ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 515 ได้ยินว่าเธอท้อง

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 515 ได้ยินว่าเธอท้อง

ตอนที่ 515 ได้ยินว่าเธอท้อง

“สวยมากเลยค่ะ” หลินเซี่ยมองเฉินเจียเหอด้วยความซาบซึ้ง “ฉันไม่ได้เลือกแต่งงานกับคนผิดจริง ๆ ในที่สุดฉันก็ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในอาคารใหม่สภาพดีแบบนี้ร่วมกับคุณ”

สำหรับยุคสมัยนี้ ชีวิตของเธอนับว่าเป็นผู้ชนะอย่างสมบูรณ์แบบ

เฉินเจียเหอเห็นรอยยิ้มปีติยินดีบนใบหน้าของหลินเซี่ย ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเอาใจใส่และความเปี่ยมสุข เขาลูบหัวเธอแล้วพูดว่า “ตราบใดที่คุณชอบก็พอแล้ว”

“ทาสีภายในเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ซื้อเฟอร์นิเจอร์แล้วย้ายเข้าอยู่ได้เลยถูกไหมคะ?”

“ใช่แล้ว ผมเซ็นสัญญาไว้ล่วงหน้า เป็นพนักงานรายแรก ๆ ที่ได้รับกุญแจ จากนี้เราเตรียมย้ายเข้าด้วยตัวเองได้เลย ภาระงานของผมอยู่ที่โรงงานแห่งใหม่เป็นหลักอยู่แล้ว ร้านใหม่ของคุณก็อยู่ใกล้กับที่นี่ด้วยเหมือนกัน คงสะดวกกว่าถ้าย้ายมาอยู่ที่นี่โดยเร็วที่สุด”

“ค่ะ”

พรุ่งนี้ทั้งสองจึงนัดหมายกันว่าจะออกไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ พนักงานคนอื่น ๆ ในโรงงานที่ได้รับการจัดสรรบ้านเป็นชุดแรกก็มีความสุขมาก และยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดเช่นกัน

โรงงานยานยนต์และอาคารพักอาศัยถูกย้ายมาที่นี่ในเวลาเดียวกัน บริเวณอาคารเก่าทั้งหมดจึงเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถึงแม้พนักงานที่ไม่ได้ถูกจัดสรรให้ย้ายเข้าบ้านหลังใหม่เป็นกลุ่มแรกจะผิดหวัง แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงรอรายชื่อกลุ่มถัดไปเท่านั้น

เฉินเจียเหอวางแผนที่จะตกแต่งห้องเป็นห้องส่งตัวบ่าวสาวหลังจากซื้อเฟอร์นิเจอร์ครบ จากนั้นจัดงานแต่งในช่วงวันชาติ และค่อยย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่น

หลินเซี่ยกลับไปที่อาคารพักอาศัยที่เดิมในตอนเย็น ขณะกำลังจะอาบน้ำ ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของหวังซิ่วฟาง

เมื่อเร็ว ๆ นี้หลินเซี่ยมีงานยุ่งรัดตัว ไม่ค่อยได้เจอหน้าหวังซิ่วฟางเลยนับตั้งแต่กลับมาจากบ้านเกิด

ถึงอย่างนั้นก็ได้ยินเจียงอวี่เฟยเล่าให้ฟังว่าหวังซิ่วฟางและเจียงกั๋วเซิ่งมีความสัมพันธ์ที่มั่นคง

นอกจากนี้พ่อของหล่อนก็มีแนวโน้มว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง หวังซิ่วฟางเองก็ยุ่งอยู่กับงาน ดังนั้นทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้เจอหน้า

ประเด็นคือหล่อนส่งเสียงโวยวายเรื่องอะไรล่ะ?

หลินเซี่ยวิ่งลงไปชั้นล่าง เห็นหวังซิ่วฟางกำลังยืนขวางทางเลขานุการจางเอาไว้ และโต้เถียงกับเขาด้วยเสียงอันดัง

“หัวหน้าคะ ฉันแค่อยากถามว่าทำไมจู่ ๆ ชื่อของฉันถึงถูกขีดฆ่าออกไปจากในรายชื่อ ทำไมฉันถึงไม่มีสิทธิ์ได้บ้านที่ได้รับการจัดสรรเหมือนตอนแรก?”

หวังซิ่วฟางพูดด้วยแรงอารมณ์ หลินเซี่ยดูประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของหล่อน

โควตาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของหวังซิ่วฟางโดนขีดฆ่างั้นเหรอ?

ได้ยินมาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าหวังซิ่วฟางได้รับการจัดสรรให้อยู่ชั้นบนสุดเลยนี่นา

เลขานุการจางอธิบายด้วยสีหน้าลำบากใจ

“สหายซิ่วฟาง โรงงานเราช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง มีพนักงานจำนวนมากกำลังรอการจัดสรรที่อยู่อาศัย อาจมีใครก็ตามที่มีความจำเป็นที่จะได้รับมากกว่าคุณ คุณรอเป็นกลุ่มถัดไปเถอะ”

“งานของฉันก็จะถูกย้ายไปที่โรงงานใหม่เหมือนกัน แล้วจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหน?” หวังซิ่วฟางยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ “ฉันจ่ายค่าธรรมเนียมอะไรต่าง ๆ ไปครบหมดแล้ว ทำไมถึงมาปฏิเสธฉันเอาป่านนี้? พวกคุณรังแกกันเกินไปแล้ว”

เลขานุการจางพูดต่อ “ทำใจซะเถอะ ยังมีคนอื่นที่ทำงานมาหลายปีและหาที่พักเป็นของตัวเองได้ พนักงานที่ลำบากจริง ๆ รอเราอยู่มากมาย เราต้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ คุณเองก็เป็นพนักงานเก่า น่าจะมีทางไปที่ดีกว่า ทางโรงงานพอรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ส่วนตัวของคุณมาบ้าง เลยตัดสินใจว่าจะมอบบ้านให้กับสหายคนอื่นที่ต้องการมากกว่า เข้าใจไหม?”

หวังซิ่วฟางต้องการไล่ตาม แต่เลขานุการจางก็วิ่งเข้าไปในบ้านแล้วปิดล็อกประตูอย่างแน่นหนา

หวังซิ่วฟางทรุดตัวลงกองกับพื้นทันที หลินเซี่ยจึงรีบเข้าไปประคองหล่อนและพูดว่า “พี่สาวหวัง เห็นแก่สุขภาพร่างกายของตัวเองก่อนเถอะค่ะ ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละอย่าง”

หวังซิ่วฟางนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นอย่างหมดสิ้นหนทาง ร้องคร่ำครวญว่า “พวกเขาทั้งหมดกลั่นแกล้งฉัน ฉันมีทั้งลูกที่กำพร้าพ่อ แถมยังเป็นแม่ม่าย เห็นได้ชัดว่าคุณสมบัติของฉันเหมาะสมจะได้โควตาทุกอย่าง แต่ตอนนี้ฉันกลับถูกตัดรายชื่อ สิ่งที่ฉันควรจะได้รับกลับหายไป เธอคิดว่าพวกเขามีเจตนาอะไรถึงได้ทำกับฉันอย่างนี้?”

หลินเซี่ยต้องการช่วยประคองหวังซิ่วฟางกลับบ้าน แต่หวังซิ่วฟางปฏิเสธที่จะไปไหน บอกว่าหล่อนต้องเข้าพบผู้อำนวยการโรงงานให้ได้

พี่สาวหยางที่เป็นภรรยาของหวังกงจึงเดินเข้ามาสมทบ ทั้งสองคนพยายามเกลี้ยกล่อม จากนั้นพี่สาวหยางก็บอกว่าตนรู้เรื่องราวภายใน

หลินเซี่ยรอฟังด้วยความอยากรู้

“ซิ่วฟาง เธอรู้ไหมว่าทำไมจู่ ๆ ผู้อำนวยการโรงงานจึงขีดฆ่าชื่อของเธอออก?”

หวังซิ่วฟางคร่ำครวญ “เขาคงคิดว่าฉันซึ่งเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวน่าจะรังแกได้ง่ายกว่าคนอื่นละมั้ง? พรุ่งนี้ฉันต้องรายงานเรื่องนี้ให้ผู้อำนวยการทราบให้ได้”

“มีคนไปร้องเรียนน่ะสิ” พี่สาวหยางมองท้องของหล่อนอย่างมีความหมายแล้วพูดต่อ

หวังซิ่วฟางไม่รู้ว่าทำไม “ร้องเรียนเรื่องอะไร? ฉันทำอะไรผิด?”

หลินเซี่ยก็มองหน้าพี่สาวหยางอย่างสงสัยเช่นกัน

พี่หยางเริ่มเล่าว่า “ได้ยินมาว่ามีใครสักคนไปบ่นกับผู้อำนวยการโรงงาน ว่าเธอน่ะมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้ชายคนใหม่ แถมตอนนี้ยังตั้งท้องลูกของรองผู้อำนวยการเจียงแห่งโรงงานเครื่องจักรอีกด้วย มีแนวโน้มสูงมากว่าเธออาจลาออกจากงานหลังได้รับจัดสรรบ้านหลังใหม่ ดังนั้นถ้าบ้านหลังนี้ตกเป็นของเธอ ทรัพยากรของโรงงานก็จะเป็นอันเสียเปล่า เพราะเธอกำลังจะเป็นภรรยาของผู้อำนวยการโรงงานเครื่องจักร อีกหน่อยเธอไม่ต้องทำงานในโรงงานของเราก็ได้ อีกอย่าง ตามระเบียบแล้วถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีบ้านเป็นของตัวเอง อีกฝ่ายก็จะไม่ได้รับการจัดสรรที่พักอาศัย”

“ไร้สาระ ใครเป็นคนปล่อยข่าว? อยู่ดี ๆ ฉันจะเสกเด็กเข้าท้องได้ยังไง? ใครบอกว่าฉันจะลาออก นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันนะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยแจ้งให้ทางโรงงานทราบแล้วแท้ ๆ พวกเขาก็ดูสนับสนุนฉันมาก พอคนอื่นไม่เชื่อก็เลยปล่อยข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ แล้วบรรดาผู้อำนวยการก็หลงเชื่อเนี่ยนะ? พวกเขาไม่มีความคิดริเริ่มจะมาถามฉันด้วยซ้ำ แต่กลับขีดฆ่าโควตาของฉันออกเลยงั้นเหรอ?”

หวังซิ่วฟางโกรธมากยิ่งขึ้น

แทบอดใจไม่ไหวที่จะฉีกปากคนที่ปล่อยข่าวลือ

หล่อนและเจียงกั๋วเซิ่งคบหากันโดยรักษาระยะห่างมาโดยตลอด จะมีเด็กอยู่ในท้องของหล่อนได้อย่างไร?

“เรื่องนี้… ฉันว่าบางทีถ้าพวกเขามาคุยกับเธอ เธอก็อาจจะไม่ยอมรับก็ได้ เพราะแบบนั้นถึงได้ตัดปัญหาโดยการตัดชื่อออกซะเลย”

ขณะที่พี่สาวหยางพูดแบบนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองท้องของหวังซิ่วฟางอีกครั้ง

หลินเซี่ยสังเกตเห็นสายตาของพี่สาวหยาง จึงมองไปที่ร่างของหวังซิ่วฟางโดยไม่รู้ตัว

เอวของหล่อนดูกลมขึ้นจริง ๆ

มองเผิน ๆ ก็เหมือนคนท้องจริงๆ ด้วย

“ฉันไม่ได้ท้องแต่แรก แล้วทำไมฉันต้องยอมรับด้วยล่ะ?”

หลินเซี่ยเสนอว่า “พี่สาวหวัง ถ้าพี่คิดจะหยุดความปากมากของคนที่ไม่หวังดี พี่ก็ต้องงัดหลักฐานมาสู้ พี่ไปโรงพยาบาลขออัลตราซาวนด์ B จากนั้นกลับมาอธิบายสถานการณ์ให้ผู้อำนวยการฟัง บางทีเรื่องต่าง ๆ อาจจะพลิกผันก็ได้”

ด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปร่างล่าสุดของหวังซิ่วฟาง จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าคนอื่นอาจจะเข้าใจหล่อนผิดไป

อย่างไรก็ตาม เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่พวกเขาจะตัดหล่อนออกจากโควตาการจัดสรรบ้านหลังใหม่โดยอาศัยข่าวลือนี้เพียงอย่างเดียว

“ขอบคุณมากนะเซี่ยเซี่ยที่เตือนฉัน ตอนเช้าฉันจะออกไปตรวจทันที”

หวังซิ่วฟางรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจอัลตราซาวนด์ B ในวันรุ่งขึ้น

จากนั้นหล่อนก็นำแผ่นฟิล์มอัลตราซาวนด์ไปที่ห้องทำงานฝ่ายอำนวยการ แล้วตบลงบนโต๊ะดังปัง

“หัวหน้าคะ ฉันไม่ได้ท้องจริง ๆ ฉันยังไม่ได้แต่งงาน จะท้องได้ยังไง? อีกอย่างฉันไม่เคยมีความคิดจะลาออก ในโรงงานมีหนุ่ม ๆ ตั้งมากมายที่พร้อมจะสละโสด ทำไมพวกหล่อนถึงมุ่งเป้ามาทำลายชื่อเสียงของฉัน? หรือแค่เพราะฉันเป็นม่าย เจียงกั๋วเซิ่งมีบ้านก็จริง แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราเป็นเพียงคนรักธรรมดา ๆ บ้านของพวกเขาไม่ถือว่าเป็นของฉัน ต่อให้เราจะแต่งงานกัน ก็ใช่ว่าหลังจากนั้นฉันจะมีสิทธิ์ใด ๆ ในทรัพย์สินของเขา

“ฉันเข้าเกณฑ์คนที่จะได้รับการจัดสรรที่อยู่อาศัยแท้ ๆ พวกคุณจะตัดสิทธิ์ฉันไม่ได้ อดีตสามีฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะกำลังขนสินค้าเข้าโรงงาน คิดว่าการเลี้ยงลูกคนเดียวมันง่ายนักเหรอ? ฉันทำงานในโรงงานมาหลายปีแล้ว แต่คุณกลับไม่ปกป้องฉันเลยเนี่ยนะ? ช่างใจร้ายใจดำสิ้นดี ขอบอกเลยว่าถ้าฉันไม่ได้ของที่ควรจะเป็นของฉันคืน ฉันจะฟ้องให้ถึงที่สุด ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเหตุผลของฉันจะมีน้ำหนักไม่เพียงพอ”

ดวงตาของหวังซิ่วฟางแดงก่ำ หล่อนรู้สึกเสียใจและผิดหวัง

“คุณไม่ได้ท้องหรอกเหรอ?” เลขานุการจางมองดูแผ่นอัลตราซาวนด์บีที่หวังซิ่วฟางตบลงบนโต๊ะ แล้วถามด้วยความประหลาดใจ

“เลขาจางคะ ในฐานะหัวหน้างาน คุณไม่ควรหลงเชื่อคำพูดของคนที่มีเจตนาไม่ดี เมื่อต้องจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง อย่างน้อยคุณควรมาถามฉันเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ไม่ใช่เหรอ?”

เลขานุการจางรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย เขาไม่ได้หูเบาเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดแค่อย่างเดียว แต่เหตุผลหลักก็คือ หวังซิ่วฟางมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ จนหล่อนดูเหมือนหญิงตั้งครรภ์จริง ๆ

นอกจากนี้หล่อนก็มีแฟนใหม่ ซึ่งเป็นถึงรองผู้อำนวยการของโรงงานเครื่องจักรอีกด้วย ได้ยินมาว่าเขาจะได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการเต็มตัวเร็ว ๆ นี้

ถ้าหวังซิ่วฟางกลายเป็นภรรยาของผู้อำนวยการโรงงานอื่น และมีลูกคนที่สอง นั่นจะไม่เป็นการยุติธรรมกับพนักงานคนอื่น ๆ ถ้าเธอลาออกจากงานหลังจากได้บ้านแล้ว

บ้านควรถูกมอบให้กับพนักงานที่มีความต้องการมันมากกว่า เนื่องจากมีคนจำนวนมากต่อแถวด้านหลังยาวเหยียด พร้อมกันนั้นก็มีคนร้องเรียนเรื่องหวังซิ่วฟาง พวกเขาจึงต้องตัดสินใจแบบนั้น

เลขานุการจางกล่าวว่า “คุณกลับไปก่อนแล้วกัน ทางเราจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในโรงงาน”

“ค่ะ ฉันยังเชื่อนะคะว่าหัวหน้าจะให้ความยุติธรรมและคำตอบที่น่าพอใจให้กับฉัน”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ใครมันเป็นคนปล่อยข่าวเนี่ย คนโดนเสียหายหนักนะ สมควรหาตัวการปล่อยข่าวแล้วฟ้องให้หนักเลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท