สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1285 ยิ่งปกปิดยิ่งชัดเจน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1285 ยิ่งปกปิดยิ่งชัดเจน

น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนดุดัน ชายหนุ่มดุมู่หรงลี่ราวกับเขาเป็นเพียงเด็กชายที่ไม่เอาไหนในครอบครัว อย่างไม่ไว้หน้าเขาสักนิด “แม้แต่เด็กสามขวบยังรู้ว่าหากผิดสัญญากับใต้หล้าย่อมไม่ได้ครอบครองใต้หล้า ตอนเสด็จพ่อของพระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่เขาสั่งสอนพระองค์อยู่ตลอดเวลา ฝ่าบาททรงทำผิดพลาดเช่นนี้ไม่คิดถึงเสด็จพ่อของตัวเองบ้างหรือ!”

เมื่อเห็นมู่หรงลี่ก้มหน้างุดไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้นเซียวหรงเหยี่ยนจึงกล่าวเสียงขรึมกว่าเดิม “หลังจากต้าเยี่ยนทำสัญญาพันธมิตรกับต้าโจว ต้าโจวแบ่งผลประโยชน์ให้ต้าเยี่ยนมากกว่าทุกครั้ง ทว่า ต้าเยี่ยนกลับแทงข้างหลังต้าโจวอย่างไร้ศีลธรรมเช่นนี้! ต้าเยี่ยนทำเช่นนี้ต่อหน้าคนทั้งใต้หล้าเท่ากับเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของแคว้นตัวเอง ทำให้ต้าเยี่ยนกลายเป็นคนถ่อยอกตัญญูในสายตาของคนทั้งใต้หล้า ทำให้ต้าเยี่ยนกลายเป็นคนไร้สัจจะในสายตาของทุกคน ฝ่าบาททรงพอพระทัยกับผลลัพธ์เช่นนี้แล้วใช่หรือไม่!”

“ท่านอ๋องเก้า…” หวังจิ่วโจวที่ยืนอยู่ข้างกายมู่หรงลี่รีบคุกเข่าก้มศีรษะคำนับแนบพื้น “ท่านอ๋องเก้าโปรดระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฝ่าบาทแต่เป็น…”

“หวังจิ่วโจว!” มู่หรงลี่ตวาดเสียงดังลั่น

หวังจิ่วโจวจึงเม้มปากสนิท เขาอยากกล่าวสิ่งใดออกมาเพื่อแก้ต่างแทนมู่หรงลี่

หวังจิ่วโจวรู้ดีว่าครั้งนี้อ๋องเก้าและฝ่าบาทต้องการดึงไทเฮาลงมาจากตำแหน่งผู้ช่วยทางการเมือง หวังจิ่วโจวไม่เอ่ยถึงไทเฮาเพราะต้องการดึงสติขุนนางทั้งหลาย ให้พวกเขาตระหนักได้เองว่าไทเฮาเป็นคนสร้างปัญหาขึ้นจนต้าโจวต้องยกทัพบุกมาประชิดชายแดนต้าเยี่ยนของพวกเขาเช่นนี้

หวังจิ่วโจวร้อนใจอยากช่วยแก้ต่างแทนมู่หรงลี่ ทว่า มู่หรงลี่กลับตวาดเขาออกมาเสียงดังลั่น ยิ่งมู่หรงลี่อยากปกปิดมากเท่าใดเรื่องก็ยิ่งดูชัดเจนขึ้นเท่านั้น

เหล่าขุนนางมองหน้ากันไปมา ผู้ใดยังมองไม่ออกอีกว่าเรื่องนี้มีลับลมคมนัยแฝงอยู่ พวกเขาคิดกระทั่งว่าไทเฮาซึ่งก่อนหน้านี้ลอบไปมาหาสู่กับคนซีเหลียงบ่อยครั้งอาจเป็นคนอยู่เบื้องหลังการสมคบคิดกับซีเหลียงเอง ฝ่าบาทของพวกเขาแค่อยากรับผิดเรื่องนี้เองเท่านั้น

“ช่างเถิด ฝ่าบาทตามกระหม่อมไปเข้าเฝ้าไทเฮาก่อนเถิด ให้ไทเฮาได้ทอดพระเนตรคนสนิทของแม่ทัพชราชุยก่อน จากนั้นจะรู้เองว่าความจริงทั้งหมดเป็นเช่นไร” มู่หรงเหยี่ยนกล่าวขึ้น

ขุนนางต้าเยี่ยนเห็นเหตุการณ์จึงยิ่งรู้สึกว่าอ๋องเก้าไม่ยอมอ่อนข้อให้ฝ่าบาทของพวกเขาแม้แต่น้อย เขาคงอยากถือโอกาสนี้ดึงไทเฮาลงมาจากตำแหน่งผู้ช่วยปกครองเมือง อย่างน้อยก่อนที่ฝ่าบาทจะมีสิทธิ์ปกครองบ้านเมืองด้วยตัวเองอำนาจในราชสำนักจะได้ตกอยู่ในมือของอ๋องเก้าแต่เพียงผู้เดียว

ขุนนางที่ติดตามรับใช้เซียวหรงเหยี่ยนตั้งแต่แรกดีใจที่จะได้เห็นเรื่องเช่นนี้มาก พวกเขาคิดว่าไทเฮาทำตัวเอง การที่ต้าโจวยกทัพมาประชิดชายแดนต้าเยี่ยนถือเป็นการช่วยเหลืออ๋องเก้าของพวกเขาอีกแรง

ขุนนางที่รับใช้ไทเฮาขมวดคิ้วด้วยความตึงเครียดทันที จงสิงเสี่ยวผู้เป็นลุงของมู่หรงลี่ใจกระตุกวูบทันที พวกเขารู้ดีว่าไทเฮาเป็นคนทำเรื่องนี้เอง ตอนนี้ความสามารถของต้าโจวและต้าเยี่ยนค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากสองแคว้นทำสงครามกันตอนนี้เกรงว่าต้าเยี่ยนคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้าโจว พวกเขาต้องชดใช้เรื่องนี้ให้ต้าโจวจริงๆ

เมื่อได้ยินอ๋องเก้ากล่าวว่าต้าโจวเป็นคนมอบตัวคนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงให้ต้าเยี่ยนด้วยตัวเองแสดงว่าต้าโจวรับรู้แล้วว่าไทเฮาของต้าเยี่ยนเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ในเมื่อต้าโจวต้องการการชดใช้เช่นนั้นไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนก็ต้องเป็นผู้ชดใช้มันด้วยตัวเอง

ตอนนี้จักรพรรดิของต้าเยี่ยนยังทรงพระเยาว์อยู่ แม้พวกเขาจะดูเหมือนว่าจงรักภักดีต่อจักรพรรดิองค์น้อย ทว่า แท้จริงแล้วพวกเขาติดตามรับใช้ไทเฮาดังนั้นไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องปกป้องไทเฮาไว้ให้ได้

ขุนนางฝ่ายของไทเฮาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษาตำแหน่งผู้ช่วยปกครองเมืองของไทเฮาไว้ให้ได้

“ฝ่าบาท ท่านอ๋องเก้า…” จงสิงเสี่ยวก้าวไปด้านหน้า เขาทำความเคารพมู่หรงลี่และเซียวหรงเหยี่ยนอย่างนอบน้อมจากนั้นกล่าวขึ้น “ตอนนี้กองทัพต้าโจวตั้งค่ายประชิดอยู่ที่ชายแดนของต้าเยี่ยน ปัญหาของพวกเราในตอนนี้คือกองกำลังหลักของพวกเราเดินทางกลับมาจากซีเหลียงไม่ได้ พวกเรามีกำลังทหารไม่เพียงพอ หากทำสงครามกับต้าโจวขึ้นมาจริงๆ พวกเราคงสู้ต้าโจวไม่ได้ ฝ่าบาทและท่านอ๋องเก้าได้โปรดปรึกษาหารือเรื่องนี้กันอย่างรอบคอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ หากมีเรื่องที่ต้องการให้ขุนนางอย่างพวกกระหม่อมช่วยเหลือ พวกกระหม่อมยินดีทำเต็มที่ ฝ่าบาทและท่านอ๋องเก้าได้โปรดพาพวกกระหม่อมไปเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่อช่วยกันคิดหาวิธีด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนภายใต้หน้ากากยกยิ้มออกมาน้อยๆ เขามองไปทางพี่ชายของไทเฮาแห่งแคว้นต้าเยี่ยนที่พยายามทำตัวอ่อนน้อมที่สุดแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปกล่าวกับมู่หรงลี่อย่างไม่ใส่ใจคนผู้นั้นอีกแม้แต่น้อย “ฝ่าบาททรงมีความเห็นเช่นไร”

มู่หรงลี่กำหมัดที่อยู่ในแขนเสื้อแน่นราวกับหวาดกลัวอาเก้าของตัวเองเสียเต็มประดา เขากล่าวขึ้น “ท่านอาเก้า ให้ขุนนางเหล่านี้ตามไปด้วยเถิดขอรับ! ช่วงนี้ข้าคิดวิธีแก้ปัญหาได้วิธีหนึ่งอยากนำมาปรึกษาท่านอาเก้าและขุนนางทั้งหลายพอดี ให้พวกเขาตามไปด้วยก็ได้ พวกเราไปปรึกษากันที่ตำหนักหน้าก่อน จากนั้นค่อยไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ภายหลัง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาไต่สวนว่าผู้ใดผิดหรือถูก พวกเราควรหาทางแก้ปัญหานี้ก่อนถึงจะถูก จากนั้นค่อยมาไต่สวนเอาความก็ยังไม่สาย”

เซียวหรงเหยี่ยนรู้ว่ามู่หรงลี่ต้องการตีเหล็กตอนร้อน เขาต้องการบอกเรื่องการรวมสองแคว้นให้เป็นหนึ่งต่อหน้าขุนนางทุกคนในวันนี้มู่หรงเหยี่ยนจึงพยักหน้าให้

ไม่นานคนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงสองคนจึงถูกคุมตัวเข้ามาด้านใน

ขุนนางต้าเยี่ยนที่เคยเห็นหน้ารองแม่ทัพของแม่ทัพชราชุยซานจงมาก่อนจึงเบิกตาโพลง “นี่ไม่ใช่…”

เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินจึงชะงักฝีเท้าลงทันที ชายหนุ่มหันไปทางขุนนางผู้นั้น “เจ้ารู้สิ่งใดอย่างนั้นหรือ”

ขุนนางผู้นั้นตัวสั่นเทากับสายตาเย็นชาของมู่หรงเหยี่ยน เขารีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้น “กระหม่อมเคยพบคนซีเหลียงผู้นั้นมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเคยเห็นเขา…เข้าไป…ในวังหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

ขุนนางผู้นั้นหลับตาลงพลางบอกเรื่องทุกอย่างที่รู้ออกมาจนหมดเปลือก กล่าวจบยังลากคนที่เกี่ยวข้องมาเป็นพวกด้วยทันที “กระหม่อม ใต้เท้ากวนและใต้เท้าหลี่เคยพบคนผู้นี้ตอนที่พวกกระหม่อมกำลังออกจากวังพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อใต้เท้ากวนและใต้เท้าหลี่ถูกเอ่ยนามจึงรีบคุกเข่าลงทันที

เซียวหรงเหยี่ยนหันไปทางขุนนางอีกสองคน “เขากล่าวจริงหรือไม่”

“ทูลท่านอ๋องเก้า…เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนได้คำตอบที่แน่ชัดจึงตามมู่หรงลี่ไปในวังหลวงต่อทันที เหล่าขุนนางรีบตามหลังมู่หรงลี่และเซียวหรงเหยี่ยนไปติดๆ ผู้ใดจะรู้ว่าอีกเดี๋ยวจะเกิดเรื่องใหญ่เพียงใดขึ้น ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรงๆ

โดยเฉพาะขุนนางสามคนที่รับสารภาพออกมาว่าเคยพบคนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงในวังหลวงของต้าเยี่ยนมาก่อน เมื่อพวกเขาเหลือบเห็นสายตาเยือกเย็นของจงสิงเสี่ยวที่มองมาพวกเขาก็รู้สึกเสียใจยิ่งนัก พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องในสงครามระหว่างผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนและไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ที่สำคัญตอนนี้พวกเขาเผลอกลายเป็นพวกของท่านอ๋องเก้าโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว

เดิมทีพวกเขาอยากดำรงอยู่ในตำแหน่งขุนนางจนกว่าจะเกษียณอายุ ทว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้พวกเขาคงทำเช่นนั้นไม่ได้แล้ว พี่ชายของไทเฮาเป็นคนใจแคบและอำมหิตมาก เกรงว่าพวกเขาคงทำให้ครอบครัวของตัวเองเดือดร้อนไปด้วยแล้ว

ไทเฮาประทับอยู่ในตำหนักของตัวเองอย่างไม่เป็นสุข เมื่อได้ยินว่าเซียวหรงเหยี่ยนกลับมาถึงเมืองหลวงแล้วจึงไม่มีกระจิตกระใจแม้แต่จะให้อาหารปลา นางถืออาหารปลาไว้ในมือ ทว่า ไม่ยอมเทให้ปลาในบ่อกินเสียที

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท