อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 497 สัตว์น้อยทั้งห้า

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 497 สัตว์น้อยทั้งห้า

ปลายเดือน มู่เถาเยา ลู่จือฉิน และเหมียวอวี้พกพากระเป๋าใบเล็กไปเป็นแขกบ้านอาจารย์หลี่ ยังมีตี้อู๋เปียนอีกคนที่บากหน้าขอตามไปด้วย

ต้นเดือนพฤศจิกายนอากาศเริ่มเย็นลง

มู่เถาเยา ตี้อู๋เปียน ลู่จือฉิน และพวกหยวนเหยี่ยพากันออกจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์กลับหมู่บ้านเถาหยวน

แน่นอนว่าก็ได้พาหมาป่าสองตัว เจ้าขาวปุย และจิ้งจอกห้าสีกลับไปด้วย

มู่เถาเยากับลู่จือฉินศึกษาก้านดอกของหญ้าพิษชีวิตในศูนย์วิจัยต่อเนื่องหลายวัน

เพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่เกิดผลลัพธ์อะไร ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบของมันได้ เหมือนตอนนั้นที่เธอวิจัยดอกเถียนซิน รู้สึกทำอะไรไม่ได้เลย

เธอจึงตัดสินใจเข้าเขตป่าชั้นในไปเก็บพวกสมุนไพรมาปรุงยากับก้านดอกของหญ้าพิษชีวิตเพื่อใช้รักษาโรคต่างๆ

ถึงแม้หญ้าพิษชีวิตจะออกฤทธิ์รุนแรง แต่ใช้ปริมาณน้อยสุดๆ ได้ สมุนไพรหนึ่งเข่งใช้ก้านดอกนิดเดียว คงไม่มีทางกลบฤทธิ์ยาสมุนไพรอื่นไปทั้งหมดหรือเปล่า

สองศิษย์อาจารย์ไม่พาตี้อู๋เปียนไปด้วย เขาอารมณ์ไม่ดีสุดๆ พนันกับมู่เถาเยาไว้ว่า เขาอยู่เขตป่าชั้นนอกก็หาสมุนไพรที่พวกเธอต้องการทั้งหมดได้

ครั้นแล้วจึงแยกกันเก็บสมุนไพรที่เขตป่าชั้นนอกกับเขตป่าชั้นในในเวลาเดียวกัน

เดิมทีตี้อู๋เปียนก็อยากเก็บสมุนไพรที่เขตป่าชั้นนอกอยู่แล้วเพราะมีจุดประสงค์อื่น จึงไม่ตื๊อมู่เถาเยาขอเข้าเขตป่าชั้นในด้วย

เพราะเขาต้องการรอช้างป่า อันปากา ยีราฟ แพนด้าน้อย และหมูน้อยที่กำลังจะเดินออกมาจากเขตป่าชั้นใน

สัตว์ทั้งห้าไม่มีขาดหายไปแม้แต่ตัวเดียว เหนือความคาดหมายของเขามาก

พวกมันมีวิธีเลี่ยงอันตรายของตัวเอง ทำงานเข้าขากันได้ดี ทำให้พวกมันเดินออกจากเขตป่าชั้นในได้อย่างปลอดภัย

ตี้อู๋เปียนเดินเข้าไปด้านในพลางเก็บสมุนไพรไปด้วย ทั้งยังคอยติดตามข่าวคราวของสองศิษย์อาจารย์ เจ้าขาวปุย และจิ้งจอกห้าสีที่อยู่เขตป่าชั้นใน

ไม่เกินความคาดหมาย เจ้าขาวปุยไปตรงไหนสัตว์ทุกตัวก็จะหลีกหนี ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย

พลังชีพจรโลหิตโบราณวิเศษมากจริงๆ คนโบราณไม่ได้หลอกลวง

พอไม่มีสิ่งรบกวน สองศิษย์อาจารย์ก็หาสมุนไพรได้เร็ว

อึม…. เขาก็ต้องเร่งความเร็วแล้ว

ตี้อู๋เปียนเดินตรงไปตลอด แต่ไม่ได้เข้าเขตป่าชั้นใน เขาไปยังทิศทางที่พวกสัตว์น้อยจะเดินออกมากัน เก็บสมุนไพรอยู่แถวเขตแดนระหว่างเขตป่าชั้นนอกกับเขตป่าชั้นใน

เขาใช้พลังวิเศษค้นหาสมุนไพรที่ต้องการ จากนั้นก็มุ่งไปยังจุดหมายปลายทาง

ประมาณบ่ายสองโมงเข่งที่ตี้อู๋เปียนสะพายอยู่ก็มีสมุนไพรเกินครึ่งเข่ง

เวลานี้พวกสัตว์น้อยเดินออกมาพอดี ตาโตของพวกมันสำรวจเขตป่าชั้นนอกที่แตกต่างกับเขตป่าชั้นในไม่หยุด

ตี้อู๋เปียนเดินไปหาพวกมัน “ช้างน้อย ยีราฟน้อย หมีน้อย อันปากาน้อย หมูน้อย”

พวกสัตว์วิ่งมาด้วยความดีใจ ส่งเสียงร้องรอบตัวตี้อู๋เปียน

ตี้อู๋เปียนเห็นพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บ ดูสดชื่นร่าเริงดี เขาดีใจมาก

เห็นๆ อยู่ว่าเป็นสัตว์ต่างชนิดกัน แต่กลับเข้ากันได้ดี พวกมันใช้ประสบการณ์ในป่าตอนอยู่กับเขาและซาลาเปาน้อยก่อนหน้านี้จนเดินออกมาได้

พวกมันเป็นสัตว์อายุน้อยกันทั้งนั้น ตัวที่โตสุดคือช้างน้อยอายุสิบสองสิบสามปี นี่ยังถือว่าเป็นช้างเด็ก ก่อนหน้านี้พวกมันไม่มีผู้ใหญ่คอยสั่งสอน ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ฉลาดและมีไหวพริบดีมาก

ส่วนตี้อู๋เปียนสื่อสารกับพวกมันได้ ก่อนหน้านี้ที่อยู่ด้วยกันมาเกือบยี่สิบวันก็ได้สอนสิ่งต่างๆ ให้พวกมันอยู่ไม่น้อย

“ตอนนี้ฉันจะพาพวกแกไปหาฝูงม้าป่า ต่อไปพวกแกก็อาศัยอยู่ที่เขตป่าชั้นนอกกับพวกฝูงม้าป่านะ อันตรายที่นี่น้อยกว่าเขตป่าชั้นในมาก พวกแกฉลาดขนาดนี้จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัยแน่”

พวกมันเป็นสัตว์ป่า ไม่ชอบถูกเลี้ยงแบบกักขังแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงทำสวนสัตว์ไปแล้ว

พวกสัตว์ตัวน้อยดีใจกันมาก

ช้างป่าที่ผิวดำวาวเอางวงรัดตี้อู๋เปียนขึ้นมานั่งบนหลัง

ตี้อู๋เปียน “…”

ไม่อยากนั่งโว้ย! ยังต้องเก็บสมุนไพรระหว่างทางอีก!

พวกสัตว์ตัวน้อยถูกช้างป่าอุ้มขึ้นหลังหมด ยกเว้นยีราฟที่ตัวค่อนข้างใหญ่

ตี้อู๋เปียนมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

แต่เขาก็ยังคงนั่งบนหลังช้างป่าสักพักแล้วถึงเหาะลงไปเก็บสมุนไพรพลางพาพวกสัตว์น้อยเดินไปทางที่ฝูงม้าป่าอยู่

อันที่จริงตอนเขาเพิ่งเข้ามาก็ได้ให้กระรอกน้อยตัวหนึ่งไปเรียกฝูงม้าป่าแล้ว

พลังวิเศษพัฒนาขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นสื่อสารระยะไกลได้ มีผลแค่ในรัศมีร้อยเมตร

ตี้อู๋เปียนกับพวกสัตว์น้อยเดินไปข้างหน้าอย่างอารมณ์ดี ประมาณบ่ายสี่โมงก็เจอกับฝูงม้าป่า

หลิวซิงน้อย เสี่ยวเหยี่ย ไป๋เสวี่ย ร้องฮี้ด้วยความดีใจ

พวกมันไม่ได้เจอตี้อู๋เปียนที่สื่อสารกับพวกมันได้นานแล้ว

หลังจากหายตื่นเต้นดีใจหลิวซิงน้อยก็ถามถึงมู่เถาเยา

ตี้อู๋เปียนลูบหัวของมันพลางพูด “ซาลาเปาน้อยก็กลับมาแล้ว ไว้อีกสองสามวันเธอทำยาเสร็จฉันค่อยมาเยี่ยมพวกแกอีกพร้อมกับเธอ”

เล่นกับพวกลูกม้าสักพักตี้อู๋เปียนก็บอกราชาม้าป่า “เกาหม่า ช้างน้อย ยีราฟน้อย หมีน้อย อัลปาก้าน้อย หมูน้อย เพิ่งเดินออกมาจากเขตป่าชั้นใน ต่อไปพวกมันจะใช้ชีวิตอยู่กับพวกนายด้วยนะ”

เกาหม่าย่อมยินดีต้อนรับ

ลูกม้าที่มีจำนวนไม่มากก็ดีใจ อย่างไรเสียเด็กก็ชอบเล่นกับเด็กๆ ด้วยกัน

ตี้อู๋เปียนคุยกับฝูงม้าป่าอีกสักพัก กะเวลาที่สองศิษย์อาจารย์จะเดินออกมาจากเขตป่าชั้นใน จากนั้นก็บอกลาพวกสัตว์แล้วเดินกลับ

ทั้งสองฝ่ายเจอกันที่ใต้ต้นท้อใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน

มู่เถาเยามองสมุนไพรเต็มเข่งที่ตี้อู๋เปียนสะพายอยู่ เธอตกใจเล็กน้อย “ใช้ได้นี่ ดูมีครบเลย”

ตี้อู๋เปียนพยักหน้าด้วยความภูมิใจเล็กๆ “ครบแน่นอน ก็แค่ปริมาณไม่เยอะเท่าพวกเธอ”

เข่งของสองศิษย์อาจารย์ไม่เพียงแต่จะมีสมุนไพรเต็มเข่ง ในมือยังถือเข่งที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพรเช่นกัน

ทั้งสามคนเก็บสมุนไพรได้ทั้งหมดห้าเข่ง เพียงพอที่จะผสมกับก้านดอกของหญ้าพิษชีวิตได้แล้ว

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท