บทที่ 459 ผสมและบรรจุ
บทที่ 459 ผสมและบรรจุ
“เถ้าแก่ ไวน์นี้น่าจะถือเป็นที่สุดของรสชาติที่ชั่วชีวิตผมเคยได้กินแล้วละครับ!” อาจารย์หลี่ตอบกลับมาด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี
สาเหตุที่อาจารย์หลี่ตื่นเต้น หนึ่งเพราะรสชาติของไวน์ดีเป็นเลิศของจริง มันเหนือกว่าไวน์ขาวใดก็ตามที่เขาเคยได้ลิ้มลอง ส่วนเหตุผลที่สองก็เพราะหากสามารถบ่มไวน์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้ ธุรกิจย่อมสามารถดำเนินต่อไปได้ด้วยดี ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงใกล้ปิดตัวเช่นก่อนหน้า และเขาจะได้อยู่ที่นี่พร้อมทำงานเดิมที่คุ้นเคย แม้เป็นลูกจ้าง แต่เขาก็ไม่ต้องการให้โรงงานต้องประสบปัญหา ตอนนี้เมื่อเถ้าแก่คนใหม่กำลังจะเปลี่ยนจากเคยขาดทุนเป็นสร้างกำไร จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไรไหว
แต่อาจารย์หลี่กลับต้องชะงักไปเพราะนึกได้ว่าเมื่อครู่อู๋ฝานเอ่ยถึงไวน์นี้ไว้ว่าอย่างไร
ถือว่าดี!
สำหรับเขาสิ่งนี้ถือเป็นไวน์ขาวที่เหนือกว่าทุกไวน์ในท้องตลาดแล้ว ไวน์ระดับนี้ผ่านปากของอู๋ฝาน แต่กลับได้รับคำชมแค่ถือว่าดีอย่างนั้นเหรอ?
แม้ระดับคำชมดูจะสูงกว่าคำว่า “ดี” อยู่บ้าง แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่ใช่ผลการประเมินสูงสุด หมายความว่ารสชาติไวน์นี้ยังไม่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับอู๋ฝาน!
รสชาติของไวน์นี้ยังไม่อาจทำให้อู๋ฝานพึงพอใจได้? เขาเคยได้ดื่มที่ดียิ่งกว่านี้มาแล้วงั้นเหรอ?
แต่ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง?!
อาจารย์หลี่อยู่ในอุตสาหกรรมด้านนี้มานาน สารพัดไวน์ต่างก็เคยได้ลิ้มลองผ่านปากมาแล้ว ตั้งแต่มูลค่าน้อยนิดจนสูงหลักหลายพันหยวน กระทั่งไวน์ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษตามโอกาสก็เคยได้ดื่ม แต่ไม่เคยมีแม้สักขวดที่ได้รสชาติเทียบเท่ากับของใหม่ที่อู๋ฝานนำเสนอ
ดังนั้นอาจารย์หลี่จึงไม่เชื่อว่าอู๋ฝานเคยได้ดื่มไวน์ที่ดีกว่านี้มาก่อน
“อาจารย์หลี่อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปครับ” อู๋ฝานเผยยิ้ม “ไว้เมื่อไหร่มีโอกาส ผมจะให้ลองของที่รสชาติดีกว่านี้เอง”
อู๋ฝานเคยดื่มไวน์ที่ดีกว่านี้มาแล้ว มันเป็นผลงานที่ผ่านการบ่มภายในโลกแห่งเกม แม้รสชาติของไวน์ตรงหน้าถือว่าดีมาก ขนาดเป็นจุดสูงสุดของโลกแห่งความเป็นจริง แต่หากเทียบกับส่วนที่บ่มในโลกแห่งเกมนั้นยังมีความแตกต่าง ดังนั้นตอนที่ประเมินออกมาว่า “ก็ถือว่าดี” นั้นจึงทำให้อาจารย์หลี่อดเผยสีหน้าท่าทีสงสัยออกมาไม่ได้
อีกฝ่ายถึงขั้นเคยได้ลิ้มรสไวน์ที่ดีกว่านี้มาแล้วจริงเหรอเนี่ย?!
อาจารย์หลี่ชะงักงันตัวแข็งค้าง ในใจเต็มไปด้วยความสับสน โลกใบนี้ยังจะมีไวน์ที่รสชาติดีเยี่ยมกว่านี้อีกงั้นเหรอ? มันเป็นไปได้ยังไง?
ทว่าเมื่อมองท่าทีของชายหนุ่ม เขาก็พบว่าอีกฝ่ายไม่น่าคุยโม้โกหก แม้อาจารย์หลี่จะทำใจเชื่อได้ยาก แต่ก็เกิดความคาดหวังขึ้นมา
เขาปรารถนาแรงกล้าที่จะได้ลิ้มรสไวน์ที่อู๋ฝานบอกว่าดียิ่งกว่านี้!
เนื่องจากเป็นคนที่ทำงานในแวดวงนี้มานาน จึงมีความเข้าใจต่อรสชาติอย่างถ่องแท้ ไวน์ที่เพิ่งได้ดื่มวันนี้ถึงขนาดทำให้อาจารย์หลี่ไม่มีทางลืมเลือนได้ด้วยซ้ำ ทั้งยังประเมินว่าเป็นจุดสูงสุด
“อาจารย์หลี่ จัดคนมาผสมและบรรจุขวดด้วยนะครับ” อู๋ฝานเอ่ยขึ้น “ไวน์ทั้งสองจะบรรจุขวดและเก็บเอาไว้ในห้องเก็บไวน์ ฝ่ายขายของโรงงานจะได้เริ่มทำงานกัน แต่ที่เจียงโจวผมรับผิดชอบเองครับ ดังนั้นให้พนักงานขายออกไปตามเมืองรอบ ๆ เพื่อเปิดตลาดใหม่”
อู๋ฝานที่ผลิตไวน์ได้เรียบร้อยแล้วย่อมไม่พอใจเพียงแค่การขายในเจียงโจว แต่จะขยับขยายออกไปเมืองใกล้เคียง กระทั่งคิดขยายกิจการออกไปทั่วประเทศ
“ครับเถ้าแก่” อาจารย์หลี่ตอบรับ
“นอกจากนี้ก็ยังมีไวน์แดง เบียร์ ไวน์ผลไม้ และอื่น ๆ ที่ผมพร้อมจะผลิต ให้ฝ่ายบุคคลรับสมัครคนงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ เน้นคนที่มีประสบการณ์ก่อน อุตสาหกรรมเครื่องดื่มมึนเมาตอนนี้กิจการไม่ค่อยดี ผมเชื่อว่าการรับสมัครคนมีประสบการณ์ไม่น่าจะใช่เรื่องยากจนเกินไป” อู๋ฝานบอกออกมา
ไม่ว่าจะธุรกิจผับบาร์ ร้านคาราโอเกะ หรือตลาดอื่นที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มมึนเมา อู๋ฝานต้องการคว้าสถานที่เหล่านั้นมาทั้งหมด ดังนั้นไวน์แดง เบียร์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจขาด นอกจากนี้สำหรับคนทำงานทั่วไปยังค่อนข้างนิยมดื่มเบียร์ ดังนั้นมันจึงเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อและควรค่าแก่การครอบครอง
“ครับเถ้าแก่” อาจารย์หลี่ตอบรับ
“ก็ประมาณนี้ พวกคุณกลับไปทำงานกันต่อเถอะ เดี๋ยวตอนผมกลับจะเอาไวน์ไปด้วยหลายขวดหน่อยนะครับ” อู๋ฝานบอก
“ครับ” อาจารย์หลี่รับคำ
หลังอาจารย์หลี่ออกไปแล้ว อู๋ฝานจึงครุ่นคิดอยู่ในใจว่าควรต้องรับสมัครผู้จัดการมาคอยดูแลภาพรวมของโรงงาน เนื่องจากเขาไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ตลอด อาจารย์หลี่ก็ถือว่าทำได้ดี แต่อีกฝ่ายรับผิดชอบเรื่องทางเทคนิคของโรงงาน ไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์ดูแลภาพรวมทั้งโรงงานมาก่อน
‘ให้อาจารย์หลี่ลองดูก่อนแล้วกัน ถ้ายังไม่ดีพอค่อยหาคนมาแทน’ อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ในใจ
ใจเขาอยากให้อาจารย์หลี่เป็นผู้จัดการ เนื่องจากเป็นคนที่ทำงานที่นี่มานาน อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อสถานที่จะทำให้เกิดความรู้สึกรับผิดชอบขึ้นมา อีกทั้งผลการทำงานก็ค่อนข้างน่าพึงพอใจ อย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการหาใครก็ตามที่ไม่รู้จักมาทำงาน
อู๋ฝานสำรวจโรงงานอีกครั้งก่อนจะฝากฝังงานเอาไว้และกลับไปพร้อมเหมยอวี่กับเหมยเสวี่ย แต่ตอนออกมานั้นนำไวน์มาด้วยหลายขวด เพราะยังไม่ได้กลับบ้านทำให้เขาไม่อาจใช้รถยนต์ส่วนตัวได้อย่างเปิดเผย จึงต้องเรียกแท็กซี่มาใช้บริการ
เมื่อออกจากโรงงานไวน์ อู๋ฝานมุ่งหน้าไปยังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม้เป็นช่วงที่อยู่ในหอคันธะสงัด เจ้าหย้าหนานก็ไม่ได้ติดต่อหาบ่อยมากนัก แต่ก่อนหน้านี้ที่โทรกลับไปพูดคุย เธอพยายามเร่งให้เขาไปเจอที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์
หลังมาถึงโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อู๋ฝานขอให้เหมยอวี่อยู่บนรถต่อและบอก “เอาไวน์ในรถไปส่งที่ร้านโลกในแหวน ช่วงกลางคืนผมจะไปที่ร้าน ถึงตอนนั้นค่อยเจอกันอีกครั้งนะครับ”
“ค่ะ” เหมยอวี่พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปส่งสายตาบอกน้องสาว “ดูแลนายน้อยให้ดีด้วย”
ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่หอคันธะสงัด แต่เป็นโลกภายนอก อู๋ฝานจึงห้ามพวกเธอเรียกตนเองเป็นเจ้าหอ แต่ให้ใช้สรรพนามอื่นหรือจะเรียกชื่อตามตรงก็ยังได้ ทว่าสองพี่น้องไม่อาจเรียกชื่ออู๋ฝานได้โดยตรง สุดท้ายจึงตัดสินใจเปลี่ยนคำเรียกหาเป็นนายน้อยเพื่อความเหมาะสมแทน
อู๋ฝานได้เห็นร่องรอยความประหลาดใจและดูหมิ่นจากสายตาคนขับแท็กซี่ตอนได้ยินเหมยอวี่เรียกตนเองเป็นนายน้อย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังคิดว่านายน้อยของตระกูลใหญ่ที่ไหนเรียกใช้บริการแท็กซี่เดินทาง
“ไม่ต้องห่วงนะพี่ ฉันจะดูแลนายน้อยเอง” เหมยเสวี่ยตอบรับ
“ไม่ต้องกังวลไปครับ ที่นี่ไม่ใช่โลกฝั่งผู้ฝึกตน ไม่ได้อันตรายอะไร” หลังแท็กซี่ออกไปแล้ว เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมาเพราะเห็นสายตาเหมยเสวี่ยสำรวจรอบด้านอย่างระมัดระวัง
“ไม่ได้ค่ะ ครั้งก่อนที่คนของสำนักเราถูกดักเล่นงานจากสำนักเที่ยงยุทธ์ก็เป็นที่โลกภายนอกนี้เหมือนกัน ไม่ว่าที่ไหนพวกเราก็ไม่สามารถคลายความระมัดระวังได้ค่ะ” เหมยเสวี่ยตอบกลับ
เห็นได้ชัดว่าความสูญเสียของหอคันธะสงัดจากเหตุการณ์ครั้งก่อนหน้าเป็นเรื่องที่ฝังใจ อย่างน้อยทุกคนของสำนักก็ตื่นตัวคอยระมัดระวังทุกย่างก้าว
อู๋ฝานยิ้มและไม่คิดเกลี้ยกล่อมอะไรเธออีก เพียงเดินนำตรงเข้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไป