ตอนที่ 376 พระราชโองการออกแล้ว
“ข้าไม่เห็นด้วย!”
องค์หญิงจู้หยางหรือเซียวฮูหยินเดินทางมาถึงตำหนักซิงชิ่งด้วยความเร่งรีบ เผชิญหน้ากับบุตรเขย เซียวเฉิงเหวินโดยตรง
เซียวเฉิงเหวิน “…”
สีหน้าของเขาเคร่งขรึม เผชิญหน้ากับอีกฝ่ายด้วยความเงียบ
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้หัวเราะด้วยความกระอักกระอ่วน
“พระราชโองการพระราชทานงานอภิเษกออกมาแล้ว องค์หญิงจู้หยางรีบกลับไปน้อมรับพระราชโองการเสียดีกว่า!”
“พระราชโองการยังไม่ออกจากวังหลวง ทุกอย่างยังทันเวลา ขอฝ่าบาทโปรดเรียกคืนพระราชโองการ!”
เซียวฮูหยินใช้ถ้อยคำจริงใจ แต่ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้กลับส่ายหน้าเล็กน้อย ไม่ยอมรับปาก
เซียวฮูหยินผิดหวังอย่างมาก “เพราะเหตุใด ท่านอ๋องผิงชินผลักดันเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จด้วยเจตนาใดกันแน่ เหตุใดฝ่าบาทจึงทรงเชื่อคำโน้มน้าวของเขา ทรงเห็นด้วยกับการตัดสินใจที่เหลวไหลเช่นนี้ บุตรสาวของข้าจะแต่งงานกับเซียวอี้ได้อย่างไร!”
“พูดเช่นนี้ไม่ได้! เซียวอี้ก็ถือเป็นขุนนางที่มีความดีความชอบ ถึงแม้บัดนี้เขาจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดก็ตาม คุณหนูสี่แต่งงานกับเขาก็ถือว่าเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ในเมื่อพระราชโองการออกมาแล้ว ท่านก็ยอมรับเถิด! ข้าไม่มีทางเรียกพระราชโองการคืนกลัยมา!”
ท่าทีของฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้แน่วแน่อย่างมาก
เซียวฮูหยินเจ็บปวดใจ ดวงตาจ้องมองเซียวเฉิงเหวินที่นิ่งเงียบอย่างโหดเหี้ยม “อวิ๋นเกอไม่เคยทำให้เจ้าขุ่นเคือง ถึงแม้จะเป็นช่วงภัยแล้ง นางก็รักษาสัญญา เหตุใดเจ้าจึงต้องทำร้ายนางเช่นนี้”
“งานแต่งนี้เป็นการทำร้ายนางจริงหรือ ข้าคิดว่าความคิดขององค์หญิงคับแคบเกินไป”
“อย่ามาพูดเหตุผลกับข้า! นางเป็นบุตรสาวของข้า ข้าไม่อาจยกนางให้คนชั่วอย่างเซียวอี้ได้!”
เซียวเฉิงเหวินพูดอย่างหนักแน่น “พระราชโองการพระราชทานงานอภิเษกออกมาแล้ว เยียนอวิ๋นเกอย่อมต้องแต่ง หากนางไม่พอใจกับงานแต่งงานนี้ อย่างมากก็แค่ฆ่าเซียวอี้ทิ้ง กลายเป็นแม่หม้ายแต่งงานใหม่!”
มันคือคำพูดของคนอย่างนั้นหรือ
เซียวฮูหยินไม่อยากเชื่อว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากของเซียวเฉิงเหวิน
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ก็รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย ทำเช่นนี้ก็ได้หรือ
สังหารสามี?
จากนั้นกลายเป็นแม่หม้าย จากนั้นแต่งงานใหม่?
อย่างนี้ก็ได้?
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้พูดเสียงเบา “เซียวอี้ฆ่าไม่ง่าย!”
เซียวเฉิงเหวินกลับหัวเราะ “ผู้อื่นฆ่าเซียวอี้ไม่ได้ แต่เยียนอวิ๋นเกอทำได้แน่! หากองค์หญิงไม่พึงพอใจจริง สู้เตรียมมีดคมหรือยาพิษในสินสอดของคุณหนูสี่ให้มาก ทิ่มเข้าไปเพียงครั้งเดียว ทุกอย่างย่อมจะเรียบร้อย!”
“เลวทราม!”
เซียวฮูหยินโกรธจัด
หากอวิ๋นเกอต้องแบกรับความผิดโทษฐานสังหารสามี นางจะแต่งงานใหม่ได้อย่างไร
เขาพูดภาษาคนอย่างนั้นหรือ
ด้านหนึ่งช่วยเซียวอี้ทูลขอพระราชโองการพระราชทานงานอภิเษก อีกด้านก็ออกความคิดให้อวิ๋นเกอสังหารสามี จุดยืนของเซียวเฉิงเหวินมีปัญหาอย่างมาก!
มีปัญหายิ่งนัก!
เขายืนอยู่ฝ่ายใดกันแน่
ช่วยเซียวอี้ หรือว่าช่วยเยียนอวิ๋นเกอ
เซียวฮูหยินมองเซียวเฉิงเหวิน ยิ่งมองยิ่งไม่ชอบใจ
หญ้าบนสันกำแพง เอนเอียงไปสองข้าง ช่างทำให้คนรู้สึกรังเกียจ
เซียวฮูหยินทูลถามฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้โดยตรง “ฝ่าบาท บุตรสาวทั้งสองของข้าต่างแต่งเข้าราชวงศ์ เหมาะสมหรือ”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้หัวเราะ “ย่อมเหมาะสม! ถึงแม้จะเป็นราชวงศ์เหมือนกัน แต่วงศ์ตระกูลเดียวกัน!”
เซียวฮูหยินหัวเราะ “ในเมื่อฝ่าบาททรงบอกว่าเหมาะสม หากข้าคัดค้านต่อไป คงจะเป็นการไม่รู้ผิดชอบชั่วดีนักไม่ใช่หรือ”
“งานแต่งนี้ ข้าก็ไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้ว ความจริงก็ถือเป็นวาสนาที่ดี”
วาสนาที่ดีอย่างไรกัน!
เซียวฮูหยินโกรธจนเกือบจะก่นด่าออกมา
เวลานี้ ข้าหลวงมาทูลรายงาน “พระพันปีเสด็จแล้ว!”
“รีบตามข้าไปต้อนรับพระพันปี!”
พระพันปีเถาได้ยินข่าว จึงเสด็จมายังตำหนักซิงชิ่ง
“ข้าได้ยินว่าฝ่าบาทจะทรงพระราชทานงานอภิเษกให้เซียวอี้และเยียนอวิ๋นเกอ ฝ่าบาททรงจริงจังหรือ”
“พระราชโองการออกไปแล้ว ย่อมต้องจริงจัง”
พระพันปีเถาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลันมองไปทางเซียวฮูหยิน “น้องจู้หยางเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือ”
“ข้าย่อมไม่เห็นด้วย! แต่ฝ่าบาทไม่ทรงยอมเรียกคืนพระราชโองการ!” เซียวฮูหยินทูลฟ้องทันที
พระพันปีเถาชำเลืองมองเซียวเฉิงเหวินที่เงียบงัน จากนั้นจึงพูดกับฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้อี้อย่างจริงจัง “เรื่องใหญ่อย่างการแต่งงาน ย่อมต้องเป็นคำสั่งของบิดามารดา! ในเมื่อจู้หยางไม่เห็นด้วย ฝ่าบาทจะทรงบังคับได้อย่างไร ข้าคิดว่าพระองค์ทรงเรียกคืนพระราชโองการจะดีกว่า!”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ทำหน้าจริงจัง “พระราชโองการออกมาแล้ว จะเรียกคืนได้อย่างไร เสด็จแม่อย่าทรงสร้างปัญหาเพิ่ม!”
พระพันปีเถาตกตะลึงอย่างมาก
ท่าทีของฮ่องเต้แข็งกร้าวยิ่งนัก!
บุตรชายคนโค เซียวเฉิงเหวินกลอกยาใดให้ฮ่องเต้กันแน่ ทำให้ฮ่องเต้ทรงยืนกรานที่จะพระราชทานงานอภิเษก
นางอดมองไปทางเซียวเฉิงเหวินไม่ได้
เซียวเฉิงเหวินกำลังหลับตาพักผ่อน ความคิดของเขาลอยออกไปไกลแล้ว
ไฟโกรธของพระพันปีเถาปะทุขึ้น สีหน้าของนางดำทะมึน
นางพูดอย่างจริงจัง “ฝ่าบาทจะทรงพระราชทานพระราชทานงานอภิเษกให้เซียวอี้ได้อย่างไร! เขาเป็นนักโทษของราชสำนัก ไม่จับเขาก็แล้วไป จะพระราชทานงานอภิเษกให้เขาได้อย่างไร”
คราวนี้ถึงคราวฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้รู้สึกตกตะลึง “เซียวอี้เป็นนักโทษของราชสำนักตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดข้าจึงไม่รู้เรื่องนี้”
พระพันปีเถาทำหน้าเจ็บปวดใจ “ฝ่าบาทลืมเรื่องการลอบสังหารในตำหนักจินหรวนเวลานั้นแล้วหรือ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุดจนถึงบัดนี้ เซียวอี้สังหารคนในที่สาธารณะ บอกว่าเขาเป็นนักโทษนั้นผิดหรือ”
“แต่หากข้าจำไม่ผิด ตอนที่เสด็จพ่อยังทรงอยู่ คดีนี้ก็มีข้อสรุปแล้ว เซียวอี้เป็นขุนนางผู้มีความดีความชอบของราชสำนัก เขาสร้างความดีทดแทนความผิด ข้ายึดอำนาจทางการทหารของเขา ปลดหน้าที่ของเขา เรื่องนี้จบสิ้นแล้ว เสด็จแม่อย่าได้สร้างปัญหาอีก!”
พระพันปีเถาโกรธจนเจ็บหน้าอก
นางสงบอารมณ์ “ฝ่าบาทไม่ทรงไตร่ตรองท่าทีของจู้หยางหน่อยหรือ นางในฐานะมารดา ไม่อาจทนเห็นบุตรสาวแต่งงานให้กับคนชั่วอย่างเซียวอี้ได้ ฝ่าบาทจะทรงใจร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้กลับพูด “ไม่ใช่ข้าใจร้าย! แต่ในเมื่อพระราชโองการออกไปแล้ว งานอภิเษกย่อมต้องจัดขึ้น หากองค์หญิงจู้หยางไม่พอใจต่องานอภิเษกนี้ สามารถยอมรับความเห็นของท่านอ๋องผิงชิน ให้เยียนอวิ๋นเกอสังหารสามีแล้วแต่งงานใหม่ ข้าจะไม่ลงโทษที่นางสังหารสามี!”
“เหลวไหล!”
เหลวไหลสิ้นดี
มีอย่างที่ไหนสนับสนุนให้ผู้อื่นไปสังหารสามี
พระพันปีเถาโกรธจนแทบจะระเบิด
เซียวฮูหยินแทรกขึ้นมา “ความหมายของฝ่าบาทคือ ไม่อาจเรียกคืนพระราชโองการได้ แต่ก็จะไม่เอาผิดเรื่องที่สังหารสามีอย่างนั้นหรือ”
“ใช่แล้ว!”
“หากเป็นเช่นนี้ แสดงว่าฝ่าบาททรงไม่เห็นด้วยกับการอภิเษกนี้ อีกทั้งยังไม่สนใจชีวิตของเซียวอี้ เหตุใดฝ่าบาทจึงต้องพระราชทานงานอภิเษกให้เขา พร้อมทั้งยังไม่ยอมเรียกคืนพระราชโองการ”
“พระราชทานงานอภิเษกเป็นคำมั่นสัญญาที่ข้ามีต่อเซียวอี้! ข้าต้องการเป็นกษัตริย์ที่มีสัจจะ แต่ในเวลาเดียวกัน ข้าก็เข้าใจความรู้สึกขององค์หญิง ข้าทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเซียวอี้ เรื่องต่อจากนี้ ข้าย่อมจะไม่สนใจอีก”
ความหมายก็คือ อย่าขัดขวางการเป็นคนมีสัจจะของข้า!
ข้าก็จะไม่ขัดขวางพวกเจ้าฆ่าคน!
ช่างเป็น…อัจฉริยะทางตรรกะ!
พระพันปีเถาทำหน้าฉงน “เหตุใดข้าจึงไม่รู้ว่าฝ่าบาทยังทรงมีสัญญาต่อเซียวอี้ด้วย”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ทำหน้าจริงจังพลันเอ่ยขึ้น “ข้ามีสัญญาต่อเซียวอี้จริง เรื่องนี้ไม่ได้โกหก! ขอเสด็จแม่อย่าทรงทำให้ข้าลำบากใจ!”
พระพันปีเถาโกรธจนกระทืบเท้า “คนชั่วอย่างเซียวอี้ยังแต่งงานมีครอบครัวได้ ดีเสียจริง!”
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้พูด “เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว องค์หญิงยอมรับชะตากรรมเถิด! ส่วนเรื่องหลังจากที่เซียวอี้และคุณหนูสี่แต่งงาน ข้าไม่สนใจ”
เซียวฮูหยินทำหน้าบึ้ง “ขอบพระทัยฝ่าบาท! หม่อมฉันขอทูลลา!”
นางรู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงตัดสินในขอทูลลา
ตอนจากไป นางยังไม่ลืมมองไปทางเซียวเฉิงเหวิน
เวลานี้ เซียวฮูหยินยิ่งมองบุตรเขยอย่างเซียวเฉิงเหวินยิ่งรู้สึกรังเกียจ
ช่างเป็นตัวหายนะเสียจริง!
เซียวเฉิงเหวินไม่สนใจแม้แต่น้อย สีหน้าของเขาเรียบเฉย
เซียวฮูหยินจากไป เซียวเฉิงเหวินก็รีบขอทูลลาตาม
พระพันปีเถาตำหนิเขา “เจ้าสอง เจ้าคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ เจ้าไปมาหาสู่กับเซียวอี้ได้อย่างไร เขากลอกยาใดให้เจ้า ทำให้เจ้าช่วยเขาอย่างเต็มที่เช่นนี้ เจ้าลืมว่าท่านลุงสองเขาเจ้าตายอย่างไรหรือ เจ้าทำเช่นนี้ เจ้ารู้ว่าข้าเสียใจเพียงใดหรือไม่!”
เซียวเฉิงเหวินหันกลับมามองพระพันปีเถา “ขอเสด็จแม่ทรงวางพระทัย เป็นความผิดของข้า แต่เรื่องมาถึงบัดนี้แล้ว เสด็จแม่อย่าทรงถือสาอีกเลย เรื่องในอนคต ผู้ใดก็บอกได้ไม่แน่นอน”
“จะ…เจ้าช่างเหลวไหลสิ้นดี! เจ้าช่วยเซียวอี้ขอพระราชโองการพระราชทานงานอภิเษกจะมีผลดีอย่างไรต่อเจ้า เจ้าอย่าลืม สะใภ้ของเจ้าเป็นพี่สาวของเยียนอวิ๋นเกอ นางจะดีใจหรือ”
“นางย่อมไม่ดีใจ! แต่ข้าเชื่อว่านางจะเข้าใจใสนไม่ช้า”
“เจ้าเหลวไหล!”
“เสด็จแม่อย่าทรงโต้แย้งกับพี่สองเลย!” ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้ออกมาไกล่เกลี่ย “เรื่องมาถึงบัดนี้แล้ว เสด็จแม่ต้องทรงปล่อยวาง”
“ข้าไม่ปล่อยวาง! ตอนนั้นเสด็จพ่อเจ้าปกป้องเซียวอี้ ข้าอดทน เหตุใดเวลานี้ พวกเจ้าสองพี่น้องยังคงปกป้องเซียวอี้ คนชั่วอย่างเซียวอี้มีสิ่งใดดี เหตุใดต้องปกป้องเขา”
พระพันปีเถาถามออกมาจากจิตวิญญาณ
ฮ่องเต้ไท่หนิง เซียวเฉิงอี้นวดขมับ “เสด็จแม่เข้าใจผิดแล้ว ไม่มีผู้ใดปกป้องเซียวอี้ เซียวอี้ก็ไม่ต้องการให้ผู้ใดปกป้อง เขาคนเดียวก็เพียงพอที่จะพิชิตแผ่นดินได้ อย่างไรก็ตาม งานอภิเษกถูกกำหนดไว้แล้ว เสด็จอย่าได้ดื้อดึงเรื่องนี้ ทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจอีก ข้าเหนื่อยแล้ว กลับตำหนักไปพักผ่อนก่อน เสด็จแม่และพี่สองก็รีบกลับไปพักผ่อน!”
พระพันปีเถาประชวร!
คราวนี้นางประชวรเพราะความโกรธจน ล้มป่วยอยู่บนเตียงจนลุกไม่ขึ้น
นางรู้สึกแน่นหน้าอก หมดหนทางในการปล่อยวาง
บางครั้งยังร้องห่มร้องไห้
ลูกอกตัญญูทั้งสอง!
นางต้องทำผิดมหันต์เพียงใด จึงได้ให้กำเนิดลูกอกตัญญูทั้งสองออกมา
เวลานี้ มีเพียงองค์หญิงติ้งเถาที่สามารถปลอบนางได้!
พูดจบ ฮ่องเต้ก็หนีจากไปก่อน!
เขาวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว!
เกรงว่าเพื่อหลบเลี่ยงไฟจากสงคราม!
เซียวเฉิงเหวินก็อยากหนี แต่ถูกพระพันปีเถากีดขวางเอาไว้
“เจ้าบอกข้ามา เจ้าคิดอย่างไรกันแน่ หากข้าจำไม่ผิด เจ้ามีความไม่พอใจต่อเซียวอี้จำนวนมาก เหตุใดจึงต้องช่วยเขา”
เซียวเฉิงเหวินกระแอมไอเสียงเบา “เพราะเขามีประโยชน์!”
เหตุผลอันใดกัน
พระพันปีเถาพูดด้วยความขุ่นเคือง “คนมีประโยชน์บนแผ่นดินมีมากมาย เจ้าจะช่วยคนมีประโยชน์ทุกคนเลยอย่างนั้นหรือ”
เซียวเฉิงเหวินสูดลมหายใจเข้า พลันพูดอย่างจริงจัง “ประโยชน์ของเซียวอี้ ผู้อื่นจะเทียบได้อย่างไร ความสามารถของเขา ไม่ต้องให้ข้าพูด เสด็จแม่ก็ทรงรู้ดี ความสามารถเช่นนี้ หากไม่เป็นประโยชน์ต่อราชสำนัก ช่างน่าเสียดาย”
พระพันปีเถาหงุดหงิด พูดด้วยอารมณ์เดือดดาล “ราชสำนัก ราชสำนัก…มีแต่เพื่อราชสำนักตลอดเวลา เมื่อใดพวกเจ้าสองพี่น้องจะรับใช้ข้าได้สักครั้ง พวกเจ้าสองพี่น้องจะตามใจข้าสักครั้งได้หรือไม่ ให้ข้าได้สมความปรารถนา”
เซียวเฉิงเหวินพูด “จะมีวันนั้น! แต่ไม่ใช่เวลานี้! ขอเสด็จแม่โปรดทรงอภัย คราวนี้ข้าทำได้เพียงช่วยเหลือเซียวอี้”
“ช่างน่าโมโหยิ่งนัก!”
พระพันปีเถาโกรธจนเจ็บหน้าอก
นางยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ คนชั่วอย่างเซียวอี้ ไร้บิดามารดา เวลานี้แม้แต่ตำแหน่งขุนนางหรืออำนาจทางการทหารก็ไม่มี เขาเอาความสามารถมาจากใดในการใช้ชีวิตอย่างราบรื่นเช่นนี้
สวรรค์มีตาหรือไม่
คนชั่วเซียวอี้สมควรถูกฟ้าผ่าตายไปนานแล้ว!
…
พระพันปีเถาประชวร!
เวลานี้ มีเพียงองค์หญิงติ้งเถาที่สามารถปลอบนางได้!