ตอนที่ 1323 สนใจ
ไป๋ชิงเหยียนไม่กล้ายกมือโอบรอบคอเซียวหรงเหยี่ยนเพราะกลัวแตะโดนแผลของชายหนุ่ม นางทำได้เพียงกำไม้สำลีในมือแน่นพลางวางมือลงบนบ่าของชายหนุ่ม ร่างของนางอ่อนระทวยไปทั้งร่าง
นี่คือการแสดงความรักระหว่างชายหญิงที่มีใจให้กัน ไป๋ชิงเหยียนจะปฏิเสธเซียวหรงเหยี่ยนได้อย่างไรกัน
ความรักที่มีให้เซียวหรงเหยี่ยนซึ่งซ่อนอยู่ในใจของไป๋ชิงเหยียนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สมองของหญิงสาวขาวโพลน ร่างทั้งร่างของนางถูกเซียวหรงเหยี่ยนโอบล้อมจนเหมือนล่องลอยอยู่ในภวังค์
สัมผัสใต้ฝ่ามือของไป๋ชิงเหยียนที่วางทาบหน้าอกของเซียวหรงเหยี่ยนอยู่คือใจที่เต้นรัวของชายหนุ่มและผิวกายที่ร้อนผ่าว ขนที่ท่อนแขนของนางลุกชันไปทั่ว
สัมผัสบริเวณริมฝีปากทำให้สติของไป๋ชิงเหยียนหลุดลอย แผ่นหลังของนางสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่
เซียวหรงเหยี่ยนเห็นไป๋ชิงเหยียนหลับตาแน่น ขนตาสั่นระริกด้วยความเขินอาย ชายหนุ่มจึงแนบกายที่ร้อนผ่าวของตัวเองลงบนร่างของหญิงสาว กดให้หญิงสาวนอนราบไปกับเตียง
แม่นมป้อนนมเด็กน้อยทั้งสองเสร็จแล้ว ชุนเถาและชุนจือเตรียมอุ้มเด็กทั้งสองกลับไปยังตำหนักใหญ่ให้นายท่านเขยได้มองให้หายคิดถึงก็เห็นเว่ยจงเดินเข้ามาขวางพวกนางไว้ก่อน
เว่ยจงกล่าวขึ้นยิ้มๆ “คุณหนูใหญ่กับนายท่านเขยไม่ได้พบกันนานแล้ว ตอนนี้คุณหนูทั้งสองดื่มนมจนหลับสนิทอีกรอบแล้ว พวกเจ้ารออยู่ที่ห้องนี้ก่อนเถิด รอให้คุณหนูใหญ่เรียกหาพวกเจ้าค่อยพาคุณหนูทั้งสองเข้าไป”
ชุนจือเชื่อฟังเว่ยจงมาโดยตลอด นางรีบพยักหน้า
ชุนเถาแต่งงานแล้ว นางไม่ใช่เด็กสาวที่ไม่รู้ประสีประสาอีกต่อไป เว่ยจงกล่าวแค่นี้นางก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างในทันที คุณหนูใหญ่และนายท่านเขยไม่ได้พบกันนานคงคิดถึงกันมาก พวกนางจะอุ้มคุณหนูทั้งสองไปรบกวนเวลาส่วนตัวของคนทั้งคู่ได้อย่างไรกัน ชุนเถารีบรับคำด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “เว่ยกงกงไม่ต้องห่วง พวกเราจะรออยู่ที่ห้องข้างๆ เจ้าค่ะ”
ชุนเถากล่าวด้วยใบหูที่แดงก่ำ
ชุนเถาเป็นคนสุขุมมาโดยตลอด เว่ยจงเห็นท่าทีของนางจึงรู้ว่านางเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว เขาพยักหน้าแล้วเดินออกไปเฝ้าหน้าตำหนักต่อ ไม่ให้คนเข้าไปรบกวนไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยน
ภายในตำหนัก
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ขาดสติเพราะการปลุกเร้าของเซียวหรงเหยี่ยน ขณะที่มือหนาของชายหนุ่มกำลังจะปลดสายผูกเอวของนางออกไป๋ชิงเหยียนรีบจับมือเซียวหรงเหยี่ยนไว้ทันที นางหันหน้าหนีไปอีกทางพลางกล่าวเสียงหอบ “เดี๋ยวสี่เล่อกับคังเล่อจะเข้ามาแล้ว อาเหยี่ยน ท่านหยุดก่อนเถิด…”
ดวงตาล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยนจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่ง ลำคอของเขาร้อนผ่าว ไม่นานจึงผละมือออกจากสายผูกเอวของไป๋ชิงเหยียน เขาหอบใจอย่างหนัก พยายามควบคุมจังหวะหายใจให้กลับมาเป็นปกติ
แม้การถูกขัดจังหวะในตอนนี้จะทำให้บุรุษทุกคนอารมณ์เสีย ทว่า เมื่อคิดได้ว่าไป๋ชิงเหยียนเพิ่งคลอดลูกน้อยสองคนออกมาด้วยความยากลำบาก ความหงุดหงิดเพียงเล็กน้อยในใจของเซียวหรงเหยี่ยนก็มลายหายไปทันที เหลือเพียงความรู้สึกผิดเท่านั้น
ชายหนุ่มหอมแก้มของไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งแล้วกล่าวขึ้น “เรื่องที่ข้าเสียใจที่สุดในชีวิตก็คือไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้าตอนเจ้าคลอดลูก อาเป่า ข้าติดค้างเจ้ามากนัก ได้แต่หวังว่าเมื่อใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งสำเร็จ ข้าจะชดใช้ให้เจ้าด้วยชีวิตทั้งหมดที่เหลืออยู่ของข้าได้”
ไป๋ชิงเหยียนมองสบตาล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน เซียวหรงเหยี่ยนจับมือที่ไม่ได้เรียบเนียนเหมือนสตรีคนอื่นของไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาจุมพิตเบาๆ จากนั้นกล่าวเสียงเบา “ครั้งนี้อาลี่ฝากของขวัญมาให้น้องชายและน้องสาวของเขาด้วย เดี๋ยวข้าจะให้เยว่สือลอบนำเข้ามาให้ในวัง จะนำเข้ามาอย่างเอิกเกริกไม่ได้!”
“อาลี่มีน้ำใจแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนชอบมู่หรงลี่มากจริงๆ เขาเป็นเด็กที่มีความเด็ดเดี่ยวและใจกว้าง มู่หรงอวี้อบรมเขามาเป็นอย่างดี หากมู่หรงอวี้ยังมีชีวิตอยู่…เขาต้องสอนให้อาลี่เป็นจักรพรรดิที่ดีได้อย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยชมมู่หรงลี่ว่ามีน้ำใจ เซียวหรงเหยี่ยนจึงมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยท่าทีจริงจัง จากนั้นขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิดพลางกล่าวขึ้น “ข้าก็เตรียมของให้ลูกทั้งสองเหมือนกัน ข้ามีน้ำใจเช่นเดียวกัน…”
“เซียวเซียนเซิงหึงแม้กระทั่งเด็กอย่างนั้นหรือ!” ไป๋ชิงเหยียนเห็นท่าทีของเซียวหรงเหยี่ยนจึงอดหยอกไม่ได้
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ยินคำว่าเซียวเซียนเซิงมานานมากแล้ว
จู่ๆ ได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกเขาเช่นนี้ทำให้เขานึกถึงตอนที่เขาพบหญิงสาวในเมืองหลวง ตอนนั้นหญิงสาวไม่ได้สวมชุดเกราะและเสื้อคลุมสีแดงเพลิงควบม้าผ่านประตูวังเข้าไปด้านในด้วยท่าทีองอาจสง่างามเหมือนตอนที่เขาพบนางที่แคว้นสู่อีกแล้ว หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีขาวเรียบ ร่างสูงโปร่งผอมและดูอ่อนแอราวกับสามารถถูกลมพัดปลิวได้ง่ายๆ ทว่า แววตาคู่นั้นกลับดูเด็ดเดี่ยวจนน่าตกตะลึง ราวกับความยากลำบากและความเจ็บปวดไม่สามารถทำให้หญิงสาวล้มลงได้แม้แต่นิดเดียว
“อาเป่าไม่ได้พบข้านานเพียงนี้ เจ้าเตรียมของขวัญวันเกิดไว้ให้ข้าบ้างหรือไม่”
ไม่รู้เป็นเพราะตอนนี้คือช่วงกลางคืนหรือไม่ น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนจึงฟังดูมีเสน่ห์กว่าทุกครั้ง น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้น…ทำให้คนฟังขนลุกซู่ขึ้นอย่างห้ามใจไม่อยู่
“เตรียมแล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบา “ท่านแม่ก็เตรียมแล้วเช่นเดียวกัน ทว่า ข้าคิดว่าข้างกายของท่านคงมีสายลับของไทเฮาอยู่จึงไม่อยากสร้างปัญหาให้ท่าน”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เตรียมคนเดียว ต่งซื่อก็เตรียมเช่นเดียวกัน ต่งซื่อสงสารที่เซียวหรงเหยี่ยนสูญเสียมารดาไปตั้งแต่อายุเจ็บขวบ นางจึงเตรียมของขวัญวันเกิดที่เซียวหรงเหยี่ยนควรได้รับจากมารดาในทุกปีย้อนหลังให้เซียวหรงเหยี่ยนจนถึงตอนนี้
ตั้งแต่ที่ต่งซื่อรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนยกทัพไปช่วยเหลือไป๋ชิงเหยียนที่เมืองเจียงจือ อีกทั้งรู้เรื่องระหว่างเซียวหรงเหยี่ยนและพี่สะใภ้ของเขา ต่งซื่อจึงตั้งใจว่าจะรักและดูแลเซียวหรงเหยี่ยนให้เหมือนบุตรชายแท้ๆ ของนางคนหนึ่ง ทุกครั้งที่นางนึกถึงตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนคุกเข่าลงตรงหน้านางและมองดูนางตำหนิอาเป่าด้วยแววตาอิจฉาต่งซื่อก็รู้สึกปวดใจทุกครั้ง
ต่งซื่อเป็นแม่คนเช่นเดียวกัน นางไม่ใช่คนเลือดเย็น เซียวหรงเหยี่ยนรักบุตรสาวของนางจากใจจริง นางจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร
เซียวหรงเหยี่ยนมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย เป็นความรู้สึกดีใจที่ไม่คิดว่าต่งซื่อจะดีกับเขาเพียงนี้
เซียวหรงเหยี่ยนคืออ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ก่อนหน้านี้เขายังเคยเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในใต้หล้า เขาเคยพบของล้ำค่ามาแทบทุกชนิด เขาได้ของเหล่านั้นมาอย่างง่ายดาย ทว่า หากไม่ใช่คนสนิทจริงๆ ไม่มีทางมอบของขวัญวันเกิดให้เขาแน่นอน
ตอนที่มารดาของเขายังมีชีวิตอยู่ นางมักเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขาทุกปี ต่อมาเมื่อมารดาจากไป แม้พี่ชายของเขายุ่งเพียงใดก็จะเตรียมของขวัญและให้คนนำมามอบให้เขาทุกปีเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เขามีอาเป่า ทว่า ความสัมพันธ์ของเขาและอาเป่าค่อนข้างพิเศษ ข้างกายของเขามีคนของพี่สะใภ้อยู่ดังนั้นอาเป่าจึงไม่สะดวกส่งของขวัญวันเกิดมาให้เขา
เซียวหรงเหยี่ยนพยายามควบคุมความรู้สึกซาบซึ้งและดีใจเอาไว้ เขาหันกลับไปมองไป๋ชิงเหยียน ทัดปอยผมไปที่หลังหูของหญิงสาวพลางกล่าวเสียงเบา “ข้าอยากรู้แล้วสิว่าอาเป่าเตรียมของขวัญวันเกิดใดไว้ให้ข้า”
“ท่านคงพบของแปลกประหลาดน่าสนใจมามากแล้ว คงไม่สนใจของเหล่านั้นอีก ดังนั้น…ล้วนเป็นของที่ข้าเตรียมเองกับมือ” ไป๋ชิงเหยียนลุกจากตักของเซียวหรงเหยี่ยน นางวางไม้สำลีและยาลงที่ด้านข้าง
เซียวหรงเหยี่ยนมองตามไป๋ชิงเหยียนที่เดินไปหยุดอยู่ที่โต๊ะซึ่งปกติหญิงสาวใช้อ่านฎีกา ไป๋ชิงเหยียนหยิบกล่องไม้กล่องหนึ่งออกมากจากใต้โต๊ะไม้ จากนั้นเดินกลับมาหาเซียวหรงเหยี่ยน