ไม่มีใครคัดค้าน
ห้องประชุมเต็มไปด้วยกลิ่นลิลลี่และกานพูลผสมผสานกัน ทำให้ทุกคนนึกย้อนไปถึงตอนที่พวกเขามีความรักครั้งแรกในวัยเรียน
ไม่มีใครเคยคิดว่าเพียงแค่น้ำหอมขวดเดียวจะสามารถมีเสน่ห์ได้มากขนาดนี้
สวี่รั่วฉิงเก็บน้ำหอมขนาดทดลองเข้าไป แล้วหยิบกระเป๋าออกมาจากแฟ้มเอกสารส่งไปให้ผู้รับผิดชอบของสายการผลิต: “สูตรของเครื่องหอมไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ฉันปรับเปลี่ยนปริมาณที่ใช้นิดหน่อย หลังจากนี้ก็ใช้ปริมาณเท่านี้ในการผลิตนะ”
“เข้าใจแล้ว ผู้ดูแลแอนคุณวางใจได้เลยนะ”
เมื่อประชุมจบลงสวี่รั่วฉิงเก็บของต่างๆ เธอแทบจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องประชุม
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนรอเธออยู่หน้าห้องประชุม
กลับเป็นผู้จัดการหวางที่เรียกเธอว่า “ผู้ช่วยแอน” ในที่ประชุม
สวี่รั่วฉิงหยุดเดิน
เธอเป็นคนที่ตัวสูงอยู่แล้วแถมยังใส่รองเท้าส้นสูงที่สูงเจ็ดเซนติเมตรอีกด้วย เกือบจะสามารถที่จะมองเลยหัวผู้จัดการหวาง
“ผู้จัดการหวาง ยังมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” สวี่รั่วฉิงสงสัยไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะมาสร้างปัญญาอะไรอีก
ผู้จัดการหวางเหมือนกับผู้ชายที่เธอเคยเจอมา เขาไม่พอใจมากสำหรับผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ด้านการปรุงน้ำหอม
“แอนนาสิ่งที่ผมพูดไปวันนี้เธอไม่ต้องเก็บไว้ในใจนะ ผมก็แค่ชื่นชมในพรสวรรค์ด้านการปรุงน้ำหอมที่เธอมี ถ้าเธอสนใจละก็สามารถติดต่อผมได้” ผู้จัดการหวางเอานามบัตรยัดใส่มือของสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วฉิงไม่มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย ดวงตาที่สดใสจ้องมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้
ต่อมาเธอก็ได้ยิ้ม
“ผู้จัดการหวางคุณลืมแล้วหรือว่าฉันเคยบอกอะไรคุณไป?” ริมฝีปากสีแดงของสวี่รั่วฉิงได้ขยับ เสียงของเธอแฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ชวนหลงใหล
ผู้จัดการหวางได้ยินเสียงเรียกของเธอแล้ว ตัวของเขาอ่อนลงเหมือนไม่มีกระดูก ถึงขั้นที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้มีใจให้เขา กำลังที่จะไปจับมือของเธอ แต่เธอกลับหลบอย่างเงียบๆ
ดวงตาที่ดำมืดของสวี่รั่วฉิงกลับส่องแสงสว่างเหมือนคบเพลิง
เธอจ้องมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มอย่างจืดชืด: “ผู้จัดการหวางคุณเคยพูดอะไรไว้ ยังจะให้ฉันเตือนคุณอีกหรือ?”
ผู้จัดการหวางเห็นสวี่รั่วฉิงหลบจากมือของตัวเองเขามีสีหน้าที่ดูแย่มาก
เขาเป็นผู้อาวุโสในลี่ซื้อกรุ๊ป ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงกี่คนที่อยากได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นเลยไปยั่วยวนเขา
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่เพียงไม่มายั่วยวนเขา แถมถึงขั้นที่กล้าออกปากว่าเขายังหลบเขาอีกด้วย
เธอคงไม่คิดว่าลี่ถิงเซิ่งจะสนใจเธอจริงๆหรอกนะ?
ผู้จัดการหวางเห็นเหตุการณ์เป็นแบบนี้แล้วก็ไม่ได้พูดดีกับสวี่รั่วฉิงอีกต่อไป
“ทำไมหรือ ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดอะไรหรือ?” เขาพูดด้วยความไม่พอใจ
“ผู้จัดการหวาง ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าฉันกับประธานลี่เป็นอะไรกันนะ? คุณไม่กลัวหรือว่าถ้าฉันเป็นแฟนของประธานลี่จริงๆ ฉันจะนำนามบัตรนี้ไปให้ประธานลี่หรือ?”
ผู้จัดการหวางอึ้งไป
ไม่นานผู้จัดการหวางก็ได้สติกลับมาแล้วยิ้ม: “อย่าล้อเล่นกันเลย แอนนาเธอคงไม่คิดจริงๆหรอกใช่มั้ยว่าประธานลี่จะสนใจเธอจริงๆ? ผู้หญิงที่อยากเป็นแฟนประธานลี่มีมากมาย แต่ก็ไม่มีผู้หญิงไหนสามารถอยู่ข้างประธานลี่ได้เลย เธอรู้ว่าทำไมมั้ย? เพราะประธานลี่ต้องการภรรยาที่เหมาะสมกับฐานะของเขาด้วย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่แค่สวย”
ผู้จัดการหวางปรากฏรอยยิ้มที่ดูถูก
แอนนาเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ
เรื่องนี้ผู้จัดการหวางจะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ เขาเคยเจอผู้หญิงที่สวยมากมายเขาใช้อำนาจและเงินที่ตัวเขามี เขาเลยได้หลับนอนกับผู้หญิงที่สวยมากมาย
แต่ไม่มีผู้หญิงไหนเหมือนแอนนาเลย ทุกการกระทำของเธอเป็นไปตามประเพณีทั้งหมด ทำให้คนหลงใหลและอยากที่จะไปวิ่งตามเธอ
“อ้อ แบบนี้หรือ?” สวี่รั่วฉิงเก็บนามบัตรนั้นไว้ในแฟ้มเอกสาร ก้มหน้าลงไปมองผู้ชายที่ตลกที่อยู่ตรงหน้านี้ และหัวเราะออกมาและพูดออกมาช้าๆว่า: “คุณคือประธานลี่หรือ?”
ผู้จัดการหวางขมวดคิ้ว: “ไม่ใช่แน่นอน”
“ถ้าคุณไม่ใช่เขา คุณจะรู้ได้ไงว่าในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่?” สวั่รั่วฉิงก้าวไปข้างหน้า เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วหันกลับไปอีกครั้ง เอียงมองไปหาผู้จัดการหวางแล้วยิ้มและพูดว่า: “ก่อนหน้านี้ที่คุณพูดไม่มีผิดเลยนะ รอยแผลบริเวณริมฝีปากฉันเป็นคนจูบเขาเอง”
พูดจบเธอก็รีบเดิมออกไป ขี้เกียจที่จะหันกลับไปมองคนที่อยู่ข้างหลัง
ผู้จัดการหวางตะลึงจนตัวแข็งทื่อ
ถ้าคำพูดของผู้หญิงคนนี้เป็นความจริง งั้นเรื่องที่เขาเองช่วยคนในบริษัทให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นก็จะถูกเปิดเผยสิ
ไม่นะ น่าจะเป็นไปไม่ได้ แอนนาเป็นคนที่ไม่มีภูมิหลัง เป็นไปไม่ได้ที่เธอและลี่ถิงเซิ่งจะมีอะไรกันได้เร็วขนาดนี้? ถ้าเธอฉลาดมากพอเธอจะเก็บตัวของเธอเอาไว้ไปต่อรองกับเขา ถึงจะได้ประโยชน์จากตัวของลี่ถิงเซิ่งอีกมากมาย
แต่น่าเสียดายที่ผู้จัดการหวางคิดผิดแล้ว
สวี่รั่วฉิงไม่ต้องการอะไรจากลี่ถิงฉิงทั้งนั้น
เพราะเธอมีความสามารถที่จะหาเงินด้วยตัวเอง
เงินที่เธอหามาได้มากพอที่จะเลี้ยงตัวเองและนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ ไม่ต้องการที่จะไปพึ่งพาผู้ชายเลยสักนิด
สวี่รั่วฉิงใส่ส้นสูงเดินไปผลักประตูสำนักงานออก
ลี่ถิเซิ่งได้กลับไปห้องทำงานของตัวเองนานแล้ว เธอใส่เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เรียบ แขนเสื้อถูกม้วนขึ้นมาปรากฏแขนที่มีเส้นเลือดสีเขียว
ได้ยินเสียงรอยมาจากสำนักงานลี่ถิงเซิ่งเงยหน้าขึ้นมา
ใต้นิ้วที่ผอมเรียวของสวี่รั่วฉิงมีนามบัตรใบหนึ่งอยู่ เธอชิดไปที่โต๊ะหนังสือและเสียงเบาๆได้ลอยมา: “เมื่อกี้ผู้จัดการหวางเรียกฉันไว้และให้นามบัตรนี้กับฉัน ไม่รู้ว่าเขาสมคบกับใครในบริษัทอีกบ้าง”
พูดจบสวี่รั่วฉิงปล่อยมือ: “เดาว่าเขาอาจจะหลับนอนกับผู้หญิงในบริษัทมากมาย”
ลี่ถิงเซิ่งเบ้ปากและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “เขาแตะต้องตัวเธอหรือ?”
“เชอะ เขาฝันไปเถอะ” เมื่อสวี่รั่วฉิงนึกถึงความเลี่ยนของผู้จัดการหวางแล้ว ความรู้สึกที่น่ารังเกียจปรากฏขึ้นมาทันที: “มีคำพูดคำหนึ่งเป็นความจริง คนที่หน้าตาดีคนมักจะไม่รังเกียจ แต่คนที่หน้าตาไม่ดีจะถูกหาเหตุผลเพื่อจะทำให้เขาดูน่ารังเกียจ”
สวี่รั่วฉิงมองบนอย่างเงียบๆ : “เลี่ยนจะตายละ ถึงให้เงินฉันห้าสิบล้านฉันก็ไม่ยอม และฉันสามารถหาเงินได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
สำหรับความชั่วของผู้จัดการหวางสวี่รั่วฉิงไม่สามารถเข้าใจได้ลึกซึ้งขนาดนั้น เหมือนเธอได้นึกอะไรขึ้นมาได้และมองไปที่ลี่ถิงเซิ่งอีกครั้ง: “แต่สมคบกับคนในบริษัทต้องเป็นเรื่องจริงแน่นอน นามบัตรนี้ฉันก็ไม่ได้เอามาดู คุณเอาไปให้หลี่อานเช็คได้นะ”
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะแบบไร้เสียงผู้จัดการหวางเป็นคนที่รู้จักคนมากที่สุดในบริษัทก็ว่าได้ เธอยังไม่รู้ว่าตัวเธอเองกำลังมีเรื่องกับใครอยู่
แต่ถึงเธอจะไปมีเรื่องกับใคร ถ้าลี่ถิงเซิ่งจะปกป้องเธอจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากอยู่ดี
“แล้วมาบอกฉันทำไม?” ลี่ถิงเซิ่งยักคิ้ว: “เก็บไว้ที่ตัวเอง อนาคตเอามาต่อรองกับฉันไม่ดีกว่าหรือ?”
แววตาของสวี่รั่วฉิงตะลึงงงไปเลย แล้วมองลี่ถิงเซิ่งด้วยแววตาที่แปลกใจ: “ทำไมฉันถึงต้องต่อรองกับคุณ? ฉันไม่ได้ต้องการพึ่งพาคุณ สิ่งที่ฉันต้องการฉันหาเองได้”
น้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงเป็นน้ำเสียงที่ปกติทั่วไปเหมือนกำลังคุยกับเพื่อนอยู่
ดวงตาที่ใสและดำถูกแสงที่ส่องมาจากทางหน้าต่างทำให้เธอต้องหรี่ตา
ผู้หญิงคนนี้ใบหน้าที่ขาวพร้อมสีหน้าที่มั่นใจ
เหมือนดั่งรูปปั้นแกะสลักของเทพพระเจ้าที่ห้ามลบหลู่
ลี่ถิงเซิ่งมองไปที่ใบหน้าสีขาวรูปไข่ของผู้หญิงคนนี้ เขามีอาการเผลอนิดหน่อย
ใครจะรู้ว่าผู้หญิงที่เย็นชาแบบนี้ในยามดึกดื่นจะมีเสน่ห์น่าหลงใหลแบบนี้
มีเพียงเขาที่รู้