ปลายจวักครองใจ – ตอนที่ 336 กลุ้มจะตายแล้ว

ปลายจวักครองใจ

ตอนที่ 336 กลุ้มจะตายแล้ว

เดิมแม่ทัพใหญ่ลั่วโกรธจนควันออกหู แทบอยากจะถือมีดไปจวนเถา แต่เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วอิง ความโมโหนั้นก็ถูกยับยั้งไว้ทันที

สิ่งที่มาแทนที่คือความกลุ้มใจ

บุตรสาวคนโตที่คิดว่าจะได้ออกเรือนอย่างไม่มีทางพลาดแล้วกลับไม่อยากแต่งงานเสียแล้ว

นี่คือบุตรสาวคนเดียวที่มีสัญญาหมั้นหมายเชียวนะ

จะอยู่กับเขาหรือ เขาไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องให้บุตรสาวดีๆ อยู่กับเขาไปจนแก่!

ลั่วเย่ว์เห็นบรรยากาศน่าอึดอัด นางก็รีบพูดว่า “ใช่แล้ว ท่านพ่อ ท่านอย่ากังวลใจเรื่องพี่ใหญ่มากเกินไปเลย ถอนหมั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่จริงใช้ชีวิตเหมือนพี่สามก็ดีเหมือนกัน…”

“ช้าก่อน เจ้าพูดว่าเหมือนใครนะ” แม่ทัพใหญ่ลั่วน้ำเสียงแปรเปลี่ยน

ลั่วเย่ว์มองลั่วเซิงอย่างไม่เข้าใจ “เหมือนพี่สามไงเจ้าคะ”

แม่ทัพใหญ่ลั่วกุมหัวใจเอาไว้และไออย่างรุนแรง

“ท่านพ่อเป็นอะไรไปหรือ” ลั่วเย่ว์รีบตบหลังแม่ทัพใหญ่ลั่วเบาๆ

แม่ทัพใหญ่ลั่วโบกมือ “ไม่เป็นไร…”

ภายใต้ท่าทีที่ทำเป็นเข้มแข็งคือหัวใจที่เศร้าโศก น้ำตาไหลเป็นแม่น้ำ

หรือว่านอกจากเขาจะต้องยอมรับความจริงอันแสนสลดที่บุตรสาวทั้งสี่จะอยู่กับเขาทั้งหมดแล้ว ยังต้องยอมรับเรื่องบุตรสาวทั้งสี่จะเลี้ยงนายบำเรอหรือ

ไม่ได้หรอกนะ!

อันที่จริงเขาเป็นบิดาแก่ชราธรรมดาๆ คนหนึ่ง บุตรสาวที่เลี้ยงผู้ชายมีเซิงเอ๋อร์คนเดียวก็พอแล้ว เขาทนรับไม่ไหวอีก

แม่ทัพใหญ่ลั่วถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เขายกน้ำชาขึ้นมาดื่มไปครึ่งจอกถึงจะสงบอารมณ์ได้

ช่างเถอะ ไม่คิดเรื่องน่าเศร้าเหล่านี้ก่อน เรื่องที่ต้องจัดการตอนนี้ยังมีอีกมาก

“ไม่มีเรื่องอื่นแล้วใช่หรือไม่” แม่ทัพใหญ่ลั่วถามด้วยหัวใจลุ่มๆ ดอนๆ

ลั่วเย่ว์อดพูดไม่ได้ว่า “มีเจ้าค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ท่านหญิงน้อยจวนผิงหนานอ๋องยกพวกมาอาละวาดที่หอสุราของพี่สาม”

แม่ทัพใหญ่ลั่วม่านตาหดลง มองลั่วเซิงนิ่ง “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ แล้วหลังจากนั้นเล่า”

“หลังจากนั้นลูกตบหน้าท่านหญิงน้อยไป ลูกไม่ได้ชนะด้วยสติปัญญา คิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอกท่าน”

แม่ทัพใหญ่ลั่วไอแห้งอีกครั้ง เขารีบดื่มชาสงบอารมณ์

ตอนที่เขาอยู่ในคุก เซิงเอ่อร์ยังกล้าตบท่านหญิงน้อยหรือ

กวาดตามองลูกๆ เหล่านี้ แม่ทัพใหญ่ลั่วถามด้วยเสียงที่เบาลง “จวนผิงหนานอ๋องว่าอย่างไรบ้าง”

ลั่วเซิงน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ได้พูดอะไร ครานั้นรัชทายาทอยู่ในเหตุการณ์ ท่านช่วยข้าสั่งสอนท่านหญิงน้อยเจ้าค่ะ”

แม่ทัพใหญ่ลั่วจับประเด็นสำคัญได้อย่างเฉียบไว

รัชทายาทสั่งสอนท่านหญิงน้อย ‘แทน’ เซิงเอ๋อร์?

ท่านหญิงน้อยเป็นถึงน้องสาวในสายเลือดของรัชทายาทเชียวนะ แม้องค์รัชทายาทจะถูกรับเลี้ยงแล้ว แต่นางก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาตามหลักธรรมเนียมปฏิบัติ เหตุใดจึงช่วยเซิงเอ๋อร์ซึ่งเป็นคนนอกคนนี้

มิหนำซ้ำยังช่วยตอนที่เขากำลังเดือดร้อนอีก

ต้องรู้ว่าความสัมพันธ์ของเขาและรัชทายาทนั้นธรรมดามาก

ซี้ดดด… หรือว่ารัชทายาทชอบเซิงเอ๋อร์นะ

แม่ทัพใหญ่ลั่วมองลั่วเซิงทันที

เด็กสาวมีผิวขาวผุดผ่อง ดวงตาสดใสและมีชีวิตชีวา ใบหน้างดงามไม่เป็นสองรองใคร

รัชทายาทคงไม่ได้ตาบอด แต่ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี!

จู่ๆ แม่ทัพใหญ่ลั่วก็รับไม่ได้ เขาข่มความคิดไว้เงียบๆ

“เอาล่ะ พวกเจ้าไปรอข้าที่ห้องอาหารเถอะ เซิงเอ๋อร์อยู่ก่อน”

แม่ทัพใหญ่ลั่วให้คนอื่นๆ ออกไป ในห้องเหลือเพียงสองพ่อลูก

“เซิงเอ๋อร์ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกหลังจากที่วางยาแล้วให้ฟังที”

ลั่วเซิงพยักหน้า เริ่มเล่าจากการค้นพบทางใต้ของเว่ยหาน

แม่ทัพใหญ่ลั่วฟังไปพยักหน้าไป สุดท้ายถอนหายใจพูดว่า “ครั้งนี้ต้องขอบคุณไคหยางอ๋องที่ช่วยเหลือ”

เมื่อก่อนคิดว่าไคหยางอ๋องเป็นคนไม่ดี ตอนนี้ลองคิดดูแล้ว เขาจ้องจับผิดเอง

ผู้ชายน่ะ เรื่องใหญ่ๆ พึ่งพาได้ก็พอ เรื่องเก็บเงินหญิงสาวเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ถือว่าเป็นแค่ข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ

แค่กๆ ถึงอย่างไรจวนลั่วก็ไม่ขาดแคลนเงินอยู่แล้ว สิ่งที่ขาดแคลนคือผู้ชายที่จะมาแต่งงานกับเหล่าลูกๆ ของเขา!

จู่ๆ แม่ทัพใหญ่ลั่วก็คิดถึงเรื่องเสียใจอีกแล้ว

“เซิงเอ๋อร์ เจ้าก็ไปรอที่ห้องอาหารเถอะ พ่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อน”

“เจ้าค่ะ”

หลังจากลั่วเซิงจากไปแล้ว แม่ทัพใหญ่ลั่วก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาต้องอาบน้ำสองถังใหญ่กว่าเนื้อตัวจะสะอาด

เขาสวมชุดซับในสีขาว ตามด้วยเสื้อนวมสองชั้นที่มีกลิ่นหอมและอบอุ่น จากนั้นคลุมด้วยเสื้อแขนยาว ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

แม่ทัพใหญ่ลั่วที่เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่เสร็จแล้วก็เดินไปที่ห้องอาหาร

บรรยากาศในห้องอาหารกำลังคึกคัก

หลังจากแม่ทัพใหญ่ลั่วนั่งลงแล้ว เหล่าสาวใช้ก็ยกอาหารที่กำลังร้อนเข้ามา

“กินเถอะ กินๆ” แม่ทัพใหญ่ลั่วไม่ได้มีพิธีรีตองมากมายเช่นนั้น อาหารยังมาไม่ครบทุกจาน เขาก็คีบเนื้อนึ่งชิ้นหนึ่งเข้าปาก

เมื่อกินเนื้อนึ่งเข้าไป เขาก็เหล่มองลั่วเซิงแล้วถอนหายใจอย่างผิดหวัง “อร่อยสู้อาหารของหอสุราไม่ได้เลย”

ลั่วเซิงยิ้ม “คืนนี้หอสุราปิด ให้อาซิ่วมาทำอาหารในจวนเถอะ”

แม่ทัพใหญ่ลั่วตาลุกวาว พูดคำว่าดีไม่หยุด

แม้แต่ลั่วอิงที่เป็นคนนิ่งเฉยมาตลอดก็อดเผยสีหน้ามีความสุขไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น

มีเพียงลั่วเฉินที่จู่ๆ ถามขึ้นว่า “ท่านพ่อไม่ไปดูศาลาว่าการองครักษ์จิ่นหลินหน่อยหรือขอรับ”

ท่านพ่อกลับมาแบบนี้ ตกลงว่าเป็นเพราะพ้นผิดถูกปล่อยตัวกลับมาตำแหน่งเดิมหรือว่าถูกไล่กลับมากักบริเวณในจวนนะ

สองอย่างนี้แตกต่างกันมาก

แม่ทัพใหญ่ลั่วมองลั่วเฉินแล้วหัวเราะ “ยังไม่ถึงเวลาไปศาลาว่าการ กินข้าวสำคัญที่สุด”

แน่นอนว่าต้องไปศาลาว่าการองครักษ์จิ่นหลิน ที่นั่นคือถิ่นของเขาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาไป

ลั่วฉิงตักน้ำแกงถ้วยหนึ่งให้แม่ทัพใหญ่ลั่ว “ท่านพ่อ หลายวันนี้ท่านลำบากแล้ว ดื่มน้ำแกงร้อนๆสักคำเถอะเจ้าค่ะ”

“ได้” แม่ทัพใหญ่ลั่วรับมา ซดน้ำแกงไปครึ่งถ้วยในคราวเดียว

ลั่วเย่ว์คีบกระเพาะหมูใส่ลงในจานของแม่ทัพใหญ่ลั่ว “ท่านพ่อ กินกระเพาะหมูบำรุงกระเพาะเจ้าค่ะ”

“ได้ๆ” ขณะที่กินอาหารที่ลูกๆ คีบให้ ความไม่พอใจในแม่ครัวจวนลั่วของแม่ทัพใหญ่ลั่วก็ค่อยๆสลายไป

รสชาติยังพอกินได้

ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังกินข้าวกันอย่างมีความสุขก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ คุณชายผิงกลับมาแล้วขอรับ”

มือที่คีบอาหารของแม่ทัพใหญ่ลั่วชะงัก เขาวางตะเกียบลงแล้วพูดอย่างสงบว่า “ให้เขาเข้ามา”

ไม่นานผิงลี่ก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นแม่ทัพใหญ่ลั่วก็กำหมัดประสานมือคารวะ “ลูกไม่ได้กลับมารับท่านกลับจวนได้ทันท่วงที ท่านพ่อบุญธรรมโปรดอภัยขอรับ”

แม่ทัพใหญ่ลั่วมองชายหนุ่มที่ก้มศีรษะคำนับอย่างพินิจพิเคราะห์ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งก็ยิ้มพูดว่า “คนกันเองไม่ต้องเกรงใจเช่นนั้น กินข้าวเที่ยงหรือยัง”

“ยังขอรับ ลูกได้ยินว่าท่านออกมาก็รีบเร่งเดินทางกลับมา”

“เช่นนี้หรือ” แม่ทัพใหญ่ลั่วยกเปลือกตาขึ้น พูดอย่างสงบว่า “นั่งกินด้วยกันเถอะ”

น้ำเสียงสบายๆ อย่างเป็นกันเองทำให้หัวใจของผิงลี่ที่เต้นระรัวเพราะเดินทางมาอย่างเร่งรีบสงบลง

เขาเผยยิ้ม “ขอบคุณท่านพ่อบุญธรรม ลูกมีลาภปากแล้ว”

แม่ทัพใหญ่ลั่วยิ้มๆ คีบกระเพาะหมูขึ้นมากิน

ไม่นานสาวใช้ก็ส่งผ้าเช็ดมือให้

ผิงลี่เช็ดมือแล้วนั่งลง ทักทายพวกลั่วเฉิน สายตามองผ่านลั่วฉิงอย่างไม่ตั้งใจ

ลั่วฉิงหน้าร้อนผ่าว นางรีบก้มหน้าลง

ลั่วอิงเห็นแล้วก็แอบถอนหายใจ

ไม่นานข่าวแม่ทัพใหญ่ลั่วถูกปล่อยตัวก็แพร่กระจายไปทุกที่ ซ้ำยังแพร่เร็วกว่าข่าวนายอำเภอหลิวชิงถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวจากบ้านพักหลันเต๋อและเกือบถูกลอบสังหารเสียอีก

เกิดความโกลาหลขึ้นในครานี้

อะไรนะ แม่ทัพใหญ่ลั่วที่ต้องตายแน่ๆ รอเพียงเข็นออกมาประณามในตลาดกลับออกมาจากเรือนจำกรมยุติธรรมแล้วหรือ

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสมรู้ร่วมคิดคดีกบฎเมื่อสิบสองปีก่อนหรือ

อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม รอดูปฏิกิริยาจากเบื้องบนก่อนดีกว่า

ผู้คนรอจนกระทั่งโจวซานไปจวนแม่ทัพใหญ่ลั่วพร้อมของบำรุงห่อเล็กห่อใหญ่มากมาย

ปลายจวักครองใจ

ปลายจวักครองใจ

Status: Ongoing
อาหารแม้เลิศรสเพียงไหน แต่หากซ่อนไว้ซึ่งพิษร้ายเล่า? แม้เขาจะดีเพียงใด แต่หากแซ่ ‘เว่ย’ แล้วไซร้ พวกเขาคงถูกลิขิตให้ไม่อาจร่วมโลก! จากผู้เขียน ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ยนิยายโรแมนติก เข้มข้นสอดแทรกความตลกอย่างลงตัว จากผู้เขียน ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ยสิบสองปีก่อนจวนเจิ้นหนานอ๋องถูกราชสำนักสั่งกวาดล้าง คนในจวนทั้งหมดโดนสังหาร โลหิตย้อมจนพื้นเป็นสีแดงฉานท่านหญิงชิงหยางที่ออกเรือนไปในวันเดียวกันนั้นพอทราบข่าวก็เร่งรุดกลับมาที่จวนกลับถูกสามีหมาดๆ อย่างผิงหนานอ๋องซื่อจื่อยิงธนูใส่จนสิ้นใจผิงหนานอ๋องซื่อจื่อ เว่ยเชียง คือผู้ที่รวบรวมหลักฐานการก่อกบฏของจวนเจิ้นหนานอ๋องรายงานต่อราชสำนัก ได้รับการยกย่องในความสามารถและถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นรัชทายาทองค์ปัจจุบัน…สิบสองปีต่อมาท่านหญิงชิงหยางกลับฟื้นขึ้นอีกครั้งในร่างของ ลั่วเซิง คุณหนูสายตรงผู้เป็นดวงใจของแม่ทัพใหญ่ลั่ว เพราะนิสัยมักมากในกามของร่างเดิมจึงล่วงเกิน ไคหยางอ๋อง พระอนุชาในฮ่องเต้องค์ปัจจุบันผู้มีฉายาว่าเทพสงครามเข้า บิดาจึงจำใจส่งนางมาอยู่ที่บ้านท่านตาที่จินซาชื่อเสียงของแม่นางลั่วนั้นเรียกได้ว่าฉาวโฉ่ เอาแต่ใจ หยาบคาย มักมาก เจ้าอารมณ์ ถือว่ามีบิดาคอยให้ท้ายไม่มีสิ่งใดไม่กล้าทำหลังกลับคืนเมืองหลวงนางและ ไคหยางอ๋อง กลับมีเรื่องราวให้ต้องเกี่ยวพันกันอยู่เรื่อยๆแม้เขาจะเป็นคนซื่อสัตย์เพียงไร แต่ในเมื่อเขาแซ่ ‘เว่ย’ นางและเขาก็ถูกลิขิตมาให้ไม่อาจอยู่ร่วมโลก!“ข้ากับแม่นางลั่วไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า” ชายชุดสีแดงเข้มเดินเข้ามาและสบตากับลั่วเซิง “ไม่ทราบว่าแม่นางลั่วจำข้าได้หรือยัง”“ก็นึกถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ แต่ไม่รู้จำผิดหรือไม่ คุณชายจะให้ข้าพูดออกมาตอนนี้เลยหรือ”เวลานี้เอง เว่ยหานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าคิดว่าหลังจากแม่นางลั่วปลดเข็มขัดข้าแล้วจะจำข้าได้เสียอีก”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท