บทที่ 523 เจริญหูเจริญตา
บทที่ 523 เจริญหูเจริญตา
“คุณปู่…”
ถังหวยรุ่ยรีบตะโกนแล้วก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว “คุณปู่คะ คุณปู่คิดทำอะไร”
เมื่อถังอวี้สือเห็นว่าแม่ของเธอมาถึงแล้ว เธอรีบเดินไปหาก่อนจะพูดว่า “แม่คะ คุณตาทวดส่งคนมาจับตัวเจ๋อหลิ่ว และบอกให้เธอขอโทษถังซวงค่ะ”
ถังหวยรุ่ยเองก็รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเหลือบมองลูกสาวก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “แม่รู้แล้ว รอก่อนเถอะ” พรสวรรค์ของเธอนับว่าครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่ลูกสาวมีความสามารถมาก เพราะฉะนั้นเธอจึงให้ความสำคัญกับหล่อนและไม่ให้ใครมารังแกเด็ดขาด
เมื่อไตร่ตรองแล้ว ถังหวยรุ่ยหันมองผู้เฒ่าถังก่อนจะพูดว่า “คุณปู่คะ เด็กเจ๋อหลิ่วนี่คงจะวู่วามไปสักหน่อย นั่นเป็นเพราะความขัดแย้งระหว่างอวี้สือและถังซวงก่อนหน้า ทำให้เธอสับสนไปบ้าง และตอนนี้เธอก็ถูกสั่งสอนแล้ว เห็นแก่ใบหน้าของอวี้สือด้วยการปล่อยเจ๋อหลิ่วไปเถอะค่ะ”
เมื่อผู้เฒ่าถังได้ยินแล้ว เขาเหลือบมองถังอวี้สือ
ถังอวี้สือรีบพูดอย่างรวดเร็ว “คุณตาทวด เจ๋อหลิ่วทราบความผิดแล้ว ปล่อยเธอไปเถอะค่ะ เธอจะไม่ทำแบบนี้อีกแน่นอน”
ความจริงแล้ว ที่ถังอวี้สือได้ใช้สกุลถัง เพราะเธอมีถังคุนเฉินเป็นคุณตา จึงต้องเรียกผู้เฒ่าถังว่าคุณตาทวด
ผู้เฒ่าถังเห็นถังอวี้สือยอมเอ่ยปากขอร้องแล้ว เขาหันมองถังซวงแล้วถามขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ เห็นควรว่ายังไง?”
ถังซวงเลิกคิ้วทันทีที่ได้ยิน
เธอเข้าใจความหมายของผู้เฒ่าถังแล้ว อีกฝ่ายรู้สึกว่าเหวินเจ๋อหลิ่วได้รับโทษพอสมควร เขาจึงอยากจะปล่อยหล่อนไป แต่กลับกลายเป็นเธอที่ยังรู้สึกว่าไม่พอ
“คุณตาทวดคะ ตอนนี้เหวินเจ๋อหลิ่วยังไม่ได้ขอโทษฉันเลย ตราบใดที่เธอกล่าวขอโทษฉันอย่างจริงใจ ทุกอย่างก็จะจบค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้เฒ่าถังอดไม่ได้ที่จะพยักหน้ารับ เขารู้สึกว่าถังซวงเองค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่พอสมควร เวลานี้เขามองเหวินเจ๋อหลิ่วก่อนจะพูดว่า “ได้ยินที่ถังซวงพูดหรือยัง? ขอโทษเธอซะ เรื่องจะได้จบสักที”
แน่นอนว่าเหวินเจ๋อหลิ่วได้ยิน แต่เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของถังซวงแล้ว เธอยังไม่สามารถเอ่ยปากออกไปได้
“เจ๋อหลิ่ว ทำไมยังมัวยืนเฉยอยู่? ก็แค่พูดขอโทษแล้วจะได้กลับบ้านกัน”
ถังหวยรุ่ยเห็นเหวินเจ๋อหลิ่วยืนนิ่ง เธอเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทั้งที่ชายชรายอมหยุดแล้ว แต่เหวินเจ๋อหลิ่วกลับทำตัวดื้อด้าน
ถังอวี้สือหันมองเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “เจ๋อหลิ่ว รีบขอโทษเร็วเข้า เธอได้รับบาดเจ็บและมันจะรักษายากขึ้น เราต้องรีบกลับไปรักษาเธอ”
ได้ยินถังอวี้สือพูดอย่างนั้น เหวินเจ๋อหลิ่วขบกรามแน่นก่อนจะหันมองถังซวง “ฉันขอโทษ”
“ดังกว่านี้ ใครจะไปได้ยิน”
ถังซวงเหลือบมองเหวินเจ๋อหลิ่วก่อนจะยั่วโมโห
“เธอ…”
เหวินเจ๋อหลิ่วไม่คิดมาก่อนว่าถังซวงจะพูดอย่างนั้น แต่ทุกคนรอบตัวกำลังรอเธออยู่ และถังอวี้สือบอกให้เธออดทน
สุดท้ายเหวินเจ๋อหลิ่วทำได้เพียงกลืนความขุ่นเคืองลงไปแล้วกล่าวเสียงดังขึ้น “ฉันขอโทษ…”
“อืม ฉันได้ยินแล้ว”
ถังซวงเหลือบมองเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยรอยยิ้ม และสีหน้าของเธอค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเย็นชา “อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นมันจะไม่จบง่าย ๆ แบบนี้แน่”
เหวินเจ๋อหลิ่วถลึงตาใส่ถังซวง แต่ไม่กล้าพูดโต้ตอบอะไร ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เธอพยายามอดกลั้นเอาไว้ก่อนหน้าจะไร้ประโยชน์ทั้งหมด
ทันทีที่ผู้เฒ่าถังเห็นว่าเหวินเจ๋อหลิ่วยอมกล่าวขอโทษ เขาจึงหันไปพูดกับถังอวี้สือว่า “เอาละอวี้สือ พาเหวินเจ๋อหลิ่วกลับไปซะ แล้วอย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
“ค่ะคุณตาทวด”
ถังอวี้สืออดไม่ได้ที่จะหดหู่ในใจ
เหวินเจ๋อหลิ่วคือคนของเธอ แต่ต้องมากล่าวขอโทษถังซวง ซึ่งไม่ต่างอะไรจากเธอยอมจำนนต่อถังซวง เธอจึงไม่ค่อยสบายใจ แต่ทั้งหมดนี้คือความผิดของเหวินเจ๋อหลิ่ว มันคงจะดีถ้าสามารถเอาชนะถังซวงได้ แม้จะต้องขอโทษ แต่ถ้าได้เย้ยหยันอย่างเต็มที่ก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ตอนนี้เหวินเจ๋อหลิ่วทั้งแพ้ และยังต้องยอมขอโทษถังซวงอีก นี่นับว่าเป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่
ก่อนถังหวยรุ่ยจะทันได้พูดอะไรต่อ เธอหันมาหาลูกสาวให้พาเหวินเจ๋อหลิ่วออกไป
หลังจากถังอวี้สือและคนอื่น ๆ จากไปหมดแล้ว ถังซวงหันมองผู้เฒ่าถังก่อนจะพูดต่อว่า “คุณตาทวดคะ อย่างนั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ ยังไงเรื่องก็จบลงแล้ว”
“อื้ม เดี๋ยวให้อาหาวพาพวกเธอไปดูสถานที่ต่าง ๆ ในตระกูลถัง แล้วหลังจากผู้เฒ่าตระกูลเลือกฤกษ์ได้แล้ว พวกเราจะเปิดโถงบรรพบุรุษ และลงชื่อลำดับของตระกูลเรา”
เมื่อถังคุนหาวได้ยิน เขาพยักหน้ารับ “ครับคุณพ่อ” หลังจากนั้นเขาพาถังซวงและคนอื่น ๆ กลับออกมา แต่เมื่อนึกถึงที่ผู้เฒ่าถังพูดกล่าวเมื่อครู่ เขาจึงตัดสินใจพาเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ ไปเดินชมสถานที่
“อาหลาน ยังไงเดี๋ยวพ่อจะพาเดินดูบริเวณรอบ ๆ บ้านของพวกเราก่อน ยังไงซะที่นี่เป็นสถานที่ที่ตระกูลถังอยู่รวมกัน มันค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยสำหรับทำความคุ้นเคย”
ได้ยินแล้ว เฮ่อหลานไม่ปฏิเสธ
เมื่อหัวเฟยเฟิ่งเห็นลูกสาวตอบรับ เธอเองก็ไม่ขัดแย้งอะไร
ถังซวงและทุกคนเดินเยี่ยมชมสถานที่ในตระกูลถัง ซึ่งระหว่างนั้นเรื่องถังซวงกับเหวินเจ๋อหลิ่วก็แพร่กระจายไปทั่วตระกูลถังแล้ว
ทันทีที่ฝั่งผู้เฒ่าตระกูลได้ข่าวนี้ เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ลูกสาวของคุนหาวที่เหมือนจะมีบุคลิกที่อ่อนโยนและบอบบาง ไม่คิดเลยว่าเธอจะรับมือได้ยาก ในอนาคตตระกูลของพวกเราคงจะมีสีสันขึ้นบ้าง”
คนที่มาบอกข่าวนี้ให้กับเขาคือถังคุนอวี้ ลูกชายของผู้เฒ่าตระกูล เขาพยักหน้ารับก่อนจะพูดต่อว่า “ครับ หลานสาวคนโตของคุนหาวไม่ธรรมดาจริง ๆ แต่สำหรับหลานสาวคนเล็กค่อนข้างเรียบร้อย เธอน่าจะเหมือนกับแม่ของเธอ แต่ว่า… ลูกเขยของคุนหาว กับว่าที่หลานเขยสองคนของเขาน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาด้วย ตระกูลของพวกเขาน่าจะยิ่งใหญ่ไม่น้อย”
ผู้เฒ่าตระกูลหัวเราะออกมา “เดิมทีฉันคิดว่าลูกสาวของคุนหาวคงจะดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เติบโตในโลกภายนอก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น อย่างน้อยเธอก็ได้พบสามีที่ดีกว่าถังหวยรุ่ย จิงเจ้อหรงเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลจิงที่อำนาจกว้างขวางในเมืองหลวง ไม่ได้ต่ำต้อยเลย”
ผู้เฒ่าตระกูลมองลูกชายของตนก่อนจะเอ่ยปากต่อว่า “ส่งคนไปบอกพวกผู้นำตระกูล บอกพวกเขาว่าอีกห้าวันคือฤกษ์ที่ดี เราจะเปิดห้องโถงบรรพบุรุษกัน”
ถังคุนอวี้เหลือบมองผู้เฒ่าตระกูลด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “คุณพ่อครับ พ่อคิดว่าครอบครัวใหญ่จะยอดเยี่ยมกว่าหรือเปล่า?”
“ฉันไม่มีสิทธิ์ชอบหรือไม่ชอบใครหรอก แต่ยังไงฉันคิดว่าบ้านของคุนหาวดูเจริญหูเจริญตากว่ามาก ส่วนบ้านหลังไหนจะได้สืบทอดตระกูลถัง สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องของตาเฒ่าถังหยวนซ่งคนนั้น”
ได้ยินพ่อของตัวเองเรียกผู้เฒ่าถังว่าตาเฒ่า ถังคุนอวี้ก็ยกยิ้มออกมาแล้วส่ายศีรษะเบา ๆ
“คุณพ่อยังตรงไปตรงมาเหมือนเดิมนะครับ” พูดจบแล้ว ถังคุนอวี้ยืนขึ้นก่อนจะลุกไปแจ้งให้ผู้เฒ่าตระกูลคนอื่น ๆ ทราบด้วย
ผู้เฒ่าตระกูลรองได้รับข่าวแล้ว เขาถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“ไม่คิดเลยว่าพี่ใหญ่จะเลือกฤกษ์รวดเร็วอย่างนี้ อีกอย่างเขาไม่คิดจะคุยเรื่องนี้กับเราด้วยซ้ำ”
เมื่อคนมาส่งข่าวได้ยิน เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร
แต่เห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่าตระกูลรองไม่ต้องการให้ใครตอบคำถามของเขา เวลานี้เขาโบกมือไล่ผู้ส่งสาร “อื้ม ฉันเข้าใจแล้ว”