บทที่ 458 ไวน์พร้อมจำหน่าย
บทที่ 458 ไวน์พร้อมจำหน่าย
หลังส่งโจวกวงกลับไปแล้วก็เหลือเวลาไม่มากก่อนจะทำการเทเลพอร์ตกลับ อู๋ฝานจึงแยกจากลั่วหยางและลั่วเยวี่ยกลับห้องตนเองเพื่อรอการเทเลพอร์ต
ภาพแปรเปลี่ยน อู๋ฝานกลับมายังโลกความเป็นจริงอีกครั้ง แม้ตลอดทั้งคืนจะไม่ได้นอนหลับ แต่สภาพจิตใจกลับกระจ่างและปลอดโปร่ง นับตั้งแต่การเทเลพอร์ตครั้งแรกทำให้เขาได้พบว่าการไปยังโลกแห่งเกมก็เหมือนการได้นอนหลับลึก หลังตื่นขึ้นทุกครั้งก็จะมีสภาพจิตปลอดโปร่ง
เมื่อฟ้าเริ่มสาง เหมยอวี่และเหมยเสวี่ยจึงพร้อมหน้ากันมาเคาะประตูเพื่อเตรียมช่วยอู๋ฝานล้างหน้าเช่นที่เคยทำ
“ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ที่สำนักแล้ว ไม่ต้องปรนนิบัติเหมือนที่เคยทำแล้วก็ได้ครับ ผมจัดการตัวเองได้” อู๋ฝานบอกคนทั้งสอง
“ไม่ได้ค่ะ อาจารย์ป้าสวีฮุ่ยกำชับพวกเราเอาไว้แล้วดังนั้นจึงต้องทำให้ดีค่ะ” เหมยอวี่ตอบกลับ
“ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมไม่พูด พวกคุณไม่พูด เธอไม่รู้หรอกครับ” อู๋ฝานยังคงทักท้วง
“แต่ว่า” เหมยอวี่และเหมยเสวี่ยนึกละอายแก่ใจ ไม่เพียงเพราะสวีฮุ่ยกำชับเอาไว้ แต่พวกเธอยังรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ช่วยเหลือ
“ไม่มีแต่ครับ อย่าลืมว่าผมเป็นเจ้าหอ ดังนั้นก็ควรฟังคำพูดของผมจริงไหม?” อู๋ฝานเผยสีหน้าจริงจัง
“ค่ะเจ้าหอ” ทั้งเหมยอวี่และเหมยเสวี่ยได้เห็นท่าทีความเป็นเจ้าหอจริงจังของอู๋ฝาน จึงตอบรับ
“ดีครับ” อู๋ฝานจึงค่อยยิ้มตอบกลับมา
หลังทั้งสามเตรียมตัวและทานมื้อเช้าเรียบร้อยจึงออกเดินทางต่อเนื่อง ครั้งนี้รวดเร็วยิ่งกว่าครั้งก่อนหน้า เพียงช่วงกลางวันทั้งสามก็เดินทางกลับถึงเจียงโจวแล้ว
หลังกลับมาถึงเจียงโจว อู๋ฝานไม่ได้ตรงกลับบ้านเช่า แต่ตรงไปยังโรงงานบ่มไวน์ ท่ามกลางสายไม่ได้รับจำนวนมากมายก่อนหน้านี้ อาจารย์หลี่จากโรงงานได้แจ้งผ่านทางโทรศัพท์ว่าไวน์ได้รับการบ่มและกลั่นเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้พร้อมวางจำหน่ายในทุกเมื่อ
อู๋ฝานค่อนข้างคาดหวังกับไวน์เหล่านี้ ดังนั้นทันทีที่กลับมาถึงเจียงโจวจึงเร่งรีบไปยังโรงงานโดยไม่รีรอ
“เถ้าแก่มาแล้ว!” ขณะอู๋ฝานมาถึงโรงงาน อาจารย์หลี่ที่ได้ทราบเรื่องอยู่ก่อนแล้วจึงมารอต้อนรับที่หน้าประตู
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าให้ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในโรงงานพลางถาม “สถานการณ์ของโรงงานเป็นยังไงบ้างครับ?”
อาจารย์หลี่มองทางเหมยอวี่และเหมยเสวี่ยที่ติดตามอู๋ฝานมาด้วยท่าทีนึกทึ่ง แต่ไม่นานก็ตอบคำถามกลับมา “สถานการณ์ดีเยี่ยมไม่มีติดขัดครับ สินค้าล็อตแรกก็พร้อมจำหน่ายแล้ว”
“ครับ ดีแล้ว” อู๋ฝานพยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจ
“เถ้าแก่ สูตรที่มอบให้มานั้นน่าทึ่งไม่น้อยเลย ใช้เวลาไม่ถึงเดือนตั้งแต่เริ่มการบ่มจนพร้อมวางขาย อีกทั้งรสชาติก็ยังดีได้ขนาดนั้น ผมที่ทำงานโรงงานนี้มานานหลายปียังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เป็นการเปิดหูเปิดตาจริง ๆ ครับ” อาจารย์หลี่แสดงความรู้สึกนับถือออกมา
ปกติแล้วไวน์ที่เพิ่งผ่านการบ่มได้ไม่นานจะมีรสชาติค่อนข้างจัดจ้าน กลิ่นก็ค่อนข้างฉุน เรียกโดยภาพรวมว่าไม่อร่อยก็ไม่ผิด มันจำเป็นต้องเก็บบ่มไว้เป็นเวลานับปีก่อนจึงจะสามารถวางขายได้ เพียงแต่ครั้งนี้รสชาติกลับออกมาดีเหมาะสมแก่การดื่ม ทั้งยังใช้เวลาเก็บบ่มไม่นาน ก็ได้ความอร่อยที่ควรจะเป็น กระทั่งว่าดียิ่งกว่าไวน์ระดับสูงในตลาดที่ผ่านการบ่มมายาวนานซะด้วยซ้ำ
ไวน์จากสูตรการบ่มของอู๋ฝานนับเป็นการทำลายหลักความคิดดั้งเดิม หลังผ่านกระบวนการครั้งแรกก็มีรสชาติที่ค่อนข้างดีแล้ว เมื่อผ่านการบ่มไม่ถึงหนึ่งเดือนก็กลมกล่อมจนพร้อมขาย แต่เนื่องจากการวางขายไม่ใช่อำนาจตัดสินใจของเขา อาจารย์หลี่จึงต้องรอคอยคนเป็นเถ้าแก่ซะก่อน
“ไว้ทำงานที่นี่นานขึ้นจะชินเองครับ” อู๋ฝานเพียงแค่ยิ้มตอบ
ความประหลาดใจของอาจารย์หลี่เป็นเพราะเพิ่งเคยเจอเรื่องราวแบบนี้ครั้งแรก แต่สำหรับอู๋ฝานมันไม่ใช่ครั้งแรก เพียงแต่ที่โลกความเป็นจริงนี้กลับพบว่าต้องใช้เวลาบ่มกว่าครึ่งเดือน ทำให้มองว่ายังใช้เวลานานไปเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากการบ่มในโลกแห่งเกมสามารถมีรสชาติดีพร้อมดื่มได้ในช่วงเวลาไม่กี่วัน
เมื่อกลุ่มคนเดินเข้ามาในโรงงานก็ได้กลิ่นไวน์รุนแรงโชยมาแต่ไกล หากอยู่ในสถานที่เช่นนี้สักวันหนึ่ง คนที่คออ่อนอาจจะเมาได้ง่าย ๆ
อาจารย์หลี่นำขวดเล็ก ๆ ที่กลั่นไวน์แล้วออกมาส่งให้ อู๋ฝานรับมาลองจิบท่ามกลางสายตาคาดหวังของอาจารย์หลี่ “รสชาติดีแล้วครับ”
ดีแล้ว?!
อาจารย์หลี่ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง กระทั่งคิดว่าได้ยินผิดไป เนื่องจากเขาได้ลิ้มลองรสชาติของไวน์นี้มาก่อนแล้ว มันไม่เพียงเหนือกว่าไวน์ระดับสูงในท้องตลาด แต่กระทั่งตัวเขาที่ทำงานวงการนี้มานานหลายสิบปี ได้ชิมไวน์มามากมายจนมีประสบการณ์ด้านนี้เป็นอย่างดี
แต่กลับพบว่าไม่เคยมีไวน์หน้าใหม่ขวดใดในท้องตลาดจะสามารถก้าวข้ามไวน์ระดับสูงชื่อดังได้ แต่อู๋ฝานตอบกลับมาเพียงว่าดีแล้ว นับว่าทำอาจารย์หลี่ต้องประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“คิดว่าผมประเมินต่ำไปเหรอครับ?” อู๋ฝานมองอาจารย์หลี่ที่ชะงักก่อนจะเอ่ยถาม
“ไม่เลยครับ” อีกฝ่ายรีบตอบรับ
“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวผมจะให้ลองอะไรที่รสชาติดียิ่งกว่า” อู๋ฝานเอ่ยคำขึ้น
ดีกว่า?
ที่ไหนกัน?
อาจารย์หลี่เดินตามออกจากโรงงานด้วยความสงสัย ก่อนจะได้พบว่าอีกฝ่ายพามายังพื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ ที่จัดเตรียมไว้ให้อู๋ฝานโดยเฉพาะ
หรือไวน์ที่ดีกว่าที่เถ้าแก่พูดถึงจะถูกบ่มในพื้นที่แห่งนี้?
เพราะก่อนหน้านี้อู๋ฝานเคยแจ้งไว้แล้วว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในพื้นที่พิเศษส่วนตัวหากไร้คำอนุญาต ยกเว้นไม่กี่คนที่เขาฝากฝังงานเอาไว้ กระทั่งอาจารย์หลี่ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไป
แต่อาจารย์หลี่ทราบว่ามีการบ่มเกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนตัว ส่วนกระบวนการและวิธีเป็นอย่างไร คืบหน้าถึงขั้นไหน เขาไม่ทราบ
“เถ้าแก่” ทันทีที่เห็นอู๋ฝานเข้ามา กลุ่มคนหนุ่มในโรงงานแห่งนี้จึงเอ่ยทักทาย
“อืม” อู๋ฝานพยักหน้ารับ “ไวน์ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ไวน์ชุดแรกกลั่นเสร็จเมื่อสัปดาห์ก่อนครับ ตอนนี้บ่มพร้อมดื่มแล้ว” หนึ่งในกลุ่มคนหนุ่มตอบกลับมา
“ไปเอามาให้ลองทีครับ” อู๋ฝานตอบรับ
ชายหนุ่มจัดแจงส่งคนไปนำไวน์มาให้ และเมื่อเปิดจุกออก เขาก็ยกขึ้นดื่ม “รสชาติดี”
หลังจากนั้นเขาจึงส่งขวดให้อาจารย์หลี่ “ลองดูสิครับ”
“ครับ” อาจารย์หลี่ตอบพร้อมรับขวดมาจิบดื่ม เพียงไวน์สัมผัสกับลิ้นดวงตาของเขาก็ถึงกับต้องเบิกโพลงจนแทบส่องสว่างออกมา
หอม!
กลิ่นหอมของจริงเป็นแบบนี้!
ทันทีที่ไวน์เข้าปาก กลิ่นหอมของไวน์ก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว กระทั่งตามช่องฟันก็ยังมีกลิ่นหอมหวาน มันอ่อนนุ่มและหวานละมุนไร้ความรู้สึกผิดแปลก นอกจากกลิ่นหอมของไวน์แล้ว ภายในท้องก็ยังมีความรู้สึกอื่นผสมอยู่ หลังทั่วทั้งกระเพาะอาหารเริ่มอุ่นสบายขึ้น ตัวคนจึงได้รับรู้ถึงความสบายหลังจากการลิ้มรสชาติ
“เป็นยังไงบ้างครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“วิเศษไปเลยครับ!” อาจารย์หลี่ตอบรับด้วยความตื่นเต้น
แม้ไวน์จะไหลลงท้องไปแล้ว แต่กลิ่นหอมของไวน์ยังคงฟุ้งในช่องปากอยู่อีกพักหนึ่ง
อาจารย์หลี่ที่เคยคิดว่าการกลั่นบ่มไวน์ตามสูตรก่อนหน้านี้ของอีกฝ่ายเป็นของดีแล้ว ขณะนี้หากเทียบกับผลงานส่วนตัวของอู๋ฝาน ไวน์ที่พวกเขาบ่มขึ้นมากลับต่ำเตี้ยไปอีกหลายระดับด้วยกัน ความแตกต่างระหว่างไวน์ทั้งสองค่อนข้างชัดเจน แม้กระทั่งคนที่ไม่ค่อยรู้รสชาติเรื่องไวน์ก็ยังรับรู้ถึงความแตกต่างได้