อัจฉริยะตระกูลฟาน ฟานเฉิน เป็นผู้มีจิตวิญญาณต่อสู้ระดับ 14 ธรรมดา ––ระดับ 14! บนทวีปหิมะโปรยปรายแห่งนี้นั้นสามารถนับจำนวนผู้มีพรสวรรค์โดยใช้แค่เพียงมือข้างเดียว ซึ่งฟานเฉินก็ได้กลายเป็นตัวตนในตำนานแห่งอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ยิ่งไปกว่านั่นก็คือมีผู้คนนำฟานเฉินไปเทียบกับจักรพรรดิของพวกเขา ฉื่อฟานเทียน
ไม่ว่าเขาจะบอกว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้มีพรสวรรค์มากกว่าฟานเฉินอีกงั้นหรอหรอ? หรือพูดนัยว่าเจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์สูงส่งมากกว่าจักรพรรดิฉื่อฟานเทียน!
ชราที่เหลือทั้ง 7 คนก็ตกตะลึงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งคำพูดนี้นั้นเป็นคำพูดจากปากของเฒ่ากฎเลยนะ!
“เนื่องจากแท่นบูชาพระพุทธได้เลือกผู้คู่ควรแล้ว พวกเขาก็ควรจะส่งข้อความไปแจ้งท่านจักรพรรดิ!”เฒ่ากฎก็พูดขึ้นอีกครั้ง
หลังจากที่ชายชราคนอื่นอีก 7 คนหายจากอาการตกใจ พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย
ในตอนนั้น ภายในพระราชวังอันยิ่งใหญ่ทางทิศใต้ของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ ชายวัยกลางคนที่สวมใส่จีวรทองคำกำลังนั่งสมาธิกลางอากาศในขณะที่ปลดปล่อยพลังพุทธะพร้อมกับภาพจำลองพระพุทธรูปโบราณส่องสว่างสดใสปกคลุมรอบตัวเขา
ชายคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจักรพรรดิแห่งอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ ฉื่อฟานเทียน
จู่ๆฉื่อฟานเทียนที่นั่งสมาธิอยู่ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับมียันต์ที่ถูกส่งออกมาจากช่องว่างมิติปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ
“หืม?! แท่นบูชาพระพุทธเลือกผู้คู่ควรได้แล้วงั้นหรอ?!”ดวงตาของฉื่อฟานเทียนก็ปรากฏแสงสว่างสดใสขึ้นและทำการอ่านข้อความต่อ “ว่าไงนะ? เฒ่ากฎบอกว่าความสามารถของเด็กคนนี้เหนือล้ำกว่าฟานเฉินงั้นหรอ!”
ด้วยการระเบิดของแสงพุทธะ ฉื่อฟานเทียนก็หายไปจากห้องโถงหลัก
เมื่อฉื่อฟานเทียนได้รับข้อความ หวงเสี่ยวหลงกยังคงอยู่ในพิธีชำระล้างจากพลังงานพุทธะที่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายในลานหมื่นพุทธะ 6 ชั่วโมงผ่านไป นับตั้งแต่ตอนที่หวงเสี่ยวหลงเปิดการทำงานของรูปสลักพุทธะทั้ง 4 รูปที่อยู่บนแท่นบูชาพระพุทธ
6 ชั่วโมงผ่านไป
ภายในพิธีชำระล้าง 6 ชั่วโมงนี้ ร่างกายของหวงเสี่ยวหลงดูราวกับถูกแต่งแต้มด้วยชั้นสีทอง ทำให้เขาดูราวกับรูปปั้นสีทองจากระยะไกล
ในเวลา 6 ชั่วโมงที่ผ่านมานั้นมองจากภายนอกหวงเสี่ยวหลงดูไม่แตกต่างอะไรตั้งแต่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่มีเพียงหวงเสี่ยวหลงเท่านั้นที่รู้ว่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในร่างเขา ไม่ว่าจะเป็นเส้นปราณ ทะเลปราณ อวัยวะภายใน เลือดเนื้อ ผิวหนัง แม้กระทั่งเส้นผมของเขานั้นทุกส่วนแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม 2 เท่า!
ปราณฉีและปราณภายในของหวงเสี่ยวหลงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อผ่านไปครึ่งวันจู่ๆร่างกายของหวงเสี่ยวหลงก็สั่นไหว จากนั้นก็มีแสงสีม่วงดำระเบิดออกมาส่งผลให้บรรยกาศที่เขาปลกปล่อยออกมาเปลี่ยนแปลงไปทันที
ขั้นเซียนเทียนระดับที่ 3
การบ่มเพาะของเขาที่ติดอยู่ที่เซียนเทียนระดับ 2 ขั้นสูงสุดในที่สุดก็ทะลวงได้สำเร็จ!
ต้องรู้ก่อนว่าตั้งแต่หวงเสี่ยวหลงเข้าร่วมการประลองของอาณาจักรต้วนเริ่นมันก็ผ่านไปแค่ 2 ปี และในตอนนั้นหวงเสี่ยวหลงก็พึ่งจะทะลวงเข้าสู่ขั้นเซียนเทียนเอง
ผู้คนต่างๆมากมายต่างเดินทางมาถึงลานหมื่นพุทธะ พอมองเห็นหวงเสี่ยวหลงทะลวงขั้นได้อย่างง่ายดายก็ทำสายตาอิจฉาริษยาหลายคู่ต่างเพ่งมองเขา
แต่ทว่าความอิจฉาในสายตาเฉินติงหยวนกลับเพิ่มมากขึ้นมากแม้กระทั่งความอาฆาตพยาบาทยังเทียบไม่ติด
แม้หลังจากที่หวงเสี่ยวหลงทะลวงเข้าสู่ขั้นเซียนเทียนระดับ 3ได้สำเร็จแล้ว พลังพุทธะที่ถูกส่งออกมาจากแท่นบูชาพระพุทธก็ยังคงแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาซึ่งพวกมันได้ถูกดูดซึมและกลั่นกรองไปใช้ในการเพลางปราณฉีและปราณภายใน
1 วัน 1คืนได้ผ่านไป
หลังจากที่แท่นบูชาพระพุทธปลดปล่อยพลังพุทธะออกมา 1 วัน 1 คืนเต็ม มันก็ได้หายไปในอากาศทันที หวงเสี่ยวหลงได้ใช้เวลาทั้งหมดในการดูดซับพลังพุทธะ ทำให้ปราณฉีของเขาได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 3 ชั้นต้น มันก็เพราะว่าแท่นบูชาพระพุทธได้หยุดปล่อยปราณและได้หายวับไป
ฝูงชนทั้งหลายต่างก็มองแท่นบูชาพระพุทธหายไปในขณะที่หวงเสี่ยวหลงลืมตาขึ้น
ในขณะที่เขาลืมตาขึ้นใบหน้าของหวงเสี่ยวหลงก็เต็มไปด้วยความสุข จากนั้นเขาก็พยายามสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาโดยใช้สัมผัสวิญญาณ
ผลพิธีชำระล้างของแท่นบูชาพระพุทธนั้นเกินกว่าที่เขาได้คาดคิดไว้มากนัก เขาก็คิดว่าตอนนี้เขาคงอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้น 3 ชั้นต้น
พอควบคุมอารมณ์ หวงเสี่ยวหลงก็ตรวจสอบรอบๆ และในที่สุดสายตาของเขาก็เพ่งมองลงไปบนร่างกายของเฉินติงหยวน
เมื่อตอนที่เขาได้เข้าพิธีชำระล้าง การโจมตีด้วยเข็มพิษที่เฉินติงหยวนเป็นคนทำนั้น หวงเสี่ยวลงนั้นรู้สึกตัวระมัดระวังมากๆ พอเห็นหวงเสี่ยวหลงมองมาทางตัวเอง เฉินติงหยวนก็เย้ยหยันอย่างดูถูก ทำให้สายตาทั้งสองคนบรรจบกัน
จู่ๆฝูงชนที่ยืนอยู่อย่างแออัดก็ได้เว้นที่เป็นทางเดินตรงกลางให้กลุ่มคนที่สวมชุดเทศมนตรีของอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์เดินเข้ามาหาหวงเสี่ยวหลง คนที่เดินนำกลุ่มคนนั้นเป็ฯชายชราที่ไว้เครายาวสีขาวและมีดวงตาที่ส่องสว่างสดใส
“นั่นมันขุนนางชั้นสูงสุดแห่งอาณาจักรพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ หม่าโป!”
“ขุนนางชั้นสูงสุดหม่าโปมาที่นี่! ครั้งที่แล้วที่ฟานเฉินเป็นผู้ถูกเลือกโดยแท่นบูชาพระพุทธนั้นก็มีขุนนางชั้นสูงหม่าโปเป็นคนมารับเขาไปพบทท่านจักรพรรดิในวิหารพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์”
“ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้ยินก็เมื่อตอนที่ท่านจักรพรรดิเรียกฟานเฉิน ท่านได้มอบหินจิตวิญญาณระดับสวรรค์ให้แก่ฟานเฉิน
พอได้ยินเสียงพูดคุยรอบตัว หวงเสี่ยวหลงตกตะลึงอยู่ภายใน
หินจิตวิญญาณระดับสวรรค์!
มีข่าวลือว่าหินจิตวิญญาณชั้นสูงนั้นมีจิตใจเป็นของตัวเอง และนอกจากจะเอาไปใช้กลั่นเป็นโอสถวิญญาณระดับสวรรค์แล้ว การนำเอามันมาติดตัวก็ยังเป็นการเพิ่มความเร็วของการดูดซับพลังงานจิตวิญญาณที่อยู่รอบตัวในการบ่มเพาะด้วย อีกทั้งการนำมันไว้ติดตัวก็ยังมีประโยชน์ในการบ่มเพาะอีกมากมาย
ณ ตอนนี้ ชายชราเคราขาว ขุนนางชั้นสูงสุดหม่าโปก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าหวงเสี่ยวหลงแล้ว พอพยักหน้าให้หวงเสี่ยวหลงด้วยท่าทางเป็นมิตร เขาก็พูดออกมาว่า “ยินดีด้วยที่นายน้อยเป็นผู้ถูกเลือกโดยแท่นบูชาพระพุทธ ตามกฎแล้ว ผู้ที่ถูกเลือกจะได้ไปพบท่านจักรพรรดิและสามารถขออะไรก็ได้หนึ่งอย่าง ตอนนี้ได้โปรดติดตามข้าไปวัดพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ด้วย!”
“ได้เลย”หวงเสี่ยวหลกง็พยักหน้า
ขุนนางชั้นสูงสุงหม่าโปก็ได้ส่งสัญญาณมือให้หวงเสี่ยวหลงและเดินนำหวงเสี่ยวหลงออกไปจากลานหมื่นพุทธะพร้อมกับกลุ่มคนที่มาพร้อมกับเขาเมื่อครู่
เมื่อหวงเสี่ยวหลงเดินผ่านเฉินติงหยวน ก็มีเสียงเย็นชาถูกส่งเข้ามาในหูของหวงเสี่ยวหลง “ใอ้สารเลว อย่าลำพองเพราะแกถูกเลือกโดยแท่นบูชาพระพุทธหล่ะกัน แกทำให้นายน้อยผู้นี้ไม่พอใจ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เจ้าเห็นนายน้อยผู้นี้หล่ะก็ รีบหนีไปให้ไกลมากที่สุดจะดีกว่านะ มิฉะนั้นแล้ว นายน้อยผู้นี้จะบดขยี้เจ้าทุกครั้งที่ข้าเห็นหน้าเจ้า!”
หวงเสี่ยวหลงพูดย้อนคืนด้วยน้ำเสียงไม่แยแสอย่างเย็นชา “จริงหรือ?” ทำให้จิตสังหารของเฉินติงหยวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่สังเกต
ทันทีที่หวงเสี่ยวหลงติดตามขุนนางชั้นสูงหม่าโปออกไปจากลานหมื่นพุทธะ ฝูงชนที่มามุงดูทั้งหลายก็กระจัดกระจายไป
ด้วยการที่หวงเสี่ยวหลงออกไปแล้ว เฉินติงหยวนและลั่วหวูยี่ก็ได้ออกไปจากลานแห่งนี้ด้วยเหมือนกัน
พอออกจากลานหมื่นพุทธะแล้ว ขุนนางชั้นสูงหม่าโปก้ได้นำทางหวงเสี่ยวหลงเดินเป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนจะไปหยุดอยู่ที่อาคารที่ดูยิ่งใหญ่ซึ่งสูงถึง 100จางและสร้างด้วยหินแกรนิตอันสดใส บยกำแพงหินแกรนิตนั้นถูกสลักเป็นรูปพระพุทธหลายองค์
“นายน้อย นี่คือวัดพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ ท่านจักรพรรดิได้รอคอยการมาของนายน้อยอยู่ พวกเราเข้าไปกันเถอะ”พอมาถึงหน้าอาคาร หม่าโปก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็หันหน้านำทางหวงเสี่ยวหลงต่อไป
ขณะที่หวงเสี่ยวหลงได้เข้าไปในอาคาร ก็ได้มีพลังพุทธะอันน่าเกรงขามพุ่งใส่เขา และก่อนที่พลังพุทธะนี้จะเข้าถึงตัวหวงเสี่ยวหลงนั้น ในจิตใจของหวงเสี่ยวหลงนั้นก็มีความรู้สึกที่ต้องการจะยอมจำนนเกิดขึ้นในจิตใจของหวงเสี่ยวหลง แต่ในเสี้ยววินั้น มังกรดำและมังกรฟ้าในร่างของหวงเสี่ยวหลงได้สั่นไหวปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังพุ่งออกจากร่างของเสี่ยวหลง
ทันใดนั้น พลังพุทธะที่พุ่งเข้ามาหวงเสี่ยวหลงก็ได้หายไป…
พอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมังกรอันทรงพลังจากร่างกายของหวงเสี่ยวหลง หม่าโปก็รู้สึกตกใจอยู่สักพักแล้วเขาก็นำทางต่อไป
วัดพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวางพอเทียบได้กับลานหมื่นพุทธะ หวงเสี่ยวหลงได้สำรวจพื้นที่ในขณะเดินซึ่งเขาก็ได้สังเกตเห็นคานของเสาหยกขาวที่มีสัตว์พุทธะสลักอยู่ด้านบนสุด
หลังจากใช้เวลาเดินสักพัก เขาก็ได้มาถึงด้านหน้าห้องโถงหลัก ก็มีชายคนหนึ่งยืนหันหลังหลังให้พวกเขาพร้อมกับมือไขว้หลัง
“ท่านจักรพรรดิ นายน้อยคนนี้แหละเป็นถูกเลือกโดยแท่นบูชาพระพุทธ” หม่าโปก็ได้พูดแนะนำ