บทที่ 365 การทำเงินที่แลกด้วยเลือดเนื้อ (1)
นับตั้งแต่ตอนที่ในแล็บส่งข่าวออกมาว่าเจอสารช่วยเร่งการก่อตัวของกระดูก ไป๋เยี่ยก็สนใจมาก
เขาจริงจังกว่าเรื่องการเป็นอาจารย์ที่ยูเนียนเสียอีก!
ในยุคนี้ที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นพลังการผลิตหลัก คุณต้องเข้าใจเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการดำรงชีวิตจึงจะมีสิทธิ์เอ่ยปาก
ศูนย์ทดลองของสถาบันกระดูกเป็นสถานที่ที่รวบรวมบุคลากรชั้นนำไว้ ถึงแม้ว่าจะเทียบชั้นกับคาริส เดซี่และคนอื่นๆ ที่ฐานทดลองโนเบลไม่ได้ ทว่าสิ่งที่แตกต่างกันก็คือประสบการณ์
ฐานทดลองโนเบลนำทีมโดยศาสตราจารย์ถูโยว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการที่สำคัญในระดับประเทศ ระดับนานาชาติ ไปจนถึงองค์การอนามัยโลก พวกเขามีโอกาสทดลองมากมายพอที่จะยกระดับความสามารถด้านการวิจัยและศักยภาพในภาคปฏิบัติ
ซึ่งทีมทดลองของไป๋เยี่ยก็ทำได้ไม่เลวเช่นกัน ในช่วงเวลาเพียงสองเดือน พวกเขาก็ทำให้ไป๋เยี่ยประหลาดใจได้ ในเมื่อมีครั้งแรกแล้ว อีกนานไหมกว่าจะมีครั้งที่สอง
ตอนนี้ไป๋เยี่ยมุ่งเน้นไปที่การแยกและการสกัดสาร อย่างไรเสียไป๋เยี่ยก็ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงานภาคคลินิกเท่านั้น ความสามารถด้านการทำวิจัยของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแยกและการสกัด ไป๋เยี่ยทักษะอยู่ที่เลเวลสี่: 21200/30000
แม้ว่าจะยังไม่ถึงเลเวลห้า แต่ไป๋เยี่ยก็มีฉายากิตติมศักดิ์ที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติได้
นั่นคือคุณสมบัติด้านการทำวิจัยที่มาจากฉายา [หนึ่งพันคนของชาติ] ซึ่งเพิ่มโอกาสในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ไป๋เยี่ย รวมถึงการแยกและสกัดสารด้วย
นั่นหมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าไป๋เยี่ยสกัดและค้นพบสิ่งที่คนอื่นไม่เคยค้นพบมาก่อนได้ และสกัดสารหายากออกมาได้อย่างแท้จริง
อย่าได้ดูแคลนโอกาสในการสร้างนวัตกรรมเป็นอันขาด เพราะว่าแยกและสกัดสารนั้นได้หลายครั้ง และหากทำซ้ำไปเรื่อยๆ โอกาสที่จะได้รับสารใหม่ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ไป๋เยี่ยมีความสามารถในการแยกและสกัดสาร ตั้งแต่การค้นพบสารอาร์เทแอนนิวอินไปจนถึงสารอาร์เทแอนนิวอินชนิดใหม่ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่เขาขายให้เมิ่งอวิ๋นซีจากบริษัทยาจื่ออวิ๋น
ตอนนี้เขามีทีมวิจัยแล้ว ไป๋เยี่ยไม่จำเป็นต้องแยกสารเองทั้งหมด เขาแค่แบ่งทีมวิจัยออกเป็นทีมสำรวจผลในคลินิกและทีมทำวิจัยให้ทำหน้าที่แตกต่างกัน
ทีมคลินิกจะติดตามผลและตรวจสอบผู้ป่วยที่เคยใช้ตัวยาเป็นหลัก รวมถึงการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
อันที่จริงคำกล่าวว่าการแพทย์แผนจีนไม่ได้มาตรฐานและไม่เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน ถึงขั้นกล่าวว่าไร้ความรับผิดชอบต่อผู้ป่วยก็ไม่ได้มีมีเหตุผลเสียทีเดียว
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะว่าคุณไม่มีทางตัดสินประสิทธิผล ความเป็นพิษและผลข้างเคียงของยาได้
และเป็นการยากที่จะระบุข้อบกพร่องของตัวยา
เมื่อเทียบกับการแพทย์แผนจีนแล้ว การแพทย์แผนปัจจุบันดูจะสมเหตุสมผลกว่า เพราะว่าอธิบายผลของยาได้อย่างชัดเจน กระทั่งผลข้างเคียงและพิษจากตัวยา อาการไม่พึงประสงค์ ข้อห้ามในการใช้ยาและการย่อยสลายของตัวยา
กว่ายาตัวหนึ่งจะวางขายในตลาดได้ ก็ต้องมีข้อสรุปจากการทดลองนับหลายครั้งมาก่อน
ถึงแม้ว่าข้อสรุปอาจไม่ถูกต้องทั้งหมดเนื่องด้วยวิทยาการที่จำกัด แต่ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้
แล้วยาจีนล่ะ
หากยาที่คุณใช้เป็นยาต้มก็จะวัดประสิทธิผลของยาได้ยาก ไม่รู้แม้กระทั่งผลข้างเคียงของมัน และไม่รู้ว่าตัวยานั้นจะได้รับอนุญาตให้วางขายในตลาดได้หรือไม่ ล้วนไม่มีคำตอบที่ชัดเจนพอ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยเกิดอาการบางอย่าง คุณก็ไม่มีทางรู้ว่ามันเป็นผลจากตัวยาหรือไม่
นับเป็นปัญหาที่รุนแรงมาก
การที่ทีมวิจัยของไป๋เยี่ยค้นพบ ‘สารสร้างกระดูก’ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด
ในสูตรยาของตระกูลเหล่าเหอ มีสูตรยาจีนโบราณชื่อว่า ‘ยาทาเชื่อมกระดูก‘ ซึ่งเป็นยาทาใช้ภายนอก วิธีการใช้งานคือต้องนำยาไปต้ม จากนั้นนำมาทาลงบนผิวหนังบริเวณที่กระดูกหัก ก็จะช่วยเร่งการซ่อมแซมของกระดูกได้
ไป๋เยี่ยส่งสูตรยานี้ให้กับแพทย์ที่สถาบันวิจัยกระดูก โดยจุดประสงค์ของเขาคือการพิสูจน์ประสิทธิภาพของตัวยาผ่านการสำรวจในคลินิก หากผลลัพธ์ที่ได้มีนัยสำคัญจริงๆ ตัวยาดังกล่าวก็จะถูกส่งต่อไปที่ศูนย์วิจัยเพื่อค้นคว้าว่ามันมีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
นี่เป็นกิจวัตรปกติของการวิจัยยาจีนในปัจจุบัน นั่นคือการมองหาโอกาสจากการสำรวจในคลินิกแล้วจึงนำมาตรวจสอบอีกที
ทว่าไป๋เยี่ยก็ไม่ได้คาดคิดว่าสถาบันวิจัยแห่งนี้จะสร้างความประหลาดใจให้เขา
จุดประสงค์หลักของการก่อตั้งทีมวิจัยคือการค้นคว้าส่วนผสมที่แท้จริงในยาทาเชื่อมกระดูกและกลไกการออกฤทธิ์ของมัน เมื่อทราบผลแล้ว มันก็จะไม่ใช่แค่งานง่ายๆ อีกต่อไป
นี่คือขั้นตอนที่ยากที่สุดด้วยซ้ำ!
เพราะงานที่ไป๋เยี่ยต้องทำนั้นแตกต่างจากงานของคนอื่น
สิ่งที่โรงพยาบาลทั่วไปทำคือการทำให้ยาจีนโบราณกลายเป็นยาทั่วไป ซึ่งตัวยาเหล่านั้นก็จะได้รับเลขทะเบียนอนุญาตง่ายยิ่งขึ้น ทำให้วางขายในตลาดได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม เหตุผลนี้ก็ทำให้ประเทศจีนถูกต่างชาติเรียกว่าเป็นแหล่งมั่วสุมทางการแพทย์ เพราะว่าการตรวจสอบยาจีนไม่มีมาตรฐานเลย
ในเมื่อยาจีนเป็นอย่างนั้น แล้วยาจีนแปรรูปล่ะ
มันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสูตรยาจีนดั้งเดิมหรอก
แน่นอนว่า ไป๋เยี่ยไม่ได้คิดว่ายาจีนแปรรูปไม่ดี แต่เพราะว่ามันไม่มีตลาดที่มีรองรับมาตรฐานนั้นได้
ตัวเราเองยังยืนยันได้ว่ายาที่เราผลิตมีประสิทธิภาพหรือไม่ และเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราผลิตอะไรขึ้นมา แล้วเหตุใดคนอื่นจึงต้องจดจำมัน
นั่นหมายความว่าคุณก็ไม่ได้เชื่อมั่นในวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเอง เพราะคุณไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าสิ่งนั้นคือแก่นแท้ของชาติและเป็นสิ่งที่ดี
แล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีจริงเหรอ
ไม่ใช่!
แต่เป็นเพราะเรากำลังใช้วิธีการที่ผิดต่างหาก
วิธีเปิดกรุยาจีนโบราณคืออะไร นี่เป็นปัญหาข้อยาก
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจนถึงขณะนี้แล้วยังไม่มียาจีนตัวใดจากบริษัทผลิตยาได้รับการอนุมัติโดยเอฟดีเอของสหรัฐอเมริกา และมีคุณสมบัติเพียงพอต่อการวางขายในท้องตลาด
ชาวจีนเองก็ยอมรับยาจีนเพียงเพราะมันเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ที่ทำให้การแพทย์แผนจีนมีชื่อเสียงดีงามเท่านั้น
ทว่าชื่อเสียงนั้นไม่ใช้เส้นทางที่จะคงอยู่ในระยะยาว
ดังนั้นแล้ว การค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับการแพทย์แผนจีนจึงมีความสำคัญมาก
ซึ่งไป๋เยี่ยเองก็กำลังพยายามอย่างหนัก
แผนวิจัยสารเร่งการสร้างกระดูกคือสิ่งที่ไป๋เยี่ยกำลังทดลองนำไปใช้อยู่
โดยทั่วไปแล้ว ตราบใดที่มันเป็นการทดลองในคลินิกก็จะพิสูจน์ว่ายาทาเชื่อมกระดูกมีประสิทธิผลจริง เร่งการฟื้นฟูของกระดูกได้ จากนั้นก็จะยื่นขอสิทธิบัตรและผลิตตัวยาดังกล่าวออกมาวางขายในตลาด
ทว่าหากเป้าหมายของไป๋เยี่ยจะเล็กแค่นั้น เขาก็คงไม่ใช่ไป๋เยี่ย
ไป๋เยี่ยมีแพลตฟอร์มที่ดีเช่นนี้ ย่อมต้องการความยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เขาหวังว่าจะค้นพบสารและส่วนผสมของยาทาเชื่อมกระดูก จากนั้นก็จะทำการทดลอง เช่นนี้แล้ว ตัวยาดังกล่าวก็จะมีโอกาสได้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างแน่นอน