บทที่ 481 เยี่ยมเยือนเพื่อหารือความร่วมมือ
บทที่ 481 เยี่ยมเยือนเพื่อหารือความร่วมมือ
“อู๋ฝาน ที่นี่เป็นบริษัทของเถ้าแก่ที่ต้องการสั่งเฟอร์นิเจอร์จากทางเราค่ะ” เจ้าหย้าหนานชี้ไปทางอาคารตรงหน้าพร้อมบอกกับอู๋ฝาน
ช่วงเช้าหลังตื่นขึ้น อู๋ฝานก็พาเหมยอวี่และเหมยเสวี่ยไปยังโรงงานเฟอร์นิเจอร์เพื่อรับตัวเจ้าหย้าหนานเดินทางไปสำนักงานทนายความ ก่อนที่กลุ่มคนทั้งห้าจะเดินทางพร้อมกันไปยังบริษัทของผู้จ้างวาน
อู๋ฝานพยักหน้ารับ “ขึ้นไปกันเถอะครับ”
หลังพวกอู๋ฝานขึ้นไปจนถึงชั้นที่นัดหมาย ก็พบว่ามีคนมารออยู่ก่อนแล้ว เพื่อนำทางไปพบกับประธานบริษัท
“บริษัทนี้ไม่ใช่เล่นเลยนะคะ” เจ้าหย้าหนานกระซิบบอกอู๋ฝาน
อู๋ฝานพยักหน้ารับ การที่บริษัทถือครองออฟฟิศทั้งชั้นของตึกสำนักงานสูงกลางเจียงโจวได้ อย่างไรก็ต้องเป็นคนมีอำนาจ เพราะไม่ใช่อะไรที่บริษัทขนาดเล็กจะสามารถมีในครอบครอง
พนักงานนำทางกลุ่มคนไปถึงประตูหน้าออฟฟิศแห่งหนึ่งก่อนจะเคาะแจ้ง
“เข้ามาได้” เสียงดังตอบจากด้านในออฟฟิศ
พนักงานเปิดประตูนำกลุ่มคนเข้าไปด้านใน จากนั้นจึงแจ้งให้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานทราบ “เถ้าแก่ครับ กลุ่มคนจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์เจี้ยนหยางมาถึงแล้วครับ”
ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนพร้อมเผยสีหน้ายิ้มแย้ม “เถ้าแก่เจ้ามาถึงแล้ว? นั่งก่อนครับ เสี่ยวหวังไปนำน้ำมาให้แขกด้วย”
“ครับเถ้าแก่” พนักงานที่นำทางให้พวกอู๋ฝานตอบรับก่อนจะหันกลับออกไป
ขณะนั่งลงอู๋ฝานจึงได้โอกาสมองไปยังเก้าอี้ที่เถ้าแก่วัยกลางคนนั่งเมื่อครู่ เป็นเก้าอี้ที่ใช้เทคนิคร่องและเดือยซึ่งเขาเป็นคนทำขึ้นเมื่อครั้งก่อน
“นี่ใช่เถ้าแก่อู๋ที่ครั้งก่อนเถ้าแก่เจ้าแนะนำรึเปล่าครับ?” ขณะอู๋ฝานมองทางเก้าอี้ ชายวัยกลางคนจึงเอ่ยขึ้น “ผมชื่อว่ากู้หมิง เป็นเถ้าแก่ของกลุ่มการค้าจั่งหยางครับ”
“เถ้าแก่กู้มีสายตาที่ดีทีเดียวค่ะ” เจ้าหย้าหนานยิ้มตอบรับ “เขาเป็นเถ้าแก่อู๋จากโรงงานเฟอร์นิเจอร์เจี้ยนหยางของพวกเราจริง ๆ ค่ะ และเป็นเถ้าแก่ตัวจริงด้วย ฉันเป็นแค่หุ้นส่วนที่ช่วยทำงานค่ะ”
“เถ้าแก่เจ้าเข้าใจล้อเล่นนะครับ” กู้หมิงหัวเราะตอบ “แต่เถ้าแก่อู๋ก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ ครับ ยังหนุ่มแต่เก่งกาจขนาดนี้แล้ว”
“เถ้าแก่กู้ชมเกินไปแล้วครับ” อู๋ฝานหัวเราะตอบ จากนั้นจึงมองเก้าอี้ที่กู้หมิงเพิ่งนั่งลงพลางถาม “เถ้าแก่กู้ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้โครงสร้างร่องและเดือยเหรอครับ?”
กู้หมิงหันหน้าไปมองเก้าอี้ที่นั่งแต่เดิมพลางยิ้มรับ “ใช่ครับ ผมค่อนข้างสนใจเฟอร์นิเจอร์โครงสร้างร่องและเดือยเป็นพิเศษเลย บอกเถ้าแก่อู๋ตามตรง กลุ่มการค้าจั่งหยางของพวกเราทำธุรกิจมากมาย ในบรรดาการค้าทั้งหลายมีส่วนสำคัญคือการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ และเฟอร์นิเจอร์โครงสร้างร่องและเดือยก็ได้รับความนิยมจากต่างประเทศค่อนข้างมากเลยทีเดียว ตอนพวกเขาไม่เห็นตะปูสักตัวยังประหลาดใจกันไม่น้อย ทั้งยังชื่นชมงานฝีมือที่ส่งต่อมาจากบรรพชนของพวกเรา เพราะแบบนั้นผมถึงร่วมมือกับโรงงานเฟอร์นิเจอร์มากมาย แต่ผลงานโครงสร้างร่องและเดือยของพวกเขาไม่ค่อยได้รับความพึงพอใจกันสักเท่าไหร่ จนครั้งล่าสุดผมบังเอิญได้เห็นเก้าอี้ที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์เจี้ยนหยางทำขึ้นเลยตาแทบลุกวาว จนต้องการร่วมมือในตอนนี้ครับ”
“เถ้าแก่กู้มีสายตาที่ดีเลยนะคะ เพียงแค่มองเฟอร์นิเจอร์โครงสร้างร่องและเดือยก็รู้ได้ว่าผลงานของโรงงานเรามีความพิเศษ” เจ้าหย้าหนานยิ้มรับ “ฉันไม่ขอถ่อมตัวแล้วกันนะคะ ผลงานเฟอร์นิเจอร์ของโรงงานเราเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งไม่มีสองในเจียงโจวเลยก็ว่าได้ หรือต่อให้มองทั่วทั้งประเทศพวกเราก็อยู่แถวหน้าค่ะ เถ้าแก่กู้ตัดสินใจร่วมมือกับทางเราถือว่าตัดสินใจถูกต้องแล้วค่ะ“
ไม่ว่าปัจจุบันระดับฝีมือของโรงงานจะดีหรือแย่แค่ไหน ก็ต้องฉาบทองแสดงความมั่นใจในสินค้าออกมาก่อน และผลงานโครงสร้างร่องและเดือยโดยฝีมือของอู๋ฝานนั้น สำหรับเจ้าหย้าหนานถือได้ว่าเป็นของดีที่ยากจะหาสิ่งอื่นมาเทียบได้จริง ๆ
“ผมอยู่ในแวดวงการค้าตรงนี้มาหลายปี แม้ไม่อาจบอกได้ว่าเชี่ยวชาญเฟอร์นิเจอร์โครงสร้างร่องและเดือย แต่ก็พอจะมีความสามารถจำแนกออกได้บ้าง เท่าที่พิจารณาเก้าอี้ตัวนี้ ระดับงานฝีมือถือว่าดีอย่างไร้ข้อกังขาจริง ๆ ครับ”
เฟอร์นิเจอร์ที่แม้ทำขึ้นด้วยโครงสร้างร่องและเดือยเหมือนกัน แต่คุณภาพของผลงานจะแตกต่างกันไปตามช่างฝีมือ แต่เก้าอี้ที่อู๋ฝานทำขึ้นมันทั้งโดดเด่นและเหนือกว่าเก้าอี้ประเภทเดียวกันที่ช่างไม้คนอื่นทำขึ้น อย่างไรชายหนุ่มก็มีฝีมือระดับมาสเตอร์ ไม่แปลกหากช่างฝีมือคนอื่นจะไม่อาจเทียบเคียง
กู้หมิงที่ทราบดีจึงเผยความจริงใจที่ต้องการร่วมมือออกมา ด้วยฝีมือระดับเช่นอู๋ฝาน เขาไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
“แต่ …” ขณะกู้หมิงเอ่ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ผมได้ตรวจสอบโรงงานเฟอร์นิเจอร์เจี้ยนหยางแล้ว และพบว่าโรงงานก่อตั้งมากกว่ายี่สิบปี ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นแทบไม่ได้เติบโตขึ้นเลย ส่วนเรื่องเฟอร์นิเจอร์โครงสร้างร่องและเดือยนั้นเป็นอะไรที่ไม่เคยผลิตออกมาก่อน เพราะอะไรเก้าอี้ตัวนี้ถึงปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันครับ?”
สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงการค้ามานาน กู้หมิงที่ต้องการร่วมมือกับอู๋ฝานและโรงงานเฟอร์นิเจอร์ของเขา อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาค้าขายครั้งใหญ่ ไม่แปลกหากต้องมีการตรวจสอบข้อมูลของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อน
จากการตรวจสอบ แนวทางการพัฒนาของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างต่ำ แม้จะยังไม่ล้มละลาย แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไร ทั้งยังไม่เคยเปิดผลิตภัณฑ์สินค้าโครงสร้างร่องและเดือยมาก่อน แต่ผลงานกลับยอดเยี่ยม ถึงขนาดทำกู้หมิงสงสัยว่าเก้าอี้นี้ใช่อู๋ฝานและโรงงานของเขาสร้างขึ้นมาเองจริงหรือไม่
“เหตุผลที่โรงงานของเราทำเก้าอี้ตัวนี้ออกมาได้ก็เพราะเถ้าแก่อู๋ของเราค่ะ“ เจ้าหย้าหนานผายมือให้ทางอู๋ฝาน
“เป็นแบบนั้นเหรอครับ?” กู้หมิงเอ่ยถาม
“เถ้าแก่ของเราเป็นช่างฝีมือทำเฟอร์นิเจอร์ชั้นแนวหน้าในแง่โครงสร้างร่องและเดือยเลยค่ะ เก้าอี้ตัวนั้นก็เป็นผลงานของเขาค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“โอ้? เถ้าแก่อู๋มีฝีมือด้านนี้ด้วย?” กู้หมิงแสดงความประหลาดใจออกมา
เดิมตอนได้เห็นอู๋ฝานเป็นเถ้าแก่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ด้วยอายุยังน้อย เขายังคิดไปว่าอีกฝ่ายเป็นทายาทจากตระกูลที่ร่ำรวยที่เข้าซื้อกิจการ ขณะนี้กลับได้พบว่าสิ่งที่คิดนั้นไม่ใช่
“เถ้าแก่กู้ ผมขอยืมเก้าอี้ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ?” อู๋ฝานไม่ตอบกู้หมิง แต่เลือกที่จะตบโต๊ะธรรมดาข้างกาย
“ได้สิครับ” กู้หมิงไม่ทราบว่าอู๋ฝานคิดทำอะไร ทว่าก็พยักหน้าตอบรับ
“เสี่ยวอวี่ กล่องเครื่องมือ” อู๋ฝานบอกกับเหมยอวี่
“ค่ะนายน้อย” เหมยอวี่ส่งกล่องเครื่องมือที่นำมาด้วยให้อู๋ฝาน
กู้หมิงอดไม่ได้ที่จะต้องประหลาดใจต่อความงามของเหมยอวี่และเหมยเสวี่ย แต่ก็ยังต้องมองอู๋ฝานเปิดกล่องเครื่องมือนำเอาเลื่อยออกมาด้วยความสงสัย
ที่ทำกู้หมิงประหลาดใจและสงสัย คือการที่อู๋ฝานกำลังใช้เลื่อยตัดขาเก้าอี้ ทว่าไม่ได้จบแค่เท่านั้น หลังเลื่อยขาข้างหนึ่งแล้วจึงเปลี่ยนตำแหน่งอีกครั้ง ในช่วงเวลาไม่ถึงห้านาทีเก้าอี้ที่เคยสมบูรณ์ดีจึงกลายเป็นชิ้นส่วนโดยฝีมือของชายหนุ่ม