ตอนที่ 1312 ความรัก
เมื่อหวังหานปิงเดินทางไปถึงโรงเตี๊ยมจึงบอกกับคณะทูตที่เดินทางมาพร้อมกับเขาว่าให้รอไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวพร้อมกับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน พวกเขาจะช่วยสืบข่าวให้อ๋องเก้าระหว่างพักผ่อนรออ๋องเก้าเดินทางมาถึง
ผิงอี้นำจดหมายที่อ๋องเก้าเขียนถึงจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไปหาคนที่จวนไป๋และบอกว่าต้องการพบจักรพรรดินีแห่งต้าโจวทันทีที่เข้ามาถึงเมืองหลวง
องครักษ์ไป๋เคยพบหน้าผิงอี้องครักษ์ข้างกายของจักรพรรดิมู่หรงอวี้แห่งต้าเยี่ยนมาก่อนจึงให้คนนำข่าวไปบอกเว่ยจงในวังหลวงว่าองครักษ์ข้างกายของจักรพรรดิองค์ก่อนของต้าเยี่ยนต้องการเข้าเฝ้าไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนที่นั่งตรวจฎีกาอยู่ใต้แสงไฟบิดเอวของตัวเองเล็กน้อย ชุนเถารีบเข้าไปนวดบ่าให้ไป๋ชิงเหยียน ชุนจือรีบเข้าไปนวดแขนซ้ายขวาให้ไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน
“คุณหนูใหญ่ค่อยตรวจต่อวันพรุ่งนี้เถิดเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูใหญ่ตรวจฎีกามาทั้งวันแล้ว ควรพักผ่อนได้แล้วเจ้าค่ะ…” ชุนจือเกลี้ยกล่อมเสียงเบา
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า นางสั่งให้เว่ยลอบพาคนเข้ามาพบนางในวังหลวง
หากนางจำไม่ผิดองครักษ์ข้างกายของมู่หรงอวี้ซึ่งไม่ค่อยยิ้มแย้มผู้นั้นถือเป็นคุ้นเคย แม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเหตุใดจึงอยากพบนางยามวิกาลเช่นนี้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าจดหมายของเซียวหรงเหยี่ยนต้องมาถึงแล้วแน่นอน
จดหมายของเซียวหรงเหยี่ยนที่เว่ยจงนำกลับมาจากอวิ๋นจิงคราวที่แล้วค่อนข้างกระชับ เขาบอกเพียงว่าเขาจะรับมืออย่างไรหลังกลับไปยังต้าเยี่ยน บอกกับไป๋ชิงเหยียนว่าเขาจะแสดงบท “สามีผู้ถูกทอดทิ้ง” ให้ดีที่สุดหากไป๋ชิงเหยียนพบหน้าทูตของต้าเยี่ยนไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเขา เขาเข้าใจเรื่องทุกอย่างดี
เซียวหรงเหยี่ยนยังกล่าวอีกว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ส่งเยว่สือไปส่งข่าวให้ไป๋ชิงเหยียนไม่ทันจนนางคลอดลูกก่อนกำหนด เขารู้สึกผิดมากที่ไม่ได้อยู่ข้างกายนางตอนนางคลอดลูก
ตอนนี้ยังต้องปล่อยให้ไป๋ชิงเหยียนลำบากเลี้ยงลูกสองคนตัวคนเดียวเอง เซียวหรงเหยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจมาก เขาจะรีบตัดสินผลแพ้ชนะของสองแคว้นให้ได้ภายในห้าปี จะทำให้สองแคว้นรวมเป็นหนึ่งภายในห้าปี หลังจากนั้นเขาจะคอยอยู่เคียงข้างไป๋ชิงเหยียนและลูกๆ ไม่จากไปที่ใดอีกแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนไม่สามารถเก็บจดหมายของเซียวหรงเหยี่ยนไว้ได้ ทว่า ทุกถ้อยคำของชายหนุ่มสลักลึกอยู่ในใจของไป๋ชิงเหยียนหมดแล้ว นางยังจดจำถ้อยคำเหล่านั้นได้ดีไม่เคยลืม
ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
“เด็กๆ หลับแล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามชุนเถา
ชุนเถานวดบ่าให้ไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยตอบ
“เรียนคุณหนูใหญ่ เมื่อครู่ถงหมัวมัวมาบอกว่าองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยหลับไปแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า หากท่านแม่ของนางไม่อนุญาตให้นางพาเด็กทั้งสองคนมาอยู่ด้วยตอนนางตรวจฎีกา ไป๋ชิงเหยียนคงพาลูกน้อยทั้งสองมาอยู่ข้างกายตัวเองตลอดเวลาแล้ว
“ส่งคนไปบอกถงหมัวมัวทีว่าคืนนี้ข้าจะไปนอนกับเด็กๆ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงกำชับต่อ “อย่าให้ท่านแม่รู้เรื่องเด็ดขาด”
“เจ้าค่ะ” ชุนเถาลอบยิ้มออกมา คุณหนูใหญ่มักแอบไปนอนเบียดกับคุณหนูทั้งสองแทบทุกคืน
“ถงหมัวมัวคงเดาได้ว่าคืนนี้คุณหนูใหญ่จะไปนอนกับคุณหนูทั้งสอง ตอนนี้คงเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว คุณหนูใหญ่ดื่มรังนกนมสดอุ่นๆ ก่อนเถิดเจ้าค่ะ ถงหมัวมัวเพิ่งให้คนนำมาให้เมื่อครู่นี้เองเจ้าค่ะ”
“ได้…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
ไป๋ชิงเหยียนดื่มรังนกนมสดหมด จากนั้นอ่านฎีกาต่ออีกครู่หนึ่งผิงอี้ก็มาถึงพอดี
ผิงอี้นำจดหมายของเซียวหรงเหยี่ยนมาให้อย่างที่นางคิดไว้จริงๆ
เดิมทีผิงอี้ไม่ได้นำจดหมายฉบับนี้มา ทว่า ต่อมาไทเฮาต้องการให้เซียวหรงเหยี่ยนเดินทางมายังต้าโจวด้วยตัวเอง ชายหนุ่มจึงให้คนนำจดหมายมาเปลี่ยนกับจดหมายฉบับเดิมของผิงอี้
ไป๋ชิงเหยียนแกะจดหมายพลางเอ่ยถาม “ครั้งนี้ผู้สำเร็จราชการจะเดินทางมาด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ”
ผิงอี้พยักหน้า
ชุนเถาที่เดินถือถ้วยชาเข้ามาในตำหนักเห็นไป๋ชิงเหยียนขยับจดหมายไปใกล้ตะเกียงจึงรีบปรับตะเกียงให้สว่างขึ้นกว่าเดิม จากนั้นขยับตะเกียงไปวางไว้กลางโต๊ะของไป๋ชิงเหยียนเพื่อให้แสงส่องสว่างไปทั่วโต๊ะ
เซียวหรงเหยี่ยนเขียนบรรยายความรู้สึกคิดถึงไป๋ชิงเหยียนและลูกทั้งสอง กล่าวว่าเขาเตรียมของขวัญไว้ให้ไป๋ชิงเหยียนและลูกๆ แล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนเขียนเต็มหน้ากระดาษ ทว่า เนื้อหาภายในจดหมายมีแต่ความรู้สึกลึกซึ้ง ความรักที่มีต่อไป๋ชิงเหยียนและความคิดถึงสามแม่ลูกเท่านั้น เขาเก็บเรื่องอื่นไว้กล่าวด้วยตัวเองหลังเดินทางมาถึงต้าโจว เขาบอกว่าเขากำชับให้ผิงอี้รีบนำจดหมายมามอบให้ถึงมือไป๋ชิงเหยียนทันทีที่มาถึงเมืองหลวง บอกให้หญิงสาวอย่าแสดงสีหน้าใดๆ ออกมาให้ผิงอี้สงสัยในตัวอ๋องเก้าอย่างเขาเป็นอันขาด มิเช่นนั้นวันหน้าผิงอี้อาจไม่ยอมทำงานให้เขาแล้ว
เซียหรงเหยี่ยนกำชับท้ายจดหมายว่าเขาจะแสดงบทบาท “สามีผู้ถูกทอดทิ้ง” ให้ดีที่สุด ให้ไป๋ชิงเหยียนแสดงบทบาทให้สมจริงว่าในจดหมายคือเรื่องสำคัญ
ชายหนุ่มให้ผิงอี้รีบร้อนนำจดหมายมาให้นางเช่นนี้ก็เพื่อต้องการส่งจดหมายรักให้นางอย่างนั้นหรือ
ไป๋ชิงเหยียนเดาว่าเซียวหรงเหยี่ยนคงคิดว่านางคงคิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงนางและลูกๆ เมื่อจดหมายมาถึงนางต้องรีบให้ผิงอี้มาพบนางแน่นอน
แววตาของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงเห็นผิงอี้ขมวดคิ้วมองมาที่นางด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
ไป๋ชิงเหยียนกระแอมออกมาเล็กน้อย นางพับจดหมายเก็บ จากนั้นกล่าวกับผิงอี้
“องครักษ์ผิงอี้ลำบากมาทั้งทางแล้ว ข้าจะให้คนพาเจ้าไปส่งที่โรงเตี๊ยม”
ผิงอี้ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเดินออกไปจากตำหนัก
ชุนจือยืนถือถาดอาหารสี่เหลี่ยมสีดำอยู่ด้านข้างไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นผิงอี้ทำความเคารพและเดินออกไปจากตำหนักด้วยท่าทีจริงจังจึงกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา
“คุณหนูใหญ่ องครักษ์ผู้นั้นเป็นใบ้หรือเจ้าคะ ข้ายังไม่ได้ยินเขากล่าวสิ่งใดออกมาสักคำตั้งแต่เข้ามาในตำหนัก”
“เขาแค่ไม่ชอบพูดต่างหาก เมื่อครู่ตอนเขาทำความเคารพคุณหนูใหญ่ก็ดูเป็นคนปกติดี”
ชุนเถากล่าวยิ้มๆ พลางคุกเข่าลงจัดฎีกาบนโต๊ะของไป๋ชิงเหยียนให้เรียบร้อย
“คุณหนูจะไปพักผ่อนเลยหรือไม่เจ้าคะ”
“ใช่” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นสอดจดหมายของเซียวหรงเหยียนเก็บไว้ในแขนเสื้อ
“พักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาจัดการกับฎีกาที่เหลือต่อ”
ตอนไป๋ชิงเหยียนไปถึงตำหนักของลูกน้อยทั้งสอง เด็กทั้งสองกำลังนอนหลับสนิท ไป๋ชิงเหยียนไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่ห้องข้างๆ จากนั้นล้มตัวลงนอนกอดลูกน้อยทั้งสอง หญิงสาวหอมแก้มลูกทั้งสองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน จากนั้นกล่าวเสียงเบา
“อีกไม่นานท่านพ่อของพวกเจ้าก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้วนะ!”
อีกไม่กี่ปีหลังจากสองแคว้นรวมเป็นหนึ่งสำเร็จ พวกนางจะไม่ต้องแยกจากกันไปที่ใดอีก
สามวันต่อมาคดีที่ซือหม่าเหล่าไท่จวินทำร้ายเซียงเสียจวิ้นจู่จึงได้ข้อสรุป ซือหม่าเหล่าไท่จวินบีบคั้นจนมารดาของเซียงเสียจวิ้นจู่ฆ่าตัวตาย อีกทั้งคิดสังหารคนเพื่อปิดปาก ได้ยินว่าบ่าวรับใช้ในเรือนซือหม่าออกมารับผิดเรื่องฆ่าปิดปากคนแทน เขากล่าวว่าเขาบีบให้ซือหม่าเหล่าไท่จวินสังหารคนเพื่อปิดปากเพราะต้องการเก็บเงินค่าปิดปากทั้งหมดไว้คนเดียว
ทว่า ไม่ว่าอย่างไรซือหม่าเหล่าไท่จวินก็ต้องถูกเนรเทศอยู่ดี
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนอ่านคดีนี้นางจึงรู้ทันทีว่าบ่าวรับใช้คนนั้นถูกบีบให้ออกมารับผิดแทนเจ้านาย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำในตระกูลของคนสูงศักดิ์