Invincible โลกอมตะ – ตอนที่ 218

ตอนที่ 218

ในเวลาเดียวกันที่คนอื่นๆต่างก็คิดถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับเหรียญตราในมือหวงเสี่ยวหลง และความคิดแบบเดียวกันนี้ก็ผุดขึ้นในหัวของเหยาเฟยเหมือนกัน! ใจของเขาเต้นเร็วอย่างไม่สบายใจ

 

ถ้าหากเหรียญตราในมือหวงเสี่ยวหลงนั้นเป็นสิ่งที่จักรพรรดิต้วนเริ่นยกให้จริวงๆหล่ะก็ งั้น….?!

 

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าให้จักรพรรดิต้วนเริ่นและต้วนหวุเหิน “ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”

 

จักรพรรดิต้วนเริ่นก็ถอยหายใจโล่งอกกับคำพูดเหล่านี้

 

แต่มันกลับทำให้คนอื่นถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก ในสายตาของพวกเขานั้น ดูเหมือนว่าจักรพรรดิต้วนเริ่นจะหวาดกลัวที่หวงเสี่ยวหลงและจ้าวชูจะตำหนิเขามากกว่า?!

 

หวงเสี่ยวหลงก็หันความสนใจกลับมาที่เหยาเฟย

 

อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของเหยาเฟยในตอนนี้นั้นสงบเสงี่ยมมากกว่า จากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดออกมาว่า “หวงเสี่ยวหลง ข้าไม่คิดว่าเหรียญตราในมือเจ้านั้นจักรพรรดิต้วนเริ่นจะเป็นคนมอบให้แก่เจ้า”

 

บนใบหน้าของเหยาเฟยนั้นไม่ได้แสดงความเกลียดชัง จิตสังหาร หรือกระทั่งความประหลาดใจอยู่เลย มันดูเหมือนราวกับหวงเสี่ยวหลงและจ้าวชูไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขา

 

หวงเสี่ยวหลงรู้สึกแปลกๆกับท่าทางของเหยาเฟยที่จู๋ๆก็เปลี่ยนไปทันทีแต่เขากับคิดไม่ออก  เขาจึงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “นี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้า พูดซะ ครอบครัวของข้าอยู่ที่ใหน!”

 

เหยาเฟยก็เย้ยหยันออกมาอย่างเย็นชา “งั้นข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ฆ่าข้าซะและครอบครัวของเจ้าก็ตามข้าไปในนรกด้วย! นอกจากนี้ หวงเสี่ยวหลงเจ้าคิดว่าตอนนี้เจ้าชนะแล้วงั้นหรอ?”

 

จิตสังหารในดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ด้วยการแกว่งมือก็ดาบคู่เทพอสูรปรากฏขึ้นในมือของเขา

 

“เนื่องจากเจ้าต้องการ งั้นข้าจะสงเคราะห์ให้ ตายซะ!”

 

หวงเสี่ยวหลงก็เหวี่ยงดาบ จากนั้นก็เกิดคมดาบอันหนาวเย็นพุ่งใส่คอของเหยาเฟยอย่างชัดเจน

 

พอมองดูการฟันดาบที่กำลังจะเข้ามาเฉือนของเหยาเฟย จู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ห่างออกไปไม่ไกล ได้เกิดแสงสีเขียวพุ่งทะลุออกมาจากมิติด้วยความเร็วอันน่าหวาดหวั่นราวกับลมพายุซึ่งทำให้เกิดละลอกมิติขึ้น

 

ใบหน้าของจ้าวชูก็บึ้งตึงในขณะที่เขาเคลื่อนไหวไปขวางทางด้านหน้าของหวงเสี่ยวหลง และในเวลาเดียวกันเขาก็โจมตีออกไปด้วยฝ่ามือหนึ่งเพื่อโต้ตอบแสงสีเขียวสว่างที่พุ่งเข้ามา จากนั้นเขาก็พูดเตือนว่า “นายน้อย โปรดระวัง!!”

 

การโจมตีด้วยฝ่ามือของจ้าวชูก็พุ่งเขาโจมตีแสงสีเขียว ทำให้เกิดเคลื่อนมิติกระแทกไปทั่ว ซึ่งทำให้สภาพอากาศเกิดแปรปรวน

 

หวงเสี่ยวหลงก็รีบล่าถอยอย่างรวดเร็ว

 

ในชั่วพริบตาก็มีร่างเงาอันไม่คุ้นคายทั้ง 7 ร่างปรากฏขึ้นในจัตตุรัส

 

หวงเสี่ยวหลงก็หรี่ตาเมื่อเขามองเห็นพวกนี้  ซึ่งคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของกลุ่มคนทั้ง 7 ก็คือ –หลี่โม่หลิน!

 

ด้านหลังของหลี่โม่หลินนั้นมีคนอยู่ 6 คน และหนึ่งนั้นก็เป็นอ่าวไป๋เสวียคนเดิมที่เขาเคยพบเมื่อก่อนหน้านี้!  และผู้ชายอีกคนหนึ่งใน 6 คนก็สวมชุดคลุมตระกูลเหยาแต่กับมีสิ่งแตกต่างเมื่อเอามาเทียบกับคนของตระกูลเหยาคนอื่นๆ บนหน้าอกชุดของชายผู้นี้มีรูปสัตว์เทวะเพลิงแดงสองหัวติดอยู่ พอดูจากเครื่องแต่งกายของคนๆนี้แล้ว มันจะต้องเป็ฯบรรพบุรุษตระกูลเหยา เหยาซาน

 

ทันทีที่หลี่โม่หลินและกลุ่มของเธอก้าวเท้าเข้ามาในจัตตุรัส แรงกดดันอันน่าเกรงขามก็แผ่ขยายไปทั่วจัตตุรัสไร้หัวใจ มันทรงพลังถึงขนาดที่ศิษย์และอาจารย์ที่อ่อนแอถึงกับทนไม่ไหวจนต้องถอยห่างออกไปไกลด้วยความหวาดกลัว

 

เหยาซานสำรวจไปรอบๆและขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็นใบหน้าของเหยาเฟยที่มีอุจจาระเต็มไปทั่วใบหน้า  ทำให้ดวงตาของเขาปรากฏจิตสังหารขึ้นทันที  ซึ่งเขาได้ยกมือขึ้นและต้องการทำลายการควบคุมมิติรอบตัวเหยาเฟย

 

แต่เมื่อพลังเทวะของเขาเข้าไปสัมผัสกับร่างกายของเหยาเฟย ก็มีเกลียวแสงสว่างเปร่งแสงขึ้นมาจากเหยาเฟย และได้ขับไล่พลังของเหยาซานทันที

 

เหยาเฟยก็ถึงกับอึ้งกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้

 

หลี่โม่หลินก็จัดการโบกมือทำลายกฏมิติยับยั้งบนร่างของเหยาเฟย

 

พอสามารถขยับได้อีกครั้ง เหยาเฟยก็รีบไปทักทายหลี่โม่หลิน “ทักทายผู้อาวุโสหลินและศิษย์พี่คนอื่นๆ!”

 

“ลุกขึ้น”หลี่โม่หลินก็พูดออกไปอย่างงนิ่งเฉย

 

เหยาเฟยลุกขึ้นและรีบเดินไปหาเหยาซาน “ท่าบรรพบุรุษ!”

 

เหยาซานก็พยักหน้า เขาก็หันสายตาไปมองหวงเสี่ยวหลง “ไอ้สารเลวนี่ทำสินะ?”เขาถามพร้อมกับชี้นิ้วไปที่อุจจาระที่อยู่บนหน้าเหยาเฟย

 

“ขอรับ ท่านบรรพบุรุษ!”เหยาเฟยก็เพ่งมองไปที่หวงเสี่ยวหลงอย่างดุร้าย “ใอ้สารเลวนี่แหละ!”

 

หวงเสี่ยวหลงก็มองดู เขาไม่คาดคิดว่าตระกูลเหยาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายนักรบแห่งพระเจ้าและจากที่ดู เส้นสายมันคงจะไม่ได้เล็กๆด้วย?!

 

มิฉะนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ที่บรรพบุรุษยตระกูลเหยาจะมีความสามารถในการขอความช่วยเหลือจากหลี่โม่หลิน

 

“หวงเสี่ยวหลง ข้าไม่คาดคิดว่าเราจะได้พบกันอีกครั้งรวดเร็วแบบนี้”หลี่โม่หลินก็พูดออกมาอย่างไม่แยแส

 

หวงเสี่ยวหลงก็ใช้น้ำเสียงแบบเดียวกัน “ข้าก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน”

 

สายตาของหลี่โม่หลินก็หันไปสู่จ้าวชู จักรพรรดิต้วนเริ่น กั่วเฉิน และผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะคนอื่นและพูดขึ้น “ข้าต้องการจะพาเหยาเฟยไปจากที่นี่ตอนนี้ ไม่มีใครคัดค้านสินะ?”

 

ทุกคนก็นิ่งเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดขึ้นมาสักคน

 

จักรพรรดิต้วนเริ่นก็ขมวดคิ้วแต่เขาก็ยังคงเงียบ

 

ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะในขณะนี้รู้อยู่แล้วในใจว่านิกายนักรบแห่งพระเจ้านั้นเป็นแบบใหน แม้กระต้วนเริ่นก็หวังว่าต้วนหวูเหินจะได้รับเลือกไปเป็นศิษย์ของนิกายในการคัดเลือกที่จะมาถึงนี้

 

“เหยาเฟยต้องตายวันนี้ ในที่แห่งนี้!”ในความเงียบอันหนักอึ้ง จู่ๆก็มีเสียงดังคมชัดดังขึ้น

 

ทุกคนต่างก็มึนงง คนที่พูดนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหวงเสี่ยวหลง

 

หลี่โม่หลินก็มึนงงไปสักนิดก่อนที่จะหัวเราะคิกคาแต่หน้าอกของเธอกลับไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ ทำให้ไม่มีการสั่นไหวเพียงใดไม่ว่าเธอจะหัวเราะมากแค่ใหนก็ตาม

 

หลี่โม่หลินที่หัวเราะคิกคักก็ค่อยๆหยุดหัวเราะและยิ้มอ่อนให้หวงเสี่ยวหลง “เจ้าหนู เจ้ารู้ใหมว่าเจ้ากำลังพูดกับใคร? เจ้าหนุ่ม  บางทีเจ้าก็ควรจะติดก่อนพูดออกมา  หรือท้ายที่สุดเจ้าก็เป็นเพียงแค่ใอ้โง่ที่พูดไร้สาระ! หรือบางทีเจ้าอาจชักนำหายนะมาสู่ตนก็เป็นได้!”

 

หวงเสี่ยวหลงก็มองไปที่ใบหน้าของหลี่โม่หลินที่ยิ้มเจื้อนๆ ทำให้เกิดความรู้สึกขยะแขยงขึ้นในใจ แม้ว่าจู่ๆหลี่โม่หลินจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยหลี่ลู่จากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เธอประสบ แต่หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยสักนิด อย่างไรก็ตาม พอมาตอนนี้เขากลับรู้สึกรังเกียจอย่างมาก

 

ไม่เพียงเขาจะรู้สึกรังเกียจหลี่โม่หลิน แต่มันยังรวมไปถึงนิกายนักรบแห่งพระเจ้าทั้งหมดด้วย!

ความรังเกียจนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ฆ่า!”หวงเสี่ยวหลงก็สั่งการด้วยเสียงเย็นชาที่ดังขึ้นภายในจัตตุรัส

 

ทันที่หวงเสี่ยวหลงพูด จ้าวชูก็เคลื่อนไหวทันที เขาก็หายตัวไปภายในชั่วพริบตา เมื่อจ้าวชูหายตัวไป หลี่โม่หลินก็หายตัวไปด้วยเหมือนกัน  ครู่ต่อมา ก็เกิดแรงปะทะราวกับฟ้าร้องดังขึ้นเหนือจัตตุรัสและกระจายลงมาข้างล่าง

 

แม้ว่าเสียงปะทะกันจะดังขึ้นราวเสียงสายฟ้าอันโกรธเกรี้ยว แต่มันก็ทำให้แก้วหูของใครหลายๆคนต่างเจ็บปวดเพราะการสั่นไหว

 

ผู้คนที่อยู่ข้างล่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

พอได้โอกาส อ้าวไป๋เสวียและบรรพบุรุษตระกูลเหยาก็พุ่งออกไปโจมตีออกไปด้วยฝ่ามือหมายจะฆ่าให้ตายโดยเล็งไปที่หวงเสี่ยวหลง แรงโจมตีจากฝ่ามือก็เข้าซัดราวกับคลื่นน้ำ พอเห็นว่าหวงเสี่ยวหลงกำลังจะถูกโจมตีก็ได้มีเงาพุ่งเข้ามาขัดขวางการโจมตีของทั้งสอง จากนั้นคนๆนั้นก็ยกมือขึ้นตอบโต้การโจมตีของเหยาซานและอ้าวไป๋เสวีย

 

ทั้งสองก็ถอยออกมาจากแรงปะทะอย่างประหลาดใจ พอลงมายืนบนพื้นทั้งสองคน ก็โซเซ

 

“ต้วนเริ่น เจ้ากล้ายุ่งเรื่องของนิกายนักรบแห่งพระเจ้า เจ้าไม่กลัวว่าจักรวรรดิต้วเริ่นจะเจอภัยพิบัติงั้นหรอ?!”อ่าวไป๋เสวียก็ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

 

คนที่ยืนขวางทางพวกเขาทั้งสองนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากจักรพรรดิต้วนเริ่น

 

พอได้ยินคำพูดนี้ ต้วนเริ่นก็เย้ยหยัน “ใช่  นิกายนักรบแห่งพระเจ้านั้นแข็งแกร่งมากแต่การจะทำลายล้างจักรวรรดิต้วนเริ่นของข้านั้นคงไม่ง่ายนักหรอก!”

 

อ่าวไป๋เสวียที่โมโหก็พุ่งเข้าโจมตีจักรพรรดิต้วนเร่านแต่ทว่าเหยาซานและผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะอีก 4คนนั้ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะของสถาบันต้วนเริ่น

 

ทุกคนที่สู้กันออยู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะทั้งสิ้น แต่ละการโจมตีนั้นเต็มด้วยพลังทำลายล้างที่แพร่กระจายออกไปทำให้ตึกอาคารพังทะลาย ส่งผลให้ต้วนหวูเหินและศิษย์คนอื่นๆต่างเร่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว การต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญระดับเทวนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขามีคุณสมบัติพอจะเกี่ยวข้อง เรื่องนี้แม้กระทั่งคนอย่างหยูหมิงก็ยังถอนตัวออกไปโดยไม่คิดสิ่งใดพร้อมกับปกป้องหวงเสี่ยวหลงที่ถูกบังคับให้ดูการต่อสู้จากระยะไกล

 

ด้วยระลอกพลังจากการโจมตจีของจ้าวชู ทำให้โงไร้หัวใจที่พังทะลายนั้นสลายหายไปกับสายลม ก้อนหินที่ร่วงทับถมจัตตุรัสนั้นได้แตกกระจายกลายเป็นฝุ่นผงไป พื้นดินก็เริ่มแตกละแหงเป็นทางยาวทำให้มีแก้สพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน

 

แม้กระทั่งพื้นที่มิติรอบๆก็ยังปรากฏรอยแตกร้าว

 

หวงเสี่ยวหลงก็จ้องไปที่เหยาเฟยและบอกกับยูหมิงว่า “ไม่ต้องสนใจข้า ไปฆ่าเหยาเฟยซะ!”

 

“ได้ขอรับนายน้อย!”

Invincible โลกอมตะ

Invincible โลกอมตะ

จากลูกศิษย์ของวัดเส้าหลินบนแผ่นดินใหญ่ หวงเสี่ยวหลงกลับคืนสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยได้อาศัยความรู้จากความลับของหัวเซี่ย ซึ่งเป็นวิชาลับจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ในโลกของจิตวิญญาณการต่อสู้โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เท่านั้นที่จะสามารถฝึกในปราณฉีและกลายเป็นนักรบได้ หวงเสี่ยวหลงเกิดมาพร้อมกับวิญญาณการต่อสู้ที่หายากจากภายในสวรรค์แห่งนี้ได้ถูกปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ ในช่วงพิธีปลุกเสกโดยคนของโลกแห่งนี้ อย่างไรก็ตามหวงเสี่ยวหลง กับ “ตัวแปร” จิตวิญญาณการต่อสู้ต้องลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้งและแสดงความสามารถพิเศษอื่น ๆ เพื่อเอาชนะเหล่าอัจฉริยะสร้างความตกตะลึงให้กับตระกูลและเหล่าผู้คนของโลกจิตวิญญาณการต่อสู้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท