ตอนที่ 1301 กล้าหาญมาก
มู่หรงเหยี่ยนมองออกว่าหยกสองชิ้นนั้นมาจากหยกก้อนเดียวกัน เป็นหยกเนื้อดีมาก
“หลายปีก่อนเสด็จพ่อมอบหยกสองชิ้นนี้ให้ข้า ได้ยินว่ามันถูกขุดพบในดิน หยกสองชิ้นนี้ถูกขุดพบพร้อมกัน เดิมทีมันมาจากหยกก้อนเดียวกัน ทว่า ลวดลายของมันไม่เหมือนกัน ก้อนหนึ่งราวกับมังกรบิน อีกก้อนเป็นลายคล้ายหงส์บินขอรับ” ใบหน้าของมู่หรงลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินว่าพี่สาวไป๋…ไม่ใช่สิ ท่านอาสะใภ้เก้าคลอดลูกแฝดชายหญิงออกมาข้าจึงนึกถึงหยกสองชิ้นนี้ขึ้นมาได้ ข้าจึงส่งให้คนทำป้ายหยกมังกรหงส์และตราประทับมังกรหงส์ขึ้นมาอย่างละคู่เพื่อมอบให้น้องชายและน้องสาวขอรับ”
เมื่อเอ่ยถึงลูกทั้งสองคนใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนอ่อนโยนลงทันที เขาปิดกล่องไม้ จากนั้นเอื้อมมือไปลูบศีรษะของมู่หรงลี่อย่างแผ่วเบาพลางกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “ได้ อาจะนำไปให้น้องชายและน้องสาวของเจ้า อาจะบอกเขาว่าพี่ชายของพวกเขาเป็นคนมอบให้”
“ขอรับ” มู่หรงลี่ยิ้มราวกับเด็กน้อย
จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเดินออกมาจากจวนของผู้สำเร็จราชการพร้อมกับอ๋องเก้า เขาเดินทางไปส่งผู้สำเร็จราชการที่นอกเมืองด้วยตัวเอง แสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับผู้สำเร็จราชการมากเพียงใด
เหล่าขุนนางรออยู่ที่นอกเมืองนานแล้ว เมื่อเห็นจักรพรรดิของต้าเยี่ยนเดินทางออกมาจากเมืองหลวงพร้อมกับผู้สำเร็จราชการจึงรีบคุกเข่าทำความเคารพทันที
มู่หรงลี่เดินลงจากรถม้าพร้อมกับเซียวหรงเหยี่ยน เขาเดินไปส่งเซียวหรงเหยี่ยนที่รถม้าพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ลำบากท่านอาเก้าเดินทางไปต้าโจวเพื่อต้าเยี่ยนแล้ว อาลี่รู้สึกผิดมาก ความจริงอาลี่ควรเดินทางไปแสดงความจริงใจกับต้าโจวด้วยตัวเอง”
“ฝ่าบาทคือจักรพรรดิของต้าเยี่ยน ฝ่าบาทควรประทับเป็นขวัญกำลังใจของทุกคนอยู่ที่วังหลวง หากเจรจาไม่สำเร็จและต้าโจวยืนกรานจะทำสงครามให้ได้ ฝ่าบาทอาจไม่ปลอดภัย กระหม่อมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองหลานชายตัวน้อยของตัวเอง จากนั้นก้มหน้ากระซิบข้างหูมู่หรงลี่ “อาไม่อยู่ หากเจ้าตัดสินใจเรื่องในราชสำนักไม่ได้จงปรึกษากับเหล่าขุนนางให้พวกเขาช่วยเสนอความเห็น ทว่า เจ้าต้องเป็นคนตัดสินใจคนสุดท้าย! อาลี่ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าจะแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมาแล้ว”
มู่หรงลี่ได้ยินคำนี้ขอบตาจึงร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เดิมทีท่านอาเก้าจะซ่อนเขาไว้ทางด้านหลังและรับความสกปรกทั้งหมดไว้เอง ท่านอาเก้าอยากให้เขากลายเป็นจักรพรรดิที่มีคุณธรรมและสูงส่งของต้าเยี่ยนเท่านั้น
ทว่า ตอนนี้ต้าเยี่ยนตัดสินใจรวมเป็นหนึ่งกับต้าโจว เขาต้องแสดงความสามารถของตัวเองออกมาให้เหล่าขุนนางมั่นใจในตัวเขาและต้าเยี่ยนให้ได้!
“ข้ากำชับขุนนางฝ่ายผู้สำเร็จราชการแล้วว่าให้เชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดิอย่างเจ้า เจ้าตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ ข้าพาลุงจงสิงเสี่ยวของเจ้าไปแล้ว เจ้าสามารถใช้งานและควบคุมขุนนางฝ่ายไทเฮาได้อย่างเต็มที่!” เซียวหรงเหยี่ยนบีบไหล่มู่หรงลี่แน่น “อารู้ว่าเจ้าทำได้!”
มู่หรงลี่พยักหน้าทั้งน้ำตา “ท่านอาเก้าไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ อาลี่จะไม่ทำให้ท่านอาเก้าผิดหวังขอรับ”
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า เขาไม่มีสิ่งใดต้องเป็นห่วงในตัวมู่หรงลี่ แม้มู่หรงลี่จะยังเด็ก ทว่า สติปัญญาของเขาสูงกว่าอายุของเขามาก
“ดูแลอาลี่ให้ดี” เซียวหรงเหยี่ยนหันไปกำชับมู่หรงผิง
มู่หรงผิงกำหมัดขึ้น “ท่านอาเก้าไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ อาผิงจะคุ้มครองฝ่าบาทด้วยชีวิตขอรับ”
มองส่งเซียวหรงเหยี่ยนเดินขึ้นไปบนรถม้า มู่หรงลี่หันหน้าไปใช้แขนเสื้อซับน้ำตา แม้เขาจะรู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้ของท่านอาเก้าไม่มีอันตราย ทว่า เขาก็อดเป็นห่วงท่านอาเก้าไม่ได้อยู่ดี
เมื่อรถม้าของเซียวหรงเหยี่ยนและเหล่าขุนนางจากไปไกลแล้ว มู่หรงผิงจึงเอ่ยเตือนมู่หรงลี่ “ฝ่าบาท ท่านอ๋องเก้าเสด็จจากไปไกลแล้ว พวกเรารีบกลับวังหลวงเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงลี่พยักหน้า “ได้”
ไป๋ชิงเหยียนปรากฏตัวในที่ประชุมออกว่าราชการตอนเช้าในวันถัดมาหลังจากรถม้าของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเดินทางมาถึงเมืองหลวง ถือเป็นการทำลายข่าวลือที่หญิงสาวเดินทางไปยังซีเหลียงทั้งๆ ที่เพิ่งคลอดลูกออกมาได้ไม่นาน
ข่าวที่ยึดเมืองอวิ๋นจิงได้ถูกส่งมายังเมืองหลวงของต้าโจวแล้ว ทว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเมืองอวิ๋นจิงตกเป็นของต้าโจวหรือต้าเยี่ยนกันแน่ ทุกคนรู้เพียงว่าตอนนี้กองทัพของสองแคว้นต่างตั้งทัพอยู่ในเมืองอวิ๋นจิง
ตอนนี้ขุนนางส่วนใหญ่ในราชสำนักคิดว่าไป๋ชิงเหยียนทำถูกแล้วที่ยกทัพไปประชิดชายแดนต้าเยี่ยนเพราะต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวจนคุณชายห้าถูกซีเหลียงจับไปเป็นตัวประกัน
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนปรากฏตัวในราชสำนักขุนนางใหญ่คนหนึ่งจึงเสนอไป๋ชิงเหยียนว่าหากหญิงสาวยังไม่ต้องการทำสงครามกับต้าเยี่ยนในตอนนี้ สามารถส่งทูตของต้าโจวไปเจรจาขอให้ต้าเยี่ยนถอยทัพออกจากเมืองอวิ๋นจิงได้
หากไป๋ชิงเหยียนตัดสินใจทำสงครามกับต้าเยี่ยนต่อทันที เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องกักกองทัพหลักของต้าเยี่ยนให้อยู่ในซีเหลียงต่อไป จากนั้นยกทัพบุกไปจับตัวไทเฮาและจักรพรรดิต้าเยี่ยนที่เมืองหลวงของต้าเยี่ยนเพื่อยุติสงครามครั้งนี้โดยเร็วที่สุด
ไป๋ชิงเหยียนซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์กล่าวยิ้มๆ “ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบร้อนตัดสินว่าจะทำสงครามหรือไม่ ฝู่กั๋วจวินไป๋จิ่นซิ่ว เกาอี้จวินไป๋จิ่นจื้อ ไป๋ชิงฉีและแม่ทัพของกองทัพไป๋ยังอยู่ที่ซีเหลียง พวกเขาต้องไม่มีทางให้กองทัพหลักของต้าเยี่ยนหนีกลับไปต้าเยี่ยนแน่นอน เราให้เว่ยจงออกเดินทางไปยังซีเหลียงล่วงหน้าก่อนเรา เว่ยจงพบกับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่ซีเหลียง อ๋องเก้าบอกว่าจะให้คำตอบเรื่องที่ต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวกับพวกเราภายในเดือนครึ่ง คำนวณดูจากเวลาแล้วพวกเรารออีกสิบกว่าวันเท่านั้น”
ใจของหลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคงและต่งซือถูกระจ่างแจ้งร่าวกับกระจก พวกเขารู้ว่าจักรพรรดินีของพวกเขากำลังรอให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเดินทางมาเสนอเรื่องการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองเพื่อรวมสองแคว้นให้เป็นหนึ่งกับต้าโจวอยู่
“ที่สำคัญอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนรับปากแล้วว่าเมืองอวิ๋นจิงจะตกเป็นของต้าโจว ที่ตอนนี้กองทัพต้าเยี่ยนยังอยู่ที่เมืองอวิ๋นจิงเป็นเพียงความต้องการของต้าโจวเท่านั้น” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน นางต้องทำให้ขุนนางต้าโจวรู้สึกว่านางมีแผนในใจแล้ว พวกเขาจะได้คลายกังวล
“ในเมื่อฝ่าบาททรงมีแผนการในพระทัยแล้ว พวกกระหม่อมก็จะทำตามพระประสงค์พ่ะย่ะค่ะ ทว่า พวกเราควรเตรียมพร้อมก่อนเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” หลู่ไท่เว่ยโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวขึ้นยิ้มๆ “พวกเราควรตบรางวัลให้แก่ขุนนางที่มีความดีความชอบในการทำลายล้างแคว้นซีเหลียงในครั้งนี้ทุกคน ถือเป็นการปลุกขวัญและกำลังใจให้ทหารต้าโจวของพวกเราพ่ะย่ะค่ะ!”
หลู่ไท่เว่ยกล่าวจบจึงชูฎีกาขึ้นเหนือศีรษะ “นี่คือรางวัลที่กระหม่อม เสิ่นซือคงและต่งซือถูกปรึกษากันแล้ว ฝ่าบาทได้โปรดทอดพระเนตรด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หลู่ไท่เว่ยทำงานตรงใจไป๋ชิงเหยียนทุกครั้ง ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ตบรางวัลให้พวกไป๋ชิงฉีเพราะต้องการรอให้พวกเขาทำลายล้างซีเหลียงให้สำเร็จก่อน นางจะได้ตบรางวัลใหญ่ให้พวกเขาทีเดียว
แน่นอนว่านางจะตบรางวัลให้ทหารและแม่ทัพทุกคนที่มีความดีความชอบในสงครามทำลายซีเหลียงในครั้งนี้
ยกตัวอย่างเช่นพวกของลุงเสิ่น
ไป๋ชิงอวี๋เอ่ยถึงคนอีกหนึ่งคนในจดหมายที่ให้เว่ยจงนำกลับมาให้ไป๋ชิงเหยียน…หวังชิวลู่
หวังชิวลู่คือแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในกองทัพหนานตู ครั้งนี้เขายินดีติดตามไป๋จิ่นซิ่วบุกเข้าไปในเมืองเป็นด่านหน้าอย่างกล้าหาญเป็นที่สุด