ตอนที่ 1379 ทำทุกสิ่งด้วยความระมัดระวัง
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้คัดค้านการเปิดตลาดการค้าเสรีระหว่างสองแคว้น นี่คือเรื่องดีสำหรับชาวบ้าน นางรู้จากจดหมายของไป๋จิ่นถงว่าเทียนเฟิ่งเจริญกว่าต้าโจวในหลายๆ ด้าน ควรค่าแก่การเรียนรู้ของต้าโจว
“ไป๋ชิงผิง…” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกไป๋ชิงผิง
หลังจากเมื่อวานไป๋ชิงเหยียนได้รับสูตรผลิตผงหมึกดำจากเทียนเฟิ่งหญิงสาวจึงสั่งให้เว่ยจงนำไปให้ไป๋ชิงผิงที่สำนักผลิตอาวุธเพื่อตรวจสอบดูว่าสูตรผงหมึกดำที่เทียนเฟิ่งมอบให้ต้าโจวคือผงหมึกดำที่ชาวบ้านของแคว้นเทียนเฟิ่งใช้เป็นประจำใช่หรือไม่
ไป๋ชิงผิงตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนทั้งคืน พอฟ้าใกล้สว่างจึงรีบเปลี่ยนชุดขุนนางมารายงานไป๋ชิงเหยียนในวังหลวง เขาเกือบมาสายด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกไป๋ชิงผิงจึงเดินไปด้านหน้า เมื่อทำความเคารพอย่างนอบน้อมเสร็จจึงกล่าวขึ้น “เมื่อวานฝ่าบาทให้กระหม่อมตรวจสอบเรื่องนี้ กระหม่อมตรวจสอบแน่ชัดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ผงหมึกดำที่เทียนเฟิ่งมอบให้ดีกว่าที่ชาวบ้านธรรมดาของแคว้นพวกเขาใช้กันเล็กน้อยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสั่งให้คนเร่งหลอมอาวุธขึ้นมาใหม่หนึ่งชิ้น เมื่อทำเสร็จจึงลองทดสอบดู…พบว่าอาวุธที่หลอมขึ้นใหม่แข็งแรงกว่าเสื้อเกราะของช้างศึกของเทียนเฟิ่งพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ดีมาก ลำบากเจ้าแล้ว ข้ามอบหมายให้เจ้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน”
“ฝ่าบาทวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงผิงโค้งกายคำนับ
ไป๋ชิงผิงอยากลำบากมากกว่านี้จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้ไป๋ชิงเหยียนได้ เขาไม่สามารถไปออกรบสังหารศัตรูได้เหมือนกับคุณชายคนอื่นๆ ของตระกูลไป๋เขาจึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระของไป๋ชิงเหยียนในด้านอื่นแทน
อีกอย่างหากเขากลับไปจวน คนในตระกูลบรรพบุรุษต้องมาขอร้องให้เขาช่วยหาตำแหน่งให้ลูกๆ หลานๆ ในตระกูลแน่นอน ไป๋ชิงผิงไม่ถนัดรับมือกับเรื่องเหล่านี้ เขาจึงได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในสำนักผลิตอาวุธแทน
เมื่อคืนตอนที่ผูหลิ่วให้คนนำอาหารเย็นไปส่งให้ไป๋ชิงผิง นางให้คนลอบเตือนไป๋ชิงผิงว่าตอนนี้ไป๋ชิงผิงคือขุนนางระดับสี่แล้ว คนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋จึงเริ่มคิดไร้สาระขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาคิดว่าไป๋ชิงเหยียนแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้บรรดาน้องชายกับน้องสาวของตัวเองหมดแล้ว ตอนนี้ยังเลื่อนตำแหน่งของไป๋ชิงผิงอีก ต่อไปคงถึงตาคนในตระกูลบรรพบุรุษบ้างแล้ว
บางคนมานั่งชมไป๋ชิงผิงในจวนไป๋เป็นวันๆ เอาแต่กล่าวอ้อมๆ ว่าให้ไป๋ชิงผิงช่วยหาตำแหน่งงานในสำนักผลิตอาวุธให้เด็กๆ คนอื่นในตระกูลบรรพบุรุษบ้าง
แม้ผูหลิ่วจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน ทว่า นางกลัวคนเหล่านั้นรบกวนการทำงานให้ไป๋ชิงเหยียนของไป๋ชิงผิงจึงให้คนกล่าวเป็นนัยๆ ว่าหากไป๋ชิงผิงยุ่งก็ไม่ต้องรีบร้อนกลับจวน นางจะให้คนนำเสื้อผ้าและอาหารไปมอบให้ไป๋ชิงผิงที่สำนักผลิตอาวุธวันละสามครั้ง เมื่อคนเหล่านั้นไม่ได้พบหน้าไป๋ชิงผิงนานวันเข้าก็คงล้มเลิกความตั้งใจไปเอง…
เมื่อไทเฮาของต้าเยี่ยนได้ยินว่าต้องส่งบุตรชายคนโตของตัวเองไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวร่างของนางแข็งทื่อไปทั้งร่างทันที
“มู่หรงเหยี่ยนเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร เขาไม่เพียงปล่อยท่านลุงของเจ้าไว้ที่ต้าโจว ตอนนี้ยังคิดส่งพี่ชายของเจ้าไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวอีก! ข้าไม่ตกลง หากพวกเจ้ายืนกรานจะส่งพี่ชายของเจ้าไปก็ข้ามศพข้าไปก่อน!” ใบหน้าของไทเฮาอาบไปด้วยน้ำตา นางมองหน้ามู่หรงลี่อย่างรอคอยให้เขาปกป้องพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“เสด็จแม่ ข้ายินดีไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายใหญ่ขยับเข้าไปใกลไทเฮา เขาเอื้อมมือไปประคองบ่าที่สั่นเทาทั้งสองข้างของไทเฮาให้นั่งลงบนเตียง จากนั้นคุกเข่าลงตรงหน้ามารดาของตัวเองพลางเงยหน้าขึ้นมองมารดา “ตอนนี้ต้าเยี่ยนและต้าโจวทำสัญญาเดิมพันระหว่างแคว้นกันแล้ว ในเมื่อสองแคว้นตกลงกันแล้วว่าข้าต้องเดินทางไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวข้าก็ต้องไปพ่ะย่ะค่ะ! มิเช่นนั้นหากต้าโจวยกทัพบุกโจมตีต้าเยี่ยน ต้าเยี่ยนจะตกอยู่ในอันตรายได้พ่ะย่ะค่ะ”
ใบหน้าขององค์ชายใหญ่คล้ายคลึงกับมู่หรงลี่อยู่หลายส่วน ทว่า ใบหน้าของเขากลมกว่ามู่หรงลี่ เขากุมมือของมารดาไว้แน่น “ข้าเป็นคนไร้ประโยชน์ที่สุดในต้าเยี่ยน ความรู้ของข้าสู้อาลี่ไม่ได้ วรยุทธของข้าสู้อาผิงไม่ได้ อาลี่เคยไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวแล้วเหมือนกัน ที่สำคัญอาผิงและแม่ทัพเซี่ยสวินเดินทางไปกับข้าด้วย ไม่ว่าอย่างไรแม่ทัพเซี่ยสวินก็ต้องปกป้องข้าและอาผิงให้ปลอดภัยอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงผิงซึ่งเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดองค์ชายเรียบร้อยเดินไปด้านหน้าสองสามก้าว จากนั้นคุกเข่าลงบนพื้นแล้วกล่าวกับไทเฮา “เสด็จแม่ อาผิงจะดูแลคุ้มครองเสด็จพี่ให้ปลอดภัย เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายใหญ่คือบุตรชายแท้ๆ ของไทเฮา แม้เขาจะไม่ได้เรื่องสักอย่าง ทว่า เขาก็คือสายเลือดแท้ๆ ของนางอยู่ดี นางเข้าใจได้ว่าพี่ชายของนางต้องอยู่ที่ต้าโจวต่อเพราะเขาเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องลอบสังหารขุนนางใหญ่ของต้าโจว ทว่า ต้าเยี่ยนยอมส่งแม่ทัพใหญ่และองค์ชายสองของต้าเยี่ยนไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวแล้ว นี่ยังไม่พออีกหรือ
นางเคยทรยศต้าโจวมาก่อน บุตรชายของนางจะอยู่อย่างเป็นสุขในต้าโจวได้อย่างไรกัน
ส่งมู่หรงเหยี่ยนไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวยังดีกว่าส่งบุตรชายคนโตของนางไปเป็นไหนๆ อย่างน้อยมู่หรงเหยี่ยนก็เคยรักกับไป๋ชิงเหยียน อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็มีลูกด้วยกันถึงสองคน!
ทว่า ไทเฮากลัวว่าหากนางกล่าวออกไปว่าให้มู่หรงเหยี่ยนไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวแทนบุตรชายคนโตของนางอาเหยี่ยนจะเสียใจจนหันไปช่วยเหลือต้าโจวแทน เช่นนั้น…ต้าเยี่ยนก็คงต้องถูกต้าโจวยึดครองไปอย่างแน่นอน
นางรู้ความสามารถของมู่หรงเหยี่ยนดี
“อาลี่!” ไทเฮามองไปทางมู่หรงลี่ที่มีสีหน้าเย็นชาทั้งน้ำตา “เจ้าไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือ เจ้าต้องส่งพี่ชายของเจ้าไปจริงๆ หรือ แม่เคยทรยศต้าโจวมาก่อน หากพี่ชายของเจ้าเดินทางไปยังต้าโจวเขาอาจถูกพวกนั้นแก้แค้นได้ หากพวกเขาใส่ร้ายว่าพี่ชายของเจ้าลอบสังหารขุนนางของต้าโจว พี่ชายของเจ้าอาจกลับมาไม่ได้อีกเลยนะอาลี่!”
“เสด็จแม่ หากตอนนั้นเสด็จแม่ไม่ทรยศต้าโจวก่อน กองกำลังหลักของต้าเยี่ยนก็คงไม่ถูกกักอยู่ที่ซีเหลียง ต้าโจวคงไม่ยกทัพมาประชิดชายแดนต้าเยี่ยนเช่นนี้ หากเป็นไปได้อาลี่ยินดีเดินทางไปเป็นตัวประกันแทนเสด็จพี่ ยินดีไปรับผิดกับต้าโจวแทนเสด็จแม่ ทว่า ตอนนี้สองแคว้นทำสัญญากันเรียบร้อยแล้ว อาลี่คงต้องลำบากเสด็จพี่แล้ว”
มู่หรงลี่ซึ่งอายุยังน้อยเริ่มมีรัศมีของจักรพรรดิแห่งแคว้นแล้ว เขานั่งเผชิญหน้ากับไทเฮาอย่างไม่คิดอ่อนข้อให้นางแม้แต่น้อย
“เจ้า…” ไทเฮาปวดใจจนแทบใจสลาย นางกัดฟันกรอด น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย
“พอเถิดพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่” น้ำเสียงขององค์ชายใหญ่ขึ้นจมูกเล็กน้อย “ข้าเกิดมาเสพสุขในราชวงศ์ก็ควรทำหน้าที่ของตัวเองพ่ะย่ะค่ะ แค่สามปีเท่านั้น อีกสามปีข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย เสด็จแม่อย่าโทษอาลี่และท่านอาเก้าอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ต้าเยี่ยนกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต อาผิงและข้าจำเป็นต้องเดินทางไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ไทเฮาเม้มปากแน่น นางไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น นางเห็นองค์ชายใหญ่คุกเข่าก้มศีรษะคำนับนาง จากนั้นหันไปทางมู่หรงลี่ “ฝ่าบาทดูแลเสด็จแม่ให้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านพี่ใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วง” มู่หรงลี่มองพี่ชายใหญ่ของตัวเองทั้งน้ำตา
องค์ชายใหญ่คิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ที่สุดในราชวงศ์ต้าเยี่ยน ความจริงเขารู้สึกดีใจเหมือนกันที่ได้เป็นตัวแทนต้าเยี่ยนเดินทางไปเป็นตัวประกันที่ต้าโจว อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์
“เมื่อพี่ใหญ่และพี่สองกลับมา ข้าจะแต่งตั้งทั้งสองท่านเป็นอ๋อง” มู่หรงลี่กล่าว
องค์ชายใหญ่พยักหน้า เขาและมู่หรงผิงทำความเคารพไทเฮาอีกครั้ง จากนั้นหมุนตัวเดินออกไปจากตำหนักเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปยังต้าโจวทันที
ไทเฮามองแผ่นหลังของบุตรชายคนโตจากไปทั้งน้ำตา ทันใดนั้นนางจึงผุดลุกขึ้นยืน “ลูกแม่ อยู่ที่ต้าโจวต้องระวังตัวให้ดี หากมีเรื่องลำบากใจต้องส่งจดหมายกลับมาบอกแม่นะ แม่จะจัดการแทนเจ้าเอง!”