ตอนที่ 424 อยากเจอม้าของอีกฝ่าย
นับถอยหลังสองวันก่อนเปิดเทอม
หลังกินอาหารเช้าเสร็จเหลียงจีกับเชฟพี่หยางก็ย้ายที่อยู่
มู่เถาเยากับพ่อแม่ มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน ซย่าโหวโซ่วกับภรรยา ปู่ทวดถัง เดินทางไปบ้านตระกูลเซี่ยพร้อมคนตระกูลตี้เพื่อเยี่ยมตี้อู๋เสียที่อีกเดือนกว่าก็จะคลอดลูก
หลังจากหยวนเหยี่ยกลับจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์พร้อมกับคุณนายอวิ๋นเหอ วันรุ่งขึ้นก็ย้ายเข้าบ้านตระกูลเซี่ยยกเว้นวันแรกที่นอนวังตระกูลตี้
นับตั้งแต่รู้ว่าตี้อู๋เสียตั้งครรภ์ ทุกคนในตระกูลเซี่ยก็ประคบประหงมเธอดุจไข่มุก แม้แต่คุณชายสามยังต้องทั้งร้องไห้ทั้งขู่ว่าจะฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้ภรรยาไปทำงานที่บริษัทด้วย
ตระกูลเซี่ยเป็นตระกูลใหญ่ ทว่าแต่ละรุ่นจะมีลูกผู้หญิงแค่คนเดียว แต่ลูกชายกลับเต็มบ้าน
แม้แต่คุณชายใหญ่ตระกูลเซี่ยก็ยังมีลูกชายสองคน คุณชายรองมีลูกชายหนึ่งคน มีเขาที่ลูกคนแรกก็ได้ลูกสาว เขาจึงอวดพวกพี่ชายทุกวัน
พี่ชายทั้งสองแทบอยากจับเขาใส่กระสอบไปอัดให้น่วม
ตี้อู๋เสียเห็นมู่เถาเยาเอาแต่มองเธอจึงถามด้วยความเขินอาย “เสี่ยวเยาเยา พี่อ้วนขึ้นเยอะเลยใช่ไหม…”
ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รักสวยรักงาม คนท้องก็เหมือนกัน
“ขอแค่เด็กปลอดภัยดี คุณแม่อ้วนหน่อยก็ไม่เป็นไรค่ะ หลังคลอดลูกขยันออกกำลังกายไม่กี่เดือนก็กลับมาผอมได้ค่ะ” มีอาจารย์ใหญ่อยู่เธอก็ไม่ต้องกลัวว่าตี้อู๋เสียจะท้องใหญ่เกินไป
คนตระกูลตี้โครงใหญ่เป็นทุนเดิม แค่น้ำหนักขึ้นนิดหน่อยก็ดูอ้วน
แต่คนตระกูลตี้เอาใจใส่เรื่องออกกำลังกาย ปกติไม่มีทางอ้วน ก็แค่จะดูรูปร่างใหญ่แข็งแรง
รูปร่างแบบคนทางเหนือแท้ๆ
ตี้อู๋เปียนก็เหมือนกัน
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะผอมเพราะปัญหาสุขภาพ แต่หลังจากออกกำลังกายมาเกือบปี ไม่เพียงแต่เขาจะมีกล้าม ยังสูงขึ้นสามเซนติเมตรด้วย!
เดิมทีสูงร้อยแปดสิบ ตอนนี้หนึ่งร้อยแปดสิบสาม และอาจยังสูงได้อีก
แต่ตอนนี้เธอก็สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าแล้ว เธอจึงไม่อิจฉาเขาเลยสักนิด
หึ!
ตี้อู๋เสียพยักหน้าแล้วถามต่อ “เสี่ยวเยาเยา พี่อยากคลอดเอง มันจะเจ็บมากไหม”
“การคลอดธรรมชาติส่วนใหญ่จะเจ็บมากค่ะ แต่มีคนส่วนน้อยที่ร่างกายมีความจำเพาะ คลอดได้เร็วและไม่เจ็บมาก คุณแม่บางคนถึงกับบอกว่าเหมือนไปเข้าห้องน้ำ คลอดเสร็จก็ลุกเดินได้เลย ไม่นานก็กลับบ้านได้ เหมือนไม่ส่งผลกระทบอะไรเลยค่ะ”
หยวนเหยี่ยยิ้มพูด “ตามธรรมเนียมบ้านเราคลอดเสร็จต้องอยู่ไฟ แต่เมืองนอกไม่มีแบบนี้ มันก็เกี่ยวกับสภาพร่างกายและการใช้ชีวิตของพวกเขา…ดังนั้นจะเจ็บไม่เจ็บ เจ็บระดับไหน ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย”
ตี้อู๋เสียสบายใจแล้ว เธอลูบท้องพลางพูด “เซี่ยอวี่ฮว่าเป็นเด็กผู้หญิง อยู่ในท้องก็ไม่ค่อยกวนแม่ น่าจะคลอดง่าย”
มู่เถาเยายิ้ม ไม่พูดอะไรอีก
เจ็บหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแม่ ไม่เกี่ยวกับลูก
บางคนเจ็บมาก ตอนคลอดลูกดิ้นทุรนทุรายปางตาย
ตี้อู๋เสียเองก็รู้ แค่อยากปลอบใจตัวเอง
คุณนายผู้เฒ่าตระกูลเซี่ยยิ้มพูด “อวี่ฮว่าจะต้องเป็นเด็กเรียบร้อยแน่นอน”
จินเหยี่ยน้อยได้ยินก็ชี้ตัวเอง “จินเหยี่ย เรียบร้อย เด็ก”
อุ๊บ…
ทุกคนพากันหัวเราะ
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพลางลูบศีรษะหลานสาว จินเหยี่ยเป็นเด็กจริงๆ แต่ไม่เรียบร้อยเลยสักนิดเดียว ซนเหลือเกิน”
“เรียบร้อย เรียบร้อย…” เด็กน้อยจับมือย่าส่ายไปมา
เธอไม่รู้หรอกว่าเรียบร้อยคืออะไร ก็แค่เลียนแบบคำพูด
“จ้ะๆๆ จินเหยี่ยเรียบร้อยมาก”
ทุกคนหัวเราะใหญ่
เซี่ยซิงเหยียนสามีของตี้อู๋เสียอุ้มจินเหยี่ยขึ้นมาหอมหลายที เอ็นดูเหลือเกิน
จินเหยี่ยน้อยหัวเราะคิกคัก “อาเขย เรียบร้อย”
“จินเหยี่ยของพวกเราเป็นเด็กไม่เรียบร้อยแต่น่ารักที่สุดเลย”
“น่ารัก เด็ก”
“ใช่แล้ว เด็กที่น่ารักที่สุดก็คือจินเหยี่ย!”
มู่เถาเยามองเด็กน้อยที่น่ารักน่าเอ็นดู เธอชักคิดถึงเยี่ยนหังกับอู๋ซวงขึ้นมาแล้ว
เยี่ยนหังมีความทรงจำ นิสัยเป็นที่แน่นอน แต่อู๋ซวงยังบ่มเพาะได้
เธอหวังว่าน้องสาวคนเล็กจะเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส ไม่ต้องเรียบร้อยจนเกินไป
เมื่อชาติก่อนเธอกับเยี่ยนหังต้องเก็บซ่อนอารมณ์
ชาตินี้ถึงแม้จะมีความสุข แต่ก็ได้นิสัยจากชาติที่แล้วมา เปลี่ยนยาก เธอจึงอยากให้อู๋ซวงเหมือนเย่ว์หยาเอ๋อร์ จิตใจดี ใสซื่อ ร่าเริง น่ารัก และฉลาดหลักแหลม
เซี่ยซิงเหยียนอุ้มเด็กน้อยไปหาลูกชายสามคนของพี่ใหญ่พี่รองของเขารวมถึงเจ้าถุงลมน้อย จะได้เล่นด้วยกัน
จากนั้นเขาก็กลับไปนั่งข้างตี้อู๋เสีย พูดคุยสัพเพเหระกับทุกคน
ไม่นานพ่อบ้านก็มารายงานว่าอาหญิงพาครอบครัวกลับมาแล้ว
ผู้เฒ่ากับคุณนายผู้เฒ่าตระกูลเซี่ยดีใจมาก
เซี่ยซืออวิ้นเป็นลูกสาวของพวกเขา มีหลานสาวให้พวกเขาแล้ว
รุ่นหลานมีหลานสาวสายนอกแค่คนเดียว
พอครอบครัวนี้เข้ามาเห็นคนตระกูลตี้กับพวกมู่เถาเยาก็รู้สึกเหนือความคาดหมาย
โค้ชเถียนจับเย่ว์หลั่งมาพูดชม “ลูกสาวพวกคุณสุดยอดมากเลยนะครับ ขี่ม้าได้…” บลาๆๆ ควบคุมไม่อยู่แล้ว!
เถียนซิน “…” รู้สึกเหมือนพ่อตัวเองจะกลายเป็นพ่อคนอื่นแล้ว
เฮ้อ เธอไปเล่นกับเสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน เสี่ยวเหยาดีกว่า
เซี่ยซืออวิ้นก็จนปัญญา
สามีเธอพอพูดถึงเรื่องขี่ม้าก็รู้สึกใกล้ชิดกว่าลูกเมียเสียอีก!
หันไปมองหลานสะใภ้ที่ท้องโต “อู๋เสีย รู้สึกเป็นไงบ้าง”
“สบายดีค่ะอาเล็ก อวี่ฮว่าเรียบร้อย ไม่ดื้อเลยสักนิดค่ะ”
“อืม ทำใจให้สบายนะ ไม่ต้องเครียด”
“ค่ะ”
ย่าตี้ยิ้มถาม “ทำไมซืออวิ้นว่างกลับมาล่ะ”
เซี่ยซืออวิ้นตอบ “เสี่ยวซินใกล้เปิดเทอมแล้วเลยพากลับมาเยี่ยมคุณตาคุณยายหน่อยค่ะ แถมเถียนจวิ้นยังบอกว่านัดเสี่ยวเยาเยาไว้ที่หอน้ำชาแถวนี้ ก็เลยมาด้วยกันค่ะ”
ย่าตี้พยักหน้า ยิ้มกว้างพลางพูด “เสี่ยวเยาเยามาเรียนที่เมืองหลวงแล้ว วันหน้าก็มาเจอกันบ่อยๆ ได้”
เซี่ยซืออวิ้นตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “เถียนจวิ้นพูดถึงทุกวันเลยค่ะ ในที่สุดก็ได้เจอเสี่ยวเยาเยา”
คุณนายผู้เฒ่าเซี่ยหลุดหัวเราะ “เถียนจวิ้นคลั่งไคล้ขี่ม้า ขอแค่ได้รู้จักคนที่ขี่ม้าเป็นก็จะดีใจไปนาน”
“นั่นน่ะสิคะ จนถึงตอนนี้เขายังรู้สึกขอบคุณอธิการบดีเจียงอยู่เลย บอกว่าถ้าไม่ได้อธิการบดีเจียงก็คงพลาดแชมป์โลก” แท้จริงแล้วเขาอยากเจอม้าของอีกฝ่ายมากกว่า!
หยวนเหยี่ยยิ้มพูด “อันที่จริงเจียงเฉาก็แอบนึกเสียใจ เขารู้สึกว่าเสี่ยวเยาเยาควรเอาเวลาไปทุ่มเทด้านการแพทย์มากกว่า”
“อย่าพูดแบบนั้นสิคะหมอเทวดาหยวน เดี๋ยวเถียนจวิ้นได้ยินเข้าจะร้องไห้” กลัวเป็ดที่ต้มสุกแล้วจะบินหนีไป!
ทุกคนหันไปมองเถียนจวิ้นที่ยังคง ‘ชมไม่ขาดปาก’ ให้เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีฟัง ต่างทำสีหน้าไม่ถูก
มู่เถาเยา “…”
ตอนนี้ไม่ใช่แค่คนในครอบครัวอวยเธอ ลามไปถึงคนนอกแล้ว!
เซี่ยซืออวิ้นเห็นสีหน้าของมู่เถาเยาก็อดขำไม่ได้ “เสี่ยวเยาเยา ในฐานะที่หนูเป็นศูนย์กลาง รู้สึกยังไงบ้างจ๊ะ”
“…หนูพูดได้ไหมว่า หนูเกือบเชื่อแล้วว่าตัวเองเก่งถึงขั้นเหาะขึ้นสวรรค์ได้ โค้ชเถียนพูดราวกับว่าหนูไม่ใช่คน…”
“หนูกับเสี่ยวเหยี่ยพิเศษมากในใจเขา จริงสิ พวกเสี่ยวเหยี่ยมาด้วยกันหรือเปล่าจ๊ะ”
“เปล่าค่ะ อาหยวนที่ดูแลเสี่ยวเหยี่ยมีธุระทางบ้านเลยขอลาหยุด เสี่ยวเหยี่ยไม่ให้คนอื่นแตะ สัปดาห์หน้าหนูเลยจะกลับไปพาพวกมันมาค่ะ”
“น้ามั่นใจเลยว่าเถียนจวิ้นต้องไม่กลับบ้านบ่อยๆ แน่ สงสัยต้องเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ…” เซี่ยซืออวิ้นแสร้งทำเป็นถอนหายใจเสียใจ
ทุกคนพากันหัวเราะ