การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 464 ของขวัญ

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 464 ของขวัญ

บทที่ 464 ของขวัญ

โม่เจ๋อหยวนมองตามถังซวงที่รีบเดินกลับเข้าไป แต่ตัวเองก็ยังตกตะลึงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น พอได้สติก็ยกยิ้มเขินอายกับตัวเอง ถังซวงก็วิ่งหนีเขาไปเสียแล้ว แล้วเขายังพูดได้อีกไหมว่าตัวเองไม่มีความสุข?

โม่เจ๋อหยวนสัมผัสริมฝีปากของตัวเอง ก่อนยกยิ้มกว้าง ความสุขเอ่อล้นในแววตา

ชายหนุ่มไม่เคยคิดมาก่อนว่าถังซวงจะทำอะไรแบบนี้กับตน เห็นทีในอนาคตเขาคงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับถังซวงมากขึ้นซะแล้ว

อีกด้านหนึ่ง เฟิงเยี่ยหานเดินมาส่งถังเซวี่ยที่ลานบ้าน

“ถึงแล้วค่ะ”

ถังเซวี่ยมองหน้าเฟิงเยี่ยหานก่อนยกยิ้มสดใส “ขอบคุณที่มาส่งนะ คุณรีบกลับไปนอนได้แล้ว”

หากแต่เฟิงเยี่ยหานคว้ามือถังเซวี่ยเอาไว้ก่อนจะพูดเสียงอ่อน “วันนี้ผมมาสาย คุณโกรธหรือเปล่า”

ถังเซวี่ยเม้มปากแน่น ก่อนจะพูดว่า “ฉัน… ฉันไม่ได้โกรธ ฉันแค่กังวลว่าคุณจะไม่มา แต่คุณก็มาทันเวลา”

“ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นความผิดผมเอง”

ถังเซวี่ยส่ายศีรษะ “ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วคุณคงมีธุระอื่นที่ต้องจัดการ ฉันรีบร้อนไปเองแหละ”

“เสี่ยวเซวี่ย จริง ๆ แล้ว… ผมมีความสุขมากนะครับ”

เฟิงเยี่ยหานยิ้มกว้าง จับมือถังซวงแล้วเป่าลมอุ่นใส่มือของเธอ “ที่คุณอารมณ์เสียใส่ผมก็เพราะคุณเป็นห่วงและมีความรู้สึกกับผม ผมมีความสุขมากเลยนะ ถ้าในอนาคตมีอะไรที่คุณรู้สึก ไม่ว่าจะโกรธ หรืออะไร คุณสามารถตำหนิผมได้เลยครับ ผมยินดี”

ถังเซวี่ยแปลกใจที่ได้ยินเฟิงเยี่ยหานพูดอย่างนั้น เธอมองเขาด้วยความสับสน ไม่รู้จะตอบอะไรไปครู่หนึ่ง

เฟิงเยี่ยหานที่เห็นความสับสนบนใบหน้าของหญิงสาว ก็คิดว่าเธอน่ารักมาก เขาจูบมือของเธออย่างแผ่วเบา

“คุณ… คุณ…”

หลังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบนหลังมือของตน ถังซวงสะดุ้งโหยงแต่ก็ไม่ได้ผลักอีกฝ่ายออกไป

เฟิงเยี่ยหานเองก็รู้ว่าการกระทำของเขามันผิดเวลาไปสักหน่อย เลยปล่อยมือของถังเซวี่ยอย่างว่าง่ายก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้เธอ “เสี่ยวเซวี่ย สวัสดีปีใหม่นะครับ”

แสงจากโคมไฟบนถนนสาดส่องมา ทำให้ถังเซวี่ยมองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเฟิงเยี่ยหานชัดเจน มันคือหยกสีดำชิ้นหนึ่ง

“ของขวัญปีใหม่หรือคะ?”

เฟิงเยี่ยหานพยักหน้า “ครับ นี่เป็นของขวัญปีใหม่ของผม”

แต่ถังเซวี่ยยังไม่รับเอาไว้ เธอเคยเห็นสิ่งของล้ำค่ามากมาย และรู้ว่าหยกสีดำนี้พิเศษมากแค่ไหน “นี่มัน… มากเกินไปหรือเปล่า?”

เฟิงเยี่ยหานส่ายศีรษะ “ไม่ได้แพงอะไรเลย เสี่ยวเซวี่ย… คุณสมควรได้รับมันครับ”

“ฉัน…”

ถังเซวี่ยรู้แล้วว่าเฟิงเยี่ยหานให้ความสำคัญกับตัวเธอมากแค่ไหน แต่เธอกับเขาก็ยังเป็นแค่เพื่อนกัน มันไม่เหมาะสมหากจะรับของราคาแพงชิ้นนี้มา “เฟิงเยี่ยหาน ฉันว่ามันแพงเกินไปค่ะ ฉันรับมันไว้ไม่ได้หรอก”

“เสี่ยวเซวี่ย ผมชอบคุณครับ”

เฟิงเยี่ยหานสารภาพความในใจออกมาอีกครั้ง

ถังเซวี่ยมองชายหนุ่มอย่างสับสน สงสัยว่าทำไมเขาถึงพูดมันออกมาอีกครั้ง

เฟิงเยี่ยหานมองถังเซวี่ยก่อนจะกล่าวจริงจัง “ผมชอบคุณ ผมเลยอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคุณ ตอนนี้ผมแทบจะทนไม่ไหวที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีให้คุณ และด้วยวิธีนี้มันจะทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น” เขาต้องการแบบนั้น แต่กลัวว่าถังเซวี่ยจะกลัวซะก่อน

ถังเซวี่ยที่ได้ยินคำพูดของเฟิงเยี่ยหาน ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ

คราวนี้เธอไม่หลบสายตาของเฟิงเยี่ยหานอีกต่อไป เธอจ้องมองอีกฝ่ายก่อนจะพูดว่า “เฟิงเยี่ยหาน ขอบคุณที่ชอบฉัน ความจริงแล้ว ฉัน… ก็คิดว่าคุณเป็นคนดีมาก และฉันก็ชอบอยู่กับคุณเหมือนกัน… และถ้าความรู้สึกนี้มันคือความรู้สึกในแบบที่คนรักมีให้กัน ฉันก็คงชอบคุณด้วย”

“เสี่ยวเซวี่ย…”

เฟิงเยี่ยหานคิดเพียงบอกความรู้สึกของตนเอง แต่ไม่ได้คาดหวังคำตอบจากถังเซวี่ยเลย ทว่าคราวนี้ถังเซวี่ยกลับกล่าวออกมาว่าเธอเองก็ชอบเขาเหมือนกัน

“คุณ… พูดจริงหรือ? คุณ… ชอบผมเหมือนกันหรือ?”

เฟิงเยี่ยหานทั้งประหม่าและกังวล อารมณ์ที่เคยขุ่นเคืองก่อนหน้าของถังเซวี่ยดีขึ้นทันตาเห็น

“อะไร… คุณไม่เชื่อที่ฉันพูดหรือ? ฉันชอบอยู่กับคุณ ก็หมายความว่าฉันชอบคุณเหมือนกันไง” เธอคิดว่าคำพูดของเธอชัดเจนมากนะ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่ามันไม่มากพอ อีกทั้งเวลานี้สีหน้าของเฟิงเยี่ยหานกลับทำให้เธอรู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่พูดออกไปอย่างนั้น

เธอชอบเฟิงเยี่ยหาน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่โกรธเขาแบบนี้

“เสี่ยวเซวี่ย…”

เฟิงเยี่ยหานที่สับสนในคราวแรก เมื่อได้สติกลับมาเขาอุ้มถังเซวี่ยแล้วหมุนไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข

“ฮ่าฮ่าฮ่า… ผมมีความสุขจริง ๆ ครับ”

เฟิงเยี่ยหานไม่เคยมีความสุขมากขนาดนี้มาก่อน การที่ถูกคนที่ตนเองรัก รักตอบมันเป็นเรื่องที่มีความสุขมากขนาดนี้ เขาหายง่วงทันทีและอยากอุ้มถังเซวี่ยไว้อย่างนี้จนถึงเช้า

“เฟิงเยี่ยหาน ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ฉันเวียนหัว!”

ถังเซวี่ยวิงเวียนเล็กน้อย ตบไหล่ของเฟิงเยี่ยหานปุ ๆ

เฟิงเยี่ยหานได้ยินถังเซวี่ยพูดอย่างนั้น ก็หยุดหมุนก่อนจะพูดว่า “ขอโทษครับเสี่ยวเซวี่ย ผมมีความสุขมากไปหน่อย” หลังพูดจบ เขายื่นหยกสีดำให้กับถังเซวี่ยพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่คือมรดกของตระกูลเฟิง ผู้นำตระกูลเฟิงทุกคนจะเก็บรักษามันไว้ มันคือของสำคัญที่สุดของตระกูลเฟิง… ผมให้คุณ”

“เฟิงเยี่ยหาน…”

ถังเซวี่ยรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหยกสีดำชิ้นนี้จะต้องมีมูลค่าที่ประเมินไม่ได้ แต่เธอไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเป็นมรดกของตระกูลเฟิงจริง ๆ เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วเธอยิ่งไม่สามารถรับมันไว้ได้

“ไม่ได้ค่ะ ยิ่งมันเป็นมรดกของตระกูลเฟิง ฉันรับไว้ไม่ได้ คุณเก็บมันไว้เถอะค่ะ”

แต่เฟิงเยี่ยหานยัดมันใส่มือของถังเซวี่ย

“ความจริงแล้ว… สร้อยเงินที่เคยให้คุณไปก่อนหน้านี้ก็เป็นมรดกของตระกูลเฟิงเหมือนกัน” เฟิงเยี่ยหานยิ้มกว้าง จับมือของถังเซวี่ยมา เพื่อดูสร้อยข้อมือที่อยู่บนข้อมือของเธอ “สร้อยข้อมือนี้คือสัญลักษณ์ของนายหญิงตระกูลเฟิง เพราะฉะนั้น… ไม่ว่าใจของผม ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลเฟิง และตัวผม… เป็นของคุณ”

“นี่คุณ…”

ถังเซวี่ยมองสร้อยข้อมือเงิน เธอไม่คิดมาก่อนว่าสิ่งที่ดูเรียบง่ายนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของนายหญิงแห่งตระกูลเฟิง เธอหันมองเฟิงเยี่ยหานอย่างขุ่นเคือง “ตอนนั้นคุณต้องการจะผูกมัดฉันด้วยการยัดสร้อยเส้นนี้ให้ฉันงั้นหรือ ตอนนั้นคุณทำให้ฉันคิดว่ามันเป็นแค่สร้อยข้อมือธรรมดา ฉันก็ใส่มันไปโดยไม่คิดอะไร แต่สร้อยข้อมือนี้มันกลับเป็นของสำคัญมากขนาดนี้เนี่ยนะ”

เฟิงเยี่ยหานไม่ปฏิเสธ “ครับ ผมหวังว่าผมจะสามารถเป็นคนรักของคุณได้ในเร็ววันไง”

เฟิงเยี่ยหานยอมรับออกไปตามตรง ส่วนถังเซวี่ยจ้องมองเขาอย่างอ่อนใจ

เฟิงเยี่ยหานจับมือเธอก่อนจะเดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าใครที่มองมาก็ต้องมองออกว่าเขาอารมณ์ดีมาก อีกทั้งชายหนุ่มยังฮัมเพลงเบา ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย

เห็นเฟิงเยี่ยหานเป็นถึงขนาดนี้ ถังเซวี่ยก็ยิ้มกว้าง

“คุณมีความสุขมากขนาดนั้นเลยหรือ?”

“ครับ แน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยละ”

ถังเซวี่ยเหลือบมองเขา “พูดเกินไปแล้วค่ะ”

“เรื่องจริงนะครับ”

เฟิงเยี่ยหานหันมองถังเซวี่ยด้วยแววตาจริงจัง “ตอนยังเด็ก ชีวิตของผมมันหดหู่มาก ตั้งแต่จำความได้ ผมไม่เคยมีความสุขเลย พ่อชอบน้องชายไม่ชอบผม และเพื่อให้ผมอยู่รอด ผมต้องเดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ อย่างทุลักทุเล ก็เพื่อที่จะสร้างความสุขให้กับตัวเองบ้าง แต่หลังจากผมได้เจอคุณ ชีวิตของผมเหมือนกับเจอแสงสว่างเลยละ”

“คุณ…”

ถังเซวี่ยมองเฟิงเยี่ยหานด้วยสีหน้าว่างเปล่า เธอไม่รู้ว่าจะตอบเขาอย่างไร

แม้เธอจะรู้ว่าเฟิงเยี่ยหานเองคงจะพบเจอเรื่องยากลำบากมากมาย แต่เธอไม่ได้คิดว่ามันจะยากเย็นขนาดนั้น และก็ไม่เคยรู้จักเฟิงเยี่ยหานมาก่อนเลย แต่เพียงแค่ได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา กลับได้รู้ว่าเขาไม่เคยมีชีวิตที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก งั้นเวลานี้ก็กลายเป็นเธอที่เป็นความพิเศษในชีวิตของเขางั้นหรือ?

………………………………………………

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท