บทที่ 67 เพื่อนบ้านที่น่าตกใจ
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เจียงฮ่าวยังไม่รับรู้ว่ามีใครบางคนกำลังหาจังหวะแก้แค้นแต่อย่างใด
เขารู้สึกเพียงว่าหากเขายังอยู่แต่ในบ้านเขาจะไม่มีทางแข็งแกร่งขึ้นได้ เขาจึงออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อหาโอกาสในการแข็งแกร่งมากขึ้น
ทันทีที่เจียงฮ่าวเปิดประตูออกมา เขาก็พบหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกจากบ้านด้วยเช่นกัน
เมื่อเจียงฮ่าวเห็นเพื่อนบ้านของเขาก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อยเหมือนกัน
“นี่ฉันคิดไปเองรึเปล่าเนี่ย”
อีกด้านหนึ่ง เทียนทงที่พึ่งจะออกจากบ้านมา เมื่อเห็นเจียงฮ่าวแล้วก็อดจะนิ่งอึ้งไปไม่ได้ แต่เมื่อรู้สึกตัวแล้ว เธอก็ได้แสดงความดีใจออกมาเกือบจะกระโดดโลดเต้น
“เป็นนายนี่นา”
“สุดยอดไปเลย หาตัวนายพบแล้ว”
เทียนทงกระโดดใส่เจียงฮ่าวในทันที ก่อนที่จะจับแขนเจียงฮ่าวโล้ไปมาราวกับชิงช้าด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
“โอ้ ไม่..คิด..ว่า..จะ…เจอ..กัน…เลย…นะ…ปู่…เธอ…เป็น…ไง…มั่ง…งงงงง…” เจียงฮ่าวพูดขณะโดนเหวี่ยงแขนของตนไปมา
ใช่แล้ว คนๆนี้คือหลานของชายชราที่เจียงฮ่าวได้ช่วยไว้ที่สวนตอนกลับบ้าน
“ไม่เป็นไรแล้วจ้ะ โรคของคุณปู่หายดีแล้ว แม้แต่ร่างกายเองก็แข็งแรงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ”
เมื่อเทียนทงได้พูดถึงอาการของปู่ของตนที่ดีขึ้นมาก ด้วยท่าทางดีใจกว่าที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำ
นั่นก็เพราะเธอรู้ดีว่าอาการของปู่เธอก่อนหน้านี้แย่มากขนาดไหน
“งั้นก็ดีแล้ว”
เจียงฮ่าวเองแค่ถามออกมาพอเป็นพิธีเท่านั้น เพราะเขาเชื่อมั่นในสรรพคุณของแก่นชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย
แน่นอนว่าเขาได้คาดเดาสภาพร่างกายของชายชราคนนี้ไว้แล้วด้วยเช่นกัน
“เธอจะออกไปเดินเล่นเหรอ พอดีเลย ฉันกำลังจะออกไปด้วยเหมือนกัน”
ตอนนี้เจียงฮ่าวได้มองไปยังเทียนทงที่ตอนนี้กำลังจับแขนเขาไว้อย่างเหนียวหนึบไม่ยอมปล่อยในตอนที่เธอถามเขา
“อ๋า….”
เมื่อได้ยินดังนั้น เทียนทงได้เหลือบตาไปมองเจียงฮ่าวอย่างเขินอาย
“อ่ะแฮ่มมม ชะ ใช่แล้ว ฉันกำลังจะออกไปเดินเล่น งั้นเราออกไปด้วยกันเถอะ”
เจียงฮ่าวไม่ปฏิเสธ
ความจริงเขาเองก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน เพราะเขานั้นความจริงต้องการแค่ออกไปหาโชคจากระบบของเขาเท่านั้น แต่ในเมื่อมีสาวงามตามไปแบบนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมทำอะไรไม่ได้เป็นแน่
ไม่นาน ทั้งสองก็ได้ออกจากเขตจิงไทและตรงไปยังริมแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก
ตลอดทาง จียงฮ่าวและเทียนทงได้พูดคุยกันจนตอนนี้เริ่มคุ้นเคยกันแล้ว
กลายเป็นว่าเทียนทงเองก็เป็นม.ปลายเหมือนเขา แต่ว่าเธอนั้นอยู่โรงเรียนซิงจื่อที่หนึ่ง
เทียนทงยังบอกเขาอีกว่าปู่ของเธอนั้นพยายามหาตัวผู้ช่วยชีวิตของตนมาโดยตลอด
ที่จึงทำให้เธอชวนเขาไปกินข้าวมื้อเย็นที่บ้าน
ในตอนนี้เอง ถึงแม้ว่าเจียงฮ่าวจะไม่ต้องการถูกตอบแทนใดๆอยู่แล้วจึงได้ปฏิเสธไป แต่สุดท้ายก็โดนเทียนทงตื้อไม่เลิกจนต้องรับคำไป
ไม่สิ ต้องบอกว่าต้องตอบรับเท่านั้น ไม่มีทางหนีพ้นได้เลยแม้แต่น้อย
“ว้ายยย”
ในตอนนี้ มีเสียงกรีดร้องหนึ่งดังมาจากผู้คนที่กำลังมุงดูอะไรอยู่ข้างหน้า
และเสียงนี้ดังออกมาจากทุกคนที่กำลังมุงดูอยู่
“เกิออะไรขึ้น ใครเป็นอะไรกัน”
“ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นตรงนั้นนะ ลองไปดูกันดีกว่า”
“…”
เป็นตอนนั้นที่มีใครสักคนหนึ่งที่ชี้ไปในแม่น้ำแล้วตะโกนออกมา
“เวรแล้ว ฉิบ… มีเด็กตกไปในแม่น้ำ”
ทันทีที่ได้ยินเสียง คนกลุ่มใหญ่ที่ออกันอยู่ริมน้ำได้รีบก้มดูลงที่ขอบแม่น้ำทันที
และดังเสียงตะโกน มีเด็กคนหนึ่งได้ผลัดตกลงไปในแม่น้ำ เด็กคนนั้นว่ายน้ำไม่ได้และกำลังกลัวอย่างขีดสุด เด็กร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียงพลางสำลักน้ำเข้าไปด้วย
ในตอนนี้เอง คนที่ดูเหมือนจะเป็นแม่เด็กได้แหวกฝูงชนแล้วกระโดดลงไปในทันที
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอเองก็จะว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน ทำให้เธอนั้นต้องสำลักน้ำไปเล็กน้อยตอนที่กระโดดลงไป
เป็นตอนนี้เองที่เจียงฮ่าวและเทียนทงได้เข้ามาเห็นเหตุการณ์ เทียนทงได้รีบตะโกนออกมาอย่างร้อนรนว่า
“เราจะทำยังไงดี เราจะทำยังไงกันดีล่ะ”
“มี มีใครว่ายน้ำได้บ้าง รีบๆกระโดดลไปช่วยพวกเขาเร็ว”
อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่มุงดูโดยรอบตอนนี้มีแต่ชายและหญิงชราเท่านั้น ดูจากสภาพแล้วดูยังไงก็ไม่สามารถช่วยชีวิตใครไว้ก้ด
ในตอนนี้เอง เจียงฮ่าวพึ่งจะนึกได้ว่าตนเองมีทักษะเกี่ยวกับการว่ายน้ำอยู่ เขาได้มาจากตอนสลายปลาไนที่แม่ของเขาเตรียมไว้ทำข้าวเย็นตอนอยู่บ้านเก่า
และนี่เองทำให้เขานั้นพุ่งหลาวลงไปอย่างไม่อิดออดเลยสักนิด