อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 483 ที่อยู่อาศัยของเหล่าเทพ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 483 ที่อยู่อาศัยของเหล่าเทพ

หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จพวกมู่เถาเยาก็ใช้กล้องส่องทางไกลของทหารมองหาเส้นทางที่ดูแล้วน่าจะง่ายที่สุด ซึ่งก็คือเส้นทางข้างแคมป์

พวกเย่ว์หลั่งไม่ต้องไปไหนก็สามารถมองเห็นทั้งสองคนปีนขึ้นไปได้ เว้นเสียแต่ระหว่างขึ้นไปจะพบเส้นทางอื่นที่ง่ายกว่าถึงจะเปลี่ยนเส้นทาง

มู่เถาเยาวางกล้องส่องทางไกลที่ห้อยคออยู่แล้วพูดขึ้น “พ่อคะ แม่คะ เยี่ยนหัง พวกเราจะขึ้นไปจากทางนี้นะคะ”

เป่ยซีพยักหน้า “อึม ตรวจดูของอีกรอบว่าตกหล่นอะไรหรือเปล่า”

“ค่ะ”

สองพี่น้องตรวจสอบสัมภาระของตัวเอง

เย่ว์หลั่งช่วยเตือน “เชือกปีนเขา กล้องส่องทางไกล ออกซิเจน ไฟฉาย…”

มู่เถาเยา “ครบหมดแล้วค่ะ”

“อากวง ดูแลน้องสาวให้ดี” ดวงตาของเป่ยซีฉายแววเป็นห่วงมากเหลือเกิน

เย่ว์จือกวงพยักหน้า “ได้ครับ”

เย่ว์หลั่ง “ถ้ามีปัญหาอะไรก็รีบลงมา ห้ามเอาตัวไปเสี่ยงอันตราย”

สำหรับคนตระกูลเย่ว์แล้ว ชีวิตของตี้อู๋เปียนย่อมไม่สำคัญเท่าลูกๆ ของตัวเอง

ต่อให้บนนั้นจะมีหญ้าพิษชีวิตอยู่จริง แต่พวกเขาก็ไม่อยากให้ลูกๆ ไปเสี่ยงอันตรายภายใต้สถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตได้

สองพี่น้องพยักหน้าพร้อมกัน

เป่ยซีมองด้วยความเป็นห่วง “ถ้าไม่ไหวพวกเราจะขับเฮลิคอปเตอร์ไปด้านบนแล้วหย่อนเชือกลงไป…”

มู่เถาเยายื่นมือไปกอดเป่ยซี “แม่คะ หนูกับพี่รองขอรับประกันเลยว่าจะลงมาโดยไม่บาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว”

“…จ้ะ”

สองพี่น้องสะพายสัมภาระของตัวเอง สวมถุงมือแล้วเริ่มเดินขึ้น

เขาเทพจันทราไม่มีช่วงที่สภาพอากาศแตกต่างเท่าไร แม้จะเป็นในหน้าร้อนก็มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอด

นอกจากไม่มีสภาพอากาศเลวร้ายแล้ว ภูเขาเทพจันทราก็มีหลายสิ่งที่เหมือนกันกับสุดยอดขุนเขาเทพสูงหกพันกว่าเมตรของประเทศเหยียนหวงที่ไม่เคยมีใครพิชิตมาก่อน

เป็นขุนเขาเทพเหมือนกัน อันตรายเหมือนกัน ไม่เคยมีใครพิชิตยอดเขาเหมือนกัน…

แต่เขาเทพจันทราสูงกว่าสุดยอดขุนเขาเทพของประเทศเหยียนหวงหนึ่งเท่า!

บนเขากับล่างเขามีสภาพอากาศสองแบบ ถ้าลำพังแค่หนาวอย่างเดียวก็ไม่น่ากังวลเท่าไร แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะมีกระแสอากาศหรือเปล่า สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร…

หรืออาจจะมีหิมะถล่ม ยอดน้ำแข็งหักที่อันตรายถึงชีวิตได้…

แต่ในเขาเทพจันทรา คงไม่เกิดภัยพิบัติสองอย่างหลังที่กล่าวมา อย่างไรเสียเขาเทพจันทราก็ไม่เคยเกิดปัญหาในหลายๆ รุ่นเลย

สองพี่น้องจึงไปขอความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ของคนอื่น โดยอิงจากตัวอย่างอัตราการตายหกสิบเปอร์เซ็นต์ของคนที่ปีนเขาในประเทศเหยียนหวง

ไม่ได้กังวลว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ กลัวแค่เรื่องกระแสอากาศจะทำให้พวกเขาต้องหยุด ขึ้นไปถึงยอดเขาไม่ได้

ห้าพันเมตรขึ้นไปมีสันเขาที่แทบจะตั้งตรงสามพันเมตร ถ้ามีกระแสอากาศรุนแรงคนจะถูกพัดปลิวได้ง่าย…

สองพี่น้องเริ่มปีนเรียงกันไป ไม่นานก็ไปถึงห้าพันกว่าเมตร ไปหยุดตรงใกล้ถึงกำแพงหิมะ

เย่ว์จือกวงหันกลับไป “เสี่ยวเยาเยา พวกเราหาที่ค้างคืนก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มปีนสามพันเมตรนั่น”

“ค่ะ”

สองพี่น้องมองบนล่างซ้ายขวา ไม่พบจุดที่เหมาะสำหรับค้างคืนได้ คนหนึ่งหยิบกล้องส่องทางไกลมองไปตรงจุดตั้งแคมป์ อีกคนชี้ไปด้านซ้าย

เมื่อพ่อแม่ที่อยู่ตรงแคมป์เห็นก็เข้าใจความหมายของพวกเขา เดินไปทางด้านซ้าย

ประมาณสิบนาทีต่อมาก็พบที่ราบเรียบประมาณห้าตารางเมตร เว้าเข้าไปด้านใน สะดวกต่อการนั่งลงพักผ่อน

ปลดสัมภาระลงแล้ววางไว้ในสุด

“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ก็แค่อยู่ในท่าเดิมนานๆ มือเท้ามันเลยแข็งเกร็ง พวกเรากินยาฟื้นกำลังก่อนหนึ่งเม็ดแล้วขยับมือเท้าหน่อย ยังไม่ต้องสูดออกซิเจน ฉันยังไม่รู้สึกอะไรค่ะ”

มู่เถาเยาพูดจบก็ถอดถุงมือ เปิดกระเป๋าปีนเขาหยิบกล่องยาใบน้อยออกมา หยิบขวดเซรามิกเล็กๆ ออกมาเทยาฟื้นกำลังแบบเร่งด่วนสองเม็ดแล้วกินกันคนละเม็ด

ครึ่งชั่วโมงต่อมาร่างกายก็กลับคืนสภาพเหมือนตอนยังไม่ขึ้นเขา

มู่เถาเยาหยิบยาบำรุงอีกสองเม็ดมากินแทนข้าวเย็น

พวกเขาอยู่บนเขา ไม่สะดวกทำธุระขับถ่าย ดังนั้นไม่กินอาหารได้ก็จะไม่กิน

“เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้ต้องระวังแล้วนะ”

“ค่ะ พี่รองก็ต้องระวังด้วย”

“อึม ตอนกลางคืนไม่รู้จะมีกระแสอากาศหรือเปล่า ก่อนนอนพวกเราเตรียมตัวให้พร้อม”

ที่นี่ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ไม่จำเป็นต้องมีคนเฝ้ายามกลางคืน แค่ระวังเรื่องกระแสอากาศเป็นพอ

พวกเขาความรู้สึกไว แค่มีลมแรงๆ ก็จะรู้สึกได้ในทันที ไม่จำเป็นต้องมีคนเฝ้ายาม

มู่เถาเยาพยักหน้า “ค่ะ พวกเราเตรียมให้พร้อมแล้วนั่งหลับเอา”

ทั้งสองคนคุยไปนวดมือเท้าของตัวเองไป

จากนั้นก็ใช้กล้องส่องทางไกลสังเกตดูรอบๆ

กล้องส่องทางไกลมีโหมดส่องเวลากลางคืน แม้ตอนนี้ฟ้าจะมืดสนิทแล้วก็ยังคงมองเห็นได้ชัดเจน

มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “มองลงไปจากตรงนี้ กลุ่มภูเขาไฟกับกลุ่มธารน้ำแข็งไม่เหมือนกันเลยค่ะ ให้ความรู้สึกพิศวง เหมือนที่อยู่อาศัยของเหล่าเทพในละครเทพเซียน”

“นั่นสิ เขาเทพจันทราของพวกเราก็คือแดนมหัศจรรย์”

“พี่รองคะ เมื่อก่อนบ้านเราไม่เคยคิดจะขึ้นมาบนยอดเขาหิมะเลยเหรอคะ”

เย่ว์จือกวงส่ายหน้า “พวกเราไม่เคยคิดว่าบนนั้นจะมีอะไร ถ้าเป็นตรงอื่น หมู่เขาหิมะที่เตี้ยกว่านี้หน่อยก็อาจจะมีพวกสัตว์อย่างเสือดาวหิมะ แต่หมื่นเมตรมันสูงเกินไป..กอปรกับในรัศมีร้อยลี้ของเขาเทพจันทราก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เลยนอกจากเยี่ยนหงกับชวนไป๋”

“ก็จริงค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่มีทางคิดจะขึ้นไปดู”

“เสี่ยวเยาเยา…”

“อึม”

“พี่แค่อยากถามหน่อยว่าเธอเคยปีนเขาหิมะที่สูงแปดพันกว่าเมตรของประเทศเหยียนหวงจริงเหรอ”

อันที่จริงเขาอยากถามว่า ถ้าด้านบนมีหญ้าพิษชีวิตจริง หรือมีสิ่งอื่น พอตี้อู๋เปียนหายแล้วน้องสาวของเขากับตี้อู๋เปียนจะคบกันหรือเปล่า…

น้องสาวสุดที่รักของเขาหมู่นี้ชอบพูดถึงตี้อู๋เปียน ซึ่งเจ้าตัวเหมือนจะไม่รู้สึก แต่คนรอบตัวสังเกตเห็น…

“จริงค่ะ ฉันเคยปีนยอดเขาที่สูงที่สุดของเหยียนหวง จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้เดินยาก…”

มู่เถาเยาไม่รู้เลยว่าพี่ชายคิดอะไรอยู่ เธอเล่าเรื่องที่ตัวเองเคยปีนเขาจูจื่อ แบ่งปันประสบการณ์ที่มีแค่ครั้งเดียว

 

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท