สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1356 ตัดสินใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1356 ตัดสินใจ

ดังนั้นหวังหานปิงจึงคิดเหมือนเซียวหรงเหยี่ยนว่าที่ฟ่านอวี้กานจัดฉากครั้งนี้ขึ้นมาเพราะต้องการบีบเสนาบดีกรมการคลังออกจากการเจรจา หวังหานปิงจะได้เปิดปากขึ้นมาบ้าง

เซียวหรงเหยี่ยนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะไม้เป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด แววตาภายใต้หน้ากากสีเงินล้ำลึกเกินคาดเดา เขากล่าวเสียงเย็น

“ข้าคิดว่าต้าเยี่ยนมีสายลับของต้าโจวอยู่ ที่สำคัญสายลับผู้นี้สืบประวัติทั้งหมดของหวังหานปิงส่งไปให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเรียบร้อยแล้ว!”

หวังหานปิงตะลึง ทว่า เมื่อครุ่นคิดจึงรู้สึกว่าเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวมีเหตุผล

เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเซียวหรงเหยี่ยนคิดทบทวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง เขาพบว่าฟ่านอวี้กานจงใจยั่วยุหวังหานปิงตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มมีการเจรจา

เซียวหรงเหยี่ยนรู้จักฟ่านอวี้กานดี หากฟ่านอวี้กานไม่ชอบขี้หน้าหวังหานปิง เมื่อลองยั่วยุครั้งหนึ่งแล้วพบว่าคนผู้นี้ไม่โต้ตอบเขากลับ ฟ่านอวี้การไม่มีทางหาเรื่องคนผู้นี้อีก ทว่า ฟ่านอวี้กานกลับเอาแต่หาเรื่องหวังหานปิง แสดงว่าเขากำลังหยั่งเชิงหวังหานปิงอยู่…

หากตอนแรกเซียวหรงเหยี่ยนแค่แปลกใจ ตอนนี้เซียวหรงเหยี่ยนมั่นใจแล้วว่าที่ฟ่านอวี้กานป่าวประกาศกับทุกคนบนถนนว่าเสนาบดีกรมการคลังทำร้ายร่างกายเขาเป็นเพราะฟ่านอวี้กานต้องการกำจัดเสนาบดีกรมการคลังออกจากการเจรจาครั้งนี้

การกระทำของคนทุกคนล้วนมีจุดประสงค์

จุดประสงค์ของฟ่านอวี้กานมีเพียงสองอย่างเท่านั้น…

จุดประสงค์แรกเป็นเพราะวาทศิลป์ของเสนาบดีกรมการคลังร้ายกาจ หากกำจัดเขาออกจากการเจรจาจะเป็นผลดีต่อต้าโจว

อีกจุดประสงค์ก็คือต้าโจวรู้แล้วว่าหวังหานปิงคือตัวแปรสำคัญในการเจรจาในครั้งนี้ ฟ่านอวี้กานจึงจงใจหาเรื่องหวังหานปิงเพื่อทดสอบความสามารถของเขาหลายครั้ง เพราะตอนนี้หลิ่วหรูซื่อของต้าโจวยังไม่ปรากฎตัวออกมา

เซียวหรงเหยี่ยนเชื่อว่าจุดประสงค์ของฟ่านอวี้การคืออย่างที่สอง กระทั่งอาจเป็นทั้งสองจุดประสงค์รวมกัน

“นายท่าน…”

เยว่สือทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยนที่หน้าประตู

“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวส่งคนมาเชิญนายท่านเข้าวัง กล่าวว่า…ว่า…”

เยว่สือมองไปทางเสนาบดีกรมการคลัง เสนาบดีกรมการคลังจึงรู้ทันทีว่าเพราะเหตุใด เขาโมโหจนขนลุกชันไปหมด

“กล่าวว่าอันใด”

เซียวหรงเหยี่ยนถามอย่างไม่รีบร้อน

“กล่าวว่าต้าเยี่ยนส่งมือสังหารไปลอบสังหารขุนนางคนสำคัญของต้าโจว ตอนนี้ยังทำร้ายร่างกายขุนนางของต้าโจวอีก ต้าโจวต้องการการชดใช้จากต้าเยี่ยน มิเช่นนั้นต้าโจวจะเปิดศึกกับต้าเยี่ยนขอรับ”

เยว่สือกล่าวจบจึงรีบก้มหน้าลงทันทีราวกับกลัวตัวเองจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

เสนาบดีกรมการคลังหน้าซีดเผือดลงทันที เขารีบลุกขึ้นยืน

“ท่านอ๋อง กระหม่อมจะเข้าวังไปกับท่านอ๋องเพื่ออธิบายกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่มีประโยชน์หรอก”

เซียวหรงเหยี่ยนลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ จากนั้นสะบัดชายชุดที่ไม่ได้มีฝุ่นเกาะของตัวเองพลางกล่าวขึ้น

“พวกเขาจัดฉากนี้ขึ้นมาเพราะต้องการผลประโยชน์จากการเจรจาในครั้งนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะอธิบายแล้วคนเหล่านั้นจะยอมเข้าใจ”

“นี่คือจดหมายที่ฝ่าบาทส่งมา พวกเจ้าลองอ่านดู”

เซียวหรงเหยี่ยนชี้ไปยังจดหมายซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นกล่าวกับหวังหานปิง

“เจ้ารีบส่งจดหมายกลับไปทูลให้ฝ่าบาทระวังสายลับของต้าโจวไว้ให้ดี อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น รอข้ากลับไปก่อนค่อยตัดสินใจอีกที”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

หวังหานปิงรับคำ

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากห้อง เซียวหรงเหยี่ยนไม่คิดถามไป๋ชิงเหยียนเรื่องสายลับของต้าโจวในต้าเยี่ยน ถึงถามไปไป๋ชิงเหยียนก็ไม่มีทางบอกเขาอยู่ดี

นี่คือเรื่องสำคัญของแคว้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของพวกเขาสองคน เซียวหรงเหยี่ยนยังแยกแยะได้

“ท่านอ๋อง!”

เสนาบดีกรมการคลังเดินตามเซียวหรงเหยี่ยนออกไปสองสามเก้า เขานึกถึงเรื่องที่เซียวหรงเหยี่ยนเคยได้รับบาดเจ็บกลับมาจากวังหลวงจึงรู้สึกเป็นกังวลมาก เขากลัวว่าครั้งนี้ตัวเองจะสร้างปัญหาให้เซียวหรงเหยี่ยนอีก

“ท่านเสนาบดีไม่ต้องเป็นห่วง ท่านอ๋องต้องมีแผนการรับมือแน่นอน”

หวังหานปิงหยิบจดหมายของมู่หรงลี่ออกมาอ่านกับขุนนางต้าเยี่ยนคนอื่นๆ เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเสนาบดีกรมการคลังจึงกล่าวปลอบ

“พวกเรารอท่านอ๋องกลับมาอย่างสงบก็พอ เรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด ใต้เท้าไม่ต้องเครียดเกินไปนัก”

จดหมายของมู่หรงลี่เต็มไปด้วยความลังเล เขาบอกว่าเขาคุยเรื่องนี้กับองค์ชายสองมู่หรงผิงแล้ว มู่หรงผิงเข้าใจสถานการณ์ยากลำบากในตอนนี้ของต้าเยี่ยนดี เขารู้ดีว่าตอนนี้ต้าเยี่ยนต้องขอร้องให้ต้าโจวยอมตกลงกับการเดิมพันครั้งนี้ให้ได้ ดังนั้นไม่ว่าต้าโจวจะยื่นเงื่อนไขใดออกมาต้าเยี่ยนก็ควรยอมรับเท่าที่จะทำได้

มู่หรงผิงคิดว่าต้าเยี่ยนเป็นคนแทงข้างหลังต้าโจวก่อนจนต้าโจวกำจุดอ่อนของต้าเยี่ยนไว้ในมือ ต้าโจวเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล กลับกันหากต้าโจวเป็นคนแทงข้างหลังต้าเยี่ยนและขอร้องให้ต้าเยี่ยนยอมเดิมพันกับต้าโจว ต้าเยี่ยนก็คงยื่นเงื่อนไขให้ต้าโจวส่งแม่ทัพที่เก่งกาจของต้าโจวมาเป็นตัวประกันที่ต้าเยี่ยนเพื่อป้องกันต้าโจวผิดสัญญาเช่นเดียวกัน

มู่หรงลี่ยินดีเดิมพันด้วยแคว้นกับต้าโจวเพื่อความสงบสุขและปลอดภัยของชาวบ้านและทหาร มู่หรงผิงก็เต็มใจเดินทางไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวเพื่อชาวบ้านและทหารของต้าเยี่ยนเช่นเดียวกัน

ทว่า มู่หรงลี่บอกในจดหมายว่าพยายามยกดินแดนให้ต้าโจวให้ได้มากที่สุดจนกว่าต้าโจวจะพอใจ หากสุดท้ายแล้วต้าโจวยังไม่ยอมจริงๆ ค่อยรับปากต้าโจวว่าจะส่งองค์ชายสองมู่หรงผิงและแม่ทัพใหญ่เซี่ยสวินมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวเพื่อความสบายใจของต้าโจว ให้ผู้สำเร็จราชการเป็นคนตัดสินใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมด ทว่า ผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนจะอยู่เป็นตัวประกันที่ต้าโจวไม่ได้เด็ดขาด นี่คือคำขาดของต้าเยี่ยน!

ผู้สำเร็จราชการจะยกดินแดนให้ต้าโจวเท่าใดพวกขุนนางอย่างเขาไม่คิดคัดค้านทั้งสิ้น

“ฝ่าบาทและองค์ชายสองคิดว่าต้าโจวกุมจุดอ่อนของพวกเราอยู่ ดังนั้นหากถึงคราวจำเป็นจริงๆ คงต้องส่งองค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว”

สีหน้าของเสนาบดีกรมการคลังไม่ค่อยสู้ดีนัก

“ฝ่าบาทของพวกเราอยากเดิมพันกับต้าโจวด้วยความจริงใจ ข้าแค่กลัวว่าต้าโจวอยากทำสงครามกับพวกเราให้ได้โดยไม่ว่าอย่างไรก็จะให้ผู้สำเร็จราชการของพวกเราอยู่เป็นตัวประกันที่นี่ให้ได้ เช่นนั้นพวกเขาคงลำบากแน่”

หวังหานปิงเม้มปากแน่นไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่นานเขาจึงเงยหน้าขึ้น ในเมื่อฝ่าบาทจะเดิมพันกับต้าโจวให้ได้เขาก็มีแผนการในใจแล้ว เมื่อผู้สำเร็จราชการกลับมาเขาจะปรึกษากับชายหนุ่มก่อนแล้วค่อยลงมือ

เซียวหรงเหยี่ยนเดินทางไปถึงวังหลวง เว่ยจงพาชายหนุ่มไปยังตำหนักชิวหวา

ทางเดินสามชั้นของตำหนักชิวหวาถูกล้อมด้วยต้นจื่อเถิงที่มีอายุนับพันปี ใบไม้เลื้อยสีม่วงของต้นจื่อเถิงพาดอยู่ตามหลังคาของตำหนักชิวหวาและห้อยลงมาตามเสาสีแดงราวกับเถาวัลย์ที่มีชีวิต แสงสีทองส่องกระทบลงบนเงาของต้นไม้ เมื่อลมพัดผ่านกลีบดอกสีม่วงปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ เป็นภาพที่มีชีวิตชีวายิ่งนัก

เมื่อเดินผ่านระเบียงทางเดินที่มีเสาหินแกะสลักเป็นภาพงดงามจะได้ยินเสียงนกส่งเสียงร้อง ภาพเบื้องหน้าคือสีม่วงอมฟ้างดงามราวกับอยู่บนสวรรค์

ไป๋ชิงเหยียนั่งอ่านฎีกาอยู่บนเสื่องาช้างสีม่วงที่อยู่บนตำหนักชั้นสาม เสี่ยวปาและวั่งเกอกำลังเล่นกระโดดเชือกอยู่ด้านข้าง สี่เล่อและคังเค่ออยู่ในอ้อมกอดของต่งซื่อและหลิวซื่ออย่างละคน สองสะใภ้กำลังสนทนากันอย่างมีความสุข

แสงแดดส่องผ่านใบจื่อเถิงเข้ามาในผ้าม่านผืนบาง ภายในตำหนักเต็มไปด้วยสีม่วงอ่อนช่างดูงดงามยิ่งนัก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท