ตอนที่ 1376 เริ่มเมา
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเริ่มไม่มั่นใจว่าเหตุใดไป๋ชิงเหยียนจึงมอบหยกจันจั่นจริงคืนให้เขา นางไม่อยากย้อนเวลากลับไปช่วยชีวิตครอบครัวของนางที่เสียชีวิตในสงครามที่หนานเจียงจริงๆ หรือ
“ขอบคุณมาก”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นหยิบหยกจักจั่นมากุมไว้ในมือ เขากล่าวขอบคุณเว่ยจง จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียน
เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนดื่มเหล้าไปสองสามแก้วอย่างอารมณ์ดีน่าจะเป็นเพราะเจรจาสำเร็จ นางมองไปทางนางรำที่กำลังร่ายรำอยู่กลางท้องพระโรงพลางตบมือลงบนหมอนอิงตามจังหวะดนตรี
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก้มหน้าลูบหยกจักจั่นในมือของตัวเองอย่างแผ่วเบา จากนั้นเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง เขารู้สึกว่าข้อเสนอของจอมเวทย์ไม่เลวนัก ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นมีสตรีหลากหลายรูปแบบข้างกาย ตอนที่เขาไปยังแคว้นซีเหลียงมีคนมอบสาวงามของซีเหลียง ต้าโจวและต้าเยี่ยนให้เขามากมาย เขาได้ลิ้มลองสตรีหลากหลายรสชาติ ทว่า เขาไม่เคยพบสตรีเช่นไป๋ชิงเหยียนมาก่อนเลย
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไม่เคยคิดเป็นอื่นกับไป๋ชิงเหยียนมาก่อน เขานับถือและชื่นชมนาง ทว่า เขาจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ เขาต้องได้หยกจักจั่นมาครอบครอง
เซียวหรงเหยี่ยนเห็นไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนหมอนอิงเป็นจังหวะจึงรู้ว่านางกำลังอารมณ์ดีที่น้องชายและน้องสาวของนางกำลังจะกลับมา เรื่องอื่นไม่สามารถทำให้ไป๋ชิงเหยียนอารมณ์ดีได้เพียงนี้แน่นอน
เป็นดั่งที่เซียวหรงเหยี่ยนคิด ไป๋ชิงเหยียนกำลังอารมณ์ดีเพราะสองแคว้นเจรจากันสำเร็จแล้ว อาฉี อาอวี๋ อาเจวี๋ย อาอวิ๋น จิ่นซิ่ว เสี่ยวซื่อ เสี่ยวอู่ เสี่ยวลิ่วและเสี่ยวชีกำลังจะกลับมาแล้ว
ในที่สุดครอบครัวของนางก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
ตั้งแต่เกิดเรื่องที่หนานเจียงจนถึงวันนี้ ยามพวกนางอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตามักขาดคนใดคนหนึ่งไปเสมอ ครั้งนี้ทุกคนที่นางรู้ว่ามีชีวิตรอดจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเสียที
ท่านแม่จะได้ยินอาอวี๋กล่าวว่ากลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยเสียที
“เดิมทีหยกจักจั่นนี้มีเป็นคู่”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นพึมพำกับตัวเองพลางก้มมองหยกจักจั่นในมือ
“ได้ยินว่าพระภัสดาของฝ่าบาทก็มีหยกจักจั่นเช่นนี้อยู่เหมือนกัน หลายวันมานี้หยกจักจั่นชิ้นนี้อยู่ที่ฝ่าบาท ฝ่าบาทมองออกหรือไม่ว่าหยกสองชิ้นนี้แตกต่างกันเช่นไร”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น เขามาเพราะเรื่องหยกจักจั่นจริงๆ ด้วย
“เรามองไม่ออกว่าแตกต่างกันอย่างไร น่าเสียดายที่ตอนนี้หยกจักจั่นของสามีเราสูญหายไปแล้ว มิเช่นนั้นเราคงนำออกมาเปรียบเทียบได้”
ไป๋ชิงเหยียนแสดงสีหน้าเสียดายออกมา
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำหยกจักจั่นในมือแน่น หรือว่าหยกจักจั่นอีกชิ้นหายไปแล้วจริงๆ ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่คิดลองย้อนเวลากลับไป
“เราส่งคนไปตามหาหยกจักจั่นที่สูญหายไปของสามีเราแล้ว หากเราหาพบแล้วจักรพรรดิเทียนเฟิ่งยังอยู่ที่ต้าโจว หวังว่าจักรพรรดิเทียนเฟิ่งจะให้เรายืมดูหยกจักจั่นอีกครั้ง”
“ครั้งนี้ข้าเดินทางมาเพื่อเชื่อมไมตรีกับต้าโจว ข้าย่อมยินดีให้ฝ่าบาทยืมอยู่แล้ว หากฝ่าบาททรงชอบ แคว้นเทียนเฟิ่งควรมอบหยกจักจั่นชิ้นนี้ให้แก่ฝ่าบาท ทว่า หยกจักจั่นชิ้นนี้คือของล้ำค่าประจำแคว้นเทียนเฟิ่ง ข้าจึงไม่อาจมอบให้ฝ่าบาทได้”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวออกมายิ้มๆ เขาถือโอกาสนี้กล่าวเข้าประเด็นทันที
“แคว้นเทียนเฟิ่งและต้าโจวอยู่ห่างกันเพียงภูเขาหิมะกางกั้น ถือเป็นเพื่อนบ้านกัน พวกเราควรอยู่กันอย่างสามัคคีปรองดอง เปิดแคว้นแลกเปลี่ยนความเจริญรุ่งเรืองซึ่งกันและกันถึงจะถูก”
สิ้นเสียงของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น จอมเวทย์ของเทียนเฟิ่งรีบล้วงรายการของขวัญที่ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเตรียมมาในครั้งนี้ออกมาจากอกทันที
เว่ยจงเดินไปรับรายการของขวัญมาจากจอมเวทย์ของเทียนเฟิ่ง จากนั้นเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไป๋ชิงเหยียนแล้วกางรายการของขวัญออกให้ไป๋ชิงเหยียนอ่าน
“ที่อาวุธของเทียนเฟิ่งไร้เทียมทานเป็นเพราะพวกเรามีผงหมึกดำ…”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวยิ้มๆ
“ครั้งนี้พวกเรายินดีมอบสูตรการผลิตผงหมึกดำให้ต้าโจว หวังว่าจักรพรรดินีของต้าโจวจะรับไว้แล้วยินดีสงบศึกและเปิดตลาดแลกเปลี่ยนการค้าเสรีกับเทียนเฟิ่งด้วยความจริงใจ”
ตลาดการค้าเสรีอย่างนั้นหรือ…
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ นางพอจะรู้แล้วว่าเหตใดแคว้นเทียนเฟิ่งจึงอยากทำการค้าเสรีกับต้าโจว
“แคว้นเทียนเฟิ่งต้องการเสบียงอาหารอย่างนั้นหรือ”
“ใช่แล้ว พวกเราขาดแคลนทั้งเสบียงอาหาร ใบชา ผ้าไหม ยาและอีกมากมาย”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวยิ้มๆ
“หวังว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะยอมเปิดเสรีทางการค้าให้ชาวบ้านทั้งสองแคว้นอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข”
ก่อนหน้านี้บอกว่าต้องการเช่าเมืองของต้าโจว พอถูกต้าโจวและต้าเยี่ยนร่วมมือกันขับไล่กลับไปยังแคว้นด้านหลังภูเขาหิมะ ตอนนี้จึงอยากเปิดตลาดเสรีทางการค้าขึ้นมาอีก
“ไม่ปิดบังจักรพรรดินีต้าโจว แคว้นเทียนเฟิ่งกำลังถูกทะเลทรายกลืนกินทีละน้อย ผลผลิตทางการเกษตร ยาและของสำคัญของเทียนเฟิ่งลดน้อยลงทุกปี คนในแคว้นเทียนเฟิ่งเป็นกังวลในเรื่องนี้มาก ตอนนี้ต้าเยี่ยนขาดแคลนเสบียงอาหารเช่นเดียวกัน พวกเขาคงไม่ยอมขายให้เทียนเฟิ่ง ดังนั้นข้าจึงเหลือแต่มาขอร้องต้าโจวเท่านั้น”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นแสร้งกล่าวออกมาอย่างเปิดเผย
“จักรพรรดินีต้าโจวได้โปรดเปิดตลาดการค้าเสรีให้พวกเราด้วยเถิด”
“ในเมื่อจักรพรรดิเทียนเฟิ่งมาถึงต้าโจวแล้วคงไม่รีบร้อนอยากได้คำตอบตอนนี้ ข้าจะมอบหมายเรื่องนี้ให้ใต้เท้าหลิ่วเป็นคนจัดการก็แล้วกัน”
ไป๋ชิงเหยียนหันไปถามหลิ่วหรูซื่อยิ้มๆ
“ใต้เท้าหลิ่วเพิ่งลำบากจัดการเรื่องของต้าเยี่ยนเสร็จ ท่านยินดีรับเรื่องนี้ต่อหรือไม่”
หลิ่วหรูซื่อรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนยินดีเจรจาเรื่องการเปิดตลาดการค้ากับเทียนเฟิ่งจึงยืดอกรับและลุกขึ้นทำความเคารพหญิงสาว
“ตลาดการค้าส่งผลดีต่อชาวบ้านทั้งสองแคว้น กระหม่อมยินดีดูแลเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนหันไปสั่งให้เว่ยจงเก็บรายการของขวัญที่เทียนเฟิ่งมอบให้ไว้ให้ดี เมื่อได้ยินเสียงกลองและผีผาดังขึ้นไป๋ชิงเหยียนจึงมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน ตอนนี้นางยังรู้สึกเหมือนทุกอย่างคือความฝัน นางกลัวว่าเมื่อตื่นขึ้นทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
ไป๋ชิงเหยียนมองนางรำกลางท้องพระโรง นางเห็นชุนจือรินเหล้าให้นางเต็มจอกอีกครั้งจึงยกยิ้มมุมปากขึ้นน้อยๆ ตอนนี้นางรู้สึกได้ว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของนาง เมื่อนั่งบนบัลลังก์แห่งนี้นางรู้สึกว่าใจของนางกำลังเปลี่ยนไป
ก่อนหน้านี้นางถูกกดทับด้วยภูผาลูกใหญ่ดังนั้นจึงรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนเหวยามวิกาล
ตอนนี้นางนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่ยิ่งใหญ่ นางมีความมั่นใจมากขึ้น รู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างไม่ได้ยากเย็นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ตอนนี้นางถึงขนาดดื่มจนเมาแล้ว
เหล้าสามารถทำลายทุกอย่างจนพังพินาศได้ นางดื่มเหล้าไม่เก่ง นางไม่ควรดื่ม ทว่า เมื่อคิดว่าน้องชายและน้องสาวของนางกำลังจะกลับมาแล้วนางจึงดีใจจนลืมตัว
ไป๋ชิงเหยียนโบกมือให้ชุนเถาเก็บเหล้าออกไปและเปลี่ยนเป็นน้ำชาแทน
ชุนเถารับรู้จึงรีบเปลี่ยนเป็นชาพุทราให้ไป๋ชิงเหยียนแทน
ขณะยกถ้วยชาร้อนขึ้นดื่มไป๋ชิงเหยียนนึกถึงคำกล่าวของมารดาขึ้นมาได้…ผู้คนกลัวว่าจะตกลงไปในแม่น้ำที่มีแต่โขดหินจึงไม่เคยมีผู้ใดตกลงไปเลย ทว่า กลับมีผู้คนมากมายสะดุดล้มลงบนหนทางที่ราบเรียบไร้โขดหิน
ทุกครั้งที่ไป๋ชิงเหยียนเริ่มประมาทนางจะคิดถึงคำกล่าวของมารดา นางจะเตือนใจตัวเองอยู่เสมอว่าถึงแม้ตอนนี้นางจะเป็นจักรพรรดินีของแคว้นแล้ว ทว่า หนทางที่จะรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งยังอีกยาวไกล
เหล้าตกลงท้องหลายแก้วไป๋ชิงเหยียนจึงเริ่มเมาเล็กน้อย ทว่า นางรู้สึกว่าเหล้าเป็นสิ่งที่ทำให้คนอารมณ์ดีจริงๆ แม้แต่เรื่องเสียใจที่เสิ่นซือคงไม่ยอมอยู่รับใช้ต้าโจว ขอกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเองยังสลายไปจากใจของไป๋ชิงเหยียนในทันที