ดาบพิโรธสวรรค์ – ตอนที่ 108

ตอนที่ 108

บนแท่นหินอันดับ ชื่อของคนผู้หนึ่งกําลังพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานมันพุ่งขึ้นทะลุหนึ่งร้อยอันดับแรก

หลังจากเข้าสู่หนึ่งร้อยอันดับแรกแล้ว มันยังไม่หยุดและยังขึ้นไปต่อเรื่อยๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ศิษย์สํานักชั้นในทั้งหมดถึงกับตกตะลึง ผู้คนมากมายต่างมายังหน้าแท่นหินเพื่อดูสิ่งที่อัศจรรย์นี้

แน่นอนว่ามันคือชื่อของหลินเซวียน ความแข็งแกร่งปัจจุบันของเขาเป็นสิ่งที่น่าตกใจอย่างมาก หลังจากเข้าไปยังหอบ่มเพาะพลังเพื่อทําการทดสอบ เขาก็ได้ผ่านทุกห้องอย่างง่ายดายและรวดเร็ว

เหตุการณ์ดังกล่าวทําให้เกิดความโกลาหลด้านนอก

“ขึ้นไปอีกแล้ว!”

ตรงหน้าแท่นหินอันดับ ศิษย์มากมายกําลังอุทานกันอย่างใจหาย ” หลินเซวียนคนนี้ได้พุ่งขึ้นไปยังอันดับที่ห้าสิบแล้ว และยังคงขึ้นไปอีก…”

“น่าสะพรึงมาก แม้แต่ศิษย์ที่อยู่มานานยังทําไม่ได้ขนาดนี้ การขึ้นอันดับที่เดียวเป็นร้อย… มันผิดปกติเกินไป!”

” ข้าเกรงว่าแม้แต่ศิษย์สายตรงยังไม่มีความสามารถระดับนี้!”

“เขาใช่หลินเซวียนที่มีเจตนารมณ์แห่งดาบหรือเปล่า?”

กลุ่มของศิษย์ชั้นในถกเถียงกันอยู่ด้านนอกตลอดเวลา ในกลุ่มคน เมื่อหลิงเจ๋อเห็นปรากฏการณ์นี้ เขาถึงกับจะหมดสติ เพราะเขาได้ส่งคนไปลอบสังหารหลินเซวียนในปาวันนั้นถึงห้าคน!

แต่หลินเซวียนกลับยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งเขาต้องสูญเสียไม่น้อย

เวลานี้หลิงเจ๋อเหงื่อแตกพลั่กเมื่อพบว่าไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่องเข้า

ฟานข่งเองก็ยังแอบแปลกใจอยู่เงียบๆ หลินเซวียนนั้นแข็งแกร่งเกินไปจนทําให้เขากลัว ตอนนี้เขาไม่อยากจะจัดการกับหลินเซวียนแล้ว แต่จะให้หลินเซวียนไม่ทําอะไรเขางั้นได้ยังไง?

“ยี่สิบ ชื่อเขาขึ้นไปยังอันดับที่ยี่สิบแล้ว!” ศิษย์รอบด้านตกตะลึง “สิบเจ็ด… สิบห้า… สิบสาม!”

“สิบเอ็ดแล้ว!”

“หยุดแล้ว!”

ชื่อของหลินเซวียนหยุดที่อันดับสิบเอ็ด นอกจากศิษย์สายตรงในสิบอันดับแรก ตอนนี้เขาเป็นอันดับหนึ่งในศิษย์ชั้นใน

ภายในหอทดสอบพลัง หลินเซวียนค่อยๆ หายใจเข้าออก เขาเหนื่อยกับการทดสอบเหล่านี้ไม่น้อย อีกทั้งระดับความยากยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่หากเขาจะทําต่อ เขาก็ทําได้แต่ตอนนี้ยังไม่ทํา

เพราะศิษย์สายตรงในสิบอันดับแรกที่เหลือ เขาอยากพิชิตด้วยตัวเอง ไม่ใช่เอาชนะด้วยการทดสอบในมิติเช่นนี้

การเปลี่ยนแปลงอันดับของหลินเซวียน ไม่เพียงแต่จะทําให้ศิษย์ชั้นในตื่นเต้น แต่ยังทําให้ผู้อาวุโสบางกลุ่มตกตะลึงด้วย มู่หรงเฉียนหลิงเองก็เดินทางมายังหอทดสอบพลังด้วยตัวเองเพื่อรอหลินเซวียน

เมื่อหลินเซวียนออกมาจากหอทดสอบพลัง เขาก็พบมู่หรงเฉียนหลิงเป็นคนแรก

นางราวกับดอกบัวหิมะ รูปลักษณ์ที่งดงามโดดเด่นของนางต้องตากว่าผู้ใดในนี้

“อาจารย์มู่หรง” หลินเซวียนยิ้มพร้อมกล่าว ” ท่านกําลังรอข้างั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว!” เสียงของมู่หรงเฉียนหลิงฟังดูเย็นเยียบ

หลินเซวียนประหลาดใจ เขาแค่ล้อเล่นเท่านั้นแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

” ตามข้ามา!” มู่หรงเฉียนหลงกล่าวแค่ไม่กี่คําก่อนจะหันหลังเดินจากไป หลินเซวียนทําได้แค่เดินตามอย่างงุนงง

เมื่อมาถึงยังลานฝึก มู่หรงเฉียนหลิงก็หยุดลง ดวงตาที่งดงามดั่งน้ําในฤดูใบไม้ร่วงมองไปที่หลินเซวียน “เจ้ารู้จักพื้นที่ทดสอบโลหิตหรือเปล่า?”

“ข้าเพิ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับมันไม่นานนี้เช่นกัน” หลินเซวียนกล่าวตามตรง

” ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะกระทําการทดสอบรวดเร็วเช่นนี้ แต่เดิมผู้อาวุโสชั้นในอยากจะฝึกเจ้าอีกสักหน่อย แล้วค่อยให้เข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวรอบหน้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนไปแล้ว”

หลินเซวียนแตะจมูกก่อนจะกล่าว “ข้ารอถึงครั้งหน้าไม่ได้ และต้องเข้าไปในครั้งนี้”

“ข้าทราบแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะบอกกฏของพื้นที่ทดสอบโลหิตให้” มู่หรงเฉียนหลิงรวบผมก่อนจะอธิบาย ” พื้นที่ทดสอบโลหิตนั้นคือมิติอิสระในเขตอวินโจว และมีเพียงคนที่อายุต่ํากว่ายี่สิบสี่ปีเท่านั้นที่เข้าได้”

“เงื่อนไขของการเข้านั้นแต่ละตระกูลใหญ่จะส่งคนไปได้สิบห้าคน ในสํานักชวนเทียน ห้าอันดับแรกจะถูกส่งไปอยู่แล้ว ส่วนอีกสิบตําแหน่งที่เหลือจะให้คนอื่นแข่งขันกันเองเพื่อแย่งชิง”

“แน่นอนว่าหากไม่มีความแข็งแกร่งในระดับศิษย์สายตรง ข้าเกรงว่าคงไม่ง่ายที่จะชิงตําแหน่งมา”

มู่หรงเฉียนหลิงยิ้ม “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าตอนนี้ มันคงไม่ยากที่จะท้าศิษย์สายตรงประลอง ยังไงก็ตาม ข้าอยากจะเตือนเจ้าก่อนว่า ถึงแม้จะมีสมบัติมากมายในพื้นที่ทดสอบโลหิต แต่อันตรายข้างในนั้นก็ไม่น้อยไปกว่ากันแน่นอน เจ้าอาจตายได้หากประมาท”

” ดังนั้นเจ้าต้องคิดให้รอบคอบก่อน!”

“ขอบคุณอาจารย์ที่ชี้แนะ ข้าเข้าใจแล้วขอรับ!” หลินเซวียนเผยแววตาที่มั่นคง

“ข้าไม่ทราบว่าศิษย์สายตรงที่ผู้อาวุโสเยว่สอนอยู่นั้นอยู่อันดับอะไรหรือ?” หลินเซวียนเอ่ยขึ้น

“อันดับห้าและอันดับเจ็ด” มู่หรงเฉียนหลิงมองเขาอย่างลุ่มลึก จากนั้นมุมปากของนางได้ยกขึ้นพร้อมความรู้สึกคาดหวังในใจ

วันต่อมา หลินเซวียนได้ทําให้สํานักชั้นในโกลาหลอีกครั้งด้วยการท้าประลองกับศิษย์สายตรง

ทันทีที่เขาประกาศ สํานักชั้นในต่างลุกเป็นไฟกันอีกครั้ง เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับหลินเซวียนต่างไม่มีใครเดาทางถูก

อย่างแรกที่จางเฉียนถูกสังหารในลานประลองเป็นตาย สิ่งนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น อีกทั้งเขายังไปทําให้ผู้อาวุโสเยว่ขุ่นเคือง ไม่เพียงแค่นั้น เขายังมีเจตนารมณ์แห่งดาบในตํานาน และความแข็งแกร่งยังเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

หลังจากกลับมาที่สํานัก เขาก็เข้าทดสอบในหอบ่มเพาะพลังจนอันดับพุ่งขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งของศิษย์ชั้นใน

ตอนนี้หลินเซวียนกําลังจะท้าศิษย์สายตรงเพื่อชิงตําแหน่ง

“เขาจะท้าประลองใคร?” ผู้คนมากมายต่างคาดเดา

“ข้าเดาว่าคงจะเป็นสองอันดับท้ายสุด” ศิษย์บางคนวิเคราะห์ “ถึงแม้หลินเซวียนจะแข็งแกร่ง ขั้นพลังของเขายังอยู่แค่ขั้นเป็ดชีพจรระดับแปด และช่องว่างระหว่างพลังยังกว้างเกินไป”

หลายคนเห็นด้วยกับเขา เพราะอันดับสิบและเก้านั้นไม่ห่างจากกันเท่าไหร่

ฟานข่งที่อยู่อันดับเก้าถึงกับนอนไม่หลับเมื่อได้ยินข่าวนี้ ในภารกิจที่เมืองหลิงซาน เขาเห็นความแข็งแกร่งของหลินเซวียนกับตาตนเอง มันจึงทําให้เขารู้สึกกลัวอย่างแท้จริง

ท้ายที่สุดเขาก็ช่วยไม่ได้นอกจากตัดสินใจลงมือทําบางอย่าง

เขาถอดเครื่องประดับในตัว จากนั้นได้สวมผ้าคลุมสีดําและรอให้ถึงกลางคืน จากนั้นได้ย่องไปยังที่พักของหลินเซวียน

หลินเซวียนที่กําลังพักผ่อนอยู่ได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเดินไปเปิด

เขาเห็นชายผู้หนึ่งสวมผ้าคลุมสีดํากําลังยืนอยู่อย่างลึกลับ

“ ท่านคือ…”

“ศิษย์น้องหลิน ข้าเอง” เสียงนั้นทุ่มต่ําแต่ก็กระจ่างใส

เพราะเขาคลุมผ้าคลุมอยู่ ดังนั้นจึงไม่เห็นใบหน้าที่ซีดเซียว

“ฟานช่ง?” หลินเซวียนชะงัก “เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เหตุใดถึงมาในสภาพนี้!?”

“เป็นศิษย์พี่ฟานเอง” หลินเซวียนกล่าวอย่างเกียจคร้าน “ข้าไม่ทราบว่าศิษย์พี่ฟานมีอะไรหรือเปล่า? หากมีอะไรก็ว่ามาได้เลย”

เวลานี้ใบหน้าฟานช่งกําลังบิดเบี้ยวอยู่ภายใน

หลินเซวียนพาเขาเข้ามา ตอนนี้หลินเซวียนค่อนข้างมั่นใจในฝีมือตนเองพอควร ดังนั้นจึงไม่กลัวฟานช่งจะใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก

ฟานช่งรีบเข้ามาในบ้าน จากนั้นเขาได้เดินไปรอบๆ เมื่อพบว่าไม่มีใครเขาจึงเผยท่าที่ผ่อนคลาย

จากนั้นเขาได้ถึงบางอย่างออกมา

ดาบพิโรธสวรรค์

ดาบพิโรธสวรรค์

Status: Ongoing

ลินเซวียนถูกผนึกจุดชีพจรจากพลังลึกลับ ทำให้เขาไม่สามารถเปิดพลังวิญญาณเข้าสู่การบ่มเพาะพลังได้

ชีวิตที่ต้องทนลำบากจากการถูกดูหมิ่น เย้ยหยัน เหยียดหยาม

ด้วยความมุ่งมั่นพยายาม มันทำให้ชีวิตของเขาได้พบจุดเปลี่ยน!

หนึ่งดาบทะลวงดารา!

หนึ่งดาบสะเทือนฟ้าดิน!

หนึ่งดาบพิโรธสวรรค์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท