สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1284 ยินดีสละชีวิต

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1284 ยินดีสละชีวิต

เมื่อเสิ่นจิ้งจงได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้นมาจึงเกิดความรู้สึกมากมายขึ้นในใจเช่นเดียวกัน เขาลุกขึ้นยืนโค้งกายคำนับให้ไป๋ชิงเหยียน ขยับริมฝีปากเล็กน้อย ทว่า กล่าวสิ่งใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ต่างว่ากันว่าศรัทธาแรกเริ่มของกองทัพไป๋คือการปกป้องบ้านเมืองและชาวบ้าน ฝ่าบาทของพวกเขาเกิดมาในตระกูลไป๋ แม้ตอนนี้จะเป็นถึงจักรพรรดินีผู้สูงส่ง ทว่า นางไม่เคยลืมศรัทธาแรกเริ่มของกองทัพไป๋ พวกเขาจะไม่เคารพนับถือนางได้อย่างไรกัน

ต่งชิงผิงมองดูหลานสาวของตัวเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เขาโค้งกายคำนับหญิงสาวในฐานะขุนนางเช่นเดียวกัน

แคว้นมีจักรพรรดินีเช่นนี้ ชาวบ้านและแคว้นจะไม่เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไรกัน!

จักรพรรดินีที่รักและห่วงใยชาวบ้านถึงเพียงนี้คือจักรพรรดินีของชาวบ้านอย่างแท้จริง

“ใต้เท้าทั้งสามลุกขึ้นเถิด”

ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาในมือลง จากนั้นลุกขึ้นประคองร่างของหลู่ไท่เว่ยให้ลุกขึ้น เมื่อใต้เท้าสามคนยืนขึ้นหมดแล้วไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวต่อ

“ข้าเชื่อมั่นในระบอบการปกครองของต้าโจวมากดังนั้นใต้เท้าทั้งสามโปรดเชื่อใจในตัวไป๋ชิงเหยียน เชื่อในระบอบการปกครองของพวกเรา ช่วยกันสนับสนุนให้ต้าโจวและต้าเยี่ยนใช้การปกครองเป็นตัวตัดสินการรวมสองแคว้นให้เป็นหนึ่ง เพื่อรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งด้วยเถิด”

“กระหม่อมจะช่วยสนับสนุนให้ฝ่าบาททำเรื่องนี้ให้สำเร็จด้วยชีวิตของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ…”

หลู่ไท่เว่ยยืนหลังตรงพลางรับปากอย่างหนักแน่น

“กระหม่อมยินดีสละชีพเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของแคว้น ยินดีช่วยเหลือฝ่าบาททำสิ่งนี้ให้สำเร็จเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!” เสิ่นจิ้งจงกล่าวเสียงหนักแน่น

“กระหม่อมยิ่งไม่ต้องกล่าวพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยินดีทำเพื่อแคว้น ยินดีสละชีวิตเพื่อฝ่าบาทอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” แววตาที่คลอไปด้วยน้ำตาของต่งชิงผิงเต็มไปด้วยความแน่วแน่และหนักแน่น

“ดี…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ

“เช่นนั้นเรื่องต่อจากนี้คงต้องลำบากใต้เท้าทั้งสามแล้ว เมื่ออ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเดินทางกลับไปถึงเมืองหลวงของต้าเยี่ยน จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนคงส่งทูตมายังต้าโจวแน่ ถึงเวลานั้นราชสำนักของเราต้องถกเถียงกันไม่หยุดแน่นอน ใต้เท้าทั้งสามช่วยหาวิธีรับมือและเกลี้ยกล่อมคนเหล่านั้นให้เห็นด้วยกับวิธีนี้ให้ได้ด้วย”

ทั้งสามคนรีบพยักหน้ารัว

“อีกเรื่อง ใต้เท้าทั้งสามช่วยปิดเรื่องที่ข้าอยู่ที่จวนไป๋ไว้เป็นความลับจนกว่ารถม้าของข้าจะเดินทางกลับมายังเมืองหลวงด้วย”

ตอนนี้รถม้าของไป๋ชิงเหยียนเพิ่งเดินทางถึงเมืองไป๋ว่อ ต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงเมืองหลวง ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้เฉินชิงเซิงเดินทางไปดูความเรียบร้อยเรื่องจวนที่นางสั่งให้จัดหาในเมืองไป๋ว่อด้วย

เมื่อสนทนาเรื่องสำคัญจบไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวแสดงความยินดีกับหลู่ไท่เว่ยและต่งชิงผิงยิ้มๆ ที่หลู่เฟิ่งหลางและต่งถิงเจินสอบติดอันดับดีในการสอบขุนนางครั้งนี้

“หลู่เฟิ่งหลางและน้องถิงเจินล้วนคู่ควรกับตำแหน่งที่ได้รับแล้ว เมื่อติดกระดาษคำตอบของพวกนางให้ทุกคนได้อ่านไทเฮาจึงไม่ถูกวิจารณ์แม้แต่น้อย”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ก่อนติดประกาศกระดาษคำตอบบัณฑิตบางคนกล่าวว่าไทเฮาต้องการสนับสนุนกฎหมายเรื่องการอนุญาตให้สตรีเข้าร่วมการสอบขุนนางของฝ่าบาทจึงมอบตำแหน่งปั่งเหยี่ยน ทั่นฮวาและอันดับหนึ่งของระดับสองให้สตรีเช่นนี้ ทว่า การที่มอบสามในสี่ลำดับแรกให้สตรีหมดเช่นนี้เกินไปเสียหน่อย บางคนหาว่าไทเฮามอบตำแหน่งอันดับหนึ่งของระดับสองให้ต่งถิงเจินเพราะต้องการยกสนับสนุนตระกูลต่ง ทว่า เมื่อติดกระดาษคำตอบของพวกนางออกไป เมื่อบัณฑิตเหล่านั้นได้อ่านคำตอบของคุณหนูหลู่ คุณหนูถานและคุณหนูต่งพวกเขาจึงยอมสงบลงพ่ะย่ะค่ะ”

“การให้ติดประกาศกระดาษคำตอบของทุกคนคือความคิดของฝ่าบาทใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

หลู่ไท่เว่ยกล่าวยิ้มๆ

“การติดประกาศคำตอบจะทำให้บัณฑิตเหล่านั้นรู้ว่าต้าโจวต้องการคนมีความสามารถที่แท้จริงที่สามารถมาช่วยงานในราชสำนักได้ ถือเป็นการชี้ทางที่ถูกต้องให้พวกเขา” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ

“ให้พวกเขารู้ว่าต้าโจวต้องการขุนนางเช่นไรกันแน่”

“ฝ่าบาท…ต้องการจัดระเบียบขุนนางในราชสำนักใหม่อีกครั้งหรือพ่ะย่ะค่ะ”

หลู่ไท่เว่ยเป็นคนช่างสังเกต เขารู้จุดประสงค์ของไป๋ชิงเหยียนในทันที ทว่า เขากลับใช้คำอ้อมๆ อย่างจัดระเบียบแทน

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ

“ข้าสนใจ ‘โครงร่างการประเมินและตรวจสอบขุนนางของต้าโจว’ ที่ต่งถิงเจินกล่าวถึงมาก ไท่เว่ยสามารถไปปรึกษาเรื่องนี้กับเสนาบดีกรมขุนนางได้ เมื่อปรับปรุงแบบร่างเรียบร้อยพวกเราจะได้นำไปใช้งานจริงได้”

“พ่ะย่ะค่ะ” หลู่ไท่เว่ยพยักหน้า “ก่อนหน้านี้จิ่นเสียนบอกกับกระหม่อมว่าเมื่อปรับปรุงแบบร่างการประเมินและตรวจสอบขุนนางฉบับนี้เสร็จสามารถนำไปใช้งานจริงได้เลย ทว่า ต้องมาขอความเห็นจากฝ่าบาทก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ เช่นนั้นให้ใต้เท้าหลู่จัดการได้เลย” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ

เซียวหรงเหยี่ยนและมู่หรงผิงพาคนส่งสารของแม่ทัพชราชุยซานจงเดินทางไปถึงเมืองหลวงของต้าเยี่ยนช่วงกลางเดือนสี่

มู่หรงลี่พาบรรดาขุนนางออกมารอต้อนรับเซียวหรงเหยี่ยนที่นอกเมืองอย่างเอิกเกริกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทว่า ครั้งนี้เซียวหรงเหยี่ยนและมู่หรงผิงไม่ได้กลับมาพร้อมกองทัพใหญ่ของต้าเยี่ยน พวกเขานำองครักษ์ขี่ม้ากลับมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น

ขุนนางเห็นเหตุการณ์จึงได้แต่หงุดหงิดอยู่ในใจ ไม่กล้าแสดงออกมา พวกเขาทำได้เพียงติดตามมู่หรงลี่ออกมาต้อนรับผู้สำเร็จราชการมู่หรงเหยี่ยนอย่างนอบน้อม

“ท่านอาเก้า!” มู่หรงลี่เดินไปด้านหน้ายิ้มๆ เขาเงยหน้ามองมู่หรงเหยี่ยนที่สวมหน้ากากที่เต็มไปด้วยฝุ่นพลางกล่าวขึ้น “ท่านอาเก้าลำบากมาทั้งทางแล้ว อาลี่จัดงานเลี้ยงรอต้อนรับและฉลองชัยชนะให้ท่านอาเก้าในวังหลวงแล้วขอรับ”

เซียวหรงเหยี่ยนที่รับบทเป็นผู้สำเร็จราชการซึ่งกุมอำนาจในต้าเยี่ยนไว้ในมือโยนแส้ม้าให้เยว่สือ จากนั้นหันไปทำความเคารพมู่หรงลี่และถามขึ้นทันที “ฝ่าบาททรงเป็นคนสมรู้ร่วมคิดกับซีเหลียงแทงข้างหลังต้าโจวใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

บรรดาขุนนางที่อยู่ทางด้านหลังมู่หรงลี่เงียบกริบในทันที พวกเขาไม่คิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะอาจหาญและเหิมเกริมถึงขนาดกล้าซักถามจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนต่อหน้าขุนนางมากมายอย่างไม่ไว้หน้าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเช่นนี้

มู่หรงลี่ได้รับจดหมายจากท่านอาเก้าก่อนหน้านี้แล้วดังนั้นเขาจึงพาเหล่าขุนนางออกมาดูละครฉากนี้ด้วย

แม้เสด็จแม่ของเขาจะเป็นคนทำเรื่องนี้ ทว่า ตอนนี้มู่หรงลี่ต้องแสดงท่าทีปกป้องมารดาของตัวเอง แม้ตอนนี้ทุกคนในต้าเยี่ยนจะรู้ว่าไทเฮาลอบไปมาหาสู่กับคนของซีเหลียง ทว่า มู่หรงลี่ไม่สามารถเปิดโปงมารดาของตัวเองต่อหน้าทุกคนได้

มู่หรงลี่กล่าวด้วยสีหน้าสำนึกผิด

“ท่านอาเก้า อาลี่ทราบเรื่องนี้ตอนที่ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว ต้าเยี่ยนทำผิดต่อต้าโจวขอรับ!”

“ตอนนี้กองทัพต้าโจวบุกประชิดชายแดนต้าเยี่ยน กองทัพใหญ่ของพวกเราถูกกองทัพไป๋และกองทัพจ้าวของต้าโจวคุมอยู่ที่ซีเหลียง ต้าโจวมอบตัวคนส่งสารของแม่ทัพชราชุยซานจงให้ต้าเยี่ยนและต้องการการชดใช้จากต้าเยี่ยน”

ดวงตาดำขลับของเซียวหรงเหยี่ยนภายใต้หน้ากากราบเรียบจนเดาอารมณ์ไม่ออก ทว่า น้ำเสียงกลับเยือกเย็นจนคนฟังเสียวสันหลังวูบ

“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะชดใช้ให้ต้าโจวเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

มู่หรงลี่แสร้งทำสีหน้าซีดเผือด เขาก้มหน้าลงด้วยความลำบากใจพลางกล่าวขึ้น “ท่านอาเก้า…”

“ฝ่าบาท ตอนฝ่าบาทเสด็จขั้นครองราชย์กระหม่อมเคยตรัสกับฝ่าบาทว่าปณิธานของเสด็จพ่อของฝ่าบาทคือการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ทว่า หากอยากรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งพวกเราจะแทงข้างหลังแคว้นพันธมิตรของตัวเองเช่นนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นพวกเราจะผิดสัญญาต่อใต้หล้าพ่ะย่ะค่ะ!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท