บทที่ 81 ฝันร้ายของเจียงฮ่าว
“อะไรนะ”
เจียงฮ่าวตกใจในทันทีที่ได้ยิน
อย่างไรก็ตาม ความตกใจนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่สุขุมในทันที
“เหมือนว่าความคิดของฉันจะถูกต้องนะ”
“หมอนั่นสมควรจะมาจากองค์กรลับ พอฉันทำท่าจะเรียกตำรวจ มันจึงกลัวความลับขององค์กรรั่วไหลจึงชิงฆ่าตัวตายไปก่อน”
“แต่มันต้องลับขนาดไหนกันถึงยอมตายได้ขนาดนี้”
เจียงฮ่าวในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัยภายในจิตใจ
ในตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูก็ได้ดังขึ้นมา ทำลายห้วงเวลาแห่งการนึกคิดของเขาลง
“ก็อก ก็อก ก็อก ก็อก”
“ฮ่าว เป็นอะไรรึเปล่าลูก”
ที่ด้านนอกประตู แม่ของเจียงฮ่าวมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างมาก
เจียงฮ่าวรีบยืนขึ้น บิดขี้เกียจ และเปิดประตูออกไป เขาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและถามออกมา
“แม่ มีอะไรเหรอ”
แม่ของเจียงฮ่าวที่เห็นว่าลูกของตนนั้นมีท่าทางยังคงอยู่ดี แม้จะยังสงสัยอะไรอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา
“อืมมมม ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่เตรียมข้าวเย็นเสร็จแล้ว ลูกและไซหยวนรีบลงไปกินได้แล้ว เดี๋ยวแม่จะออกไปดูพ่อแกแล้วก็ช่วยเก็บของซะหน่อย”
“อ้อ เข้าใจแล้วครับ”
เจียงฮ่าวตอบออกมาหลังจากนั้นก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่งแล้วถามออกมา
“แม่ ตอนนี้ผมก็มีเงินแล้ว แม่กับพ่อไม่ต้องไปนั่งตั้งของทำงานอีกแล้วก็ได้นะ แม่กับพ่อน่าจะออกไปเที่ยวเล่นเต้นรำอะไรพวกนั้นก็ได้”
แม่ของเจียงฮ่าวยิ้มออกมาทันทีเมื่อได้ยิน เธอมองเจียงฮ่าวด้วยความภูมิใจก่อนจะพูดออกมา
“แม่เองก็แก่แล้วน่า ไอ้พวกเต้นรำอะไรนั่นมันก็เกินวัยไปแล้ว อีกอย่าง พ่อของลูกเองก็ทำงานมาตั้งครึ่งค่อนชีวิต อยู่จะให้เปลี่ยนไปเลยนั้นก็คงยากที่จะเปลี่ยนได้อยู่เหมือนกัน”
“…”
ถึงแม้อยากจะให้พ่อแม่ของเขาหยุดทำงานขนาดไหนก็ตาม แต่ตัวเขานั้นก็ไม่อยากจะบังคับแต่อย่างใด
คืนนั้น เจียงฮ่าวรีบเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะวันนี้เขานั้นผ่านเหตุการณ์เป็นตายไล่เลี่ยกัน นี่ทำให้จิตใจของเขานั้นยากที่ทานทน
ไม่นาน เจียงฮ่าวก็หลับลึกไป
ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาผ่านไปขนาดไหน แต่ในตอนนี้ เจียงฮ่าวผู้ที่นอนหลับได้สนิทในทุกค่ำคืน อยู่ๆก็ได้ตลบผ้าห่มออกไป มือของเขาเองก็อดที่จะปัดป่ายไปมาคว้าสิ่งรอบข้างไม่ได้
ตามมาด้วยเสียงพลิกตัวขึ้นจากเตียงและนั่งลง
“อืมมมมม ฟิ้ววววววว”
ดวงตาของเจียงฮ่าวนั้นเบิกกว้าง เหงื่อไหลผุดออกมาจากหน้าผาก พร้อมทั้งหายใจอย่างหนักหน่วง
เจียงฮ่าวที่รู้ตัวแล้วว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในกลางดึกเพราะยังคงเห็นแสงจันทร์อยู่ เขาได้มองไปรอบๆก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้อง
ดูเหมือนว่าเขานั้นจะฝันร้าย
เขาปาดเหงื่อที่ออกมาเต็มหน้าผากและเอนกายลงบนเตียงอย่างอ่อนเพลีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขานั้นได้ปิดตาลง ใบหน้าที่เลือดไหลออกจากทวารที้งเจ็ดของนักฆ่าก็ยังไม่สามารถสลัดให้หลุดจากจิตสำนึกของเขาได้
เจียงฮ่าวในตอนนี้ทำได้แค่เพียงยิ้มแห้งๆเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าฉันยังเป็นคนธรรมดาอยู่สินะ ถึงแม้ว่าจะมีระบบอยู่ในการครอบครองแต่ก็ยังกลัวเป็น”
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เจียงฮ่าวก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน เขาลุกขึ้นมาก่อนที่จะไปเปิดไฟที่หัวเตียงนอน
เจียงฮ่าวได้เดินออกไปจากห้องเพื่อหาน้ำดื่มสักแก้ว
ตอนนั้นเอง แม่ของเจียงฮ่าวที่รับรู้ก็อดที่จะตกใจไม่ได้
แม่ของเจียงฮ่าวได้เดินออกจากห้องของตนก็ได้เดินมาหาเจียงฮ่าวพร้อมความรู้สึกที่อยากจะหาคำตอบ
“ฮ่าว เป็นอะไรรึเปล่า”
เจียงฮ่าวที่เห็นว่าตนนั้นทำให้แม่ต้องตื่นก็อดจะรู้สึกผิดไม่ได้
“ไม่มีอะไรครับแม่ ก็แค่นอนไม่หลับน่ะ”
“นอนไม่หลับเหรอ”
“ทำไมล่ะ ให้แม่หายาให้กินดีกว่านะ”
เจียงฮ่าวแม้ว่าจะอยากปฏิเสธขนาดไหนก็ตาม แต่เมื่อเห็นความกังวลที่ปรากฎบนใบหน้าของแม่ของตนก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ แม่ของเขาเองก็เลยไปหายามาให้เขากินเรียบร้อยแล้ว
ไม่นานแม่ของเขาก็กลับมาพร้อมยาที่เขียนเอาไว้ว่า ยากล่อมประสาท
“ฮ่าว ก่อนหน้านี้พ่อของลูกเองก็นอนไม่หลับจนต้องซื้อยานี่มากัน มันยังไม่หมดอายุนะ ลูกเองก็ดูคู่มือการใช้ยาแล้วกันว่าจะต้องใช้กี่เม็ด”
เจียงฮ่าวพูดออกมาในทันทีหลังจากได้รับขวดยามาแล้ว
“ครับ แม่ก็นอนก่อนเลยแล้วกัน เดี๋ยวขออ่านคู่มือก่อน เดี๋ยวกินเสร็จแล้วก็จะเข้านอนเหมือนกัน”
“ก็ได้ แต่ยานี่ยังไงก็ต้องกินเข้าไปล่ะ”
เมื่อแม่ของเจียงฮ่าวพูดจบก็ได้กลับเข้าห้องไป
เจียงฮ่าวเมื่อเห็นว่าแม่ของตนเข้าห้องไปแล้ว เขาเองก็นำแก้วน้ำและยากลับเข้าห้องนอนไป
เมื่อกลับเข้าไปในห้อง เจียงฮ่าวได้ทำการจ้องมองขวดยาอีกครั้งก่อนที่จะพึมพำออกมา
“หวังว่าจะได้ผลล่ะนะ”
เขาได้เปิดขวดยาออกและดูคู่มือที่อยู่ภายใน
“วันละสิบห้าเม็ด”