บทที่ 763 ข้าต้องยอมรับว่ามีการเดิมพัน (2)
หลี่ฉางโซ่วได้เตือนสงเหล่าซานซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ผู้อาวุโสทุกๆ คนควรมีผู้คุ้มกันสามคนและสาวใช้สองคน และเขาต้องไม่รู้สึกอึดอัดคับข้องใจใดๆ
สงเหล่าซานรับคำทันที
นั่นไม่ใช่ภาระสำหรับสำนักเทพทะเลของพวกเขาเลย
หลังจากที่สงเหล่าซานวิ่งวุ่นเพื่อจัดเตรียมการเรื่องต่างๆ มากมาย หลี่ฉางโซ่วก็เรียกผู้บัญชาการทหารปีศาจทั้งสองคนมาอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง
แม้ว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จะกล่าวว่า ในบรรดาทหารปีศาจทั้งหนึ่งร้อยแปดนายเหล่านี้ ผู้บัญชาการทั้งสองหาใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่
ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็สัมผัสอย่างละเอียดถี่ถ้วน และรู้สึกได้ว่า บัดนี้ที่เบื้องหน้าเขา มีภูเขาสองลูกที่แผ่พลังสะกดข่มออกมาเล็กน้อย…
สมควรแล้วที่เป็นผู้รอดชีวิตจากกองทัพมนุษย์ที่ทำลายค่ายกลดาววัฏจักรสวรรค์ของเผ่าปีศาจ!
“ผู้อาวุโสทั้งสอง ไม่รู้ว่า ข้าควรเรียกพวกท่านว่าอย่างไรขอรับ?”
“เทียนจื่ออี้” บุรษร่างกำยำตอบกลับเบาๆ
“อวี่จื่ออี้” สตรีผู้มีแผลเป็นกล่าวเบาๆ
หลี่ฉางโซ่วประสานมือคารวะและกล่าวอย่างจริงจังว่า “ผู้อาวุโสเทียนอี้ ผู้อาวุโสอวี่อี้ โปรดนั่งลงที่นี่ก่อนเถิดขอรับ
นี่คือ โลกมนุษย์แห่งดินแดนเทวะทักษิณ ที่นี่มีผู้ฝึกบำเพ็ญไม่มากนัก และวิหารในเมืองก็เป็นวิหารสักการะที่ข้าก่อตั้งขึ้นเอง
ทุกคนสามารถเดินไปรอบๆ เมืองได้อย่างอิสระหรือไปในทุกๆ ที่ได้ตามต้องการ
มนุษย์ในเมืองนั้นกล้าหาญมากเป็นพิเศษ พวกเขาจะไม่กลัวแม้ว่าพวกเขาจะเห็นพวกเซียนหรือพวกเผ่ามังกร
ในยามนี้ มีหลายอาณาจักรในเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ไม่มีเจ้าผู้ปกครองร่วมกัน
บรรดาผู้ฝึกบำเพ็ญได้ไปรวมตัวกันอยู่ในดินแดนเทวะมัชฌิมา และโดยทั่วไปแล้ว ก็มีเสถียรภาพมั่นคง
มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของผู้อาวุโสหากพวกท่านถูกปนเปื้อนด้วยควันดอกไม้ไฟบางส่วนที่นี่”
“ขอบคุณ” เทียนจื่ออี้ตอบกลับพร้อมกับประสานมือคารวะให้
อวี่จื่ออี้กล่าวว่า “หากใต้เท้าจัดการพวกเผ่าปีศาจไม่ได้ โปรดมีบัญชาให้พวกเราไปที่สนามรบด้วยเถิด นี่คือหน้าที่ของพวกเรา”
“ไม่เป็นไรหรอก” หลี่ฉางโซ่วกล่าว
“นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างเผ่าปีศาจ และศาลสวรรค์
หากเผ่าปีศาจเริ่มทำสงครามกับเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยตรง บรรดาสำนักเซียนมากมายนับไม่ถ้วนในดินแดนเทวะมัชฌิมาจะสามารถกำจัดพวกเผ่าปีศาจได้ในทันที
พวกท่านทั้งสองคนไม่ต้องกังวล พวกท่านเพียงแค่มุ่งเน้นไปที่การพักฟื้นในโลกมนุษย์เท่านั้น ร่างจำแลงของข้าอยู่ในวิหารใหญ่นั้น หากมีเรื่องใด พวกท่านก็ส่งพวกเขาให้มาแจ้งข้าได้”
ผู้บัญชาการทหารปีศาจทั้งสองไม่เอ่ยวาจาใดและโค้งคำนับตามควร
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “วันนี้ ข้ามีเรื่องสำคัญบางอย่างต้องจัดการ ข้าจะไม่อยู่ที่นี่ต่อไป ขอพวกท่านทั้งสองโปรดพักผ่อนให้สบายเถิด”
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็กล่าวคำอำลาและจากไป ปล่อยให้เหล่าทูตเทวะเผ่ามนุษย์เวท เป็นผู้รับผิดชอบดูแลการจัดเตรียมการต่างๆ ที่ตามมาหลังจากนี้อย่างเต็มที่
ครั้นเมื่อเขาเบนจิตสนใจออกไป หลี่ฉางโซ่วก็มองเห็นภาพเหตุการณ์หนึ่งที่มุมถนน
มีทหารปีศาจหญิงสองคนกำลังยืนอยู่หน้าแผงขายเครื่องประดับผมเฉพาะสตรีด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าไร้ชีวิตชีวา พวกนางเพียงยืนอยู่อย่างเงียบๆ
แม่ค้าขายของเร่สาวอยากเอ่ยวาจาแต่นางก็ไม่กล้า
สีหน้าท่าทางของนางดูซับซ้อนอย่างไม่อาจอธิบายได้จริงๆ…
ด้วยมีทหารปีศาจหนึ่งร้อยแปดนายในเมืองอันสุ่ย หลี่ฉางโซ่วจึงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นน้อยลง
นั่นถือได้ว่า เป็นผลประโยชน์เล็กน้อยอย่างหนึ่ง
หลังจากนี้ เขายังต้องหาทูตเทวะ และสานุศิษย์ผู้ศรัทธาในวิหารที่พิถีพิถันเพื่อให้มาทำหน้าที่ดูแลเรื่องอาหาร ที่พักและชีวิตประจำวันของมนุษย์โบราณหนึ่งร้อยแปดคนเหล่านี้
อืม?
ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ๆ หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปซ้ำเหตุการณ์ในอดีตในการเปิดบ้านพักคนชราในโลกบรรพกาลด้วยตัวเอง
หลี่ฉางโซ่วเบนจิตกลับมาที่ยอดเขาหยกน้อย และเริ่มวิเคราะห์ทันทีว่า ไป๋เจ๋อข่มขู่คุกคามเขามากเพียงใด
หลิงเอ๋อร์อยู่ข้างๆ เขา…
ในแวบแรกเขาคิดว่า นางกำลังทำสมาธิฝึกบำเพ็ญ
ทว่าเมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ แล้ว เขาก็เห็นว่า นางกำลังงีบหลับอยู่
สตรีน้อยผู้นี้…
ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วเต็มไปด้วยความห่วงใย จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาวางไว้ข้างมือของหลิงเอ๋อร์ มันมีถ้อยคำเขียนไว้ว่าสามร้อยจบ”
หลังจากนั้น เขาก็นั่งเท้าคางของเขาอยู่หน้าเตาหลอมโอสถด้วยความมึนงง
ไป๋เจ๋อเป็นคนฉลาด เมื่อไป๋เจ๋อมอบยันต์หยกให้เขา เขาย่อมต้องเตรียมการทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้วอย่างแน่นอน
ยันต์หยกส่งสารนี้สามารถให้ข้อมูลแก่เขาได้มากเพียงใด?
อีกฝ่ายจะใช้ร่างจริงของเขาเพื่อส่งสารและซ่อนตัวใกล้กับสำนักตู้เซียนหรือไม่?
ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ปฏิเสธความเป็นไปได้นั้นทันที เพราะในท้ายที่สุดแล้ว แผนของไป๋เจ๋อก็ละเอียดถี่ถ้วนและไร้ที่ติ
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
แน่นอนว่า เพื่อความปลอดภัย หลี่ฉางโซ่วจึงได้ระดมพลตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ภายนอกสำนักทันที เพื่อให้ค้นหาทั่วทุกที่อย่างละเอียดหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่พบอะไรเลย
ทั้งไป๋เจ๋อและตัวเขาเอง ย่อมจะคาดเดาการคาดการณ์ของกันและกันได้ และเป็นเหตุให้การคาดการณ์ของพวกเขาสะสมกัน และนำไปสู่วัฏจักรแห่งภาวะติดตายอย่างไร้ที่สิ้นสุด
กุนซือของพวกปีศาจโบราณนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ
ในการต่อสู้กับปรมาจารย์ข้ามผ่านช่องว่างเช่นนี้ เขาต้องมีข้อสงสัยเพียงพอเกี่ยวกับการตัดสินในทันทีของเขา
บางทีความคิดในยามนี้ของเขาอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายได้บอกเป็นนัยเพื่อเป็นแนวทางและนำเขาไปสู่การสรุปเช่นนั้น…
หลี่ฉางโสวหยิบม้วนภาพวาดออกมา ก้มศีรษะและเริ่มเขียนและวาด ราวกับว่าโซ่หลุดออกมาจากยอดเขาเสี่ยวฉง แผ่ขยายไปยังทุกส่วนของโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์
หลี่ฉางโซ่วหยิบม้วนกระดาษออกมาและก้มศีรษะลงเขียนและวาด ราวกับว่าโซ่ต่างๆ ได้หลุดออกมาจากยอดเขาหยกน้อย และแผ่กระจายออกไปทั่วทุกส่วนของโลกบรรพกาล
ดูเหมือนว่าจะมีภาพลวงตามากมายนับไม่ถ้วนในระหว่างสวรรค์และปฐพีนี้ และมีความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่กำลังซ่อนอยู่ในภาพลวงตานั้น
ดังนั้น ในอีกไม่กี่ชั่วยามต่อมา…
………………………………………………………………..