พอพบกับความแปลกประหลาดของหมอกที่อยู่รอบๆนี่ หวงเสี่ยวหลงก็เพิ่มความระมัดระวังขึ้นมา เขาไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนเป็นกายาเทพอสูรทันที เขาก็มุ่งไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังในขณะที่กางปีกเทพอสูรที่อยู่ด้านหลังและใช้สายตาสอดส่องสภาพรอบๆตัวเขาไปด้วย
รอบๆมีแต่ความเงียบราวกับป่าช้า มันเป็นความเงียบที่น่าขนหัวลุก ด้านหน้าของเขามีเสียงร้องโหยหวนของตัวอะไรก็ไม่ดังขึ้นตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา
หวงเสี่ยวงหลงเดินทางผ่านหมอกสีเทาเข้มพวกนี้ไปอย่างเชื่องช้าและระมัดระวังเป็นเวลาได้ชั่วโมงแล้ว แต่รอบๆตัวเขาก็ไม่มีสิ่งใดนอกจากหมอกสีเทาเข้มพวกนี้
ดูเหมือนว่าในในขณะที่หวงเสี่ยวหลงมุ่งหน้าเข้าไปลึกขึ้นสถานที่แห่งนี้กลับเงียบสงบ แต่ในจิตใจของเขากลับเต้นระรัวกระสับกระส่ายมากขึ้น มันเป็นความรู้สึกของส่วนลึกในจิตวิญญาณที่สัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
ความรู้สึกที่ไม่สบายใจนี่มันทำให้หวงเสี่ยวหลงเห็นภาพลวงที่เขากำลังก้าวลงนรก
อีก 1 ชั่วโมงผ่านไป
สิ่งที่แตกต่างจากเดิมก็มีเพียงหมอกสีเทาที่เริ่มหนาขึ้น เมื่อตอนที่หวงเสี่ยวหลงเข้ามาในหุบเขานี้เป็นครั้งแรก เขาก็สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวของเขาได้เพียง 10 เมตร พอมาถึงตอนนี้ในขณะที่เขายื่นมืออกไปเขาก็แทบมองไม่เห็นนิ้วมือของตัวเอง
หวงเสี่ยวหลงก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไป และจู่ๆ หมอกที่อยู่รอบตัวเขาก็เคลื่อนไหวราวกับน้ำที่หลั่งไหลพร้อมกับเสียงกรีดร้องแปลกประหลาดที่เริ่มดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อหมอกที่สีเทาเคลื่อนไหว ดูเหมือนว่าหมอกที่นี้จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดเสียงร้องอันแปลกประหลาด
หวงเสี่ยวหลงเคร่งเครียด เขาแสดงสีหน้าซีดเซียวในขณะที่เขาทำการหมุนเวียนปราณฉีเพื่อเตรียมพร้อมโต้ตอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นทุกชั่วขณะ เสียงร้องอันแปลกประหลาดก็ดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา หวงเสี่ยวหลงก็คิดว่าบางเสียงร้องพวกนี้อาจะมาจากสิ่งมีชีวิตอะไรสักอย่างแต่มันก็คงไม่ใช่สัตว์อสูร เสียงของมันดูคล้ายกับปีศาจที่มาจากขุมนรกมากกว่า
ทันใดนั้น พลังงานบางอย่างก็โผล่ออกมาจากหมอกแล้วพุ่งใส่หวงเสี่ยวหลงซึ่งมันทำให้เขาตกใจ หวงเสี่ยวหลงก็เลยกระพือปีกแล้วหลบไปด้านข้าง และใช้ความสามารถจิตวิญญาณต่อสู้––ก้าวเงาในเวลาเดียวกับที่หลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามาเขา
สิ่งมีชีวิตสีน้ำเงินดำก็ได้โผล่ออกมาจากหมอกสีเทา มันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่มันกลับมีสีแขนและดวงตาสีแดงเข้ม ร่างกายของมันทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงที่น่าหวาดกลัว
หวงเสี่ยวหลงก็หลบการโจมตีของตัวประหลาดนี่ได้อย่างฉิวเฉียดพอดี ตัวประหลาดสีดำที่เพิ่งพุ่งผ่านหวงเสี่ยวหลงไปนั้นได้ปลดปล่อยคลื่นความร้อนออกมาจากเปลวเพลิงบนร่างกายใส่หวงเสี่ยวหลง ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกราวกับตกลงไปในทะเลเพลิง มันเป็นความเจ็บปวดจากการที่โดนแผดเผาผิวหนัง
ในสถานการณ์ปกติแล้ว ด้วยการที่เขาได้กินไข่มุกมังกรเพลิงและใช้กายาเทพสูรนี่ แม้จะโดนเพลิงปกติที่มีอุณหภูมิสูงมากแค่ใหนมันก็ยังไม่สามารถทำอันตรายเขาได้เลยสักนิด แต่เปลวเพลิงนี้…..แค่เพียงเคลื่อนความร้อนที่ปลดปล่อยออกมาก็สามารถทำให้หวงเสี่ยวหลงได้รับบาดเจ็บได้ สามารถจิตนาการได้เลยว่าเปลวที่ไม่รู้ที่มานี่มันน่าหวาดกลัวเพียงใด
สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนี่ไม่ได้ไล่ตามหวงเสี่ยวหล งแต่มันกลับหวนกลับเข้าไปในหมอกสีเทาราวกับมองไม่เห็นเขาแทน
แต่หลังจากที่หวงเสี่ยวหลงการโจมตีของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนี่ไม่กี่ลมหายใจ ก็มีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดอีกตัวพุ่งเข้ามาใส่เขา
หวงเสี่ยวหลงก็ใช้งานก้าวเงาอย่างตื่นตระหนก
และเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นทุก 3 ลมหายใจ
หลังจากนั้นเรื่อยมา ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตตัวนี้มันจะไม่มีหมดสิ้น เมื่อตัวนึงหายเข้าไปในหมก อีกตัวก็โผล่ออกมาแทบจะทันที และสิ่งที่ทำให้ใบหน้าของหวงเสี่ยวหลงย่ำแย่ก็คือทุกๆ 3ลมหายใจมันก็จะปรากฏตัวขึ้น และความเร็วใจการโจมตีและเปลวเพลิงบนตัวมันก็น่าหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนแรก เปลวเพลิงบนตัวสิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นแค่เพียงปลดปล่อยคลื่นความร้อนแผดเผาผิวหนัง แต่ทว่าตอนนี้ ความรู้สึกแสบร้อนนั่นก็แทรกซึมเข้ามาในร่างกายซึ่งมันเริ่มมีผลต่ออวัยวะภายในของเขาแล้ว
มันเป็นความเจ็บปวดที่แสนทรมาณ
หลังจากหลบการโจมตีของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี่ไปได้หลายสิบรอบ หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเมื่อเขาตัวไหม้เกรียมไปหมดทั้งตัวแต่สิ่งมีชีวิตประหลาดอีกตัวก็ปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเขามาหาเขาตรงๆ
สิ่งมีชีวิตประหลาดนี่ก็พุ่งเข้ามาถึงด้านหน้าของหวงเสี่ยวหลงได้ในพริบตา แม้ว่าเขาจะใช้งานก้าวเงาเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำให้ แต่แขนข้างนึงของเขาก็ยังถูกเพลิงขนาดเล็กแผดเผา มันเป็นความเจ็บปวดที่แสนทุกข์ทรมานราวกับเขากำลังเปลวเพลิงนรกเผาผลาญ มันเป็นความเจ็บปวดที่มาเกินกว่าคนอย่างหวงเสี่ยวหลงจะทนไหว ดังนั้นเขาก็เลยกรีดร้องออกมา
หลังจากความเจ็บปวดทุเลาลง หวงเสี่ยวหลงก็ตรวจสอบว่ามีตรงใหนบ้างที่โดนเพลิงแผดเผาซึ่งเขามองเห็นรูที่เจาะเข้าไปในเลือดเนื้อของเขา และมันจะลงไปลึกถึงกระทั่งกระดูก!
หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกตื่นตระนรก
นี่เป็นครั้งแรกที่มีบางสิ่งเจาะทะลวงการป้องกันทางกายภาพของเขาและทำให้เขได้รับร้ายแรงถึงขนาดนี้
ในทันที หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาได้เรียกมังกรดำและมังกรฟ้าออกมาและทำการเปลี่ยนวิญญาณทันที
การรวมร่างกับจิตวิญญาณมังกรคู่ได้ทำให้ผิวหนังของหวงเสี่ยวหลงมีเกรดมังกรดำและมังกรฟ้าขึ้นมาปกคลุม หลุมลึกที่เจาะไปถึงกระดูกภายร่างของเข่าก็ค่อยๆสมานตัวอย่างช้าๆ
สิ่งมีประหลาดก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและพุ่งใส่เขาอีกครั้ง หวงเสี่ยวหลงก็รีบหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
หลังจากทำการเปลี่ยนวิญญาณ ความเร็วของหวงเสี่ยวหลงก็เพิ่มขึ้นมาก แม้ว่าบนร่างกายของหวงเสี่ยวหลงจะถูกปกคุลมไปด้วยเกร็ดมังกร เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนของเปลวไฟจากร่างกายของเจ้าสิ่งมีชีวิตสีดำนี่
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
หวงเสี่ยวหลงก็ยังต้องอดบากบั่นกับเจ้าสิ่งมีชีวิตนี่เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากทำการเปลี่ยนวิญญาณ แต่พอครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นมันกลับกลายการต่อสู้ที่ยากลำบาก สิ่งมีชีวิตประหลาดตัวต่อมาที่วิ่งออกมาจากหมอกสีเทากลับรวดเร็วมากกว่าตัวก่อนหน้า ทำให้หวงเสี่ยวหลงหลบการโจมตีไม่พ้นถึงแม้ว่าความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้นหลังจากทำการเปลี่ยนร่างก็ตาม
สิ่งมีชีวิตประหลาดตัวสุดท้ายกลับมีความเร็วมากกว่าตัวแรกถึง 5 เท่า!
ไม่กี่นาทีต่อมา เกร็ดทุกชิ้นบร่างกายของหวงเสี่ยวหลงก็หลุดออก ตอนนี้หวงเสี่ยวหลงแทบจำอะไรไม่ได้แล้วว่าเขาต่อสู้ไปกี่รอบเนื่องจากสภาพของเขาในตอนนี้มันช่างอนาถมาก บนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหลุมเลือดตามตัวที่ลึกไปถึงกระดูกซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากเปลวเพลิงของสิง่มีชีวิตประหลาดนั่น
“ข้าไม่คาดคิดว่าข้าจะต้องมาตายที่นี่!” หวงเสี่ยวหลงก็คิดกับตัวเอง “ข้าจะข้ามกลับโลกหลังจากตายหรือไม่นะ?”
สติของหวงเสี่ยวหลงก็เริ่มเบลอ ร่างกายของเขาก็เริ่มเอนเอียงไม่มั่นคง หลังจากล้มกลิ้งลงไปหลายครั้ง หมอกสีเทาหนาเข้มรอบๆตัวเขากับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่แปลกก็คือ เสียงกรีดร้องโหยหวนจากเจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดได้หายไปพร้อมกัน
หวงเสี่ยวหลงหันไปมองรอบๆอย่างไร้จุดหมาย เมื่อหมอกสีเทาหายไป หุบเขาทั้งลูกกลับเปิดเผยตัวตนของมันสู่สายตาของเขา
รอบๆหุบเขานี่มีหินสีดำต่างกระจายไปทั่ว นอกจากหินนี่ ก็มี ต้นไม้สีดำรูปร่างประหลาดอยู่ไปทั่ว ต้นไม้ทุกต้นมีกิ่งบนต้นเพียง 2 กิ่งเหมือนกับแขนมนุษย์
หวงเสี่ยวหลงก็ยืนขึ้นแล้วหยิบโอสถออกมาจากแหวนเทพอสูร พอกินโอสถเข้าไป เขาก็เริ่มทำการฟื้นฟูปราณฉีทันที จากนั้นก็มีแสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นรอบๆตัวเขาแทบจะทันทีซึ่งมันช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บไปอย่างช้า
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเมื่อแสงสีฟ้าหายไป บาดแผลบนร่างกายของหวงเสี่ยวหลงก็ได้รับการฟื้นฟูและปิดสนิทพอมองดูๆมันกลับดีขึ้นมากกว่าก่อน
มองดูจากผ่านนอกไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าหวงเสี่ยวหลงพึ่งจะได้รับบาดเจ็บมา
เขาก็หายใจขึ้นลึกๆแล้วยกข้าขึ้นก้าวเดินเข้าสู่หุบเขา อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็มาถึงจุดสิ้นสุดของหุบเขา
บนกำแพงภูเขาตรงที่จุดสิ้นสุดของหุบเขานั้นเป็นอุโมงค์สีดำน้ำเงิน
ภายในอุโมงค์ที่ยืดยาวไปได้ปรากฏเสียงดังเขย่าขวัญราวกับทำให้ใจแตกสลาย
เจดีย์หลิงหลงและแหวนผนึกพระเจ้าในร่างของเขาก็สั่นสะเทินขึ้นมาในขณะที่เขาก้าวเข้าไปในอุโมงค์ ตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามาในหุบเขา พวกมันกลับไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆเลยจนกระทั่งตอนนี้ หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกสุขใจมาก พอตัดสินจากปฏิกิริยา ไข่มุกวิญญาณก็จะต้องอยู่ในอุโมงค์สีดำของหุบเขานี้แน่นอน!
หวงเสี่ยวหลงเดินตามเส้นทางอุโมงค์เข้าไปซึ่งภายในไม่มีอะไรอยู่แต่กลับเต็มไปด้วยความมืดที่ซึมซับแสงสว่าง
เขาไม่สามารถมองอะไรเห็นได้เกินกว่า 300 เมตร แม้ว่ามันจะไม่มีหมอกอยู่ภายในอุโมงค์ แต่หวงเสี่ยวหลงก็ไม่กล้าผ่อนคลาย เขาได้คงการเปลี่ยนวิญญาณไว้และให้ความสนใจกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
แต่อุโมงค์แห่งนี้ราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด หวงเสี่ยวหลงได้เดินตามเส้นทางในอุโมงค์มาได้ 2-3ชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดสักที