ตอนที่ 1296 ใจอ่อน
“ต่อให้สามปีหลังจากนี้ต้าโจวจะแพ้ให้พวกเราและไม่ยอมเข้าร่วมกับต้าเยี่ยน ทว่า พวกเราก็ยังมีเวลาสามปีในการสร้างแคว้นของเราให้แข็งแกร่งขึ้น ถึงเวลานั้นต้าเยี่ยนคงมีกำลังต้านทานต้าโจวแล้วไม่ใช่หรือ ยังดีกว่าตอนนี้ที่ขาดแคลนทั้งเสบียงอาหารและกำลังทหาร ที่สำคัญกองทัพหลักของเรายังอยู่ที่ซีเหลียงอีก!” ไทเฮากล่าวเสียงร้อนรน
เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไทเฮาที่ร้อนรนใจใบหน้าแดงก่ำนิ่ง จากนั้นกล่าวออกมาเสียงเบา
“พี่สะใภ้ หากพวกเราทำสัญญากับต้าโจวแล้วพวกเราต้องรักษาสัญญาขอรับ พวกเราจะคิดว่านี้เป็นเพียงแผนการพักฟื้นไม่ได้ขอรับ เสด็จแม่และเสด็จพี่ล้วนเคยกล่าวไว้ว่าผู้ที่ผิดสัญญาต่อใต้หล้าจะไม่ได้ครอบครองใต้หล้า! นี่คือเหตุผลที่ข้าไม่เห็นด้วยกับวิธีของอาลี่ขอรับ!”
ไทเฮาได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเช่นนี้จึงกล่าวขึ้นด้วยความร้อนใจ
“ทว่า วิธีของอาลี่ในตอนนี้คือวิธีแก้ไขสถานการณ์คับขันตรงหน้าของต้าเยี่ยนได้ดีที่สุดแล้ว หากไม่ใช่วิธีของอาลี่ อาเหยี่ยนมีวิธีที่ดีกว่านี้หรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนนิ่งเงียบ เขาขมวดคิ้วแน่น สีหน้าของเขาฟ้องแล้วว่าเขาไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้ในตอนนี้
“เจ้าดูสิ เจ้าไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้เหมือนกัน แม้วิธีของอาลี่จะเสี่ยงไปสักหน่อย ทว่า เป็นวิธีที่แก้ปัญหาระยะสั้นและทำให้ต้าเยี่ยนดำรงอยู่ได้ต่อไป พวกเราคอยลองดูสักครั้ง”
ไทเฮาพยายามเกลี้ยกล่อมเซียวหรงเหยี่ยนอย่างเต็มที่
“ไม่ว่าอาลี่ พี่หรือว่าเจ้าล้วนทำเพื่อต้าเยี่ยน ทว่า ตอนนี้อาเหยี่ยนไม่มีวิธีอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว แสดงว่าวิธีของอาลี่คือวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว!”
เซียวหรงเหยี่ยนยังแสร้งทำเป็นใช้ความคิด เขาเก็บปิ่นปักผมห่านป่าไว้ในแขนเสื้อของตัวเอง จากนั้นก้มหน้าครุ่นคิดต่อ
“พี่สะใภ้ก็กล่าวเองว่าวิธีของอาลี่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยังมีปัญหาอีกครั้งหนึ่งที่ต้องแก้ไขต่อ จักรพรรดินีและขุนนางของต้าโจวไม่ใช่คนโง่ พวกเขาจะเห็นด้วยหรือขอรับ”
ไทเฮาตะลึง นางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนว่าหากต้าโจวไม่ตกลงจะทำเช่นไรต่อไป ไทเฮากำชายเสื้อของตัวเองแน่น นางอยากเอ่ยถามมู่หรงเหยี่ยนว่าจากที่เขารู้จักไป๋ชิงเหยียนมาเขาคิดว่าไป๋ชิงเหยียนจะเห็นด้วยหรือไม่ ทว่า สุดท้ายนางกลับกลืนถ้อยคำนั้นลงไปในลำคอ ไม่กล้าเอ่ยถามออกไป
ไทเฮารู้สึกว่าช่างน่าขันยิ่งนัก ก่อนหน้านี้นางไม่เห็นด้วยกับวิธีของอาลี่ ทว่า บัดนี้นางกลับต้องมากังวลว่าหากไป๋ชิงเหยียนไม่เห็นด้วยจะทำเช่นไรดี
“ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ต้องลองดูก่อน ผลจะเป็นเช่นไรพวกเราค่อยหาทางแก้ไขกันภายหลัง”
น้ำเสียงของไทเฮาขรึมลงทันที
“อาลี่คือจักรพรรดิของต้าเยี่ยน ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ในเมื่อเป็นเช่นนี้แม่และอาอย่างพวกเราก็ควรสนับสนุนอาลี่อย่างเต็มที่ ควรเชื่อว่าเขาจะพาต้าเยี่ยนรอดพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้!”
เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไทเฮาด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นกล่าวเสียงเรียบ
“พี่สะใภ้ตัดสินใจดีแล้วหรือขอรับ”
ไทเฮารู้สึกหวั่นไหวกับคำถามของเซียวหรงเหยี่ยน นางกำมือของตัวเองแน่น
“อาลี่คือจักรพรรดิของต้าเยี่ยน จะปล่อยให้ผู้อื่นคิดว่าจักรพรรดิตรัสแล้วไม่เป็นคำได้อย่างไร!”
ไม่นานเซียวหรงเหยี่ยนจึงกล่าวขึ้น
“ในเมื่อพี่สะใภ้กับอาลี่ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าข้าจะกล่าวเช่นไรพวกพี่ก็คงไม่ฟังอีกต่อไป ตอนนี้คงได้แต่หวังว่าระบอบการปกครองของเสด็จแม่จะเอาชนะการปกครองของต้าโจวได้นะขอรับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว!”
ไทเฮาเชื่อในตัวจีโฮ่วมาก
“อาเหยี่ยน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำเช่นไรให้จักรพรรดินีของต้าโจวเห็นด้วยกับวิธีนี้ หากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่เห็นด้วย ไม่ว่าพวกเราจะทำเช่นไรก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี”
ไทเฮาเหลือบมองเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังก้มหน้าอยู่ นางมีแผนการในใจแล้ว นางกัดริมฝีปากของตัวเองไม่รู้ว่าควรกล่าวออกมาดีหรือไม่
“นั่นสิขอรับ นี่คือปัญหายากอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ต้าโจวแข็งแกร่งที่สุด…”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าราวกับกำลังหงุดหงิดเพราะเรื่องนี้
ไทเฮาเห็นท่าทีของเซียวหรงเหยี่ยนจึงเม้มปากแน่น ไม่นานจึงตัดสินใจกล่าวออกมา
“อาเหยี่ยน ความจริงพี่คิดออกวิธีหนึ่ง แค่ไม่รู้ว่าอาเหยี่ยนจะยินดีเดินทางไปต้าโจวเพื่อต้าเยี่ยนสักครั้งหรือไม่…”
ร่างของเซียวหรงเหยี่ยนแข็งทื่อ เขารีบหันไปมองพี่สะใภ้ของตัวเอง
“พี่สะใภ้ต้องการให้เหยี่ยนเดินทางไปต้าโจวด้วยตัวเองหรือขอรับ”
ตอนนี้เซียวหรงเหยี่ยนไม่รู้แล้วว่าพี่สะใภ้กำลังหยั่งเชิงเขาหรือกล่าวออกมาจากใจจริงกันแน่ ชายหนุ่มกล่าวต่อ
“พี่สะใภ้ ตอนนี้ข้ากับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นเช่นนี้แล้ว เกรงว่าหากข้าเดินทางไปอาจทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลงนะขอรับ”
“ทว่า อาเหยี่ยน ตอนนี้คนที่พี่และอาลี่เชื่อใจได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น คนที่มีสติปัญญาและเก่งกาจที่สุดก็คือเจ้านะ!”
ไทเฮามองเซียวหรงเหยี่ยนด้วยสายตาขอร้อง
“พี่ชายของอาลี่ไม่ได้เรื่อง อาผิงเป็นแม่ทัพกล้าหาญที่ไม่เก่งเรื่องการวางแผน พี่ชายของข้าอยู่ที่ต้าเยี่ยนยังพอใช้งานได้ ทว่า ความสามารถของเขาไม่มากพอที่จะเดินทางไปยังต้าโจว ตอนนี้คนที่พอจะพึ่งพาได้มีเพียงเจ้าเท่านั้น!”
“พี่สะใภ้ ในเมื่ออาลี่ล่งหวังหานปิงไปยังต้าโจวแล้วแสดงว่าหวังหานปิงคงมีความสามารถอยู่พอตัว…”
“อาเหยี่ยนคือเสาหลักสำคัญของต้าเยี่ยนของพวกเรา เราจะฝากความหวังของแคว้นไว้ที่…ที่คนนอกได้อย่างไรกัน!”
ไทเฮาผุดลุกขึ้นยืนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนด้วยความร้อนใจ
“พี่สะใภ้รู้ดีว่าเจ้าลำบากใจ ทว่า เจ้าจากแคว้นบ้านเกิดไปตั้งแต่เล็ก เจ้าทำเพื่อต้าเยี่ยนมาตั้งมากมาย ตอนนี้ต้าเยี่ยนกำลังตกอยู่ในวิกฤตร้ายแรง พี่อยากให้เจ้าเห็นแก่แผ่นดินที่เสด็จแม่และเสด็จพี่ของเจ้าเคยปกป้องด้วยชีวิตเดินทางไปยังต้าโจวสักครั้งเถิดนะ!”
ไทเฮากล่าวจบจึงโค้งคำนับเซียวหรงเหยี่ยนหนึ่งที
เซียวหรงเหยี่ยนรีบลุกขึ้นยืนประคองร่างของไทเฮา
“พี่สะใภ้ ไม่ใช่ว่าอาเหยี่ยนไม่ยอมไป ทว่า อาเหยี่ยนกลัวว่าเรื่องจะแย่ลงกว่าเดิมขอรับ”
“อาเหยี่ยนไปกล่าววาจาโน้มน้าวจักรพรรดินีแห่งต้าโจว สตรีล้วนชอบฟังคำอ้อนวอนอยู่แล้ว ที่สำคัญพวกเจ้ามีลูกด้วยกันแล้ว!”
ไทเฮาเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนอย่างขอร้อง
“ถือเสียว่าให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทำเพื่อลูกทั้งสองของนาง ขอร้องอย่าให้นางทำลายแคว้นบ้านเกิดของบิดาแท้ๆ ของลูกของนาง การใช้วิธีสันติตัดสินผลแพ้ชนะของสองแคว้นล้วนเป็นผลดีต่อทั้งสองแคว้น ทหารจะได้ไม่ต้องสละชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ กองทัพไป๋ของพวกนางให้ความสำคัญกับชีวิตของทหารมากไม่ใช่หรืออย่างไร”
เซียวหรงเหยี่ยนเม้มปากแน่น ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น
“อาเหยี่ยน!”
ไทเฮากำแขนเซียวหรงเหยี่ยนแน่น
“เจ้าไปเพื่อต้าเยี่ยนสักครั้งได้หรือไม่ เจ้าคือผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน มีเพียงเจ้าไปต้าโจวจึงจะเห็นความสำคัญของเรื่องนี้”
เยว่สือที่ยืนอยู่หน้าประตูกำหมัดแน่น ให้นายท่านเดินทางไปต้าโจวก็สมใจนายท่านของเขาเลยน่ะสิ!
ตั้งแต่ที่คุณหนูใหญ่ไป๋คลอดลูกออกมาก่อนกำหนด เจ้านายของเขาเป็นห่วงคุณหนูใหญ่และคุณหนูน้อยทั้งสองคนมาก เจ้านายแทบอยากติดปีกบินไปหาคุณหนูใหญ่และลูกๆ อยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมีคนหยิบยื่นโอกาสที่เจ้านายอยากได้มาให้เจ้านายของเขาพอดี
เยว่สือลอบดีใจอยู่ในใจ เขาหยิกต้นขาของตัวเองไม่ให้แสดงสีหน้าส่อพิรุธใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
เมื่อไม่เห็นเซียวหรงเหยี่ยนตอบรับน้ำตาของไทเฮาจึงไหลออกมาอีกครั้ง นางเอ่ยถามเสียงดัง
“อาเหยี่ยน เจ้าต้องให้พี่คุกเข่าขอร้องเจ้าหรือไม่ หรือเจ้าอยากให้อาลี่เดินทางไปต้าโจวด้วยตัวเองกัน!”