บทที่ 485 ปฏิเสธ
บทที่ 485 ปฏิเสธ
“ไม่พูดเกินไปเหรอครับ?” อู๋ฝานหัวเราะ
“ความเป็นจริงมันจะเกินเลยกว่านั้นอีกค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ “เพราะแบบนั้นรับบ้านเอาไว้ ไม่ต้องรู้สึกว่ามีภาระทางใจอะไร อย่าคิดว่านี่เป็นการเอาเปรียบตระกูลถังเลยค่ะ”
“พอคุณพูดแบบนี้ ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรรับเอาไว้เลยครับ” อู๋ฝานหัวเราะตอบ “บอกผู้ใหญ่ของตระกูลคุณว่าผมรู้สึกขอบคุณในความหวังดี แต่ไม่อาจรับบ้านหลังนี้เอาไว้ได้ครับ ตามนี้ก็แล้วกัน ผมขอวางสายก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวค่ะ! เดี๋ยว อู๋ฝาน…”
หลังวางสายเขาจึงหันไปบอกกับถังอวี๋เฮ่า “ผมบอกปฏิเสธถังอวี่เฟยไปเรียบร้อยแล้วครับ ผมไม่ขอรับบ้านหลังนี้ แต่ช่วยเลือกบ้านราคาสิบถึงยี่สิบล้านให้ผมแทนก็แล้วกันครับ”
“เรื่องนี้…” ถังอวี๋เฮ่าไม่คาดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปแบบนี้ ขณะหนึ่งจึงรู้สึกถึงความลำบากใจ เรื่องคราวนี้เขาคงถูกถังอวี่เฟยตามคิดบัญชี เนื่องจากเป็นคนสายรองจากตระกูลถัง สถานะในตระกูลเรียกได้ว่าไม่มีทางเทียบกับคุณหนูใหญ่ของสายหลักได้ หากถูกเธอตามคิดบัญชีขึ้นมาคงเป็นเรื่องชวนหนักใจ
ขณะนี้เองที่โทรศัพท์ของถังอวี๋เฮ่าดังขึ้น และผู้ที่โทรหาไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นถังอวี่เฟย “คุณหนูใหญ่ครับ คุณอู๋เขา…”
“ทำตามที่อู๋ฝานต้องการค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบ
ถังอวี๋เฮ่าลังเลไปชั่วขณะก่อนจะตอบรับ “ทราบแล้วครับ”
เมื่อถังอวี๋เฮ่าวางสาย จึงหันมาพูดคุยอย่างนอบน้อมตอบรับอู๋ฝาน “คุณอู๋ครับ ผมจะแนะนำบ้านตามงบประมาณที่เหมาะสมให้นะครับ”
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบ จากนั้นจึงหันไปบอกกับชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล “คุณคนนั้น ผมไม่อยากได้บ้านหลังนั้นแล้ว อยากซื้อไม่ใช่เหรอครับ? ซื้อได้เลย”
“นี่มัน…” ชายวัยกลางคนเผยสีหน้าปั้นยาก ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนพูดนั้นก็ใช่ แต่ไม่ได้อยากซื้อบ้านหลังนั้นจริง ๆ เพียงแค่ต้องการโอ้อวดและเสแสร้งเท่านั้น
“ดีเลยค่ะที่รัก รีบซื้อบ้านก่อนจะมีคนอื่นมาแย่งไปอีกดีกว่าค่ะ” แฟนสาวของอีกฝ่ายคล้องแขนเบียดกายแนบแน่นพร้อมเผยสีหน้ายินดี
“หรือว่าจ่ายไม่ไหวกันนะ? เมื่อกี้โอ้อวดซะใหญ่โต ที่แท้ก็ปลอมเปลือกงั้นเหรอเนี่ย?” อู๋ฝานหัวเราะ
“อย่ามาเล่นลิ้นนะ! มีเหรอสามีของฉันจะจ่ายค่าบ้านราคาแค่นั้นไม่ไหว?!” แฟนสาวยังคงดื้อรั้นและดึงดัน “ที่รักคะ ซื้อเลยค่ะ!”
ชายวัยกลางคนอยากร่ำร้องออกมา เนื่องจากเขาไม่ได้ต้องการซื้อบ้านแพงมหาศาลหลังนั้น แต่หลังเสือขึ้นแล้วยากลงมาได้ ผู้หญิงของตัวเองก็ยังไม่ทราบดีชั่วอยากได้จนหน้ามืดตามัวอีกต่างหาก
“อ๋า แย่แล้วสิ ที่บริษัทมีเรื่องด่วนต้องเข้าไปจัดการนี่นา คงต้องขอตัวก่อน เรื่องซื้อบ้านเอาไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน!” เขาพูดจบก็รีบร้อนพุ่งตัวไปโดยไม่หันกลับมามอง
“ที่รักคะ ที่รัก จะรีบไปไหนกัน ไม่ซื้อบ้านหลังนี้ตอนนี้เดี๋ยวก็โดนแย่งไปอีกหรอกค่ะ” แฟนสาวของชายวัยกลางคนตะโกนถามไล่หลัง ทว่าอีกฝ่ายคล้ายไม่ได้ยินอะไรแล้ว ฝีเท้าเอาแต่ก้าวตรงมุ่งไปอย่างไม่ลังเลหรือหันกลับมามองแม้แต่น้อย
“อย่าเพิ่งขายบ้านหลังนี้นะคะ เก็บไว้ให้พวกเรา พรุ่งนี้จะกลับมาใหม่ค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นบอกกับถังอวี๋เฮ่า ก่อนจะเร่งร้อนติดตามแฟนของตนเองไป
“ตัวใหญ่ขนาดนั้นเดินเร็วซะจริง กำลังจะบอกให้ขอโทษคุณอู๋อยู่แล้วเชียว” ถังอวี๋เฮ่าตอบกลับ
แม้อีกฝ่ายน่าจะพอมีเงิน แต่ต่อหน้าตระกูลใหญ่เช่นตระกูลถังก็เรียกได้ว่ายังไม่มีดีมากพอจะเงยหน้ามองขึ้นมา แม้ถังอวี๋เฮ่าเป็นเพียงสายรองของตระกูลถัง ทว่าอีกฝ่ายก็ยังไม่กล้าสบตาเลยด้วยซ้ำไป
“ช่างเถอะครับ” อู๋ฝานโบกมือตอบ คนก็หนีไปแล้ว บทเรียนก็สั่งสอนเรียบร้อย ไม่มีความจำเป็นที่ถังอวี๋เฮ่าจะต้องยืนกรานทำอะไรอื่นเพิ่มเติมอีก
ถังอวี๋เฮ่าช่วยคัดเลือกหาบ้านตามที่อู๋ฝานต้องการ ไม่นานก็ตัดสินใจซื้อได้ และอีกฝ่ายยังนำทางพาไปดูสถานที่ด้วย บ้านที่ตรงตามเงื่อนไขมีหลากหลาย สุดท้ายจึงค่อยตัดสินใจที่หน้างานอีกครั้งหนึ่ง โดยที่เลือกได้นั้นเป็นบ้านที่ผ่านการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ยังขาดมีเพียงของใช้ประจำวันทั่วไปก็พร้อมเข้าอยู่
พิธีการทั้งหลายดำเนินไปอย่างราบรื่น เพียงช่วงกลางวันบ้านมูลค่าสิบห้าล้านจึงเป็นทรัพย์สินของอู๋ฝานโดยสมบูรณ์
หลังบอกลาถังอวี๋เฮ่า เขาก็นั่งในห้องโถงของบ้านพลางสำรวจมองด้วยความพึงพอใจ หากเป็นเมื่อหลายเดือนก่อนเขาคงไม่นึกคิดว่าจะมีบ้านแบบนี้ใช้อยู่อาศัย มันแทบจะเหมือนความฝันไม่มีผิด
“เจ้าหอคะ ทำไมไม่รับบ้านที่คุณหนูใหญ่ตระกูลถังตัดสินใจมอบให้กันล่ะคะ?” เหมยอวี่ที่กำลังนวดไหล่ให้อู๋ฝานเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ไม่เพียงไม่รับบ้านมูลค่าเกินกว่าเก้าสิบล้าน ทว่าบ้านที่อยู่ตอนนี้อู๋ฝานยังใช้เงินตัวเองซื้อหา ไม่ใช่รับเป็นของขวัญแต่อย่างใด
“รับของจากคนอื่นมีเหรอจะจบแค่รับมา?” อู๋ฝานเผยยิ้ม “โดยเฉพาะกับของมูลค่าสูงยิ่งแล้วใหญ่”
เหมยอวี่และเหมยเสวี่ยอาศัยอยู่ในสำนักมาโดยตลอด ดังนั้นจึงแทบไม่ได้เข้าสังคมของมนุษย์ปกติ ทำให้ไม่ค่อยมีความเข้าใจเรื่องราวทางโลก แต่อู๋ฝานทราบดีว่าสิ่งของเป็นอะไรที่ไม่อาจรับมาโดยขาดซึ่งความระวัง โดยเฉพาะกับของที่ล่อตาล่อใจ
กว่าห้าตระกูลใหญ่จะก้าวหน้ามาจนถึงขั้นนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย รับของจากพวกเขาอาจเป็นเรื่องง่าย แต่ภายหน้าจะตอบแทนคืนได้อย่างไรนั้นจึงเป็นเรื่องยาก แม้ถังอวี่เฟยจะจริงใจด้วย แต่อู๋ฝานยินดีกับการซื้อหามาด้วยตนเองมากกว่า
“วันนี้ไปทานอาหารที่ร้านโลกในแหวนก็แล้วกัน หลังจากนั้นก็ฝากช่วยไปซื้อของใช้ในบ้านมาให้ด้วยนะครับ” อู๋ฝานกล่าวบอก
“แล้วเจ้าหอล่ะคะ?” เหมยเสวี่ยเอ่ยถาม
“ผมยังมีเรื่องอื่นต้องจัดการครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“เจ้าหอ ให้พวกเราหนึ่งคนติดตามไปด้วยน่าจะดีกว่านะคะ” เหมยอวี่เอ่ยคำขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “หลังเที่ยงพวกคุณไปซื้อของเข้าบ้านกันได้เลย”
ขณะกลุ่มคนมาถึงที่ร้านก็พบว่ามีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนไม่น้อยแล้ว หากเทียบกับเมื่อวาน จำนวนลูกค้าที่มาในวันนี้มีมากกว่า คล้ายว่าการสมนาคุณไวน์ของอู๋ฝานจะประสบความสำเร็จด้วยดี
บรรดาผู้คนที่มาใช้บริการร้านโลกในแหวนต่างก็เป็นผู้ที่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ปกติแล้วพวกเขาแทบไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องไวน์ของแถมแต่อย่างใด ทว่าไวน์ที่ทางร้านสมนาคุณให้นั้นมีความแตกต่าง เพราะมันเป็นอะไรที่ไม่เคยพบเห็นในท้องตลาดมาก่อน อีกทั้งรสชาติยังยอดเยี่ยม ดังนั้นหลายคนจึงสนใจช่วงเวลาจัดโปรโมชั่นดังกล่าว นอกจากนี้รสชาติอาหารของทางร้านก็ดีเป็นที่หนึ่งของเจียงโจวอยู่แล้ว ไม่แปลกหากจะดึงความสนใจของลูกค้าให้เข้าร้านได้
“เถ้าแก่มาแล้ว” เมื่ออู๋ฝานเดินเข้าร้าน เฉินปิงเหยาจึงเข้ามาพูดคุย “เถ้าแก่คะ ลูกค้าหลายคนถามเรื่องไวน์กันไม่ขาด อย่างเช่นว่าเมื่อไหร่จะวางขายที่นี่ รวมถึงมีคนสอบถามด้วยค่ะว่าซื้อหามาจากที่ไหน”
“ถ้ามีใครถามอีก แจ้งพวกเขาไปนะครับว่าหลังช่วงโปรโมชั่นสามวันนี้ ทางร้านของเราจะเริ่มขายไวน์อย่างเป็นทางการ ส่วนซื้อมาจากที่ไหนนั้นแจ้งตำแหน่งที่ตั้งของโรงงานให้พวกเขาทราบได้ครับ” อู๋ฝานตอบกลับ ก่อนจะบอกตำแหน่งที่ตั้งโรงงานสุดเหนือเมฆให้เฉินปิงเหยาทราบ
“ทราบแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการต่อให้เองค่ะ” เฉินปิงเหยาตอบรับ ด้วยคำอธิบายจากอู๋ฝานเธอจะสามารถรับมือกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วคงเป็นเหมือนดังเมื่อวานที่เผชิญคำถามแต่ไม่มีคำตอบ
“จะว่าไปแล้วช่วงบ่ายวันนี้ ผมจะให้คนนำวัตถุดิบมาส่งด้วย คอยตรวจรับอย่างถี่ถ้วนด้วยนะครับ ครั้งนี้มีวัตถุดิบหลากหลายกว่าก่อนหน้า แจ้งให้ลูกค้าทราบด้วยก็ดีครับ” อู๋ฝานบอก