กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 470 แผนการถอยไปสู่ความก้าวหน้า

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 470 แผนการถอยไปสู่ความก้าวหน้า

บทที่ 470 แผนการถอยไปสู่ความก้าวหน้า

เซี่ยชิงหยวนขมวดคิ้ว “เธอมาทำอะไรที่นี่?”

ตั้งแต่ข่าวลือครั้งล่าสุด ครอบครัวของพวกเขาก็เกือบจะตัดการติดต่อกับเซี่ยจื่ออี้ทั้งหมด นี่เธอพยายามทำกลอุบายแบบไหนอีกกันจู่ ๆ ก็มาที่นี่?

เฟิงหว่านเห็นว่าสีหน้าของเซี่ยชิงหยวนเปลี่ยนไปจึงเอ่ยถาม “มีอะไรเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพูดออกไปตามตรงว่าเซี่ยจื่ออี้มาเยือน

เฟิงหว่านพูดตอบ “ปล่อยให้เธอเข้ามาก่อนเถอะ มีคนอยู่ในบ้านตั้งเยอะแยะ การปฏิเสธผู้หญิงคนนั้นจะทำให้เราดูไม่ดีเอานะ”

ที่นี่มีชีวิตชีวามาก สามารถบอกได้เลยว่ามีคนมากมายอยู่ในบ้านโดยไม่ต้องมองด้วยซ้ำ หากปฏิเสธไม่ให้เซี่ยจื่ออี้เข้ามา คาดว่าจะมีคำพูดที่ไม่ดีต่อเซี่ยชิงหยวนแน่

เสิ่นอี้โจวได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยเซี่ยเจิ้ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถลืมได้

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าและพูดกับป้าอู๋ว่า “ป้าอู๋ ให้คุณเซี่ยเข้ามาได้ค่ะ”

“ค่ะ” ป้าอู๋ตอบกลับและเชิญคนเข้ามา

เด็ก ๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ผู้ใหญ่ทุกคนมองไปที่ทางเข้าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน

ในไม่ช้าก็มีเสียงฝีเท้าตามมา เซี่ยจื่ออี้สวมชุดผ้าฝ้ายสีขาวยาวโดยปล่อยผมยาวของเธอลง และมีที่คาดผมผ้าซาตินสีฟ้าอ่อนอยู่ด้านบน เธอมีสีหน้าที่ดูอ่อนโยนเหมือนไม่เป็นอันตรายต่อใคร

เธอถือตะกร้าเล็ก ๆ ในมือ ยิ้มให้ทุกคนแล้วมองที่เซี่ยชิงหยวน “คุณนายเสิ่น”

เซี่ยจื่ออี้ไม่ได้เรียกเซี่ยชิงหยวนว่า ‘ชิงหยวน’ อีกต่อไปเพื่อแสร้งทำเป็นสนิทสนมเหมือนในอดีต แต่คราวนี้เรียกว่า ‘คุณนายเสิ่น’ แทน

เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพยักหน้าให้ “คุณเซี่ย”

คนอื่น ๆ มองดูและยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นหันหลังกลับและพูดคุยกันด้วยเสียงเบา

เซี่ยจื่ออี้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอยกตะกร้าเล็ก ๆ ในมือขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณนายเสิ่น รวมถึงผู้หญิงหลายคนมักจะดื่มชาและคุยกันด้วยกัน วันนี้ฉันบังเอิญทำบิสกิตกับของว่างมา จึงอยากนำมาแบ่งให้ทุกคนชิมน่ะค่ะ”

ขณะที่พูด เธอก็หยิบของออกจากตะกร้า อันดับแรกเป็นกล่องกระดาษสวยงามมีริบบิ้นหลากสีผูกอยู่ด้านนอกกล่อง ดูเหมือนคุกกี้และขนมที่สวยงามในร้านเบเกอรี่ตะวันตก

จากนั้นพอเปิดกล่องออกมา ด้านในมีขนมหรือบิสกิตทำเป็นลวดลายต่าง ๆ ดูสวยงามมาก

เธอวางสิ่งเหล่านี้ไว้บนโต๊ะ ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับไก่เสียบไม้สีแดง

ความชื่นชมแวบขึ้นมาในสายตาของผู้หญิงบางคน แต่ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใด ตรงกันข้าม เมื่อเด็ก ๆ เห็นสิ่งเหล่านี้ ดวงตาโตของพวกเขาก็ประกายขึ้น

ไก่เสียบไม้อร่อยและของว่างเหล่านี้ก็ดูดีเช่นกัน

เด็กโตรู้ว่าต้องขออนุญาตจากผู้ใหญ่ ในขณะที่เด็กที่อายุน้อยกว่าอดไม่ได้ที่จะอยากกินแต่ถูกผู้ใหญ่ห้ามไว้

ทุกคนกำลังรอให้เซี่ยชิงหยวนหรือเฟิงหว่านแสดงท่าทีของพวกเธอ

เถาเหนียนซีพลันกลืนน้ำลาย และเอ่ยถามเฟิงหว่าน “แม่คะ หนูกินได้ไหม?”

เฟิงหว่านยิ้มและอุ้มเถาเหนียนซีไว้ในอ้อมแขนของเธอ “ไม่ใช่ว่าลูกบอกเมื่อกี้ว่าอิ่มแล้วเหรอ? ลูกหิวอีกแล้วเหรอจ๊ะ?”

เถาเหนียนซีหน้าแดง เด็กน้อยก้มศีรษะลงแล้วกำมือเล็ก ๆ ของเธอ “หนูอิ่มแล้วค่ะ”

เฟิงหว่านตบก้นเล็ก ๆ ของลูกสาวแล้วพูดว่า “ในเมื่อลูกอิ่มแล้วก็ไปเล่นก่อนเถอะ แล้วค่อยกลับมากินทีหลังเมื่อเล่นจนเบื่อแล้วก็ได้”

เด็ก ๆ มักขี้ลืม พอเล่นจนเบื่อก็จำเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว

มุมปากโค้งของเซี่ยจื่ออี้แข็งไปชั่วขณะ แต่เธอก็ยังคงยิ้มได้ดี

เมื่อภรรยาคนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ พวกเธอก็เขินอายเกินกว่าจะปล่อยให้ลูกของตนกิน และทุกคนก็กำลังจะไล่ให้ลูก ๆ ไปเล่นกัน

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก ให้เด็ก ๆ กินสักหน่อยก็ได้ค่ะ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็หยิบกล่องเล็ก ๆ แล้วส่งให้เถาเหนียนซี “เอาไปแบ่งปันกับเพื่อน ๆ นะจ้ะ”

เถาเหนียนซีมองดูกล่องเล็ก ๆ แล้วมองไปยังเฟิงหว่านอีกครั้ง และเมื่อเธอเห็นแม่พยักหน้าให้ เด็กน้อยจึงกล้ารับมัน “ขอบคุณค่ะคุณน้า”

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “เด็กดี”

เฟิงหว่านเหลือบมองเซี่ยชิงหยวนอย่างรู้สึกหมดหนทาง แต่เซี่ยชิงหยวนส่งยิ้มกลับเป็นสัญญาณบอกว่าไม่เป็นไร

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ความรู้สึกเกลียดชังในใจของเซี่ยจื่ออี้ยิ่งรุนแรงขึ้น

ขนมพวกนั้นมันเป็นของเธอแท้ ๆ แต่ทุกคนกลับเห็นแก่ใบหน้าของเซี่ยชิงหยวนและเมื่ออีกฝ่ายมอบของให้กับเถาเหนียนซี มันกลับกลายเป็นเหมือนว่าขนมเป็นของเซี่ยชิงหยวนเองซะอย่างนั้น

ทุกคนเหมือนลืมไปว่าเธอเป็นคนทำขนมเหล่านี้มา!

เซี่ยจื่ออี้ก้มลงและยิ้มให้เถาเหนียนซี “ถ้าเหนียนซีตัวน้อยชอบ ก็หยิบไปเพิ่มสิจ๊ะ กล่องเล็ก ๆ แค่กล่องเดียวไม่เพียงพอหรอก”

เฟิงหว่านต้องการห้ามปรามลูกสาว แต่เซี่ยชิงหยวนส่ายหัวของเธอ

เฟิงหว่านจึงปิดปากของตัวเองอีกครั้ง

เซี่ยชิงหยวนพูดกับเซี่ยจื่ออี้ “คุณเซี่ย เชิญนั่งลงสิคะ”

เซี่ยจื่ออี้พยักหน้าให้เซี่ยชิงหยวน “ขอบคุณค่ะ คุณนายเสิ่น”

เธอพบที่นั่งตรงมุมห้องแล้วนั่งลง

ด้วยความถ่อมตัวของเซี่ยจื่ออี้ คนที่ไม่รู้เรื่องราวอาจคิดว่าเซี่ยชิงหยวนกำลังปฏิบัติต่อเธอไม่ดี

ต้องรู้ก่อนว่าในอดีตเมื่อใดก็ตามที่เซี่ยจื่ออี้ไปงานเลี้ยงที่ไหน เธอจะเป็นคนนั่งอยู่ตรงกลางเสมอ

เฟิงหว่านจงใจทำให้เซี่ยจื่ออี้เหมือนไร้ตัวตนในวงสนทนา เธอพูดคุยแต่ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเซี่ยจื่ออี้ไม่รู้เรื่อง

พวกสาว ๆ เข้าใจความคิดของเฟิงหว่าน ดังนั้นจึงไม่มีใครริเริ่มพูดคุยกับเซี่ยจื่ออี้

เซี่ยจื่ออี้ไม่ได้ดูโกรธเลย เธอนั่งข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ และฟังทุกคนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แถมยังช่วยเติมชาหลายครั้ง

เมื่อเปรียบเทียบกับการปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัดของเฟิงหว่าน เซี่ยชิงหยวนมีความสงบมากกว่ามาก และไม่แสดงท่าทางอะไรกับเซี่ยจื่ออี้เลย

เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าเฟิงหว่านพยายามแก้แค้นแทนเธอ แต่ด้วยวิธีนี้มันจะกลายเป็นตกอยู่ในแผนการของเซี่ยจื่ออี้แทน

ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าพวกเธอกับเซี่ยจื่ออี้ไม่ลงรอยกัน และความคิดเห็นของผู้คนทั่วไปก็เข้าข้างพวกเธอ แต่ถ้าวันนี้พวกเธอแสดงความเกลียดชังมากเกินไป คนอื่นอาจพูดถึงเซี่ยจื่ออี้ไม่เหมือนเดิม

ผู้คนมักจะมีความเห็นอกเห็นใจคนอ่อนแอกว่าเสมอ และบางครั้งพวกเขาก็ทำตัวเหมือนยืนอยู่บนจุดศีลธรรมสูงสุดและถามฝ่ายตรงข้ามถึงสิ่งที่พวกเขาควรทำดีที่สุด แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายพวกเขาก็ตาม

ถ้าไม่ทำ เธอก็จะเดือดร้อน

ต้องขอยอมรับเลยว่าแผนการถอยไปสู่ความก้าวหน้าของเซี่ยจื่ออี้นั้นยอดเยี่ยมมาก

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ยิ่งเซี่ยจื่ออี้ต้องการทำให้เธออับอายมากเท่าไร เซี่ยจื่ออี้ก็ต้องอยู่เฉย ๆ มากขึ้นเท่านั้น

เซี่ยชิงหยวนนั่งสักพักและรู้สึกว่าจำเป็นต้องไปทำธุระ เธอจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

ขณะเดียวกัน พอเซี่ยจื่ออี้เห็นแบบนี้จึงขอตัวเช่นกัน และลุกขึ้นเดินตามไปทันที

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท