สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1393 วุ่นวาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1393 วุ่นวาย

“อาเจวี๋ยกับอาอวิ๋นคงเหนื่อยมากแล้ว ให้เสี่ยวลิ่วกับเสี่ยวอู่อยู่เป็นเพื่อนท่านอาสะใภ้สี่และเด็กๆ แล้วกัน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหันไปเห็นไป๋จิ่นจื้อฟุบหลับไปบนโต๊ะเช่นเดียวกัน นางกล่าวขึ้นยิ้มๆ “ดูเหมือนตอนนี้คงเหลือเพียงอาฉีกับอาอวี๋เท่านั้น”

“เมื่อครู่เว่ยจงบอกว่าตระกูลซือหม่ามาเชิญซือหม่ารั่วตานกลับตระกูลซือหม่าแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเรื่องอย่างกะทันหันพลางมองไปทางไป๋ชิงฉี “หากเจ้าอยากไปดูนางก็ไม่จำเป็นต้องไปเป็นเพื่อนพี่ที่ค่ายทหาร”

“ซือหม่ารั่วตานกลับจวนไม่เกี่ยวข้องอันใดกับข้า เหตุใดพี่หญิงใหญ่จึงกล่าววาจาแปลกเช่นนี้ขอรับ…” ไป๋ชิงฉียกถ้วยชาขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นกล่าวขึ้นอย่างจงใจ “น่าเสียดายที่เซวียเหรินอี้ออกเดินทางเร็วเกินไป เขาน่าจะรอพบหน้าซือหม่ารั่วตานก่อน พวกเขายังหมั้นหมายกันอยู่ ไม่แน่พวกเขาอาจได้แต่งงานกันก่อน บัณฑิตจอหงวนกับจวิ้นจู่ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก…”

ไป๋ชิงฉียังคงมีท่าทีนิ่งเฉยเช่นเคย ไม่ได้ตอบกลับพี่สาวแต่อย่างใด เขาทำเพียงยกถ้วยชาขึ้นดื่มจนหมดถ้วยเท่านั้น

“ก่อนหน้านี้ท่านแม่และบรรดาท่านอาสะใภ้จัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ขึ้นในวังหลวงเพื่อหาภรรยาให้พวกเจ้า ดูเหมือนว่าท่านอาสะใภ้แต่ละคนจะมีคนที่ถูกใจอยู่แล้ว อีกไม่นานพวกท่านคงคุยเรื่องนี้กับพวกเจ้า” ไป๋ชิงเหยียนหันไปสื่อให้ชุนเถารินชาเพิ่มให้ไป๋ชิงฉี “หากเจ้าไม่ได้มีใจให้ซือหม่ารั่วตาน เจ้าจะได้เลือกสตรีที่ถูกใจได้”

“พี่หญิงใหญ่ ตอนนี้ข้ายังไม่อยากคิดเรื่องเหล่านี้ขอรับ…” ไป๋ชิงฉีกล่าวเสียงขรึม “ชายแดนหนานเจียงต้องมีคนคอยเฝ้าระวัง ข้าว่าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่อีกสักระยะแล้วกลับไปยังหนานเจียงขอรับ”

ท่านปู่ ท่านพ่อและบรรดาท่านลุงล้วนถูกฝังอยู่ที่นั่น เขาอยากไปปกป้องที่แห่งนั้นแทนชาวบ้านและพี่หญิงใหญ่

ที่สำคัญหนานเจียงมีแคว้นเทียนเฟิ่งที่คอยจ้องแคว้นต้าโจวตาเป็นมันอยู่ เขาไม่รู้จะเสียชีวิตลงเมื่อใด เหตุใดต้องสร้างภาระให้สตรีคนอื่นด้วย เหตุใดต้องทำให้สตรีคนอื่นเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรักในสงครามเหมือนที่ท่านแม่ของเขาเป็นด้วย

คำโบราณกล่าวไว้ว่าคนมีปัญญาจะไม่กระโดดลงไปในสายธารแห่งความรู้สึก

ไป๋ชิงฉีอยากอยู่ตัวคนเดียว เขาไม่อยากเป็นภาระของผู้อื่น ไม่อยากมีพันธะผูกติดกับผู้ใด

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้คัดค้านไป๋ชิงฉี นางได้แต่ดันถ้วยน้ำชาไปตรงหน้าน้องชายยิ้มๆ จากนั้นกล่าวขึ้น “ยังไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ดูไป…”

ค่ายทหาร

“เจ้าว่าอย่างไรนะ!” เว่ยจ้าวเหนียนเบิกตาโพลงมองไปทางแม่ทัพที่เข้ามารายงานเขาโดยศีรษะเต็มไปด้วยเศษหญ้า จากนั้นตบโต๊ะลุกขึ้นยืนทันที

“แม่ทัพเฉิง แม่ทัพเสิ่นเหลียงอวี้ แม่ทัพหลิ่วผิงเกา แม่ทัพหลู่ แม่ทัพซือหม่า แม่ทัพตู้ซานเป่า แม่ทัพหวังจินและแม่ทัพคนอื่นรวมแล้วสิบสองคนบอกว่าจะเดินทางไปขอรบกับต้าเยี่ยนและทูลขอให้ฝ่าบาทยกเลิกคำสั่งที่ให้หานเฉิงอ๋องควบคุมทหารเรือของต้าเหลียงขอรับ!”

เว่ยจ้าวเหนียนรู้สึกว่าดวงตาข้างขวาซึ่งอยู่ในกรอบปิดตากำลังกระตุกรัว เฉิงหย่วนจื้อ เสิ่นเหลียงอวี้และหลิ่วผิงเกาไม่พอใจเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนจะเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนตั้งแต่ตอนที่ได้รับข่าวเรื่องนี้ก่อนเดินทางกลับมายังเมืองหลวงแล้ว เว่ยจ้าวเหนียนห้ามไม่ให้เฉิงหย่วนจื้อ เสิ่นเหลียงอวี้และหลิ่วผิงเกาแม่ทัพของค่ายทหารผิงอันมาปรากฏตัวที่ประตูเมืองทิศใต้เพราะไม่อยากให้พวกเขาคัดค้านไป๋ชิงเหยียนต่อหน้าเหล่าขุนนางของต้าโจวจนไป๋ชิงเหยียนเสียหน้า

ทว่า เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อกลับมาถึงค่ายทหารคนเหล่านั้นจะก่อความวุ่นวายขึ้นเช่นนี้อีก

“พวกนั้นจากไปนานเท่าใดแล้ว” เว่ยจ้าวเหนียนเอ่ยถาม

“ประมาณครึ่งชั่วยามแล้วขอรับ พวกเขาจับข้ามัดและโยนไว้ในคอกม้า หากไม่ใช่เพราะแม่ทัพซือหม่าออมมือ ตอนนี้ข้าคงยังฟื้นขึ้นมารายงานท่านแม่ทัพไม่ได้แน่ขอรับ!” แม่ทัพผู้น้อยกล่าวพลางหยิบเศษฟางที่ติดอยู่ตามร่างกายของตัวเองออก จากนั้นกำหมัดรายงานต่อ “ท่านแม่ทัพซือหม่าบอกว่าเขาจะพยายามขัดขวางพวกแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อระหว่างทางให้ได้ขอรับ”

ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกนั้นเร่งขี่ม้าป่านนี้คงใกล้ถึงเมืองหลวงแล้ว

เว่ยจ้าวเหนียนรู้ว่าตัวเองต้องรีบเดินทางไปยังเมืองหลวงโดยเร็วที่สุด “เร็ว รีบไปเตรียมม้าเร็ว!”

เฉิงหย่วนจื้อผู้ใจคนร้อนวู่วามคนนั้นต้องเป็นคนต้นเรื่องแน่นอน วู่วามเกินไปแล้ว! มีเรื่องอันใดเหตุใดไม่รอพบเสี่ยวไป๋ไซว่เป็นการส่วนตัวแล้วค่อยปรึกษากันนะ เหตุใดต้องพาคนกลุ่มใหญ่บุกไปเมืองหลวงเช่นนี้ด้วย! แม้จะกล่าวว่าไปเพื่อขอร้อง ทว่า ในสายตาผู้อื่นนี่คือการก่อความวุ่นวายชัดๆ !

เฉิงหย่วนจื้อคือคนเก่าแก่ของกองทัพไป๋ แม้เขาอยากไปขอร้องเสี่ยวไป๋ไซว่ก็ควรแอบเดินทางไปอย่างลับๆ จึงจะถูก เหตุใดจึงพาเหล่าแม่ทัพบุกไปวังหลวงเช่นนี้กัน!

หากคนมีใจเป็นอื่นหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นพวกเขาอาจยัดเยียดข้อหากบฏให้พวกเฉิงหย่วนจื้อเลยก็ได้!

เว่ยจ้าวเหนียนเพิ่งสวมเสื้อคลุมกันลมเสร็จก็ได้ยินคนเข้ามารายงาน “ท่านแม่ทัพเว่ย ฝ่าบาท เจิ้นกั๋วอ๋อง ฮู่กั๋วอ๋องและเกาอี้อ๋องเสด็จมาที่นี่อย่างลับๆ ขอรับ พวกเขาปลอมตัวพาเพียงองครักษ์ไป๋มาเท่านั้น ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ขอรับ!”

เว่ยจ้าวเหนียนที่กำลังติดกระดุมเสื้อกันลมชะงักมือลงทันที แม้การที่ไป๋ชิงเหยียนมาค่ายทหารตอนนี้จะเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ทว่า ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เว่ยจ้าวเหนียนรีบวิ่งออกไปจากกระโจมทันที

แม่ทัพผู้น้อยที่มารายงานข่าวกับเว่ยจ้าวเหนียนรีบวิ่งตามออกไปติดๆ

เว่ยจ้าวเหนียนคือคนเก่าแก่ของกองทัพไป๋ เขารู้ดีว่านี่คือเวลาอาหารเย็นของค่ายทหาร ไป๋ชิงเหยียนมาในเวลานี้หญิงสาวต้องไปที่โรงครัวของค่ายทหารก่อน จากนั้นค่อยไปที่สนามซ้อมรบแน่นอน นี่คือธรรมเนียมของแม่ทัพตระกูลไป๋ทุกคน

เมื่อเว่ยจ้าวเหนียนไปถึงโรงครัวจึงเห็นไป๋ชิงเหยียนตักน้ำแกงขึ้นชิมพลางเอ่ยชมฝีมือของพ่อคครัวทหาร

“เสี่ยว…” เว่ยจ้าวเหนียนกำหมัดคารวะ เขาเกือบหลุดเรียกไป๋ชิงเหยียนว่าเสี่ยวไป๋ไซว่ เมื่อนึกได้จึงรีบแก้คำทันที “ฝ่าบาท!”

ไป๋ชิงเหยียนถือถ้วยน้ำแกงร้อนไว้ในมือพลางหันไปมองเว่ยจ้าวเหนียนยิ้มๆ จากนั้นเอ่ยถาม “เหตุใดไม่เห็นพวกแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อกัน”

เว่ยจ้าวเหนียนก้าวไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา “เฉิงหย่วนจื้อพาพวกเสิ่นเหลียงอวี้ หลิ่วผิงเกาและแม่ทัพคนอื่นรวมทั้งสิ้นสิบสองคนเดินทางไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่เมืองหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาบอกว่าจะทูลขออนุญาตฝ่าบาทเปิดศึกกับต้าเยี่ยนและขอให้ฝ่าบาทยึดอำนาจทางทหารคืนจากหานเฉิงอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

เว่ยจ้าวเหนียนเห็นสีหน้าของไป๋ชิงเหยียนยังคงเรียบนิ่งจึงกล่าวต่อ “พวกเขาจากไปได้ครึ่งชั่วยามแล้ว ซือหม่าผิงบอกว่าจะพยายามขัดขวางพวกเขาให้ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาถึงเมืองหลวงแล้วหรือไม่ กระหม่อมกำลังจะออกไปตามพวกเขา ทว่า ฝ่าบาทเสด็จมาพอดีพ่ะย่ะค่ะ”

“พี่หญิง…” ไป๋ชิงอวี๋วางถ้วยน้ำแกงในมือลง “ข้าจะกลับไปตามพวกแม่ทัพเฉิงเองขอรับ”

“ไม่จำเป็น” ไป๋ชิงเหยียนเขย่าถ้วยน้ำแกงหอมกรุ่นในมือเล็กน้อย จากนั้นยกดื่มจนหมดถ้วย หญิงสาววางถ้วยลงบนโต๊ะแล้วกล่าวขึ้น “ไปสนามซ้อมรบ”

เว่ยจ้าวเหนียนเห็นไป๋ชิงเหยียนไม่ได้มีท่าทีเป็นกังวลแม้แต่น้อยจึงเหลือบมองไปทางไป๋ชิงฉีและไป๋ชิงอวี๋แวบหนึ่ง เมื่อเห็นเจิ้นกั๋วอ๋องและฮู่กั๋วอ๋องดื่มน้ำแกงในมือจนหมดถ้วยด้วยท่าทีสบายๆ เช่นเดียวกันเขาจึงคิดว่าไป๋ชิงเหยียนคงมีแผนการในใจแล้ว เว่ยจ้าวเหนียนจึงไม่กังวลว่าความใจร้อนวู่วามของพวกเฉิงหย่วนจื้อจะสร้างความวุ่นวายให้ไป๋ชิงเหยียนอีก

“พอดีเลยพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ทหารกำลังซ้อมยิงธนูกันอยู่ ฝ่าบาทจะได้ชี้แนะพวกเขาได้พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจ้าวเหนียนที่คลายกังวลกล่าวออกมายิ้มๆ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท