อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 475 สติปัญญากลับมาแล้ว

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 475 สติปัญญากลับมาแล้ว

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนออกไปด้วยกัน ไปประลองวิทยายุทธที่สนามกีฬาของโรงเรียน

พวกซย่าโหวโซ่วมุงดู

ถังหยวนยิ้มแย้มพูดกับย่าอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ “ฝีมือของอู๋เปียนก้าวหน้าไปไวจริงๆ อีกไม่นานคงนำอาโซ่วแน่ๆ”

ซย่าโหวโซ่วได้ฟังก็ไม่โกรธ

คลื่นลูกใหม่ย่อมเก่งกว่าคลื่นลูกเก่า คนใหม่แทนที่คนเก่า นี่คือกระแส

คนแต่ละรุ่นเก่งขึ้นเรื่อยๆ สังคมถึงจะมีความก้าวหน้า

ซย่าโหวโซ่วไม่แคร์ แต่พวกลูกศิษย์ของสำนักซย่าโหวกลับปวดใจเหลือเกิน

พวกเขาฝึกวิทยายุทธมาหลายสิบปี แต่นี่อีกฝ่ายฝึกมาแค่ปีกว่าก็ตามทันแล้ว!

มันช่าง…เทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ !

มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนสู้กันหนึ่งชั่วโมงก็หยุด

ออกกำลังแบบหนักหน่วงวันละชั่วโมงก็พอแล้ว

“พี่สาม พวกเราค่อยๆ เดินไปบ้านตระกูลเย่ว์ กลับมาค่อยอาบน้ำ” อย่างไรเสียกลับไปตอนนี้ก็อาบน้ำทันทีไม่ได้

ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “อืม”

ทุกคนก็เป็นห่วงเหมียวอวี้ แน่นอนว่าย่อมตามไปด้วย

ระยะทางจะว่าไกลก็ไม่ไกล ใกล้ก็ไม่ใกล้ เดินจากโรงเรียนไปประมาณสิบห้านาทีก็ถึง

ภายในบ้านตระกูลเย่ว์มีย่าลู่กับตาเหมียวยายเหมียว รวมถึงปู่ย่าของเยี่ยจั๋วที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ส่วนเหมียวอวี้ยังไม่ตื่น ลู่หันซูคอยเฝ้าอยู่ในห้อง

เยี่ยนหังน้อย อู๋ซวงน้อย เยี่ยจั๋วน้อย พอเห็นมู่เถาเยาก็รีบกระโจนเข้าหา

มู่เถาเยารีบยื่นมือออกไปหยุดเด็กทั้งสามไว้ “พี่สาวเพิ่งเหงื่อท่วมตัว เหม็นมาก เราสามคนอย่าเพิ่งเข้ามาเลยนะจ๊ะ”

“พี่สาวไม่เหม็น” เยี่ยนหังไม่รังเกียจพี่สาวตัวเองเลยสักนิด

อู๋ซวงพูดต่อทันที “พี่สาวหอมๆ”

เยี่ยจั๋วตะโกน “ใช่!”

ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

ตี้อู๋เปียนอุ้มอู๋ซวงขึ้นมา เอาหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อแตะหน้าผากน้อยๆ ของน้องสาว “อู๋ซวงลองดมดูสิ พี่สามหอมไหม”

อู๋ซวงน้อยพยายามแหงนหน้าออกห่าง เอามือบีบจมูก “พี่สามเหม็น พี่สามไม่หอม อู๋ซวงไม่ให้พี่สามอุ้มๆ”

“ฮ่าๆ พี่สาวก็เหงื่อออกทำไมถึงหอมๆ ล่ะ แต่พอมาถึงพี่สามกลายเป็นเหม็นๆ”

แน่นอนว่าอู๋ซวงน้อยไม่เข้าใจว่าทำไม รู้สึกแค่ว่าพี่สาวหอมๆ พี่ชายเหม็นๆ

ย่าอวิ๋นอุ้มหลานสาวมาจากหลานชายด้วยความรู้สึกขำ “เอาล่ะ ในเมื่อเหมียวอวี้ยังไม่ตื่น งั้นพวกเรากลับไปอาบน้ำก่อนค่อยมาใหม่ ยังไงตอนนี้อาหารเช้าก็ยังไม่เสร็จ ทุกคนเพิ่งออกกำลังกายมาก็ไม่เหมาะที่จะกินอาหารเช้าด้วย”

ลู่จือฉินพยักหน้า “เสี่ยวเยาเยา เมื่อกี้อาจารย์ตรวจชีพจรให้เหมียวอวี้ คงยังไม่ตื่นเร็วๆ นี้ พวกเธอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน กินอาหารเช้าเย็นชืดก็ไม่เป็นไรหรอก”

“ค่ะ งั้นพวกเรากลับไปอาบน้ำให้สะอาดก่อนค่อยมานะคะ”

“อืม”

ทุกคนพากันเดินจากที่นี่ไปยี่สิบห้านาทีจนกลับถึงบ้านครอบครัวหยวน จากที่เมื่อกี้ออกกำลังกายหนักมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่สิบกว่านาทีแล้ว อาบน้ำได้แล้ว

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปบ้านตระกูลเย่ว์ในสภาพสดชื่น

เวลานี้บรรดาคนที่ทำอาหารเช้ามาอยู่ในห้องรับแขกแล้ว

สามเด็กน้อยที่กินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วติดหนึบมู่เถาเยา

ย่าอวิ๋นยิ้มตาหยีพูดกับย่าเย่ว์ “ทั้งๆ ที่เด็กๆ พวกนี้ไม่ค่อยได้อยู่กับเสี่ยวเยาเยา แต่กลับชอบเสี่ยวเยาเยามากขนาดนี้”

ย่าเย่ว์ยิ้มพลางพยักหน้า “นั่นสิ”

หยวนเหยี่ยพูดด้วยความภูมิใจ “เสี่ยวเยาเยาเป็นที่รักใคร่ของทุกคนมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะผู้ชายผู้หญิงเด็กหรือคนแก่”

ซย่าโหวโซ่ว “ใช่แล้ว เสี่ยวเยาเยาเป็นที่รักของทุกคน!”

พอเห็นสองผู้สูงวัยจะเริ่มอวยเยาขึ้นมาอีกแล้ว มู่เถาเยาจึงรีบพูดขึ้น “อาจารย์รองคะ จั๋วจั๋ว เยี่ยนหัง แล้วก็อู๋ซวงเริ่มหัดเรียนได้แล้ว ตอนนั้นหนูก็เริ่มฝึกยุทธ์ตั้งแต่หนึ่งขวบ อาจารย์มีใครที่เหมาะสมมาสอนไหมคะ”

“ยังจะไปหาใครอีก อาจารย์จะสอนให้เอง!”

“อาจารย์รอง…”

ซย่าโหวโซ่วรีบสวนกลับโดยไม่รอให้ลูกศิษย์คนเล็กคัดค้าน “เสี่ยวเยาเยา อาจารย์รองยังแข็งแรงอยู่นะ! ไหนว่าจะให้พวกเราอยู่ไปถึงอายุร้อยสองร้อยปีเลยไง ตอนนี้อาจารย์รองเพิ่งครึ่งทางเอง ก็เท่ากับอยู่ในวัยฉกรรจ์ไม่ใช่เหรอ”

“แต่ว่า…”

ถังหยวนยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ ศิษย์หลานของหนูซูอวี่กับจื่อหนิงจะมาส่งมู่เหยากับข่ายเกอ เตรียมเอาพวกเขามาเรียนหนังสือที่นี่ ก็พอดีจะได้สอนไปด้วยกัน”

ตี้อู๋เปียน “คุณปู่คุณย่าของผมก็บอกจะพาเสี่ยวจินมาด้วยครับ”

หยวนเหยี่ยพยักหน้า “ฉันก็จะสอนวิชาการแพทย์ให้พวกเขาด้วย ก็เหมือนตอนนั้นที่พวกเราสอนเสี่ยวเยาเยา”

“แต่เยี่ยนหังกับอู๋ซวงต้องกลับเผ่าบ่อยๆ จะให้เรียนๆ หยุดๆ ไม่ได้หรือเปล่าคะ”

ซย่าโหวโซ่ว “แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน เดี๋ยวพวกเราพาเด็กๆ ไปด้วยกันเลย!”

“อาจารย์ใหญ่ อาจารย์รอง…”

ตี้อู๋เปียนดึงแขนเสื้อมู่เถาเยา “ซาลาเปาน้อย ให้ปู่หยวนกับปู่ซย่าโหวสอนพวกน้องๆ ไปเถอะ”

มู่เถาเยาก็รู้ว่ามีอะไรทำคนแก่จะได้รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ แต่ความคิดของเธอคืออยากให้บรรดาผู้สูงวัยไปท่องเที่ยว ชมความงดงามของแต่ละสถานที่ในโลก กินของอร่อยทั่วโลก…

แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสองคนนี้ต่างมองเธออย่างมีความหวัง เลยจำต้องรับปาก

เวลานี้ลู่หันซูกับเหมียวอวี้ลงมาจากชั้นบน

ทุกคนต่างหันไปมองเหมียวอวี้

ยังคงเป็นเหมียวอวี้คนเดิม แต่บุคลิกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง

สีหน้าใสซื่อแบบเด็กน้อยไม่มีอีกต่อไปแล้ว

ดวงตาคู่งามของเหมียวอวี้มองใบหน้าทุกคน สุดท้ายไปหยุดที่มู่เถาเยา เธอมองอยู่นาน

มู่เถาเยา “น้าเหมียวยังจำเรื่องสมัยก่อนได้ไหมคะ”

เหมียวอวี้ส่ายหน้าแล้วมองมู่เถาเยาอีกสักพัก จากนั้นก็เดินไปหาตาเป่ยกับยายเป่ยด้วยความสงสัย “สองท่านนี้คือ?”

สองผู้อาวุโสน้ำตาคลอเบ้าทันที

ยายหลานเข้าไปกอดเหมียวอวี้ “เสี่ยวอวี้ ในที่สุดก็หายสักที!”

ย่าลู่กับตาเหมียวยายเหมียวขอบตาแดงก่ำ มองเหมียวอวี้อย่างเกร็งๆ

ลู่หันซูน้ำตาคลออธิบายกับทุกคน “สติปัญญาของแม่กลับมาแล้วค่ะ แต่ไม่มีความทรงจำ แม่…ก็ไม่รู้ว่าหนูเป็นใคร…”

ทุกคนเตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว

ครอบครัวลู่กับครอบครัวเหมียวก็ไม่ได้เสียใจ

ไม่มีความทรงจำไม่เป็นไร รู้จักกันใหม่ก็ได้

ยายหลานหลบออก แต่ยังคงโอบเหมียวอวี้ไว้ “เสี่ยวอวี้ จำไม่ได้แล้วเหรอว่าพวกเราเป็นใคร”

“จำได้แค่ว่าคุ้นหน้าสองท่านนี้ เป็นคนในครอบครัวฉันเหรอคะ แล้วก็เด็กสาวคนนั้นด้วย เธอเป็นใครเหรอ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับฉัน แต่ฉันลืมไปแล้ว สมองฉันเคยกระทบกระเทือนหรือเปล่าคะ” เหมียวอวี้มองมู่เถาเยา ดวงตากลมโตคู่งามเต็มไปด้วยความสงสัย

ลู่หันซูเดินเข้าไปแนะนำให้รู้จัก “แม่คะ นี่ศิษย์พี่ของหนู เจ้าหญิงน้อยที่แม่ชอบพูดถึง สองท่านนี้เป็นคุณตาคุณยายของศิษย์พี่ค่ะ เป็นเหมือนพ่อแม่อีกคนของแม่ค่ะ”

“เจ้าหญิงน้อยเหรอ พ่อแม่อีกคน ฉันเป็นใคร แล้วผู้อาวุโสท่านนี้เป็นใคร” เหมียวอวี้มองย่าลู่

“แม่คะ นี่ย่าของหนู แม่สามีของแม่ค่ะ แม่ลืมทุกคนเพราะแม่ถูกพิษเมื่อยี่สิบปีก่อน ย่าดูแลแม่เหมือนลูกสาวมายี่สิบปี แล้วก็สองท่านนี้เป็นคุณตาคุณยายของหนู พ่อแม่แท้ๆ ของแม่ค่ะ”

ลู่หันซูดันตัวผู้อาวุโสทั้งสามไปตรงหน้าเหมียวอวี้

พวกเขาไม่มีทางอิจฉามู่เถาเยา สองผู้อาวุโสตระกูลเป่ย และย่าลู่ที่มีพื้นที่ในใจลูกสาวของพวกเขามากกว่า พวกเขากลัวแค่ว่าลูกสาวจะไม่ยอมรับ

มู่เถาเยายิ้มพูด “น้าเหมียวคะ พวกเราเป็นญาติของน้าเหมียวค่ะ ตอนนี้ไปกินอาหารเช้ากันก่อน กินเสร็จค่อยมานั่งคุยกันนะคะ”

เหมียวอวี้มองคนแก่กับเด็กๆ ในบ้านแล้วพูด “ได้ค่ะ พวกเรากินข้าวเช้ากันก่อน”

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท