เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช – บทที่ 414 เจ้าเล่ห์เพทุบาย

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

บทที่ 414 เจ้าเล่ห์เพทุบาย

บทที่ 414 เจ้าเล่ห์เพทุบาย

“เสด็จพ่อ จะปล่อยคนพวกนั้นไปเช่นนี้น่ะหรือ”

ตำหนักฉินเจิ้งเหลือเพียงรัชทายาท เสี่ยวเป่า และหนานกงสือเยวียน

แต่เสี่ยวเป่าเป็นแค่ตัวแถม บัดนี้ซุกตัวเคลิ้มหลับอยู่ในอ้อมแขนท่านพ่อ

“ไม่มีทาง”

หนานกงสือเยวียนยิ้มเยาะ “ก็แค่ให้พวกเขาได้มีชีวิตนานขึ้นอีกหน่อย ฮ่องเต้เป่ยเยว่ใกล้จะไม่ไหวเต็มที แต่ก็เพราะเหตุนี้ทำให้เขายึดติดกับอำนาจในมือมากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งเคลือบแคลงสงสัยในตัวบรรดาองค์ชาย แต่ทว่าไท่ซือแห่งเป่ยเยว่เป็นคนฉลาด”

เขาเคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะ “เป็นผู้ควบคุมดูแลที่นั่นชั่วคราว ส่วนต้าหานนั้น”

ใบหน้าฮ่องเต้ปรากฏความเย็นชา “มีคนที่ไม่ต้องการจะปล่อยให้องค์ชายห้ากลับไปอย่างมีลมหายใจ”

เห็นได้ชัดว่าองค์ชายห้าผู้โง่เขลาถูกหักหลัง เสด็จแม่ของเขาเป็นพระสนมที่ฮ่องเต้ต้าหานโปรดปรานที่สุด ยามอยู่ในวังหลวงต้าหานก็ทำตัวยโสโอหังทั้งยังสร้างความขุ่นเคืองใจให้ผู้อื่นไม่น้อย เป็นเหตุให้เขาไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อมาถึงต้าเซี่ย

ชัดเจนว่าเป็นการยืมมือต้าเซี่ยเพื่อสังหารเขา

ทว่าหนานกงสือเยวียนมิได้ติดกับ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้องค์ชายห้าได้มีชีวิตรอดกลับไป

องค์ชายห้าผู้นั้นจะต้องตายอยู่ที่ต้าเซี่ย จากนั้นอีกฝ่ายก็จะใส่ร้ายโดยโยนความผิดทั้งหมดมาให้พวกเขา

“เช่นนั้นต้องส่งคนไปจับตาดูหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง”

ประกายกระหายสงครามปรากฏขึ้นในดวงตาหนานกงสือเยวียน “นี่เป็นผลลัพธ์ที่ข้าต้องการ”

สิ่งที่เขาต้องการก็คือข้ออ้างอันชอบธรรมในการเปิดศึกกับต้าหาน

คนอื่นจ้องมองเขาด้วยความละโมบ แต่กลับไม่รู้ว่าเสือตัวนี้เองก็จ้องอาณาเขตของเสือตัวอื่นนานแล้วเช่นกัน

ไม่ต้องคิดหาข้ออ้างให้เสียเวลา แต่ใช้วิธีแผนซ้อนแผน

หนานกงฉีซิว : รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี เหมือนว่าตัวเองจะมีงานเพิ่มอีกแล้ว

จักรพรรดิผู้ทะเยอทะยานคนใดจะมิอยากรวมแผ่นดินจงหยวนให้เป็นหนึ่ง

ฮ่องเต้เป็นดั่งเสือร้ายท่ามกลางหุบเขา เสือสองตัวมิอาจอยู่ถ้ำเดียวกัน ไม่ว่าใครก็ล้วนต้องการขยายดินแดนของตน และจับจ้องอาณาเขตของเสือข้างเคียงตาเป็นมัน

ยามที่ต้าเซี่ยทำศึกกับหนานจ้าว ใช่ว่าสองอาณาจักรใหญ่ที่เหลือจะมิอยากได้ส่วนแบ่ง แต่หากถูก ‘สัตว์ประหลาด’ ที่เสด็จพ่อส่งไปขู่ ทำให้หวาดกลัวความยิ่งใหญ่ของเสด็จพ่อจนไม่กล้าลงมือกระทำการใด ๆ แต่หากว่าเสด็จพ่อบาดเจ็บ พวกเขาก็พร้อมจะตะครุบเหยื่อโดยไม่ลังเล

โชคดีที่ข่าวการบาดเจ็บของเสด็จพ่อเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ก่อนที่ต้าหานและเป่ยเยว่จะทันได้เรียกระดมพลทำสิ่งใด ข่าวการพ่ายแพ้ของหนานจ้าวก็มาถึง ทั้งสองอาณาจักรจึงสงบลง

เมื่อข่าวความขัดแย้งภายในของต้าเซี่ยแพร่ออกไป สายลับจากสองอาณาจักรก็ถูกส่งมาสืบข่าวเป็นจำนวนมาก ทูตที่ส่งมาในครั้งนี้ ฉากหน้าก็เพื่อถวายพระพรแก่เสด็จพ่อของเขา ทว่าเบื้องหลังใครเล่าจะไม่มาสืบสถานการณ์เพื่อหวังฉกฉวยผลประโยชน์บ้างเล่า

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเสด็จพ่อมิได้ให้โอกาสนี้กับพวกเขา

วันฉลองพระชนมพรรษาของหนานกงสือเยวียนในครั้งนี้มิได้ออกไปล่าสัตว์แต่อย่างใด เพียงจัดงานเลี้ยงฉลองในวัง จากนั้นก็ปล่อยให้บรรดาทูตเที่ยวเล่นตามแต่ใจตน เขายังมีงานอีกมากที่ต้องจัดการ

เสี่ยวเป่าไปหาบรรดาพี่ชายของตนในวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะพี่สี่ พี่เจ็ดและพี่แปด

เพราะว่าตระกูลฝั่งมารดาของพวกเขามีส่วนเข้าไปพัวพัน เมื่อวานทั้งวันอารมณ์ของพวกเขาจึงไม่ดีเอามาก ๆ

แต่เมื่อนางไปหาในวันนี้ ทั้งสามคนกลับดูผ่อนคลายขึ้นมาก มิได้หวั่นวิตกดังเช่นก่อนหน้านี้

เยว่หลีกำลังยื่นถังหูลู่ให้พวกเขา วันนี้เด็กหนุ่มกลับมาจากนอกวังและแบกถังหูลู่หนึ่งแถวกลับมาด้วย

ทันทีที่เห็นเสี่ยวเป่า เขาก็เอาถังหูลู่ที่เหลือทั้งหมดให้นาง

เสี่ยวเป่ายิ้มกว้างในทันใด ทั้งสองนั่งลงข้างกันพลางกินถังหูลู่คนละไม้

“เสี่ยวเป่า ตอนนี้ด้านนอกคึกคักมาก พวกเขาบอกว่าจะไปเที่ยวงานเทศกาลอะไรนี่แหละ ข้าไม่เคยไป เจ้าไปกับข้านะ”

พวกเขาห่อหุ้มไปด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์ นั่งเรียงแถวบนกำแพงในวันที่อากาศเหน็บหนาว พลางแกว่งขาไปมาขณะชมหิมะสีขาว

พวกนางกำนัลใช้เบาะที่ค่อนข้างหนารองไว้บนกำแพง จึงไม่หนาวก้นเกินไปนัก

“ได้สิ จะไปเมื่อไรเล่า”

เส้นผมสีขาวดุจหิมะของเยว่หลีสยายไปตามแผ่นหลังอย่างพลิ้วไหว เครื่องหน้ายิ่งประณีตงดงาม ไร้ซึ่งความใสซื่อไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ รู้สึกถึงความเป็นเด็กหนุ่มทั้งยังได้รับการขัดเกลาในแบบที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คน

เขาอุ้มเจ้าแมวดำในอ้อมแขน พลางกัดถังหูลู่เข้าปากหนึ่งลูก เดี๋ยวก็อมไว้แก้มซ้าย ประเดี๋ยวก็อมไว้ที่แก้มขวาราวกับกำลังเล่นสนุก

“วันนี้ข้ากลับไปทำงานที่รัชทายาทมอบหมายเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ก็ออกไปเที่ยวได้ ข้าไปถามมาแล้ว พวกเขาบอกว่าตอนนี้กำลังคึกคักเชียว มีของกินมากมาย ทายปริศนาโคมไฟ แล้วก็มีแขวนป้ายขอพรด้วย

ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะไล่กินตั้งแต่หัวไปจนถึงท้ายถนน ข้าจะเป็นคนทายปริศนาโคมไฟเอง ตอนนี้ข้าได้เรียนรู้อะไรมาเยอะแยะ ข้าจะเอาโคมที่สวยที่สุดมาให้เจ้า จากนั้นเจ้าก็เขียนป้ายขอพร พวกเราก็เอาป้ายขอพรไปให้เจ้าแมว มันปีนต้นไม้ได้ ให้มันแขวนป้ายขอพรของพวกเราให้สูงที่สุดไปเลย!”

เยว่หลีคิดรอบคอบทีเดียว เห็นได้ชัดว่าอยากออกไปเที่ยวเสียเต็มแก่

เสี่ยวเป่าพยักหน้า “เอาสิ เช่นนั้นพรุ่งนี้เสี่ยวเป่าจะออกจากวังไปหาเจ้านะ”

“พวกเราก็อยากไปด้วย”

เยว่หลี “…”

เขาอยากไปเที่ยวกับเสี่ยวเป่า ไม่ได้อยากไปกับพวกเขาเสียหน่อย!

แต่ว่าตอนนี้เยว่หลีเรียนรู้ที่จะเก็บสีหน้า ทั้งยังรู้จักใช้เล่ห์กล

“แต่พวกเจ้ามีงานต้องทำมิใช่หรือ”

เขาคิดมาเป็นอย่างดี ฮ่องเต้ต่างมอบหมายงานให้รัชทายาท องค์ชายสาม องค์ชายสี่ และองค์ชายห้า องค์ชายหกเองก็ไปช่วยเสด็จพี่รัชทายาท องค์ชายเจ็ดกับองค์ชายแปดมีเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลฝั่งมารดาของพวกเขา จึงใช่ว่าจะไม่มีงานให้ทำเสียทีเดียว

เดิมทีรัชทายาทมีงานให้เขาทำหลายอย่าง แต่เขาจะกลับไปบอกรัชทายาทว่าหากมะรืนนี้ไม่ยอมให้เขาพักผ่อนเขาจะประท้วง แล้วหนีไปซ่อนในที่ที่ใครก็หาไม่เจอ ให้พวกเขาทำงานจนตาย ร้อนใจจนตายไปเลย ฮึ!

ตอนนี้เขาเก่งมาก อย่างไรเสียรัชทายาทก็ต้องการเขา!

เยว่หลียื่นถังหูลู่อีกไม้ไปให้บรรดาพี่ชาย “ข้าจะดูแลเสี่ยวเป่าอย่างดี พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง รอให้พวกเจ้าเสร็จงานแล้วพวกเราค่อยออกไปเที่ยวด้วยกันอีกก็ได้”

หนานกงฉีรุ่ยไม่อยากรับ รู้สึกว่าหากรับมาจะเหมือนเป็นการรับสินบน

“ถ้าหากไม่สบายใจข้าจะเอางูพิษไปด้วย!”

หนานกงฉีซิว “…”

อันนั้นไม่ต้องก็ได้

“ออกไปเที่ยวกับพวกเราทั้งที่งานยังไม่เสร็จ พวกเจ้าจะสนุกหรือ เสี่ยวเป่าเห็นแล้วจะเป็นกังวลเอาได้นะ อีกอย่างข้าก็ยังไม่เคยฉลองปีใหม่ แล้วก็ไม่เคยไปเที่ยวงานวัดด้วย…”

ไป ๆ มา ๆ เขาก็เริ่มใช้อุบายให้ดูน่าสงสาร

ทั้งสามคน “…”

เสี่ยวเป่าลูบหัวเขาด้วยความสงสาร เยว่หลีก้มหัวตามอย่างว่าง่าย ท่าทางราวกับแมวน้อยแสนรันทด

“พรุ่งนี้เสี่ยวเป่าจะไปกับเจ้าแน่นอน!”

บรรดาพี่ชาย “…”

แล้วพวกเขาจะพูดอะไรได้อีก

หากพวกเขารู้ว่าอนาคตข้างหน้ามีคำว่าผู้ชายแรดละก็ จะต้องใช้คำนี้กับเยว่หลีอย่างแน่นอน

ในที่สุดเยว่หลีที่หลอกล่อด้วยกลอุบายก็ได้ผลลัพธ์ตามที่ตัวเองต้องการ และเตรียมจากไปทันที

เขาต้องรีบกลับไปทำงานของวันนี้ให้เสร็จ พรุ่งนี้ก็จะได้หยุดพักหนึ่งวัน!

และแล้วก็เป็นไปตามที่เยว่หลีหวังเอาไว้ เขาสร้างเรื่องจนรัชทายาทต้องปวดหัวจึงอนุญาตให้เขาหยุดพัก จากนั้นวันต่อมาถึงได้รู้ว่าน้องสาวของตนถูกเยว่หลีลักพาตัวไปเสียแล้ว

หนานกงฉีซิว “เยว่! หลี!”

เขาไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะพาเสี่ยวเป่าไปด้วย!

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

Status: Ongoing
จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่การเป็นองค์หญิงคนสุดท้องแห่งราชวงศ์ ความน่ารักของซูเสี่ยวเป่าพร้อมจะพิชิตใจทุกคนแล้ว!หลังจากภูตพฤกษาตัวน้อยตายลง นางก็มาเกิดในยุคสมัยโบราณ และหลงคิดไปว่าตนเองเป็นเพียงเด็กลูกชาวบ้านแถบชนบทธรรมดา ๆ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อที่นางไม่เคยพบหน้ามาก่อนจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ปานนี้เขา…ถึงกับเป็นราชาของแผ่นดิน!เสี่ยวเป่าที่อายุเพียงสามขวบถูกพาตัวไปยังพระราชวังทันทีหลังจากที่แม่ของนางสิ้นชีพลง แล้วนางก็กลายเป็นองค์หญิงน้อย สตรีเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางพี่ชายแปดคน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท