้อมถอนหายใจ
“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ?” สวี่รั่วฉิงจับคาง ไม่คาดคิดว่าปรากฏตัวพร้อมกับลี่ถิงเซิ่งที่งานเลี้ยงครั้งเดียว จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้
ดูท่าเธอต้องพิจารณาให้ดีแล้วว่าจะจัดการกับนักข่าวและกลุ่มที่เรียกกันว่า “กลุ่มสนับสนุน” ที่มาคุกเข่ารอเธอทุกวันยังไง
เสียงพูดคุยของสวี่รั่วฉิงกับหลี่อาน ไหลเข้าไปในหูของลี่ถิงเซิ่งทุกคำ
ชายหนุ่มละสายตาออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เงยหน้าขึ้น พูดเสียงเยือกเย็น “งานน้อยมากหรอ?”
สวี่รั่วฉิงกับหลี่อานส่ายหน้าทันที “ไม่น้อย!”
ลี่ถิงเซิ่งกวาดสายตาไปที่หลี่อานอย่างเยือกเย็น แฝงคำเตือนไว้โดยไม่พูดออกมา
ขนบนตัวหลี่อานลุกชันขึ้นมาทันที
ก่อนเขาจะออกไป ก็เอ่ยถามเสียงต่ำ “แอนนา เธอทะเลาะกับประธานลี่หรอ? ทำไมวันนี้ประธานลี่ดูอารมณ์ไม่ดีขนาดนั้น”
สวี่รั่วฉิงกรอกตาเบาๆ “นายยังไม่รู้หรอ? เพราะว่ามีแต่คนให้ของขวัญฉัน ไม่มีใครให้ของขวัญเขา ก็เลยโมโหน่ะสิ”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” หลี่อานพยักหน้า
การเคลื่อนไหวที่ถือปากกาเซ็นชื่อของลี่ถิงเซิ่งชะงัก เขาออกแรงเล็กน้อย จับปากกาแน่น “หลี่อาน รายงานทางการเงินรายไตรมาสคำนวณเสร็จแล้วส่งมา”
หลี่อาน “เดี๋ยวก่อนประธานลี่ ผมไม่ใช่การเงิน……”
พูดได้ครึ่งเดียว หลี่อานก็ปิดปากลง
ถ้าเขาพูดต่อไป คาดว่าวันนี้คงถูกชายหนุ่มกวาดออกไป
ประธานลี่ไม่พอใจเพราะไม่ได้รับของขวัญซะที่ไหนล่ะ เห็นได้ชัดว่าเพราะตอนนี้คนชื่นชอบแอนนาเยอะเกินไปแล้ว…..
หลี่อานจากไปอย่างโศกเศร้า
ภายในห้องเงียบอีกครั้ง นอกจากเสียงสวี่รั่วฉิงเคาะคอมพิวเตอร์ทำงานแล้ว ก็มีเพียงเสียงสั่งการของลี่ถิงเซิ่งที่บอกให้เธอยกเลิกแผนการเดินทางกับประธานบริษัทเป็นครั้งคราว
งานผู้ช่วยของลี่ถิงเซิ่ง ส่วนใหญ่แล้วหลี่อานจะเป็นคนจัดการ สวี่รั่วฉิงเพียงแค่จัดการเรื่องการจัดแผนการในแต่ละวัน
หลังจากเธอจัดการงานในมือเสร็จเรียบร้อย ก็เหลือบดูเวลา ใกล้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังทำงานอยู่
แสงแดดส่องลงบนใบหน้าของเขา ขนตาทิ้งเงาไว้บนจมูก
ริมฝีปากสีอ่อน ตอนที่จูบให้ความรู้สึกสบาย
ไม่มีเหตุผลใดให้นึกถึงจูบในคืนนั้นของทั้งสองรวมถึงฉากอันน่าหลงใหลที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
“มองพอหรือยัง?” ลี่ถิงเซิ่งดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของหญิงสาว วางปากกาในมือลง แววตาที่เย็นเยือกเมื่อกี้เผยความขบขัน
สวี่รั่วฉิงดึงสติกลับมา ละสายตาออกไปทันที
ก่อนหน้านี้เลือดกำเดาไหลต่อหน้าชายหนุ่ม
ครั้งนี้เหม่อมองจนสติหลุดต่อหน้าชายหนุ่ม
ชั่วชีวิตนี้เธอไม่มีความกล้าที่จะโต้เถียงลี่ถิงเซิ่งแล้ว
สวี่รั่วฉิงปิดหน้าตัวเองอย่างไร้เรี่ยวแรง
ทำไมเธอหน้าไม่อายขนาดนี้! ถูกความงามทำให้ชะงักแล้ว!