แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ – แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ – บทที่232 คุณนายสวี่มักจะติดต่อกับคนนามสกุลเฉิงคนหนึ่งอยู่บ่อยๆ

แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ - บทที่232 คุณนายสวี่มักจะติดต่อกับคนนามสกุลเฉิงคนหนึ่งอยู่บ่อยๆ

ซูจิ่วเอ๋อร์ตะลึงงัน : ????

พวกเพื่อนๆที่รู้จักลักษณะนิสัยอันเลื่องลือของเสิ่นเชียนดีนั้นรีบปิดหน้าอย่างหนักใจ : ไอ้เด็กคนนี้มันเริ่มเอาอีกแล้ว

แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้ รสนิยมของเสิ่นเชียนนั้นยอดเยี่ยมมาก

ผู้หญิงที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้ ก็พูดได้ว่าล้วนเป็นผู้หญิงที่สวยมากทั้งนั้น เช่นผู้หญิงของลี่ถิงเซิ่งอย่างแอนนาที่เขาชวนคุยที่ชายหาดครั้งที่แล้ว…

ซูจิ่วเอ๋อร์ขี้เกียจจะควบคุมอารมณ์ จึงเหลือกตามองบนให้เสิ่นเชียนไปหนึ่งที ขี้เกียจจะพูดคุยกับผู้ชายที่ทักทายเธอด้วยประโยคไร้สาระพวกนี้

แต่ว่า ชายคนนี้ก็หน้าตาไม่เลว ดูหล่อมีเสน่ห์มากกว่าพวกดารานักแสดงชายที่เธอเคยเจอมาก่อนหน้านี้เสียอีก

ริมฝีปากแห้งๆของลี่ถิงเซิ้งนั้นค่อยๆเปิดพูด “เธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลซู”

หลังจากพูดจบ เขาก็รับน้ำชาที่หลี่อานยื่นมาให้ พร้อมก้มลงดื่มให้ลำคอที่แห้งผากนั้นกลับมาชุ่มชื่น

“คุณหนูใหญ่ตระกูลซู? ตระกูลซูไหนอ่ะ?” สมองของเสิ่นเชียนยังไม่กลับเข้าที่ สมองที่คล้ายกับเสื่อมนั้นคิดอยู่สักพัก จู่ๆก็ตบมือ แววตาเหมือนดวงดาวนั้นก็เปล่งประกายออกมา “ซูจิ่วเอ๋อร์?”

เขาเคยได้ยินความเย่อหยิ่งของคุณหนูใหญ่ตระกูลซูมาตั้งนานแล้ว เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลซู คุณผู้ชายซูและคุณผู้หญิงซูนั้นให้ความรักกับเธออย่างที่สุด

ได้เจอกันวันนี้ เกินความคาดหมายจริงๆ

ผู้หญิงแบบนี้ ทำไมถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่งแบบนี้? หรือว่าความสัมพันธ์ของซูจิ่วเอ๋อร์กับพี่ลี่? นี่หลังจากได้ยินเรื่องราวของพี่ลี่กับแอนนา จึงรีบมาซักถามถึงโรงพยาบาลเลยเหรอ?

เป็นไปไม่ได้หรอก หรือเขาชวนผู้หญิงของพี่ลี่คุยอีกแล้วเหรอ? สีหน้าของเสิ่นเซียนนั้นจู่ๆก็เจ็บปวดขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างงกๆเงิ่นๆ แอบเพ่งมองไปทางลี่ถิงเซิ่งที่นั่งพักหลับตาอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับเบนสายตามามองที่ซูจิ่วเอ๋อร์ใหม่อีกรอบหนึ่ง

“น้อง น้องสาว เธอคงไม่ได้เป็นแฟนของพี่ลี่อีกคนหรอกใช่ไหม?” เสิ่นเชียนถามเสียงเบา

ลี่ถิงเซิ่ง “…”

เขาลืมตามองไปที่เพื่อนสนิทของตัวเองอย่างพูดไม่ออก

ซูจิ่วเอ๋อร์ “? ? ?”

ดวงตาคู่นั้นกวาดมองที่เสิ่นเชียนขึ้นๆลงๆ ริมฝีปากสีซีดอ่อนนั้นเม้มเบาๆ “ประธานลี่ เพื่อนของคุณคนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ”

หลังจากพูดจบ ซูจิ่วเอ๋อร์ก็ชำเลืองมองไปที่เสิ่นเชียนอย่างเย็นๆ มุมปากยกขึ้น พร้อมกลับไปนั่งที่เก้าอี้ นั่งรอการผ่าตัดของสวี่รั่วฉิงอย่างเงียบๆ

ถ้าหากสวี่รั่วฉิงเชื่อมั่นในลี่ถิงเซิ่งจริงๆ งั้นเธอก็ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของสวี่รั่วฉิง ยังไงก็ต้องเห็นแก่หน้าของลี่ถิงเซิ่งบ้าง

แม้เธอจะไม่ค่อยพอใจ เมื่อคิดว่าเพื่อนสนิทของตัวเองนั้นกำลังจะถูกลี่ถิงเซิ่งแย่งตัวไปแล้ว ลึกๆในใจเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก

เห็นชัดๆอยู่ว่าสวี่รั่วฉิงนั้นลำบากเพราะเขาขนาดไหน

และชายคนเมื่อครู่นี้ก็เช่นกัน ไม่รู้เลยจริงๆว่ามองยังไง ถึงได้คิดว่าเธอกับลี่ถิงเซิ่งนั้นมีความสัมพันธ์กัน

เธอมีท่าทีตรงไหนกันแน่ที่ดูเหมือนมีความสัมพันธ์กับลี่ถิงเซิ่ง?

เสิ่นเชียน : หรือว่าเขาเดาผิดเหรอ? ซูจิ่วเอ๋อร์ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพี่ลี่หรอกเหรอ?

คิดได้ถึงตรงนี้ เสิ่นเชียนก็ดีใจไม่หยุด มุมปากนั้นยิ้มอ่อนๆ

มีเพื่อนทนดูต่อไปไม่ไหว จึงยื่นมือมาตบบ่าของเสิ่นเชียน

ลี่ถิงเซิ่งจ้องเขม็งไปที่เพื่อนของตนเอง พร้อมก้มลงมองหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือ อีกครึ่งชั่วโมงก็จะตีห้าแล้ว

เขาพูดนิ่งๆ บอกให้เพื่อนไม่ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็กลับไปเถอะ

คนที่ดูจะมีอายุมากกว่าหน่อยคนหนึ่งเมื่อได้ยินแล้ว ก็เข้าใจความหมายที่ลี่ถิงเซิ่งจะสื่อ มันคือการไล่แขกกลับอย่างสุภาพนี่เอง

ที่จริงแล้ว พวกเขาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยให้การผ่าตัดนั้นเสร็จเร็วขึ้น แถมยังรบกวนการพักผ่อนของลี่ถิงเซิ่งอีก

“งั้นรอหลังจากคุณแอนผ่าตัดเสร็จ พวกเราค่อยหาเวลามาอีกรอบเถอะ” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา

พูดจบ คนคนนั้นก็ลากคอเสื้อของเสิ่นเชียนเตรียมจะกลับ

“เสิ่นเชียนอยู่ก่อน” ริมฝีปากบางของลี่ถิงเซิ่งนั้นเปิดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เสิ่นเชียนตะลึงไปพักหนึ่ง นิ้วชี้ชี้ไปทางตัวเอง “ผม?”

พี่ลี่เปลี่ยนใจแล้วเหรอ? เมื่อก่อนพี่ลี่ต้องเป็นคนแรกที่บอกให้เขากลับไป!

เสิ่นเชียนอยู่ต่อ เขาแอบชำเลืองมองไปที่ซูจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ตรงนั้น หลังจากนั้นก็รีบละสายตากลับมา พร้อมพูดอย่างจริงจัง “พี่ลี่ พี่ให้ผมอยู่ต่อ มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”

ลี่ถิงเซิ่งมองเสื่นเชียนอย่างละเอียด แล้วพูดสั่งกับหลี่อาน “ถ้าแอนนาผ่าตัดเสร็จแล้ว ให้มาบอกฉันต่อหน้า”

หลังจากพูดจบ เขาก็เรียกให้เสิ่นเชียนมาอยู่ต่อหน้าเขาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“เรื่องที่ให้นายช่วยสืบหาก่อนหน้านี้ มีเค้าโครงขึ้นมาแล้ว” ลี่ถิงเซิ่งพิงกับกำแพง แสงอาทิตย์สาดส่องมาบนหน้าเขา ทำให้เกิดเงาขึ้นมา

เสิ่นเชียนมึนงงพักหนึ่ง “คือเรื่องของพวกไหนเหรอ? พี่ลี่ พี่นี่ขี้ลืมเกินไปแล้วนะ ไม่ใช่วันนี้ตอนเช้าผมบอกพี่ไปแล้วเหรอ?”

ลี่ถิงเซิ่งเงียบนิ่งไปสักพัก “…”

เขาไม่ควรฝากความหวังไว้กับความทรงจำของเสิ่นเชียนจริงๆ

“ตระกูลสวี่”

คำพูดที่ลี่ถิงเซิ่งพูดออกมา เหมือนเปิดประตูสมองเสิ่นเชียน “คิดออกแล้ว!”

ลี่ถิงเซิ่งมองเสิ่นเชียนด้วยสายตาจริงจัง สีหน้าเสิ่นเชียนค่อนข้างขรึม เสียงเขาไม่ได้ดังแต่เคร่งขรึมขึ้นมากว่าก่อนหน้านี้ “สวี่รั่วยีไม่ได้ติดต่ออะไรกับพวกคนใต้ดินของเมืองหลินชวนมาก่อน แต่แน่นอน ถ้าหากเธอนั้นติดต่อขึ้นมาจริงๆ ก็คงไม่ได้ไปติดต่ออย่างเปิดเผยขนาดนั้น จากวิธีการของคุณนายสวี่ อะไรที่ควรสอนเธอก็คงสอนหมดแล้วแหละ”

เสิ่นเชียนพูด พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นมา

เขาคิดถึงข้อมูลที่ลูกน้องของเขากับสายข่าวของเขารายงาน ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีก

“พูดต่อ” ลี่ถิงเซิ่งพูดนิ่งๆ

เสิ่นเชียนตอบ “อือ” หนึ่งคำ พร้อมพยักหน้า “แม้สวี่รั่วยีจะไม่ได้ติดต่อกับกลุ่มคนพวกนั้นของเมืองหลินชวนโดยตรง แต่มีคนหนึ่งที่มักจะมีความเกี่ยวข้องกับพวกนั้น”

เสิ่นเชียนถอนหายใจหนัก พร้อมมองไปที่เพื่อนสนิทของตัวเอง พร้อมพูดอย่างจริงจัง “คุณนายสวี่”

สายตาของลี่ถิงเซิ่งที่เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งนั้น ปรากฏความลึกล้ำขึ้นมา

“คุณนายสวี่?”

“ใช่ครับ คือคุณนายสวี่ แม้จะไม่รู้ว่าเธอมักจะติดต่อกับคนพวกนั้นเพราะเรื่องอะไร แต่สิ่งที่มั่นใจได้แน่นอนก็คือ เธอมักจะติดต่อกับคนคนหนึ่งที่นามสกุลเฉิง แถมคนคนนั้นยังรับช่วงสืบทอดต่อจากสมาคมลับที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองหลินชวนเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกด้วย”

เสิ่นเชียนพูด พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดข้อมูลที่ตัวเองหามาได้ ส่งให้ลี่ถิงเซิ่ง “พี่ลี่ นี่คือรูปที่แอบถ่ายมาได้ของคนคนนั้นกับคุณนายสวี่”

ลี่ถิงเซิ่งรับโทรศัพท์มา รูปนี้เป็นรูปที่แอบถ่ายมา ดังนั้นจึงดูลักษณะรูปร่างของสองคนนี้ไม่ค่อยชัด แต่จากรูปร่างคร่าวๆก็สามารถดูออกได้ว่าผู้หญิงดูแพงในรูปนั้นน่าจะเป็นปฏิคมของตระกูลสวี่

เสิ่นเชียนพูด “แต่เรื่องนี้ ผมรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ ถึงอย่างไรในครอบครัวก็อาจจะสามารถแอบมีชู้ได้ถูกไหม? เพียงแค่ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป เกรงว่าคนที่จะเสียหน้าคงจะเป็นคุณสวี่เอง”

ลี่ถิงเซิ่งพูด “ระหว่างพวกเขามีการค้าขายแลกเปลี่ยนยาอะไรบ้างไหม”

“ยา?” เสิ่นเชียนขมวดคิ้ว เขาคิดพร้อมกลับถามคืน “พี่ลี่ ที่พี่พูดคงไม่ได้หมายถึงยาเสพติดหรอกใช่ไหม? ถ้าอันนั้นคงเป็นไปไม่ได้ และก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตระกูลสวี่มีคนติดยา”

ลี่ถิงเซิ่งสีหน้าสงบ นิ้วของเขากำลังเลื่อนอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ มองรูปภาพรูปนั้นอย่างละเอียด ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “ยา”

“ยา? เรื่องนั้นยังพูดได้ยากจริงๆ คาดว่าต้องให้คนไปสืบหาเพิ่มอีก ถ้าหากสามารถรู้ว่าเป็นยาประเภทไหน น่าจะง่ายกว่านี้” เสิ่นเชียนพูดอย่างตรงไปตรงมา

แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ

แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ

Status: Ongoing

เพื่อฐานะ น้องสาวฆ่าเธอทิ้งอย่างโหดร้าย และมาแทนที่เธอ ความรักจากพ่อแม่ที่รอคอยมานานหลายปี สุดท้ายก็รู้ว่าตัวเธอเป็นแค่ลูกเลี้ยง สวี่รั่วฉิงเกิดใหม่จากเถ้าถ่าน การกลับมาอีกครั้งของเธอ ผู้คนต่างต้องเคารพยำเกรงครั้งนี้เธอไม่ใช่คนเดียวอีกต่อไป ข้างกายยังมีลูกน่ารักน่าหยิกทั้งสองเพิ่มขึ้นมา ลูกชายคนโตทำหน้าบึ้งตึงกล่าวว่า: “หม่ามี๊ ระบบคอมของหญิงร้ายคนนั้น ผมช่วยหม่ามี๊แฮกได้แล้วครับ!” ลูกสาวคนเล็กกระพริบตาบ้องแบ๊ว: “หม่ามี๊ หม่ามี๊ดูสิคะ นี่เป็นถ้วยรางวัลที่หนูมอบให้หม่ามี๊ค่ะ”ลูกคนโตเป็นอัจฉริยะคอมพิวเตอร์ ลูกคนเล็กเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นหนึ่ง ยีนของเด็กสองคนนี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว แต่เส้นทางการล้างแค้นของเธอทำไมต้องมีผู้ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาด้วยล่ะ? “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันรู้สึกว่าความหอมของคุณเหมือนภรรยาที่จดทะเบียนแล้วแต่ยังไม่ได้จัดงานแต่งคนหนึ่งเลยครับ”สวี่รั่วฉิงสวนกลับด้วยฝ่ามือหนึ่งฉาด กล่าวว่า: “ฉันมีลูกแล้วย่ะ แกยังกล้ามาเกี้ยวฉันอีกหรอยะ?” เด็กน้อยน่ารักน่าหยิก กล่าวว่า: “หม่ามี๊จ๋า ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนแด๊ดดี้ที่ขึ้นอืดของพวกเราหรือเปล่านะ?” สวี่รั่วฉิง: ……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท