ไปดื่มกันสักหน่อย?! เกาหยงก็มองหวงเสี่ยวหลงอย่างสับสน ครู่ต่อมา เลือดในร่างของเขาก็เดือดพล่านอย่างตื่นเต้น และหัวใจของเขาก็เต้นระรัวอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเขาพยายามจะทำเพียงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมรับ
ในไม่ช้า เกาหยงก็ติดตามหวงเสี่ยวหลงออกไปจากถนนแม่น้ำรุ่งอรุณ ในระหว่างทางเกาหยงรู้สึกราวกับเขากำลังล่องลอยอยู่บนหมู่เมฆโดยไม่มีอะไรสามารถฉุดเขาลงสู่พื้นดินได้อีก
เมื่อหวงเสี่ยวหลงเดินทางมาถึงด้านนอกของคฤหาสน์เนินเขาทิศใต้ หวงเผิงและซูหยานก็แหงนคอรอพวกเขาอยู่หน้าทางเข้า ทันทีที่ซูหยานเห็นร่างขงอหวงเสี่ยวหลงปรากฏขึ้น เธอก็รีบก้าวออกไปกอดหวงเสี่ยวหลง “หลงเอ๋อ ในที่สุดเจ้าก็กลับบ้าน!”
พอถูกกอดโดยมารดาในอายุขนาดนี้มันทำให้หวงเสี่ยวหลงรู้สึกอับอายเล็กน้อย แต่เขารู้สึกได้ถึงความรับแห่งมารดาจากซูหยานและความโหยหายลูกของเธอ พอนึกย้อนไปเมื่อหลายปีที่เขาได้แยกห่างจากครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะหรือใช้เวลากับคนอื่น หวงใจของหวงเสี่ยวหลงก้เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว!”หวงเสี่ยวหลงก้พูยืนยัน ภายในเขารู้สึกตื้นตัน
“ดีๆ ตราบที่ลูกชายของพวกเรากลับมาอย่างปลอดภัย ตรงนี้มีคนอยู่เยอะแยะไปหมด หยางเอ๋อ อย่าทำให้ลูกชายของเราต้องอับอาย พวกเรารีบเข้าไปกันก่อนเถอะ!”หวงเผิงก็มาช่วยลูกชายของเขาในทันทีและปลอโยนภรรยาของเขาในเวลาเดียวกัน
จากนั้นซูหยานจึงทำได้เพียงปล่อยลูกชายของเธอ เธอรู้ว่าสถานะและตัวตนของลูกชายเธอนั้นไม่ได้เป็ฯเหมือนเมื่อก่อนแล้ว การกอดในที่สาธารณะแบบนี้มันสร้างความอับอายให้ขเอย่างแท้จริง
“พี่ใหญ่!”หวงหมินก็ยืนอยู่ตรงหน้าพี่ใหญ่ของเธอในขณะที่เขายิ้มอย่างขี้อายออกมาอย่างมีความสุข
หวงเสี่ยวหลงก็หัวเราะออกมาพอได้เห็นน้องสาวของตัวเอง ““ในอีกสองวันจะเป็นงานแต่งของเจ้า ข้ารู้สึกดีใจที่มาทันเวลา!”
“พี่ใหญ่!”ดวงตาหวงหมิงก็แดงขึ้นทันที เธอรีบวิ่งเข้าไปกอดหวงเสี่ยวหลงสักคณุ่ก่อนที่จะปล่อยเขา หวงเสี่ยวหลงมองดูใบหน้าที่ละเอียดละอ่อนและน่ารักของน้องสาวเขาในขณะที่เขายกมือขวาขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธอ เขารู้สึกมีความสุขที่ เด็กสาวตัวน้อยในที่สุดก็ขึ้นแล้ว
เขายังจำได้อย่างชัดเจรนราวกับเมื่อวานตอนที่เขามักจะแอบหนีไปหลังเขาเพื่อฝึกพระคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น และเด็กสาวตัวน้อยนี่ก็มักจะขึ้นภูเขาตามไปดูเขาฝึก
หลายสิบปีได้ผ่านไป…..ในเพียงชั่วพริบตา
หลังจากผ่านปีใหม่ไป เด็กสาวตัวน้อยก็อายุ 19 แล้วซึ่งเขาก็อายุ 20 แล้ว
“เจ้าแก่พอจะแต่งงานได้แล้วแต่เจ้ากลับยังร้องไห้ราวกับเด็กอยู่ได้ มา เข้าไปกันเถอะ”หวงเสี่ยวหลงก็ยิ้มออกมาแล้วแกล้งหวงหมิน
หวงหมินก็พยักหน้าเห็นด้วย เปลี่ยนจากร้องไห้กลายเป็นหัวเราะออกมา ดังนั้นหวงเสี่ยวหลง หวงเผิง ซูหยานและคนอื่นๆที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าก็ได้เดินเข้าไปในห้องโถงของคฤหาสน์ซึ่งเป็นที่มีแต่เสียงหัวเราะอันมีชีวิตชีวาดังขึ้นเรื่อยๆ
2 วันจากนี้จะเป็นงานแต่งอันยิ่งใหญ่ของหวงหมิน และการกลับมาของหวงเสี่ยวหลงนั้นได้ทำให้บรรยากาศในคฤหาสน์เนินเขาทิศใต้รื่นเริงมากขึ้น หวงเสี่ยวหลงนั้นเป็นรากฐานของตระกูลหวง ถ้าหากหวงเสี่ยวหลงไม่สามารถกลับมางานแต่งของหวงหมินได้ทันเวลาหล่ะก็ มันจทำให้งานแต่งราวกับขาดอะไรบางอย่าง
หลายชั่วโมงต่อมา หวงเสี่ยวหลงออกไปจากห้องโถงหลักแล้วกลับไปที่พักของเขา พอเรียกจ้าวชู จางฟู และเฟยฮาวมา เขาก็ได้ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นใคฤหาสน์เขาทิศใต้เมื่อ 2ปีที่ผ่านมา ทั้งสามคนก็รายงานเรื่องที่ตัวเองรับผิดชอบทีละคน
ตามที่พวกเขาได้รายงานานั้น หอการค้าเก้าสมพันธ์ได้ก่อตั้งขึ้นในเมืองจักรพรรดิเรียบร้อยแล้ว และยังได้เปิดร้านสาขาในเมืองหลักของจักรวรรดิต้วนเริ่นอีกมากมาย เนื่องจากสนับสนุนอันแรงกล้าของจักรพรรดิต้วนเริ่น การดำเนินการค้าต่างได้ผลตอบรับอันดีเยี่ยมรวมไปถึงฐานการค้าอีกด้วย ในไม่ถึง 2ปี รายได้เฉลี่ยรายวันนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าสี่พันเหรีญทองแล้ว
ด้วยการพัฒนาการของเก้าสมพันธ์ หวงเสี่ยวหลงเชื่อว่าภายใน 30 ถึง 40 ปี มันจะกลายเป็น 1 ใน4บริษัทการค้ายักษ์ใหญ่ในจักรวรรดิต้วนเริ่น
“มีการเคลื่อนไหวจากเหยาเฟยหรือนิกายนักรบแห่งพระเจ้าบ้างใหม?”หวงเสี่ยวหลงได้ถามขึ้น
จ้าวชูก็ส่ายหัว “ตั้งแต่การต่อสู้ในสถาบันต้วนเริ่นที่เหยาเฟยถูกช่วยไปโดยไอ้สารเลวนั่นจากนิกายนักรบแห่งพระเจ้า มันก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย และก็ไม่มีการเคลื่อนจากนิกายนับรบแห่งพระเจ้าอีกด้วย”
หวงเสี่ยวหลงกพยักหน้า “ในอีกสองวันสั่งยามให้คุ้มกันคฤหาสน์ให้แน่นหนาด้วย”
“ท่านจักรพรรดิ ท่านหมายความว่าเหยาเฟยและนิกายนักรบแห่งพระเจ้าอาจจะมาสร้างปัญหาในงานแต่งคุณหวงหมินงั้นหรือขอรับ?”จางฟูก็ถามออกมาอย่างสงสัย
“มันก็มีโอกาสอยู่ แต่การคุ้มกันอย่างแน่นอนหน้านั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร”หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกมา
คฤหาสน์ตระกูลเหยา รากฐานตระกูลและบ้านหลักถูกเผาเป็นเถ้าถ่านโดยเขา ทำให้เหยาเฟยและบรรพบุรุษตระกูลเหยาต่างหลบหนีราวกับหมา ไม่ต้องสงสัยเลยวว่าไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องมาแก้แค้นอย่างแน่นอน
หวงเสี่ยวหลงรู้สึกว่า ในวันแต่งงานของหวงหมินนั้นจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่
“ท่านจักรพรรดิ ผู้บังคับบัญชาผู้นี้เรื่องจะรายงานขอรับ” ณ ตอนนั้น จ้าวชูก็ได้พูดตัดขึ้นมา
“อ่า พูดมา”หวงเสี่ยวหลงก็อนุญาต
“ข้าและจางฟู พวกเราทั้งสองได้ออกมาจากศูนย์หลักนิกายประตูเทพสูรทำให้ ผู้คุมนิกายเฉินเทียนฉีอาจจะสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้น เขาเลย….ส่งคนมาที่ทวีปหิมะโปรายปราย”จ้าวชูได้ลังเลก่อนจะรายงานข้อมูลส่วนหลังไป
หวงเสี่ยวหลงก็มองออกไปในดวงตาของเขานั้นเปล่งประกายระยิบระยับ ในที่สุดเฉินเทียนฉีก็ตระหนักถึงตัวตนของเขาแล้วงั้นหรือ?!
อย่างไรก็ตาม มันค่อนข้างจะนานแล้วตั้งแต่จ้าวชูและจางฟูได้ออกจากนิกายประตูเทพอสูร ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เฉินเทียนฉีจะเกิดความสงสัย เนื่องจากเฉินเทียนฉีส่งคนออกมา เขามั่นใจว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะมาที่ทวีปหิมะโปรายปรายด้วยตัวเองเหมือนกัน เขารู้วามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องเกิดขึ้น
บางทีวันที่เขาและเฉินเทียนฉีได้พบกันได้ในที่สุดนั้นจะเป็นวันที่พวกเขาทั้งสองจะประลองกันเพื่อบัลลังก์จักรพรรดิแห่งนิกายประตูเทพอสูร
“จักรพรรดิแห่งนิกายประตูเทพอสูร!”แหวนเทพอสูรบนนิ้วเขาก็เป็นประกาย
หวงเสี่ยววางแผนจะไปเผชิญหน้ากับนิกายนักรบแห่งพระเจ้า และมันคงเป็นไปไม่ได้แน่ที่จะพึ่งพาแต่ตัวเอง ดังนั้นหวงเสี่ยวหลงจะต้องคว้าตำแหน่งจักรพรรดิแห่งนิกายประตูเทพอสูรมา และเข้าควบคุมนิกายประตูเทพอสูรและศิษย์นับล้านของนิกายให้ได้
“ที่จริงแล้ว ท่านจักรพรรดิไม่ต้องกังวลมากนักในตอนนี้ ท่านจักรพรรดินั้นเป็นเจ้าของแหวนเทพอสูรและเป็นผู้สืบทอดอย่างถูกต้องของท่านจักรพรรดิคนก่อน แม้ว่าผู้คุมนิกายเฉินเทียนฉีจะมาถึงที่นี่ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรท่านจักรพรรดิได้!”จางฟูได้พูดขึ้น
หวงเสี่ยวหลงก็ได้พยักหน้าอย่างเงียบๆ
แม้ว่าจางฟูจะพูดออกมาแบบนั้น ถ้าหากเขาต้องการจะเข้าควบคุมนิกายประตูเทพอสูรอย่างเต็มที่ เขาจะต้องพิชิตเฉินเทียนฉีก่อน!
“ท่านจักรพรรดิ ท่านได้เข้าไปในถ้ำพุทธะในการเดินทางไปอาณาพระพุทธเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์สินะขอรับ?”จ้าวชุได้มองหวงเสี่ยวหลงแล้วถามออกมาอย่างระมัดระวังซึ่งเขาต้องการจะรู้เป็นอย่างมาก
จางฟูและเฟยฮาวก็รีบหันเหความสนใจไปที่หวงเสี่ยวหลง พอสังเกตได้ถึงการแสดงออกของทั้งสามคน หวงเสี่ยวหลงคาดเดาได้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้าได้ขอบครองหุบเขาเทวะซูมี่แล้ว” มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องเก็บเป็นความลับจากพวกเขา และพวกเขาคงจะรู้ในไม่ช้าอยู่ดี
สำหรับจ้าวชู จางฟู และเฟยฮาวนั้นเหมือนเวลาจะหยุดไปชั่วขณะ จากนั้น ทั้ง 3 คนก็คุกเข่าทำความเคารพ สรรเสริญออกมาอย่างตื่นเต้น “ท่านจักรพรรดิอายุมั่นขวัญยืน!”
“ท่านจักรพรรดิอายุมั่นขวัญยืน!”
หุบเขาเทวะซูมี่!
สมบัติสวรรค์อันดับที่ 1 มันเป็นเรื่องที่เกินกว่าจิตนาการของพวกเขาว่าวันหนึ่งจักรพรรดิแห่งนิกายประตูเทพอสูรนั้นจะเข้าครอบครองได้สำเร็จ!
มันเป็นหุบเขาเทวะซูมี่ในตำนานเลยนะ อ่า สมบัติที่มีข่าวลือเป็นเวลาหลายพันปีว่ามันมีพลังอันน่าตกตะลึงที่สุดในโลก!
พอคิดถึงเรื่องนี้พวกเขาทั้งสามก็ทนตัวสั่นออกมาอย่างตื่นเต้นไม่ไหว
ความจริงแล้ว จ้าวชูและจางฟูไม่มั่นใจในตัวหวงเสี่ยวหลงในการประลองชิงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งนิกายประตูเทพอสูรกับเฉินเทียนฉี อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขานั้นจะยืนอยู่เคียงข้างหวงเสี่ยวหลงอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหกเขาสามารถครอบครองสมบัติสวรรค์อย่างหุบเขาเทวะวูมี่ได้หล่ะก็ แล้วจะมีสิ่งใดที่เขาไม่สามารถทำได้กัน?!
“ยืนขึ้น”หวงเสี่ยวหลงก็มองทั้งสามคนที่คุกเข่าแล้วพูดออกมา
จ้าวชู จางฟู และเฟยฮาวก็รับสั่งอย่างเคารพแล้วจึงยืนขึ้น
“ให้ความสนใจหินจิตวิญญาณระดับ 1ที ข้าต้องการจัดซื้อหินจิตวิญญาณระดับ 1 จำนวนมาก”จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็พูดขึ้น
จำนวนมาก?! ทั้งสามคนก็ตกใจ