บทที่ 31 จากกันสามวัน เก่งขึ้นถนัดตา
ราวกับตอบรับคำสั่งจากนายพลหัวหน้ากอง ลูกค้าทุกคนที่มาออกันอยู่หน้าร้านได้ชี้ไปยังชามก๋วยเตี๋ยวที่เจียงฮ่าวพึ่งจะทำเสร็จและพูดกันออกมาอย่างพร้อมเพรียง
“ฉัน/อั๊ว/ข้า/… ต้องการก๋วยเตี๋ยวชามนี้ ใครอยากจะแย่งจากฉันก็เข้ามา”
เมื่อได้ยินว่าคนอื่นๆก็พูดประโยคเดียวกัน พวกเขาต่างมองหน้ากันไปมาอย่างเอาเรื่องก่อนจะพูดออกมาพร้อมกัน
“ฉัน/อั๊ว/ข้า/… สั่งก่อน”….
“ไม่ได้เว้ย ฉัน/อั๊ว/ข้า/… สั่งก่อน”….
“ฉัน/อั๊ว/ข้า/… ก่อนเว้ย….”
“…………………………………….”
ถึงแม้พ่อของเจียงฮ่าวนั้นจะไม่ได้รู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขานั้นทำได้แค่ตกตะลึงและทำอะไรไม่ถูกเท่านั้น และไม่รู้ว่าจะเริ่มจากการห้ามใครดี
เจียงฮ่าวที่พึ่งหลุดออกจากภวังค์แห่งเทพเจ้าโรงครัวก็ได้เห็นลูกค้าที่เริ่มจะมีเรื่องกันเพื่อแก่งแย่งชามก๋วยเตี๋ยวที่พึ่งจะเสร็จ เขาได้รีบพยายามกล่าวห้ามปรามออกมา
“พี่ชายทั้งหลายเลิกเย่งกันดีกว่าน่า ผมเองได้รับออเดอร์มาจึงทำก๋วยเตี๋ยวชามนี้ เดี๋ยวผมจะทำให้พวกพี่ชายทีหลังแล้วกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลูกค้าที่กำลังจะมีเรื่องกันก็ได้จ้องมองเจียงฮ่าวด้วยสายตาที่ประหลาดใจ เพราะเขานั้นหนุ่มแน่นเกินกว่าที่จะของอร่อยได้
เจียงฮ่าวย่อมเข้าใจดีว่าคนเหล่านี้รู้สึกอย่างไร
“เอาน่า ถ้าพวกพี่ไม่เชื่อว่าผมทำได้ล่ะก็ เดี๋ยวผมทำให้ แล้วถ้าทำแล้วออกมาไม่ดีเท่านี้ผมไม่คิดเงินเลยเอ้า ไม่สิ ยอมจ่ายพวกพี่สิบเท่าเลย ว่าไง ตกลงรึเปล่า”
นี่ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเจียงฮ่าวนั้นมั่นใจตัวเองเกินไปหรือไม่เข้าใจสถานการณ์กันแน่
แต่เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของเจียงฮ่าวทำให้พวกเขาต้องมองหน้ากันในทันที
“”ก็ได้ ฉันเองก็อยากรู้ว่าเธอนั้นเป็นคนทำก๋วยเตี๋ยวชามนี้จริงๆรึเปล่า หากทำได้ไม่เหมือนชามนี้อย่าลืมจ่ายเงินฉันสิบเท่าล่ะ นายพูดเองนะ
หลังจากหนึ่งในนั้นพูดจบ ทุกๆคนก็ได้เดินเข้าไปหาที่นั่งกันอย่างพร้อมเพรียง ราวกับถูกฝึกมาจากค่ายทหารเดียวกัน เมื่อเห็นดังน้นเจียงฮ่าวก็ได้พยักหน้ารับก่อนที่จะให้พ่อตนเตรียมโต๊ะให้คนเหล่านี้นั่งลงโต๊ะเดียวกัน
ในตอนนี้เองพ่อของเขาก็ได้กุลีกุจอเตรียมโต๊ะให้พร้อมความรู้สึกอิจฉาที่คนพวกนี้ได้กินก๋วยเตี๋ยวฝีมือเจียงฮ่าวมากขึ้นเป็นเท่าทวี
จนในที่สุด เขาเองก็ได้กลิ่นหมอมวลที่ลอยโชยมาจากก๋วยเตี๋ยวที่เจียงฮ่าวทำขึ้นมาอีกครั้ง
นี่ทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“ฮ่าว ลูกไปเรียนทำอาหารมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เจียงฮ่าวที่ได้ยินก็อดที่จะแหย่พ่อตัวเองไม่ได้
“ก็แค่มีฝีมือน่ะพ่อ”
พ่อของเจียงฮ่าวที่ได้ยินก็อยากจะเขกหัวไปสักที
“หน็อย ไอ้เด็กนี่”
เจียงฮ่าวที่เห็นก็ได้รีบชี้ไปที่ชามก๋วยเตี๋ยวก่อนที่จะโดนเขกหัวในทันที
พ่อรีบเอาก๋วยเตี๋ยวชามนั้นไปให้ลูกค้าดีกว่านา…. เดี๋ยวผมต้องทำให้ลูกค้ากลุ่มนั้นอีก
“ชิ ก็ได้”
พ่อของเจียงฮ่าวนำก๋วยเตี๋ยวไปเสริฟให้ลูกค้าด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
ในขณะเดียวกัน เจียงฮ่าวก็ได้เริ่มทำก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง และผสมน้ำก๋วยเตี๋ยวตามแบบชามก่อนหน้าอย่างชำนาญ
หลังจากที่พ่อของเจียงฮ่าวนำก๋วยเตี๋ยวไปเสริฟให้ลูกค้า ลูกค้าหนุ่มได้กล่าวขอบคุณและเตรียมตัวที่จะกิน แต่เขาเองก็ต้องชะงักออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ลุงเจียง ทำไมวันนี้ก๋วยเตี๋ยวถึงได้หอมขนาดนี้เนี่ย”
หลังจากพูดจบ เขาได้ทำการลองตักกินในทันที
“โว้ววววว รสชาติดี”
“แถมยังหอม”
เป็นอีกครั้งที่พ่อของเจียงฮ่าวได้ยิ้มกว้างออกมา
และนี่เองทำให้หลายๆคนที่เห็นก็อดนึกสงสัยไม่ได้
“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่นะ จากท่าทางน่าจะอร่อยแบบสุดๆ….ยังไงซะวันนี้ต้องลองกินให้ได้โว้ยยยยย”
“…”
พ่อของเจียงฮ่าวหลังจากดูแลลูกค้าเสร็จแล้วก็ได้นั่งลงพัก
อีกทางหนึ่งนั้น เจียงฮ่าวกำลังวาดลวดลายทำก๋วยเตี๋ยวแบบเดียวกับเมื่อครู่นี้เพื่อเสริฟให้กับเหล่าลูกค้าที่จะตีกันเมื่อครู่
และในที่สุด แม้แต่ลูกค้าเก่าของพ่อเจียงฮ่าวเองก็อดรนทนไม่ไหวให้ช่วยแบกหน้าแทนเขาสั่งให้ตัวเขาสักชาม
นั่นก็เพราะยิ่งเจียงฮ่าวลงมือทำมากเท่าไหร่ กลิ่นหอมหวลก็ยิ่งออกจากชามก๋วยเตี๋ยวที่เขาทำมากขึ้นนั่นเอง
และด้วยเหตุนี้ เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ใช้ทำก็ได้หมดลง พ่อของเจียงฮ่าวเองเมื่อเห็นดังนั้นได้เตรียมที่จะวิ่งไปซื้อก็เจอกับภรรยาและลูกสาวของตนนั้นกลับมาพร้อมถุงที่เต็มไปด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ภายใน
ทันทีที่ทั้งสองมาถึงก็ได้เห็นลูกค้าอยู่เต็มร้านแล้วจนตกใจรีบกุลีกุจอเพื่อเตรียมเส้น แต่ทั้งสองต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าที่ลูกค้าเยอะขนาดนี้นั้นเป็นเพราะเจียงฮ่าวเป็นคนลงมือทำก๋วยเตี๋ยวด้วยตัวเอง
แม่ของเจียงฮ่าวเมื่อเห็นย่อมต้องดีใจที่ในที่สุดแล้วลูกของตนก็ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันพอฝากฝังได้สักที
กลับกัน เมื่อเจียงไซหยวนได้เห็นพี่ชายของตนดีขึ้นตามลำดับ เธอที่เชื่อมาตลอดว่าพี่ชายของตนนั้นไม่เอาไหนกลับเริ่มทำตัวดีขึ้นมา นี่ทำให้เธอเริ่มรู้สึกจิตตกลงไปอีกเล็กน้อย
“….”