ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 465 บ่าวสาวคู่ใหม่(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 465 บ่าวสาวคู่ใหม่(2)

ตอนที่ 465 บ่าวสาวคู่ใหม่(2)

ถึงตอนนั้นผู้อาวุโสเซี่ยกับเซี่ยฉางเจี๋ยจะมาเมืองหลวงอยู่แล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น ถึงเวลาพวกเราจะไปร่วมแสดงความยินดีด้วยแน่นอนครับ”

“ได้ครับ พวกคุณสามารถมาร่วมงานได้เลย ถึงตอนนั้นก็ไม่สายที่ผมจะมีความสุข”

หลิวเสวียข่ายหยิบบัตรเชิญออกมา แล้วส่งให้ผู้อาวุโสเซี่ยกับเซี่ยฉางเจี๋ยโดยตรง

ฉินมู่หลานเห็นแบนี้ ก็อดขมวดคิ้วแล้วมองหลิวเสวียข่ายเสียไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะนำบัตรเชิญติดตัวไปไหนมาไหนด้วย

หลังจากหลายคนพูดคุยกันอีกไม่กี่คำ ก็แยกย้ายกันกลับไป

“คุณปู่คะ ทำธุระกันเสร็จแล้วเหรอ”

เซี่ยปิงชิงเห็นพวกผู้อาวุโสเพิ่งกลับมา ก็อดถามไม่ได้

ผู้อาวุโสเซี่ยพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ เกือบจะเสร็จแล้ว อีกสองวันพวกเราจะกลับกันแล้ว”

ถึงแม้ว่าวันนี้จะคุยกับหลิวเสวียข่ายนานมาก แต่ผู้อาวุโสเซี่ยก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้เร็วขนาดนั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่ายาจะเห็นผล หลิวเสวียข่ายรับยาไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นคงต้องอยากทดลองแน่นอน

เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ ก็อดพูดไม่ได้ “ทำไมรีบกลับกันจัง”

ถึงแม้ว่าวันนี้จะคุยกับหลิวเสวียข่ายนานมาก แต่ผู้อาวุโสเซี่ยก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้เร็วขนาดนั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่ายาจะเห็นผล หลิวเสวียข่ายรับยาไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นคงต้องอยากทดลองแน่นอน

ก่อนหน้านี้เซี่ยปิงชิงไม่ได้รู้สึกอะไร ตอนนี้เมื่อได้ยินแม่พูดขึ้นมา ก็ทำเหมือนไม่ค่อยเต็มใจ “หรือว่า…จะไม่แต่งดีนะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซิงลี่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ถ้าสือเหิงได้ยินเข้า เขาคงจะโกรธลูกแน่”

“ใช่แล้ว พวกเราต้องรีบกลับไปจัดเตรียมงานแต่งของลูกไงล่ะ” เซิงลี่ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม หลังจากนั้นก็ลูบผมลูกสาวคนเล็กแล้วพูดว่า “นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าปิงชิงของเราจะแต่งงานแล้ว”

คนอื่นได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะขึ้นมา

ฉินมู่หลานเห็นว่าที่บ้านค่อนข้างยุ่งเรื่องของพ่อบุญธรรม ในใจก็มีเรื่องเป็นกังวล ไม่รู้ว่าทางฝั่งเซี่ยเจ๋อหลี่จะทำภารกิจได้สำเร็จไหม แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่

หลิวเสวียข่ายยังไม่สามารถตอบตกลงได้เร็วขนาดนั้น เพราะฉะนั้นพวกผู้อาวุโสเซี่ยจึงจะกลับไปกันก่อน แต่ทางด้านของฉินมู่หลานก็เริ่มยุ่งเหมือนกัน เพราะต้องเตรียมซื้อของงานแต่งหลายอย่าง ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือจึงรีบเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ

“แม่ แม่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” จากนั้นก็รีบส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่กำลังคิดว่าอาหลี่จะไปงานแต่งของพ่อบุญธรรมได้ไหม”

“น่าจะมาทันนะ งานแต่งของสือเหิงยังอีกนาน ถึงตอนนั้นอาหลี่คงกลับมาได้แหละ”

“อื้ม หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ”

ฉินมู่หลานไม่ได้เล่าเรื่องเซี่ยเจ๋อหลี่ให้แม่ฟังอย่างละเอียด ทำเพียงยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย แต่สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงก็คือ เซี่ยเจ๋อหลี่มาทันจริง ๆ เมื่อฉินมู่หลานมองเห็นแต่ไกลว่าเซี่ยเจ๋อหลี่มีแผลบนใบหน้า เธอจึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าแตกตื่น “อาหลี่ คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

ไม่นาน เธอก็มองดูแผลบนใบหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยความเป็นกังวล “คุณบาดเจ็บด้วยนี่ ยังมีแผลตรงอื่นอีกไหมคะ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานแล้วรู้สึกราวกับหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ความยากของภารกิจในครั้งนี้เกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ก่อนหน้า เขาจึงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะสำเร็จ โชคดีที่เขากลับมาได้อย่างปลอดภัย

“มู่หลาน…”

เซี่ยเจ๋อหลี่สวมกอด จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่อยู่ในอ้อมแขนแล้ว ก็ค่อย ๆ ปล่อยคนให้เป็นอิสระ “มู่หลาน ผมกลัวมากว่าจะกลับมาไม่ทันช่วงปลายปีเสียแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ยิ้มแล้วเอ่ย “ยังดีที่คุณกลับมาทัน”

พูดจบก็เล่าเรื่องเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงให้ฟัง “อาหลี่ คุณกลับมาได้ทันเวลาพอดี อีกสองวันจะต้องออกเดินทางไปรับเจ้าสาวที่ซีอานแล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่คิดไม่ถึงว่า เจี่ยงสือเหิงจะแต่งงานแล้ว แต่นี่เป็นเรื่องดี ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วพยักหน้าพลางบอกกล่าว “ได้เลย ดูเหมือนว่าผมจะกลับมาทันเวลาพอดี”

หลังจากฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่พูดคุยกันสักพัก คนอื่นก็ทยอยทราบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาแล้ว เหยาจิ้งจือดีใจมากเมื่อได้เจอลูกชายคนเล็ก ไม่นานก็เห็นบาดแผลบนใบหน้าของลูกชายอีกครั้ง จึงถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล “อาหลี่ แกบาดเจ็บนี่ เจ็บตรงอื่นอีกไหม”

เซี่ยเจ๋อหลี่ยิ้มแล้วส่ายหัวก่อนจะบอกกล่าว “แม่ไม่ต้องห่วงครับ แค่มีแผลบนหน้านิดหน่อย ตรงอื่นไม่มีแล้ว”

เมื่อเห็นลูกชายบอกแบบนั้น เหยาจิ้งจือก็วางใจ หลังจากนั้นทุกคนในครอบครัวก็รวมตัวกันเรียบร้อย จนกระทั่งถึงวันที่ต้องเดินไปรับเจ้าสาว เจี่ยงสือเหิงก็พาพวกฉินมู่หลานตรงไปที่ซีอาน และเซี่ยปิงชิงกับเซี่ยปิงหรุ่ยสองคนพี่น้องก็ได้กลับไปที่ซีอานก่อนหน้านี้แล้ว รอแค่ให้เจี่ยงสือเหิงมารับไป

ในวันที่สิบแปดเดือนสิบสองตามปฏิทินจีน บ้านตระกูลเซี่ยที่ซีอานค่อนข้างคึกครื้น เพราะหลานสาวคนเล็กของผู้อาวุโสเซี่ยกำลังจะแต่งงาน

ทุกตระกูลที่มีชื่อเสียงในซีอานต่างมาร่วมงานเลี้ยงแต่งงาน แม้แต่คนจากตระกูลเฟิงและตระกูลหยวนก็มาเช่นกัน ในเมื่อทุกคนมากันแล้ว ตระกูลเซี่ยก็ยินดีต้อนรับ

ตระกูลเซี่ยดื่มฉลองกันอยู่สองวัน จากนั้นเจี่ยงสือเหิงก็รับเซี่ยปิงชิงกลับมาที่ปักกิ่ง และคนตระกูลเซี่ยหลายคนก็มาร่วมด้วยเหมือนกัน เมื่อถึงวันที่ยี่สิบสามเดือนสิบสองตามปฏิทินจีน ก็เริ่มจัดงานแต่งที่ปักกิ่ง

เฝ้ามองเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงกำลังดื่มเหล้ามงคลอยู่ตรงหน้า ฉินมู่หลานก็อดยิ้มไม่ได้ “ดีจริง ในที่สุดพ่อบุญธรรมกับปิงชิงแต่งงานกันแล้ว”

“ใช่แล้ว จากนี้ไปสือเหิงจะไม่ตัวคนเดียวแล้ว”

ซูหว่านอี๋เอ่ยพูดตาม หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับเหยาจิ้งจือ “จิ้งจือ ตอนนี้พวกเราให้คนไปเอาของได้แล้วนะ ถึงเวลาจะได้แจกจ่ายให้แต่ละคน”

“ได้”

พูดจบ ทั้งสองก็รีบไปจัดการ

ในวันนี้ฉินมู่หลานไม่ได้ทำอะไร มีหน้าที่เดียวคือดูแลลูกทั้งสองคน

หลังจากยุ่งกับงานเลี้ยงแต่งงาน ฉินมู่หลานก็เตรียมของขวัญอีกชิ้น เมื่อถึงวันที่ยี่สิบแปดตามปฏิทินจีน ก็ไปร่วมงานแต่งของหลิวเสวียข่ายและเยว่เจินจูพร้อมกับเซี่ยเจ๋อหลี่ ทางด้านผู้อาวุโสเซี่ยกับเซี่ยฉางเจี๋ยก็ไปด้วยเหมือนกัน

หลิวเสวียข่ายเห็นพวกเขามา ก็รีบยิ้มแล้วเอ่ยทักทายพวกเขา

“อาหลี่ นายกับพวกผู้อาวุโสไปนั่งกันก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปหาเจินจูหน่อย”

“ได้”

เซี่ยเจ๋อหลี่ยิ้มแล้วพยักหน้า หลังจากนั้นก็พาผู้อาวุโสกับเซี่ยฉางเจี๋ยไปนั่งที่โต๊ะของพวกเขา

เมื่อฉินมู่หลานได้เจอเยว่เจินจู เธอก็ยิ้มพร้อมเอ่ยชม จากนั้นก็นำของขวัญและซองแดงที่ตัวเองเตรียมเอาไว้ออกมา

เยว่เจินจูก็ไม่ลังเล ยอมรับไว้พร้อมรอยยิ้ม

เนื่องจากการมาของฉินมู่หลาน สายตาของคนอื่น ๆ ในห้องจัดงานแต่งงานที่มองไปยังเยว่เจินจูจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงแม้ว่าหล่อนจะมาจากครอบครัวเล็ก ๆ แต่หล่อนก็มีเพื่อนดี ๆ อย่างเช่นฉินมู่หลาน ตอนนี้ยังได้แต่งเข้าตระกูลหลิวอีก ต่อไปคงสบายแล้ว

ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพูดคุยกับเยว่เจินจูจ่ออีกไม่กี่คำ จากนั้นก็กลับไปนั่งที่

พิธีใกล้จะเริ่มแล้ว ฉินมู่หลานเฝ้ามองงานแต่งด้วยความเพลิดเพลิน หลังจากนั้นก็กลับไป

การไปร่วมงานแต่งสองครั้งติดกันทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย เพราะฉะนั้นในวันส่งท้ายปีเก่าจึงอยู่บ้านพักผ่อนอย่างเต็มที่ทั้งวัน จนกระทั่งถึงตอนมืดก็ยังคงพักผ่อนต่อไป

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ท่ามกลางเสียงประทัดดัง ปีใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น

………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ขอให้ทั้งสองคู่รักกันนานๆ นะคะ

พี่หลี่มีแผลกลับมาอีกแล้ว เฮ้อ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน