สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1430 ไม่มีทางหลบหนี

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1430 ไม่มีทางหลบหนี

ฟ่านอวี้กานหยิบกาน้ำชารินน้ำชาให้ตัวเองหนึ่งถ้วย ทว่า ยังไม่ทันยกขึ้นจิบก็ได้ยินหลูเฟิ่งหลางกล่าวขึ้นเช่นนี้ เขาจึงหันไปถาม

“เรื่องใด”

“ครั้งก่อนที่ข้านำของล้ำค่าไปถวายฮองเฮาในวังหลวง ข้าทูลฮองเฮาว่าสามารถสนับสนุนองค์ชายเจ็ดขึ้นครองบัลลังก์ได้ ขอเพียงฮองเฮาอยู่กับจักรพรรดิตงอี๋ตอนที่จักรพรรดิตงอี๋ใกล้สิ้นพระชนม์ จากนั้นประทับตราประจำตัวของจักรพรรดิตงอี๋ลงบนราชโองการยกบัลลังก์ให้องค์ชายเจ็ดแล้วซ่อนไว้ใต้หมอนของจักรพรรดิตงอี๋ เมื่อจักรพรรดิตงอี๋ใกล้สิ้นพระชนม์ค่อยหยิบราชโองการออกมาอ่านต่อหน้าขุนนางทั้งหมด”

หลู่เฟิ่งหลางกำถ้วยชาในมือแน่น

“จากนั้นต้าโจวจะกลายเป็นแรงสนับสนุนสำคัญของนางและโอรส! ข้าไม่รู้ว่าองค์ชายสองก่อกบฏเพราะเรื่องนี้หรือไม่”

ฟ่านอวี้กานเบิกตาโพลงมองไปทางหลู่เฟิ่งหลาง เขานึกไม่ถึงเลยว่าพี่สาวของหลู่หยวนเผิงจะใจกล้าถึงขนาดยุยงให้ฮองเฮาของแคว้นอื่นปลอมแปลงราชโองการเช่นนี้

“เจ้าไม่กลัวว่าจักรพรรดิตงอี๋จะมีราชโองการตัวจริงอยู่ก่อนแล้วอย่างนั้นหรือ!”

ฟ่านอวี้กานเอ่ยถาม

“ต่อให้จักรพรรดิตงอี๋มีราชโองการอยู่แล้ว ทว่า พระองค์อาจเปลี่ยนใจในตอนสุดท้ายได้ ที่สำคัญข้ากำชับฮองเฮาไปแล้วว่าหากต้องการทำการใหญ่ต้องกล้าเสียสละ หากนางระบุลงไปในราชโองการว่าเมื่อฮองเฮาดูแลจักพรรดิองค์ใหม่จนเติบใหญ่แล้วให้ฮองเฮาปลิดชีพตามจักรพรรดิองค์ก่อนไป…ความน่าเชื่อถือจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์สำเร็จจริงๆ ถึงเวลานั้นก็แค่ให้ไทเฮาแสร้งปลิดชีพและหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัยก็พอ สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ที่คนจัดการทั้งสิ้น”

ความรู้สึกมากมายถาโถมขึ้นในใจฟ่านอวี้กาน หากฮองเฮานำราชโองการที่เขียนตามที่หลู่เฟิ่งหลางบอกออกมาอ่านต่อหน้าขุนนางตงอี๋ทุกคนจริงๆ คงไม่มีผู้ใดสงสัยว่านี่คือราชโองการปลอมแน่นอนเพราะในราชโองการระบุไว้ว่าไทเฮาต้องปลิดชีพตามจักรพรรดิองค์ก่อนของตงอี๋ไปหลังจากจักรพรรค์องค์น้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่!

เขานับถือสติปัญญาของพี่สาวหลู่หยวนเผิงจริงๆ ทว่า นางกล้าบ้าบิ่นจนเขารู้สึกหวาดกลัว!

ฟ่านอวี้กานไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดออกมาดี เขาได้แต่มองหน้าหลู่เฟิ่งหลางนิ่ง

“ไม่รู้ว่าฮองเฮาทำสิ่งใดผิดพลาดไป องค์ชายสองจึงก่อกบฏขึ้นเช่นนี้!”

หลู่เฟิ่งหลางรู้สึกไม่สบายใจ

“ใต้เท้าหลิ่วจะเดือดร้อนไปด้วยหรือไม่”

นางแค่อยากช่วยต้าโจวสนับสนุนให้จักรพรรดิหุ่นเชิดของตงอี๋ขึ้นครองบัลลังก์ จักรพรรดิองค์นี้จะไม่ถูกต้าเยี่ยนหรือเทียนเฟิ่งยุแยง เขาจะเชื่อฟังต้าโจวแต่เพียงผู้เดียว

ฟ่านอวี้กานไม่ได้ดื่มน้ำชาในถ้วย เขาแค่กลืนน้ำลายตัวเองลงคออึกใหญ่ จากนั้นก้มหน้าครุ่นคิด หากองค์ชายสองรู้ว้าต้าโจวร่วมมือกับฮองเฮาคิดสนับสนุนองค์ชายเจ็ดขึ้นครองบัลลังก์ เช่นนั้นองค์ชายสองจะเชื่อคำที่เขาเคยกล่าวว่าต้าโจวไม่สนว่าผู้ใดจะได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิตงอี๋เป็นคนถัดไป ขอเพียงทุกคนอยู่ร่วมอย่างสงบก็พออีกหรือไม่

สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือองค์ชายสองเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น หากเขารู้ว้าต้าโจวแอบช่วยสนับสนุนองค์ชายเจ็ดลับหลังเขา องค์ชายสองจะสังหารใต้เท้าหลิ่วหรือไม่นะ!

“ไม่ว่าอย่างใดนางก็เป็นถึงฮองเฮา นางคงไม่ประมาทถึงขั้นทำให้องค์ชายสองจับได้หรอก”

ฟ่านอวี้กานเริ่มหายใจติดขัด

“ไม่แน่ ขนาดข้างกายขององค์ชายใหญ่ยังมีสายลับขององค์ชายสองแฝงตัวอยู่เลย ฮองเฮา…”

หลู่เฟิ่งหลางขมวดคิ้วแน่น นางวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ

“แม้ตอนนั้นข้าจะให้ฮองเฮาไล่ทุกคนออกไปจากตำหนักหมดแล้ว ทว่า ผู้ใดจะรู้ว่ามีสายลับแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนที่ฮองเฮาเชื่อใจบ้างหรือไม่”

ตอนนี้หลู่เฟิ่งหลางต้องคิดถึงผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้น

“เมื่อพวกเราพบหานเฉิงอ๋องพวกเราต้องขอให้เขายกทัพไปข่มขวัญตงอี๋ จากนั้นพวกเราจะไปรับใต้เท้าหลิ่วกลับมาด้วยตัวเอง หากองค์ชายสองผู้นั้นอยากควบคุมสถานการณ์ในราชสำนักให้มั่นคงหลังจากขึ้นครองราชย์ ไม่อยากให้องค์ชายใหญ่ถือโอกาสนี้แย่งบัลลังก์ไปจากเขา เขาคงไม่กล้าทำให้ต้าโจวไม่พอใจแน่!”

ฟ่านอวี้กานนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าตอนนี้คงมีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ทว่า เขาและหลู่เฟิ่งหลางยังเด็กเกินไปในสายตาของขุนนางคนอื่นในราชสำนัก ไม่รู้ว่าหานเฉิงอ๋องจะฟังคำของพวกเขาหรือไม่

“เมื่อกลับไปควรไปขอคำปรึกษาจากไช่เซียนเซิงก่อน หากไช่เซียนเซิงยอมช่วยเกลี้ยกล่อมหานเฉิงอ๋อง ความเป็นไปได้คงสูงกว่าเดิม”

ฟ่านอวี้กานกล่าว

หลู่เฟิ่งหลางพยักหน้า นางรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ หากคำแนะนำของนางทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตงอี๋จริงๆ ความตายก็คงไม่สาสมกับความผิดที่นางทำลงไป

พวกนางไม่ได้นำสิ่งใดติดตัวขึ้นมาบนเรือตอนหนีออกมาด้วย บนเรือมีเพียงเสบียงอาหารที่พอทานประมาณสิบวันเท่านั้น หากพวกนางเร่งเดินทางอีกเจ็ดถึงแปดวันก็คงไปถึงต้าโจว

ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าเรือของทหารตงอี๋ไล่ตามพวกนางมาทันในเช้าของวันที่สี่

คนคุมหางเสือที่ยืนอยู่บนกาบเรือมองเห็นเรือที่มีธงสัญลักษณ์ของแคว้นตงอี๋อยู่ไม่ไกลจึงเสียวสันหลังวาบขึ้นทันที เขารีบสั่งให้คนสั่นกระดิ่ง

“ทหารเรือของตงอี๋ไล่ตามมาแล้ว! รีบสั่นกระดิ่ง! ทหารตงอี๋ไล่ตามมาแล้ว!”

เสียงกระดิ่งบนเรือดังขึ้นทันที ผู้คุมเรือรีบตะโกนขึ้น

“เร่งความเร็วอีก! ลูกเรือประจำตำแหน่ง ดึงใบเรือขึ้นเดี๋ยวนี้! เร็วเข้า!”

บนเรือเกิดความโกลาหลขึ้นทันที

ลูกเรือที่นอนพักผ่อนอยู่ในตัวเรือถูกปลุกขึ้นทันที พวกเขารีบวิ่งไปประจำตำแหน่งของตัวเอง หกคนช่วยกันพายเรือหนึ่งตำแหน่งตามเสียงแตรสัญญาณอย่างพร้อมเพรียง

ลูกเรือที่มีหน้าที่ดูเรือใบเรือช่วยกันดึงใบเรือขึ้นสุดแรงเพื่อให้เรือแล่นไปตามลมได้รวดเร็วขึ้น

หลู่เฟิ่งหลางที่กำลังล้างหน้าแปรงฟันได้ยินเสียงเอะเอะจึงเดินออกมาจากห้อง ทว่า เรือโคลงเคลงจนร่างนางเซไปโดนประตูห้อง นางพยายามตั้งสติเดินจับเสาออกไปด้านนอก

ดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นทางทิศตะวันออกจนท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าขาวกลายเป็นสีแดงเพลิงทั่วทั้งบริเวณ เรือยักษ์หลายลำปรากฏตัวขึ้นกลางทะเลท่ามกลางแสงแดดจ้าราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังแยกเขี้ยวเตรียมงับเหยื่อของตัวเอง

ใจของหลู่เฟิ่งหลางกระตุกวูบ นางจับขอบเรือที่โคลงเคลงแน่น เบื้องหน้าของนางคือทะเลที่กว้างใหญ่และเรือของแคว้นตงอี๋ที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจนละลานตาไปหมด

ท้องทะเลกว้างใหญ่…ไม่มีทางหลบหนี!

ทว่า สิ่งที่นางเป็นห่วงมากกว่าชีวิตของตัวเองคือชีวิตของหลิ่วหรูซื่อ!

แคว้นตงอี๋ส่งทหารเรือมากมายไล่ตามพวกนางมาเช่นนี้แสดงว่าเขาต้องการเปิดศึกกับต้าโจวแล้ว พวกเขาจะจับตัวพวกนางกลับไปอย่างนั้นหรือ!

แน่นอนว่าไม่ใช่!

องค์ชายสองของตงอี๋จะเปิดศึกกับต้าโจวหลังจากขึ้นครองราชย์เลยอย่างนั้นหรือ!

เช่นนั้น…ตอนนี้ใต้เท้าหลิ่วเป็นเช่นใดบ้าง เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

“เจ้าออกมาทำอันใดตรงนี้!”

เมื่อฟ่านอวี้กานออกมาจากตัวเรือก็เห็นหลู่เฟิ่งหลางกำลังยืนมองเรือของตงอี๋อยู่ตรงขอบเรือ เขารีบเข้าไปกระชากแขนของหญิงสาว

“เรือกำลังเร่งความเร็วแล้ว เจ้ากลับไปอยู่ในตัวเรือจะปลอดภัยกว่า!”

“ไม่รู้ว่าใต้เท้าหลิ่วจะเป็นเช่นใดบ้าง…”

น้ำเสียงของหลู่เฟิ่งหลางเบาจนแทบถูกเสียงของลูกเรือกลบ

ฟ่านอวี้กานมองออกไปด้านนอกแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปกล่าวกับหลู่เฟิ่งหลาง

“ก่อนมาที่นี่ข้ารับปากหลู่หยวนเผิงแล้วว่าจะดูแลเจ้าให้ดี! ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงใต้เท้าหลิ่ว ทว่า การที่เจ้ายืนอยู่ตรงนี้ไม่มีผลอันใดต่อใต้เท้าหลิ่วแม้แต่น้อย! ใต้เท้าหลิ่วให้พวกเราหนีมาก่อนเพราะต้องการปกป้องพวกเรา พวกเราจะปล่อยให้การเสียสละของใต้เท้าหลิ่วสูญเปล่าไม่ได้!”

ฟ่านอวี้กานกล่าวจบก็กระชากร่างของหลู่เฟิ่งหลางเข้าไปในตัวเรือ

ทั้งสองคนเพิ่งเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงลูกเรือด้านนอกตะโกน

“นั่นเรือของต้าโจว! นั่นธงสัญลักษณ์ของทหารเรือของต้าโจว! เร็ว พวกเรารีบชักธงต้าโจวของพวกเราขึ้นเร็ว เร็วเข้า!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท