บทที่ 373 เส้นทางใหม่
เรื่องที่เกิดขึ้นกับสวีเสี่ยวเฉียนนั้นกะทันหันเกินไป ทำเอาทุกคนแสดงปฏิกิริยาต่อผลลัพธ์ของเรื่องนี้กันแทบไม่ทัน
การทุจริตทางวิชาการเป็นทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็กในเวลาเดียวกัน ตราบใดที่มีการติดตามเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด ในอนาคตก็จะเป็นภัยต่อผู้สนับสนุนการทุจริตได้
อย่างไรเสีย วิชาการและการบริหารบ้านเมืองก็เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน ผู้คนต่างพึ่งพาชื่อเสียงของตนเฉกเช่นเดียวกับต้นไม้ที่ต้องมีเปลือกไม้
สวีเสี่ยวเฉียนเป็นเหมือนตัวตลก เขาทำได้แค่กระวนกระวายใจจนกว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดลง
ส่วนเรื่องหัวหน้าทีมกู้ภัยฉุกเฉินของกองทัพนั้น ต่อให้ไม่มีสวีเสี่ยวเฉียน ก็ยังมีผู้คนนับไม่ถ้วนที่ใฝ่ฝันถึงตำแหน่งนี้
กลางเดือนกรกฎาคมผ่านไป สวีเสี่ยวเฉียนก็ยังคงถูกพักงานเพื่อรอสอบสวน เขาถูกไล่ออกจากกองทัพและถูกตราหน้าว่าเป็นบุคคลทุจริต
ถ้ามีใครรู้ล่ะก็ ชีวิตของเขาก็คงจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์
สุดท้ายแล้ว กุญแจหลักของเรื่องนี้ก็อยู่ที่ไป๋เยี่ย
ถึงแม้ว่าไป๋เยี่ยจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สวีเสี่ยวเฉียนก็เป็นคนลอกเลียนแบบไป๋เยี่ย
จากนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างไป๋เยี่ยกลับไม่ยืนขึ้นออกแถลงการณ์เลยสักครั้ง
เมื่อทุกคนมุ่งความสนใจไปที่ไป๋เยี่ย ถึงได้พบว่าไป๋เยี่ยไม่ได้ออกจากห้องทดลองมากว่าสองวันแล้ว!
เขาไม่รู้เรื่องโลกภายนอกมากนัก เพราะมัวแต่วิจัยสิ่งสำคัญอยู่
ช่วงที่ผ่านมา งานของไป๋เยี่ยได้แบ่งเบาลงเพราะมีสวีเสี่ยวเฉียนมาช่วยเรื่องการอบรม ทำให้ไป๋เยี่ยมีเวลาทุ่มเทกับการทดลองได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายน ไป๋เยี่ยก็เปิดโหมดระดมความคิด
เมื่อเขาเปิดใช้งานโหมดนี้แล้ว การทดลองก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นพร้อมกับมีทิศทางการวิจัยใหม่ๆ
นั่นคือปัจจัยการเจริญเติบโต!
ปัจจัยการเจริญเติบโตเป็นคำเกิดขึ้นใหม่ที่เพิ่งจะถูกค้นพบในช่วงห้าถึงสิบปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่กลับมีคุณค่ามาก
ปัจจัยการเจริญเติบโตหมายถึงกระบวนการที่มีการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ ซึ่งกระตุ้นกิจกรรมและหน้าที่ต่างๆ ของเซลล์ได้ จึงมักทำหน้าที่เป็นโมเลกุลที่คอยส่งสัญญาณระหว่างเซลล์
ซึ่งปัจจัยการเติบโตก็ได้กลายเป็นทิศทางการวิจัยใหม่ของไป๋เยี่ย
มันคือสารที่อยู่นอกเหนือจากส่วนประกอบปกติ เช่น กรดอะมิโน วิตามิน กลูโคสและแร่ธาตุ
สารเหล่านี้ส่งเสริมการพัฒนาและการแบ่งตัวของเซลล์และเนื้อเยื่อได้ ถึงขั้นที่ในช่วงหนึ่งมันถูกเรียกว่าเป็นสารเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ด้วย
หลังจากที่เปิดโหมดระดมความคิดแล้ว จู่ๆ คำนี้ก็ปรากฏขึ้นในหัวของไป๋เยี่ย ทำให้เขาตระหนักได้
เนื่องจากงานวิจัยพบว่าส่วนผสมในยาจีนชนิดต้มนั้นช่วยเร่งการสร้างกระดูกได้ ทว่ากระบวนการเติบโตและกลไกการเร่งการเติบโตกลับกลายเป็นคำถามมาโดยตลอด
แม้แต่ไป๋เยี่ยเองก็ยังขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกอย่างเกาเย่ว์หยางและหลี่เจี้ยนเหว่ย
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีข้อมูลใดๆ เพราะว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีเพียงการวิจัยยาจีนโดยอิงตามหลักการแพทย์ปัจจุบันเท่านั้น
พวกเขากำลังนำการแพทย์แผนจีนมาบูรณาการเข้ากับการแพทย์แผนปัจจุบันผ่านรูปแบบต่างๆ
จนถึงตอนนี้ก็ยังคงขาดรูปแบบที่ได้ประสิทธิภาพ เพราะว่าการวิเคราะห์ส่วนผสมของยาจีนโบราณถือเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด
เพราะคุณต้องคำนึงถึงกระบวนการการเกิดปฏิกิริยาหลังจากที่ยาออกฤทธิ์ในร่างกายมนุษย์ด้วย
จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก!
ทุกๆ วันไป๋เยี่ยเอาแต่ค้นหาข้อมูลอย่างบ้าคลั่งและคอยอัปเดตคลังความรู้ของเขาตลอดเวลา ทว่าเขากลับไม่พบข้อมูลเรื่องปัจจัยการเจริญเติบโตเลย
การเจริญเติบโตและการพัฒนาของร่างกายมนุษย์ขึ้นอยู่กับโกรทฮอร์โมน[1] ทว่าผลการวิจัยได้พิสูจน์แล้วว่าโกรทฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองของมนุษย์จะอยู่ในร่างกายได้เพียงประมาณสองนาทีเท่านั้น หลังจากนั้นมันก็จะถูกส่งต่อไปในเลือดและถูกแปลงเป็นปัจจัยการเจริญเติบโตผ่านตับ
ดังนั้นในระหว่างการศึกษาจึงมีการตรวจพบปัจจัยการเจริญเติบโตแค่ในเลือดเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการพิสูจน์แล้วว่าปัจจัยการเจริญเติบโตจะค่อยๆ ลดลงตามอายุ และร่างกายมนุษย์ก็จะแสดงอาการที่บ่งบอกถึงความชรา
ที่มาของปัจจัยการเจริญเติบโตมีดังนี้ ไฮโปธาลามัส[2] (โกรทฮอร์โมนรีลีสซิงฮอร์โมน[3] (GHRH)) – ต่อมใต้สมอง (โกรทฮอร์โมน (HGH)) – ผ่านเข้าสู่กระแสเลือด – ตับ (แปลงเป็นปัจจัยการเจริญเติบโต (IGF-1))
ดังนั้นงานต่อไปจึงไม่ใช่แค่การศึกษาส่วนผสมของยาอีกต่อไป ไป๋เยี่ยจึงรวบรวมสมาชิกในทีมวิจัยมาระดมสมอง
เพราะว่าสิ่งที่เขากำลังวิจัยไม่มีทิศทางที่ชัดเจนและข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับการวิจัยในภายภาคหน้า
ดังนั้นก่อนจะทำการทดลอง จึงควรตั้งสมมติฐานต่างๆ ขึ้นมาแล้วตรวจสอบผ่านการวิจัย
นี่แหละคือการวิจัยและการทดลอง!
หากจะพิสูจน์ศักยภาพของนักวิจัย การตัดสินโดยใช้เกณฑ์ความเร็วในการทำความเข้าใจและการยอมรับสิ่งใหม่ๆ ก็คงชัดเจนที่สุดแล้ว
วิทยาศาสตร์คือการคัดค้านตนเองอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงตนเองอยู่ตลอดเวลา
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ไป๋เยี่ยได้พูดคุยกับผู้คนจำนวนมาก ต่างคนต่างก็เสนอแนวคิดออกมามากมาย
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ทุกคนจึงใช้ชีวิตอยู่ภายในสถาบันวิจัย ส่วนไป๋เยี่ยก็พยายามไปพร้อมกับทุกคนด้วย
ทว่าระหว่างที่เขากำลังทำวิจัย ก็มีชายชราคนหนึ่งมาพบเขา
อีกฝ่ายกล่าวทักทาย “สวัสดี ผมหวังชิ่งหยวน”
ไป๋เยี่ยเงยหน้าขึ้นมองชายชราผมขาว และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าชื่อนี้ช่างฟังดูคุ้นหูนัก
ทันใดนั้นไป๋เยี่ยก็ชะงักไป เขานั่นเอง!
หวังชิ่งหยวน นักวิชาการจากโครงการสองสถาบันและยังเป็นผู้ชนะรางวัลแพทย์ดีเด่นด้วย
เขาเป็นหนึ่งในนักวิชาการไม่กี่คนของโครงการสองสถาบันในสาขาการแพทย์ และยังเป็นหนึ่งในบุคคลมีชื่อเสียงตั้งแต่ยุคสร้างชาติที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
ทว่าไป๋เยี่ยไม่ได้รู้จักเขาเพราะเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน แต่เป็นเพราะกลุ่มวีแชตของเขา
กลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้นั่นเอง
มันเป็นกลุ่มวีแชตที่ไป๋เยี่ยใช้ซึมซับความรู้และประสบการณ์ เขาจึงย้อนดูประวัติการแชตทุกวัน
นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้อ่านสิ่งที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญคุยกัน
เขาคือไป๋หั่วหวาผู้บ้าคลั่ง จึงจดจำชื่อของผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มได้แม่นยำ
เมื่อไป๋เยี่ยเห็นว่าหวังชิ่งหยวนมาหาเขาก็กระตือรือร้นมาก รีบเข้าไปต้อนรับอีกฝ่ายทันที
จากนั้นเหล่าหวังก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับสวีเสี่ยวเฉียนให้เขาฟัง
ไป๋เยี่ยฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไร เขาไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ให้สวีเสี่ยวเฉียนแต่อย่างใด การที่อีกฝ่ายต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ในวันนี้ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ต้องจ่ายและคำนึงถึงผลที่ตามมาเสมอ แต่ไป๋เยี่ยก็ไม่มีเวลามาพัวพันกับเรื่องนี้มากนัก เขายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ
พูดตามตรง เขาไม่ได้สนใจสวีเสี่ยวเฉียนเลยด้วยซ้ำ
ส่วนที่เหล่าหวังมาหาเขานั้นก็เพราะอยากให้เขาช่วยประนีประนอมให้กับลูกศิษย์หรือเปล่า
ไป๋เยี่ยถามอย่างยิ้มๆ “คุณหวังหมายความว่าไงเหรอครับ”
หวังชิ่งหยวนหัวเราะเบาๆ เขาเกรงว่าไป๋เยี่ยจะเช้าใจผิดจึงรีบเอ่ยขึ้น “ไม่เกี่ยวกับเขาหรอก แต่จะว่าไป ถ้าไม่ใช่เพราะสวีเสี่ยวเฉียน ผมก็คงไม่รู้ว่ามียอดฝีมือแบบคุณอยู่ เสี่ยวเยี่ย ผมมาหาคุณในวันนี้เพราะเรื่องสมาคมการแพทย์ต่างหาก!”
[1] โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) คือ ฮอร์โมนการเจริญเติบโต ที่ผลิตจากต่อมใต้สมองและส่งเข้าสู่กระแสเลือด
[2] ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) คือส่วนของสมองที่ควบคุมกลไกต่างๆ ของร่างกาย
[3] โกรทฮอร์โมนรีลีสซิงฮอร์โมน (Growth hormone releasing hormone) คือ ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่กระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน