บทที่ 464 ของขวัญ
บทที่ 464 ของขวัญ
โม่เจ๋อหยวนมองตามถังซวงที่รีบเดินกลับเข้าไป แต่ตัวเองก็ยังตกตะลึงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น พอได้สติก็ยกยิ้มเขินอายกับตัวเอง ถังซวงก็วิ่งหนีเขาไปเสียแล้ว แล้วเขายังพูดได้อีกไหมว่าตัวเองไม่มีความสุข?
โม่เจ๋อหยวนสัมผัสริมฝีปากของตัวเอง ก่อนยกยิ้มกว้าง ความสุขเอ่อล้นในแววตา
ชายหนุ่มไม่เคยคิดมาก่อนว่าถังซวงจะทำอะไรแบบนี้กับตน เห็นทีในอนาคตเขาคงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับถังซวงมากขึ้นซะแล้ว
อีกด้านหนึ่ง เฟิงเยี่ยหานเดินมาส่งถังเซวี่ยที่ลานบ้าน
“ถึงแล้วค่ะ”
ถังเซวี่ยมองหน้าเฟิงเยี่ยหานก่อนยกยิ้มสดใส “ขอบคุณที่มาส่งนะ คุณรีบกลับไปนอนได้แล้ว”
หากแต่เฟิงเยี่ยหานคว้ามือถังเซวี่ยเอาไว้ก่อนจะพูดเสียงอ่อน “วันนี้ผมมาสาย คุณโกรธหรือเปล่า”
ถังเซวี่ยเม้มปากแน่น ก่อนจะพูดว่า “ฉัน… ฉันไม่ได้โกรธ ฉันแค่กังวลว่าคุณจะไม่มา แต่คุณก็มาทันเวลา”
“ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นความผิดผมเอง”
ถังเซวี่ยส่ายศีรษะ “ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วคุณคงมีธุระอื่นที่ต้องจัดการ ฉันรีบร้อนไปเองแหละ”
“เสี่ยวเซวี่ย จริง ๆ แล้ว… ผมมีความสุขมากนะครับ”
เฟิงเยี่ยหานยิ้มกว้าง จับมือถังซวงแล้วเป่าลมอุ่นใส่มือของเธอ “ที่คุณอารมณ์เสียใส่ผมก็เพราะคุณเป็นห่วงและมีความรู้สึกกับผม ผมมีความสุขมากเลยนะ ถ้าในอนาคตมีอะไรที่คุณรู้สึก ไม่ว่าจะโกรธ หรืออะไร คุณสามารถตำหนิผมได้เลยครับ ผมยินดี”
ถังเซวี่ยแปลกใจที่ได้ยินเฟิงเยี่ยหานพูดอย่างนั้น เธอมองเขาด้วยความสับสน ไม่รู้จะตอบอะไรไปครู่หนึ่ง
เฟิงเยี่ยหานที่เห็นความสับสนบนใบหน้าของหญิงสาว ก็คิดว่าเธอน่ารักมาก เขาจูบมือของเธออย่างแผ่วเบา
“คุณ… คุณ…”
หลังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบนหลังมือของตน ถังซวงสะดุ้งโหยงแต่ก็ไม่ได้ผลักอีกฝ่ายออกไป
เฟิงเยี่ยหานเองก็รู้ว่าการกระทำของเขามันผิดเวลาไปสักหน่อย เลยปล่อยมือของถังเซวี่ยอย่างว่าง่ายก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้เธอ “เสี่ยวเซวี่ย สวัสดีปีใหม่นะครับ”
แสงจากโคมไฟบนถนนสาดส่องมา ทำให้ถังเซวี่ยมองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเฟิงเยี่ยหานชัดเจน มันคือหยกสีดำชิ้นหนึ่ง
“ของขวัญปีใหม่หรือคะ?”
เฟิงเยี่ยหานพยักหน้า “ครับ นี่เป็นของขวัญปีใหม่ของผม”
แต่ถังเซวี่ยยังไม่รับเอาไว้ เธอเคยเห็นสิ่งของล้ำค่ามากมาย และรู้ว่าหยกสีดำนี้พิเศษมากแค่ไหน “นี่มัน… มากเกินไปหรือเปล่า?”
เฟิงเยี่ยหานส่ายศีรษะ “ไม่ได้แพงอะไรเลย เสี่ยวเซวี่ย… คุณสมควรได้รับมันครับ”
“ฉัน…”
ถังเซวี่ยรู้แล้วว่าเฟิงเยี่ยหานให้ความสำคัญกับตัวเธอมากแค่ไหน แต่เธอกับเขาก็ยังเป็นแค่เพื่อนกัน มันไม่เหมาะสมหากจะรับของราคาแพงชิ้นนี้มา “เฟิงเยี่ยหาน ฉันว่ามันแพงเกินไปค่ะ ฉันรับมันไว้ไม่ได้หรอก”
“เสี่ยวเซวี่ย ผมชอบคุณครับ”
เฟิงเยี่ยหานสารภาพความในใจออกมาอีกครั้ง
ถังเซวี่ยมองชายหนุ่มอย่างสับสน สงสัยว่าทำไมเขาถึงพูดมันออกมาอีกครั้ง
เฟิงเยี่ยหานมองถังเซวี่ยก่อนจะกล่าวจริงจัง “ผมชอบคุณ ผมเลยอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคุณ ตอนนี้ผมแทบจะทนไม่ไหวที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีให้คุณ และด้วยวิธีนี้มันจะทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น” เขาต้องการแบบนั้น แต่กลัวว่าถังเซวี่ยจะกลัวซะก่อน
ถังเซวี่ยที่ได้ยินคำพูดของเฟิงเยี่ยหาน ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ
คราวนี้เธอไม่หลบสายตาของเฟิงเยี่ยหานอีกต่อไป เธอจ้องมองอีกฝ่ายก่อนจะพูดว่า “เฟิงเยี่ยหาน ขอบคุณที่ชอบฉัน ความจริงแล้ว ฉัน… ก็คิดว่าคุณเป็นคนดีมาก และฉันก็ชอบอยู่กับคุณเหมือนกัน… และถ้าความรู้สึกนี้มันคือความรู้สึกในแบบที่คนรักมีให้กัน ฉันก็คงชอบคุณด้วย”
“เสี่ยวเซวี่ย…”
เฟิงเยี่ยหานคิดเพียงบอกความรู้สึกของตนเอง แต่ไม่ได้คาดหวังคำตอบจากถังเซวี่ยเลย ทว่าคราวนี้ถังเซวี่ยกลับกล่าวออกมาว่าเธอเองก็ชอบเขาเหมือนกัน
“คุณ… พูดจริงหรือ? คุณ… ชอบผมเหมือนกันหรือ?”
เฟิงเยี่ยหานทั้งประหม่าและกังวล อารมณ์ที่เคยขุ่นเคืองก่อนหน้าของถังเซวี่ยดีขึ้นทันตาเห็น
“อะไร… คุณไม่เชื่อที่ฉันพูดหรือ? ฉันชอบอยู่กับคุณ ก็หมายความว่าฉันชอบคุณเหมือนกันไง” เธอคิดว่าคำพูดของเธอชัดเจนมากนะ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่ามันไม่มากพอ อีกทั้งเวลานี้สีหน้าของเฟิงเยี่ยหานกลับทำให้เธอรู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่พูดออกไปอย่างนั้น
เธอชอบเฟิงเยี่ยหาน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่โกรธเขาแบบนี้
“เสี่ยวเซวี่ย…”
เฟิงเยี่ยหานที่สับสนในคราวแรก เมื่อได้สติกลับมาเขาอุ้มถังเซวี่ยแล้วหมุนไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ผมมีความสุขจริง ๆ ครับ”
เฟิงเยี่ยหานไม่เคยมีความสุขมากขนาดนี้มาก่อน การที่ถูกคนที่ตนเองรัก รักตอบมันเป็นเรื่องที่มีความสุขมากขนาดนี้ เขาหายง่วงทันทีและอยากอุ้มถังเซวี่ยไว้อย่างนี้จนถึงเช้า
“เฟิงเยี่ยหาน ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ฉันเวียนหัว!”
ถังเซวี่ยวิงเวียนเล็กน้อย ตบไหล่ของเฟิงเยี่ยหานปุ ๆ
เฟิงเยี่ยหานได้ยินถังเซวี่ยพูดอย่างนั้น ก็หยุดหมุนก่อนจะพูดว่า “ขอโทษครับเสี่ยวเซวี่ย ผมมีความสุขมากไปหน่อย” หลังพูดจบ เขายื่นหยกสีดำให้กับถังเซวี่ยพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่คือมรดกของตระกูลเฟิง ผู้นำตระกูลเฟิงทุกคนจะเก็บรักษามันไว้ มันคือของสำคัญที่สุดของตระกูลเฟิง… ผมให้คุณ”
“เฟิงเยี่ยหาน…”
ถังเซวี่ยรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหยกสีดำชิ้นนี้จะต้องมีมูลค่าที่ประเมินไม่ได้ แต่เธอไม่คิดมาก่อนว่ามันจะเป็นมรดกของตระกูลเฟิงจริง ๆ เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วเธอยิ่งไม่สามารถรับมันไว้ได้
“ไม่ได้ค่ะ ยิ่งมันเป็นมรดกของตระกูลเฟิง ฉันรับไว้ไม่ได้ คุณเก็บมันไว้เถอะค่ะ”
แต่เฟิงเยี่ยหานยัดมันใส่มือของถังเซวี่ย
“ความจริงแล้ว… สร้อยเงินที่เคยให้คุณไปก่อนหน้านี้ก็เป็นมรดกของตระกูลเฟิงเหมือนกัน” เฟิงเยี่ยหานยิ้มกว้าง จับมือของถังเซวี่ยมา เพื่อดูสร้อยข้อมือที่อยู่บนข้อมือของเธอ “สร้อยข้อมือนี้คือสัญลักษณ์ของนายหญิงตระกูลเฟิง เพราะฉะนั้น… ไม่ว่าใจของผม ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลเฟิง และตัวผม… เป็นของคุณ”
“นี่คุณ…”
ถังเซวี่ยมองสร้อยข้อมือเงิน เธอไม่คิดมาก่อนว่าสิ่งที่ดูเรียบง่ายนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของนายหญิงแห่งตระกูลเฟิง เธอหันมองเฟิงเยี่ยหานอย่างขุ่นเคือง “ตอนนั้นคุณต้องการจะผูกมัดฉันด้วยการยัดสร้อยเส้นนี้ให้ฉันงั้นหรือ ตอนนั้นคุณทำให้ฉันคิดว่ามันเป็นแค่สร้อยข้อมือธรรมดา ฉันก็ใส่มันไปโดยไม่คิดอะไร แต่สร้อยข้อมือนี้มันกลับเป็นของสำคัญมากขนาดนี้เนี่ยนะ”
เฟิงเยี่ยหานไม่ปฏิเสธ “ครับ ผมหวังว่าผมจะสามารถเป็นคนรักของคุณได้ในเร็ววันไง”
เฟิงเยี่ยหานยอมรับออกไปตามตรง ส่วนถังเซวี่ยจ้องมองเขาอย่างอ่อนใจ
เฟิงเยี่ยหานจับมือเธอก่อนจะเดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าใครที่มองมาก็ต้องมองออกว่าเขาอารมณ์ดีมาก อีกทั้งชายหนุ่มยังฮัมเพลงเบา ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย
เห็นเฟิงเยี่ยหานเป็นถึงขนาดนี้ ถังเซวี่ยก็ยิ้มกว้าง
“คุณมีความสุขมากขนาดนั้นเลยหรือ?”
“ครับ แน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยละ”
ถังเซวี่ยเหลือบมองเขา “พูดเกินไปแล้วค่ะ”
“เรื่องจริงนะครับ”
เฟิงเยี่ยหานหันมองถังเซวี่ยด้วยแววตาจริงจัง “ตอนยังเด็ก ชีวิตของผมมันหดหู่มาก ตั้งแต่จำความได้ ผมไม่เคยมีความสุขเลย พ่อชอบน้องชายไม่ชอบผม และเพื่อให้ผมอยู่รอด ผมต้องเดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ อย่างทุลักทุเล ก็เพื่อที่จะสร้างความสุขให้กับตัวเองบ้าง แต่หลังจากผมได้เจอคุณ ชีวิตของผมเหมือนกับเจอแสงสว่างเลยละ”
“คุณ…”
ถังเซวี่ยมองเฟิงเยี่ยหานด้วยสีหน้าว่างเปล่า เธอไม่รู้ว่าจะตอบเขาอย่างไร
แม้เธอจะรู้ว่าเฟิงเยี่ยหานเองคงจะพบเจอเรื่องยากลำบากมากมาย แต่เธอไม่ได้คิดว่ามันจะยากเย็นขนาดนั้น และก็ไม่เคยรู้จักเฟิงเยี่ยหานมาก่อนเลย แต่เพียงแค่ได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา กลับได้รู้ว่าเขาไม่เคยมีชีวิตที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก งั้นเวลานี้ก็กลายเป็นเธอที่เป็นความพิเศษในชีวิตของเขางั้นหรือ?
………………………………………………