ตอนที่ 1302 ฆ่าปิดปาก
ไป๋ชิงเหยียนจำได้ว่าหวังชิวลู่รักและจงรักภักดีต่อหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟูมาก เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรักเป็นที่สุด
เมื่อเรื่องของต้าเยี่ยนและต้าโจวสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เมื่อหวังชิวลู่กลับมาเมืองหลวงไป๋ชิงเหยียนจะบอกตำแหน่งหลุมศพของหลิ่วรั่วฟูกับชายหนุ่มเป็นรางวัลปลอบใจเขา
ไป๋ชิงเหยียนเตรียมบอกให้ทุกคนเลิกประชุมได้ก็เห็นผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนบิดาของซือหม่าผิงก้าวออกมาจากกลุ่มคน
ซือหม่าเยี่ยนฟ้องความผิดของผู้อาวุโสในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ลงในฎีกาหลายข้อ ซือหม้าเยี่ยนฟ้องข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดกับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์หลู่จิ้น เขากล่าวว่าคนในกรมราชทัณฑ์และกรมการคลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสับเปลี่ยนตัวคนถูกเนรเทศ กล่าวว่ากรมการคลังออกทะเบียนราษฎร์ปลอมให้แก่คนเหล่านั้น พร้อมทั้งแสดงหลักฐานที่หามาได้ให้ไป๋ชิงเหยียน
การถวายฎีกาอย่างกะทันหันของซือหม่าเยี่ยนทำให้หลู่จิ้นและเว่ยปู้จิ้งต่างรับมือไม่ทัน ทั้งสองสบตากันด้วยความรู้สึกงุนงง จากนั้นมองไปทางซือหม่าเยี่ยนด้วยความรู้สึกสนใจ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อยราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งใดผิด
ขุนนางคนอื่นเริ่มประมวลผลความคิดในใจ ผู้ช่วยผู้ตรวจการยื่นฎีกาฟ้องร้องอย่างกะทันหันโดยพวกเขาไม่ได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแม้แต่น้อย เขากล้าฟ้องร้องเสนาบดีกรมราชทัณฑ์หลู่จิ้นและกรมการคลัง แม้เขาไม่ได้ระบุนามเว่ยปู้จิ้ง ทว่า เว่ยปู้จิ้งคือเสนาบดีกรมการคลัง หากกรมการคลังเกิดปัญหาขึ้นเขาคงยากจะหนีพ้น
เว่ยจงก้าวไปรับฎีกามาจากมือของผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยน จากนั้นถอยกลับไปอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียนตามเดิม
ไป๋ชิงเหยียนรับฎีกามาเปิดอ่าน
หนึ่งในคดีการสับเปลี่ยนตัวผู้ถูกเนรเทศมีหลานชายสองคนของผู้อาวุโสของตระกูลบรรพบุรุษไป๋รวมอยู่ด้วย
คนแรกที่ถูกเนรเทศคือไป๋ชิงสือหลานชายของผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลบรรพบุรุษไป๋
ไป๋ชิงสืบพบกับอดีตบ่าวรับใช้คู่หนึ่งของตระกูลไป๋ที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาที่เมืองหลวง ทั้งสองคนเดินทางจากซั่วหยางมายังเมืองหลวงหลังจากไถ่ตัวเป็นอิสระ เมื่อแต่งงานกันจึงเปิดร้ายขายเกี๊ยวน้ำอยู่หน้าทะเลสาบแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
สตรีผู้นั้นเคยถูกไป๋ชิงสือขืนใจหลายครั้ง ต่อมาถูกมารดาของไป๋ชิงสือขายให้พ่อค้าทาสในข้อห้ายั่วยวนเจ้านาย สามีคนปัจจุบันของสตรีผู้นั้นเป็นคนไถ่ตัวนางออกมาจากคนค้าทาส จากนั้นเก็บเงินจนไถ่ตัวเองออกมาได้สำเร็จ ต่อมาพวกเขาทั้งคู่จึงย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวง
พวกเขาตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปยังเมืองซั่วหยางอีก ทว่า พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าจะได้พบไป๋ชิงสือที่เมืองหลวงเช่นนี้
ไป๋ชิงสือข่มขืนสตรีผู้นั้นอีกครั้งโดยถือว่าตัวเองคือเชื้อพระวงศ์ สามีของสตรีผู้นั้นกลับมาเห็นจึงเข้าไปต่อสู้กับไป๋ชิงสือ ไม่นานสามีของสตรีผู้นั้นก็เสียชีวิตลงเพราะได้รับบาดเจ็บหนัก ไป๋ชิงสือถูกตัดสินโทษเนรเทศเพราะเรื่องนี้
อีกคนคือไป๋ชิงฝานหลานชายของผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลบรรพบุรุษไป๋ ไม่รู้ว่าไป๋ชิงฝานไปเกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินน้องสาวของฉินหล่างได้อย่างไร เขาใช้นักโทษคนอื่นเปลี่ยนตัวคุณหนูรองตระกูลฉินที่ถูกตัดสินเนรเทศจากโทษที่สมรู้ร่วมคิดกับมือสังหารก่อความวุ่นวายในงานแข่งขันว่าวที่ผ่านมา จากนั้นให้กรมการคลังทำทะเบียนราษฎร์ปลอมให้แก่คุณหนูรองฉินแล้วส่งตัวนางไปซ่อนตัวที่เมืองไป๋ว่อ
ผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนรู้เรื่องนี้เพราะบังเอิญพบกับคุณหนูรองตระกูลฉินตอนนางกลับมายังเมืองหลวง เมื่อสืบต่อจึงพบว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินเสนอตัวเองให้ไป๋ชิงฟาน ทว่า นางไม่ได้แต่งงานหรือกลายเป็นอนุของไป๋ชิงฟาน ทำเพียงนัดพบกันเป็นเวลาเท่านั้น
แน่นอนว่าซือหม่าเยี่ยนไม่ได้เขียนเรื่องนี้ลงไปในฎีกา
ไป๋ชิงเหยียนอ่านฎีกาจบจึงเงยหน้ามองผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างนอบน้อมแวบหนึ่ง
“ผู้ช่วยซือหม่าช่างจงรักภักดีต่อเราจริงๆ หากเราจำไม่ผิดคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินคือหลานสาวของผู้ช่วยซือหม่าไม่ใช่หรือ เราภูมิใจมากที่ผู้ช่วยซือหม่าเห็นแก่ความยุติธรรมมากกว่าความสัมพันธ์ในครอบครัว”
ซือหม่าเยี่ยนรีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้น
“เป็นหน้าที่ของกระหม่อมที่ต้องจงรักภักดีต่อฝ่าบาท หากการกระทำตามหน้าที่ของกระหม่อมทำให้ฝ่าบาททรงภูมิใจแสดงว่าก่อนหน้านี้กระหม่อมยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ พลางกล่าวขึ้น “ใต้เท้าหลู่…”
“พ่ะย่ะค่ะ!” หลู่จิ้นก้าวไปด้านหน้า
“เจ้าคือเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เดิมทีเจ้าควรเป็นคนรายงานคดีนี้!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
“ทว่า ในเมื่อผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนฟ้องใต้เท้าหลู่เช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา ใต้เท้าหลู่จงหยุดพักงานในกรมสักสองสามวันก่อน เรามีเรื่องอื่นจะรบกวนให้ใต้เท้าหลู่ทำพอดี หากคดีนี้ต้องการความร่วมมือจากใต้เท้าหลู่ ใต้เท้าหลู่จงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ด้วย!”
คำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนทำให้ซือหม่าเยี่ยนเริ่มกังวลขึ้นมา ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้แสดงว่านางเชื่อใจในตัวหลู่จิ้น เขาฟ้องร้องหลู่จิ้นเช่นนี้จะทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัยในตัวเขาหรือไม่นะ หลังจากนี้หลู่จิ้นจะเล่นงานเขาหรือไม่นะ
สมองของซือหม่าเยี่ยนประมวลผลอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น
“พ่ะย่ะค่ะ!” หลู่จิ้นรับคำ
“ผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนลุกขึ้นเถิด” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางศาลต้าหลี่ “เรื่องนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นคนตรวจสอบก็แล้วกัน!”
ต้าหลี่ซื่อชิงรีบก้าวออกมารับคำ
ไป๋ชิงเหยียนมองซือหม่าเยี่ยนแล้วนึกถึงซือหม่ารั่วตานที่มีความดีความชอบในการทำลายด่านเทียนเหมินขึ้นมาได้
“ได้ยินว่าบุตรสาวของใต้เท้าซือหม่าใกล้จะแต่งงานกับบัณฑิตจอหงวนปีนี้ของเราแล้วใช่หรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนถามยิ้มๆ
ผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนที่เพิ่งกลับเข้าไปในแถวก้าวออกมาอีกครั้ง เขาคุกเข่าก้มศีรษะแนบพื้น นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าวขึ้น
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงใส่พระทัยพ่ะย่ะค่ะ เซวียนเหรินอี้กับ…บุตรสาวบุญธรรมของกระหม่อมหมั้นหมายกันตั้งแต่เล็ก ทว่า บิดาของเซวียเหรินอี้ป่วยหนัก เซวียเหรินอี้จึงต้องอยู่ดูแลบิดาก่อน ต่อมาเขาจึงไปเป็นบัณฑิตในสำนักกั๋วจือเจียน ตอนนั้นสองตระกูลตกลงกันไว้ว่าไม่ว่าเซวียนเหรินอี้จะสอบติดหรือไม่ก็จะให้พวกเขาแต่งงานกันในเดือนห้าพ่ะย่ะค่ะ”
บุตรสาวบุญธรรมอย่างนั้นหรือ! ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ
เมื่อไป๋ชิงเหยียนเห็นว่าซือหม่าเยี่ยนกล่าวประโยคนี้ออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก จากที่นางเคยเชื่อซือหม่ารั่วตานเพียงเจ็ดส่วน ตอนนี้นางเชื่อซือหม่ารั่วตานเต็มร้อยแล้ว
“เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับใต้เท้าซือหม่าที่จะได้ลูกเขยที่มากความสามารถด้วย!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทมากพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าเยี่ยนกล่าวอย่างคนมีชนักติดหลัง ความจริงการแต่งงานนี้ไม่ใช่ของบุตรสาวอนุของเขา ทว่า ในเมื่อฝ่าบาทถามเขาก็ต้องฝืนตอบออกไป เขายิ่งรู้สึกว่ามารดาทำเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง
เมื่อมารดาของเขารู้ว่าเซวียเหรินอี้เป็นบัณฑิตที่โดนเด่นนางจึงนึกขึ้นมาได้ว่าซือหม่ารั่วตานบุตรสาวของพี่ชายบุญธรรมของเขาหมั้นหมายอยู่กับเซวียเหรินอี้ นางกลัวว่าเมื่อซือหม่ารั่วตานจะได้แต่งงานกับบัณฑิตอนาคตไกลอย่างเซวียเหรินอี้แล้วจะกลับมาแก้แค้นตระกูลซือหม่าที่ไม่ยอมช่วยเหลือบิดาของนางในตอนนั้น มารดาของเขาจึงแอบลับตัวซือหม่ารั่วตานกลับมาลับหลังเขา จากนั้นให้บุตรสาวอนุของเขาสวมรอยเป็นซือหม่ารั่วตานนำของแทนใจไปแลกเปลี่ยนกับเซวียเหรินอี้แทน
ตอนที่ซือหม่าเยี่ยนรับรู้เรื่องราวทั้งหมดและเตรียมอาลาะวาดจึงรู้ว่าภรรยาของพี่ชายบุญธรรมของเขาเสียชีวิตเพราะถูกมารดาของเขาบีบไปแล้ว ส่วนซือหม่ารั่วตานก็ถูกมารดาฆ่าปิดปากไปแล้วเช่นกัน