บทที่ 139 ในประเทศและนอกประเทศ
อย่างไรก็ตามเมื่อเขานําโทรศัพท์ออกมานั้น ด้วยการที่เขาใช้โทรศัพท์คู่ใจที่ใช้มานานกว่าสามปีก็พบว่าแบตของมันหมด
“ไอ้ฉิบ… พึ่งจะชาร์จมาเมื่อเช้าเองนะทําไมถึงหมดได้กัน”
“โชคร้ายจริงๆ”
เจียงฮ่าวคิดอะไรขึ้นมาบางอย่าง
และความคิดนี้ทําให้เขานั้นอดที่จะมองไปยังมือถือของตนที่ถืออยู่เสียมิได้
“นี่ฉันก็ใช้เจ้าเครื่องนี้มากว่าสามปีแล้ว ระหว่างนี้เองก็มีรุ่นใหม่ๆออกมาทชตั้งเยอะ นี่ก็คงถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนให้กับคนที่บ้านแล้วเหมือนกันแหะ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจียงฮ่าวจึงเรียกแท็กซี่เพื่อจะไปยังร้านขายอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ในทันที
หลังจากเดินเข้ามาในร้านที่ชื่อว่าฮงหรุยE-shop แล้ว พนักงานสาวคนหนึ่งก็ได้วิ่งเข้ามาหาเจียงฮ่าวในทันที
สวัสดีคะ ยินต้อนรับสู่ร้านฮงหรุยE-shopค่ะ
คุณลูกค้าสนใจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนิดไหนคะ
เจียงฮ่าวได้ชี้นิ้วไปยังที่หนึ่ง
“โทรศัพท์ที่ดีที่สุดของร้านคือรุ่นอะไรครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น พนักงานสาวก็ได้เริ่มแนะนําโทรศัพท์ให้เจียงฮ่าวอย่างสุดความสามารถ
“ท่านคะ โทรศัพท์ที่ดีที่สุดของทางเรานั้นคือโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้เครื่องนี้ค่ะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็ได้หยิบโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้ขึ้นมาสองเครื่องที่มีรูปโฉมที่สวยเก๋ และเริ่มแนะนําโทรศัพท์ให้กับเจียงฮ่าว
“คุณลูกค้า นี่คือโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้รุ่นล่าสุดของประเทศเอ็ม ระบบประมวลผล…”
ในตอนนั้นเอง ไม่ไกลจากเจียงฮ่าวนั้นก็ได้มีหญิงสาววัยรุ่นที่สวมใส่เสื้อผ้านุ่งน้อยห่มน้อยพร้อมใบหน้าที่ฉาบได้ด้วยการแต่งหน้า
เมื่อเธอได้ยินว่าพนักงานกําลังจะแนะนําโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้รุ่นล่าสุดของประเทศเอ็มนี่ทําให้เธอต้องหนังตากระตุกในทันที
เธอรีบดึงชายวัยกลางคนหุ่นถังเบียร์ให้ไปรับฟังอยู่ข้างๆเจียงฮ่าวด้วยท่าที่เด็กน้อย
เจียงฮ่าวเองถึงแม้จะรู้สึกว่ามีคนอื่นมาอยู่ใกล้ๆ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด
พนักงานสาวเองในตอนนี้กําลังจะเริ่มอธิบายส่วนสําคัญของระบบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินที่มาของโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้นี้ก็ได้หมดความสนใจที่จะฟังต่อในทันที
เป็นตอนนี้ที่เจียงฮ่าวได้ยกมือขึ้นห้ามเพื่อคัดจังหวะการอธิบายของพนักงานสาว
“พอแล้วครับ ผมไม่สนใจเครื่องนี้”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้ชี้ไปยังโทรศัพท์อีกนี่ห้อหนึ่งที่อยู่ข้างๆ
“ผมอุดหนุนแต่ผลิตภัณฑ์ในประเทศน่ะ แนะนําเครื่องนี้ให้ผมฟังก็แล้วกัน”
หนักงานขายเองที่ได้ยินดังนั้นก็ได้รู้สึกปลื้มปลิ่มขึ้นมา เธอยิ้มให้เจียงฮาวก่อนที่จะเริ่มอธิบายโทรศัพท์ที่มียี่ห้อว่าฮัวเหว่ย
“ได้ค่ะคุณลูกค้า”
อย่างไรก็ตาม หยูเจียหลงที่กําลังฟังอยู่นั้นได้แสดงความไม่พอใจออกมา
“ไม่ แนะนําโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้นั่นต่อสิ ฉันยังฟังไม่จบเลยนะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็มองไปยังเจียงฮ่าวผู้ซึ่งแต่งชุดธรรมดาสามัญและมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ และนี่เองทําให้สายตาของเธอเต็มไปด้วยการดูถูก
“ถ้าไม่มีเงินก็ไปไกลๆเลยไป อย่ามาพูดให้ดูดีแถวนี้”
“แล้วก็ไอ้เรื่องสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในประเทศอะไรนั่นน่ะ นายบ้ารึเปล่า ฮัวเหว่ยจะไปสู้ยี่ห้อผลไม้ได้ยังไงกัน”
หยูเจียหลงนั้นเป็นผู้บริโภคผู้ภักดีของยี่ห้อผลไม้ เป็นธรรมดาที่เธอจะดูถูกคนที่ไม่ชอบโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้เหมือนเธอ
เจียงฮ่าวได้หันไปมองตามเสียงก็เห็นผู้หญิงท่าทางฉลาดน้อยคนหนึ่ง เขามองด้วยสายตาเย็นชาในทันที
“กักขฬะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หยูเจียหลงได้บังเกิดอารมณ์โกรธที่พุ่งสูงปรื้ดในทันที เธอบ้างมือเตรียมที่จะตบไปที่เจียงฮ่าว
ในตอนนั้นเอง เมื่อสายตาที่โกรธแค้นของหยูเจียหลงได้พบกับสายตาอันเย็นชาของเจียงฮ่าวก็ได้บังเกิดความกลัวจนต้องผงะถอยหลังไป
และในตอนนี้เธอก็รู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมา
เธอนั้นเกรงกลัวเพียงจ้องมองตาของเด็กจนๆคนหนึ่ง
นี่ทําให้เธอรู้สึกอับอายขึ้นมาและรู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นโดนกลั่นแกล้งอย่างไร้มนุษยธรรม
นี่ทําให้เธอนั้นหันไปข้างหลังก่อนที่จะล้มตัวซบอกชายหุ่นถังเบียร์ที่มากับเธอ พร้อมทั้งสวมวิญญาณนักแสดงและทําการร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา