สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1310 ทำตามอำเภอใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1310 ทำตามอำเภอใจ

ทว่า ตอนนี้จู่ๆ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาแล้ว

ซือหม่าเยี่ยนไม่กล้ากล่าวว่าตัวเองเป็นคนมีแผนการลึกซึ้ง ทว่า อย่างน้อยเขาก็อายุมากกว่าไป๋ชิงเหยียน กระทั่งอายุมากกว่าไป๋ฉีซานด้วยซ้ำ เขาคิดว่าตัวเองปกปิดได้ดีมาโดยตลอด ทว่า ตอนนี้เขากลับถูกคนที่เขาคิดว่าเป็นเพียงเด็กสาวมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

เป็นไปไม่ได้ที่ซือหม่าเยี่ยนจะไม่รู้สึกตกตะลึง ที่สำคัญตอนนี้เขาเริ่มเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาด้วยซ้ำ

“ดังนั้น…” ไป๋ชิงเหยียนกระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง

“ใต้เท้าซือหม่าอย่าคิดว่าเราจะเชื่อคำคนอื่นง่ายเพียงเพราะเราอายุน้อยเด็ดขาด ท่านสารภาพมาตามความจริงเถิด”

สมองของซือหม่าเยี่ยนขาวโพลน เขารีบโขกศีรษะลงบนพื้นอย่างแรงหลายครั้งติด

“กระหม่อมมิบังอาจ ต่อให้ตายกระหม่อมก็มิกล้าหลอกลวงฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”

ความจริงซือหม่าเยี่ยนรู้ดีว่าในเมื่อไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญกับซือหม่ารั่วตาน เมื่อกลับมาเมืองหลวงหญิงสาวต้องสืบเรื่องนี้อย่างละเอียดแล้วแน่นอน ตอนนั้นเขาคิดว่ายังโชคดีที่เรื่องที่มารดาทำลงไปไม่มีผู้ใดล่วงรู้แล้ว ซือหม่ารั่วตานก็เสียชีวิตไปแล้วเขาจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้และส่งไม่ได้คนไปทำลายหลักฐานทั้งหมดทิ้ง

มารดาของเขาไม่ได้ยุ่งเรื่องในจวนมานานหลายปี นางไม่มีคนที่ใช้งานได้มากนัก คนที่ไปจัดการเรื่องนี้ต้องทิ้งหลักฐานไว้มากมายแน่นอน ส่วนตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนมีคนมากความสามารถไว้ใช้งานมากมาย

ซือหม่าเยี่ยนประมวลผลในสมองอย่างรวดเร็ว แผ่นหลังของเขาชาวาบ เขารีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาท ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของผู้ใดก็ล้วนเป็นคนของตระกูลซือหม่าทั้งสิ้น กระหม่อมคือประมุขของตระกูลซือหม่าก็ควรรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้เองพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทได้โปรดเห็นใจกระหม่อม ลงโทษกระหม่อมเพียงคนเดียวและไว้ชีวิตคนในตระกูลซือหม่าคนอื่นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

สิ้นเสียงของซือหม่าเยี่ยน เว่ยจงรีบเดินเข้าไปกระซิบข้างหูของไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาท ตอนนี้ซือหม่าเหล่าไท่จวินมารดาของผู้ช่วยผู้ตรวจการซือหม่าอยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ นางไปรับผิดเรื่องทำร้ายเซียงเสียจวิ้นจู่ที่ศาลต้าหลี่ด้วยตัวเอง ตอนนี้คำสารภาพของนางยังอยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนประหลาดใจเล็กน้อย ทว่า เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าสื่อว่านางรับรู้เรื่องนี้แล้ว จากนั้นหันไปมองซือหม่าเยี่ยนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น นางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ

“ใต้เท้าซือหม่า ซือหม่าเหล่าไท่จวินเดินทางไปรับสารภาพความผิดที่ทำร้ายเซียงเสียจวิ้นจู่ที่ศาลต้าหลี่พร้อมคำสารภาพผิดแล้ว”

ซือหม่าเยี่ยนรู้ว่ามารดาคงกลัวว่าการที่เขาเดินทางมารับผิดกับฝ่าบาทที่วังหลวงจะทำให้ตระกูลซือหม่าเดือดร้อนทั้งตระกูลดังนั้นนางจึงเดินทางไปรับผิดที่ศาลต้าหลี่เอง ซือหม่าเยี่ยนที่เตรียมรับผิดแทนมารดารู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทว่า จู่ๆ เขาก็น้ำตาคลอขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด

“ฝ่าบาท มารดาของกระหม่อมอายุมากแล้ว กระหม่อมยินดีรับผิดทั้งหมดแทนนาง กระหม่อมยินดีลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับโทษแทนมารดาพ่ะย่ะค่ะ”

ซือหม่าเยี่ยนก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้งด้วยความจริงใจ

“ใต้เท้าซือหม่า บ้านเมืองมีกฎหมาย ไม่ใช่ว่าท่านอยากจะรับผิดแทนมารดาแล้วจะทำได้ ชีวิตของมารดาของท่านสำคัญแล้วชีวิตมารดาของเซียงเสียจวิ้นจู่และชีวิตของนางไม่สำคัญอย่างนั้นหรือ”

ไป๋ชิงเหยียนชะงักคำกล่าวไปชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยต่อเสียงอ่อนโยนลงกว่าเดิม

“ใต้เท้าซือหม่า ข้าให้ความสำคัญกับซือหม่าผิงมาก…”

ซือหม่าเยี่ยนได้ยินประโยคนี้จึงกำหมัดที่อยู่ในแขนเสื้อแน่น เขาเข้าใจว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการจะสื่อสิ่งใด

“ซือหม่าผิงเป็นคนรอบคอบเช่นเดียวกับใต้เท้าซือหม่า ความรอบคอบของเขาช่วยชีวิตทหารในสนามรบไว้ได้มากมาย”

ไป๋ชิงเหยียนเห็นซือหม่าเยี่ยนหยัดแผ่นหลังตรงจึงกล่าวต่อ

“กฎหมายของแคว้นจะถูกละเมิดไม่ได้ หากท่านอยากให้หนทางข้างหน้าของซือหม่าผิงเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างน้อยบิดาของซือหม่าผิงจะก่อความวุ่นวายไม่ได้เด็ดขาด ท่านเข้าใจความหมายของเราใช่หรือไม่”

แผ่นหลังของซือหม่าเยี่ยนแข็งทื่อ ลำคอของเขาจุกแน่นราวกับมีสิ่งใดมาอุดอยู่ เขาทำได้เพียงก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนอย่างแรงเพื่อสื่อว่าเขาเข้าใจ

ไป๋ชิงเหยียนเตือนสติซือหม่าเยี่ยนเพราะซือหม่าผิง เพราะนางยังต้องการใช้ซือหม่าเยี่ยนอยู่

ซือหม่าเยี่ยนเป็นคนมีความสามารถ ตอนนี้ต้าโจวต้องการคนมีความสามารถไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ตาม

นางกล่าวสิ่งที่ควรกล่าวออกไปหมดแล้ว ซือหม่าเยี่ยนเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าเขารู้ดีแล้วว่าจะยอมรับใช้นางหรือไม่

ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์ละเมิดกฎหมายของแคว้นเด็ดขาด!

“ในเมื่อเข้าใจแล้วก็ไปเถิด…”

ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยน้ำชาขึ้นอีกครั้ง

“ท่านสามารถแสดงความกตัญญูของท่านได้อย่างเต็มที่ ทว่า ห้ามเข้ามาก้าวก่ายเรื่องนี้เด็ดขาด เหมือนกับที่เราไม่เข้าไปก้าวก่ายตอนคนตระกูลบรรพบุรุษไป๋ทำผิด ปล่อยให้กฎหมายเป็นคนลงโทษ จะทำตามอำเภอใจของตัวเองไม่ได้เด็ดขาด!”

ซือหม่าเยี่ยนก้มศีรษะคำนับทั้งน้ำตา จากนั้นเดินออกไปจากตำหนัก

ซือหม่าเยี่ยนเดินออกมาจากตำหนักใหญ่ เขาเงยหน้ามองหลังคากระเบื้องที่สะท้อนแสงแดดร้อนระอุ ทว่า ใจของเขากลับเย็นยะเยือก ปล่อยให้กฎหมายเป็นคนลงโทษอย่างนั้นหรือ…

ซือหม่าเยี่ยนผู้เคยอยู่ในราชสำนักที่ขอเพียงมีอำนาจก็สามารถช่วยเหลือได้แม้กระทั่งคนที่ต้องคดีสังหาร ผู้ที่เคยช่วยเหลือคนในตระกูลบบรรพบุรุษที่ทำผิดมหันต์ได้มากมายแต่กลับช่วยมารดาของตัวเองออกมาไม่ได้จำทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน

หากเขาซึ่งเป็นถึงผู้ช่วยผู้ตรวจการแผ่นดินไม่สามารถช่วยเหลือแม้แต่มารดาของตัวเองได้ เขาจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเพื่ออันใดกัน

ทว่า เมื่อซือหม่าเยี่ยนนึกถึงบุตรชายคนเล็กที่ฉลาดมาตั้งแต่เด็ก เมื่อนึกถึงคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน ใจของเขาร้อนราวกับโดนไฟแผดเผา

ตามกฎหมายแล้วมารดาของเขาบีบจนมารดาของซือหม่ารั่วตานฆ่าตัวตาย ทั้งยังส่งคนไปสังหารซือหม่ารั่วตาน ถึงแม้จะไม่สำเร็จ ทว่า นางคงหนีไม่พ้นโดนเนรเทศแน่นอน

มารดาที่อายุมากแล้วของเขาจะทนได้อย่างไรกัน!

ซือหม่าเยี่ยนหลับตาลง เขากำหมัดที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น เขานึกถึงวิธีที่ดีสำหรับสองฝ่ายออกแล้ว วิธีที่จะไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของซือหม่าผิงและอาจช่วยสนับสนุนอนาคตของบุตรชายทั้งสามของเขาอีกด้วย

เมื่อคิดได้ดังนี้ซือหม่าเยี่ยนจึงรีบเดินลงจากบันไดไปทันที

ชุนเถายกขนมมาให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวเสียงเบา “คุณหนูใหญ่จะไปหาองค์ชายกับองค์หญิงน้อยอยู่หรือไม่เจ้าคะ ข้าได้ยินว่าวันนี้ต่งเหล่าไท่จวินเข้าวังมาด้วยเจ้าค่ะ”

ซือหม่าเยี่ยนทำนางเสียเวลาไปพอสมควร ตอนแรกไป๋ชิงเหยียนตั้งใจจะตรวจฎีกาต่อ ทว่า เมื่อได้ยินว่าท่านยายเข้ามาในวังนางจึงลุกเดินไปยังตำหนักของมารดาทันที

ตำหนักสือหนิง

เมื่อต่งเหล่าไท่จวินเข้ามาในตำหนักจึงถอดชุดประจำยศของตัวเองออก จากนั้นเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาที่ต่งซื่อเตรียมไว้ให้ ต่งซื่อกล่าวว่าใส่ชุดหนักเช่นนั้นจะอุ้มเด็กทั้งสองไม่สะดวก นางอยากให้มารดารู้สึกสบายกว่าเดิม

ต่งเหล่าไท่จวินสลับอุ้มเด็กทั้งสองคนไม่ยอมรามือ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกรักใคร่

“ข้าเข้ามาหาเด็กสองคนนี้ทุกๆ สามถึงห้าวัน เหตุใดข้ายังไม่รู้สึกเบื่อเสียที เด็กนี่ตัวเล็กกว่าลูกของฉางหลานตอนเพิ่งคลอดออกมาเสียอีก ข้าเป็นห่วงเสียจริง! ทว่า ตอนนี้พวกเขาเริ่มจ้ำม่ำขึ้นแล้ว!”

ต่งเหล่าไท่จวินรักเด็กสองคนนี้มาก ไม่เจอเพียงวันเดียวก็คิดถึงแล้ว ทว่า ต่งเหล่าไท่จวินคำนึงถึงกฎในวังหลวงกลัวว่าผู้อื่นจะนินทาว่าตระกูลต่งซึ่งเป็นตระกูลฝั่งมารดาของไป๋ชิงเหยียนเข้ามาในวังทุกวันนางจึงไม่อยากเข้ามาบ่อยแม้ต่งซื่อกับไป๋ชิงเหยียนจะไม่ให้นางสนใจเรื่องเหล่านี้ก็ตาม

ต่งซื่อจึงส่งคนไปรับต่งเหล่าไท่จวินเข้าวังทุกๆ สามวันถึงห้าวันโดยอ้างว่านางคิดถึงมารดาของตัวเอง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท