บทที่ 789 การมาถึง (1)
เรือเมฆที่มาจากวังเซิ่งหมู่พร้อมกับดวงดารา จันทรา และภาพร่างของสตรีสาวแสนงามที่อาบย้อมด้วยแสงยามรุ่งอรุณ
มันได้แล่นเข้าสู่โลกของดินแดนเทวะทั้งห้าแห่งโลกบรรพกาล และบินตรงไปยังดินแดนเทวะอุดรเรื่อยๆ อย่างสบายๆ
เหล่าเทพธิดาบนเรือเมฆค่อยๆ กลั้นยิ้มทีละน้อย และเลิกพูดถึงสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ในวังเซิ่งหมู่อีกต่อไป…
“พี่สาว เราจะโน้มน้าวพวกเผ่าปีศาจให้ล่าถอยไปในครั้งนี้จริงๆ หรือ? หากไม่มีโองการขององค์ราชินี และมีแต่คำพูดถึงมันพร้อมด้วยมือที่ว่างเปล่าของเรา แล้วมันจะได้ผลสำเร็จหรือไม่?”
“ต่อให้ทำไม่ได้ผล แต่ก็ต้องโน้มน้าวเขา”
เทพธิดาที่เป็นผู้นำกล่าวอย่างอ่อนโยนเบาๆ ว่า “วันนี้เราไม่อาจพูดได้ว่า เรากำลังปฏิบัติตามบัญชาขององค์ราชินี
เราทำได้เพียงบอกว่าเรากำลังทำงานในวังเซิ่งหมู่เท่านั้น องค์ราชินีไม่ได้ออกโองการออกมาเพราะพระนางไม่ต้องการแทรกแซง ยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์แนวโน้มทั่วไปของเต๋าสวรรค์
บัดนี้ พวกปีศาจส่วนใหญ่ได้ถูกผู้อาวุโสสองสามคนในศาลปีศาจโบราณหลอกใช้ ส่งผลให้มีสิ่งมีชีวิตถูกมีส่วนเกี่ยวข้องและตกสู่ภัยพิบัติมากขึ้น
องค์ราชินี โปรดเตือนพวกเขาด้วย ซึ่งถือได้ว่าได้ใช้ชีวิตตามมิตรภาพที่มีกับศาลปีศาจในสมัยนั้น”
“พี่สาว เหตุใดพวกเขาถึงชอบต่อสู้กันอยู่เสมอ? แทนที่จะไปกันตามทาง ไม่ได้หรือ?”
“ผู้ใดจะรู้?”
ผู้นำของเหล่าเทพธิดามีสีหน้าท่าทางทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย นางมีหูแหลมที่มีขนปุยสีขาว ซึ่งพิสูจน์ตัวตนของนางได้ว่า มีต้นกำเนิดมาจากเผ่าจิ้งจอกโบราณ
“บางที พวกเขาอาจไม่เต็มใจที่จะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวตามลำพัง”
เทพธิดาอีกสามคนที่มาจากเผ่าพันธุ์ปีศาจต่างก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อพวกนางได้ยินเช่นนั้น
จากนั้นพวกนางก็ไม่ได้เอ่ยวาจาใดอีกและยืนบนเรือเมฆเพื่อสังเกตดูตลอดทั่วทุกที่ในโลก แล้วพวกนางก็มุ่งหน้าตรงไปยังชายแดนของดินแดนเทวะอุดร
ที่นั่น คลื่นลมปีศาจชั่วร้ายได้พัดโหมกระหน่ำสร้างความหายนะ และค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมู่เมฆดำ
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่เมฆดำมืดที่ลอยตัวอยู่เหนือทะเล และร่างจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนก็รีบพุ่งไปที่พื้นดินซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นสนน้ำแข็ง
หลังจากการจัดทัพใหม่แบบเรียบง่ายแล้ว พวกเขาก็ขี่เมฆไปอีกครั้ง
เวลาเดียวกันนั้น
ในศาลสวรรค์ ที่ด้านหน้าหอสมบัติหลิงเซียวที่กำลังสาดแสงสีทองส่องประกายอร่าม
หลี่ฉางโซ่วและแม่ทัพตงมู่ได้ยืนอยู่ที่นั่น ที่ด้านหลังพวกเขา มีแม่ทัพสวรรค์และเหล่าขุนนางมากกว่าสิบคนที่โค้งคำนับให้กับหอสมบัติหลิงเซียวด้วยกัน
นั่นเทียบเท่ากับเป็นการรายงานต่อองค์เง็กเซียนว่า ในไม่ช้าศาลสวรรค์กำลังจะส่งกองกำลังไปช่วยเหลือพวกเผ่าเวทแห่งดินแดนเทวะอุดร
“เทพวารี…”
แม่ทัพตงมู่กล่าวอย่างกังวลว่า “เราจะปลุกองค์ราชินีหรือฝ่าบาท แล้วขอคำชี้แนะจากพระองค์ดีหรือไม่?
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เราต้องใช้เหล่าทหารสวรรค์นับแสนคนในครั้งนี้ และพวกเขาจะต้องต่อสู้ประจัญบานกับพวกเผ่าปีศาจ”
ในขณะนั้นหลี่ฉางโซ่วดูลำบากใจและกล่าวเบาๆ ว่า “แม่ทัพตงมู่ ฝ่าบาทเพิ่งประสบกับภัยพิบัติในโลกมนุษย์ หากเราปลุกพระองค์ให้ตื่นขึ้นเพราะเหตุการณ์นี้ เกรงว่ามันจะเป็นการทำลายโอกาสของพระองค์ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือ พวกเผ่าปีศาจละเมิดพันธะสัญญาโบราณ และโจมตีพวกเผ่าเวทแห่งดินแดนเทวะอุดรอย่างโจ่งแจ้ง
ศาลสวรรค์ส่งกองทหารไปช่วยเหลือพวกเขาเพราะพวกเผ่าปีศาจก่อปัญหาอย่างไร้เหตุผล
มันมีเหตุผลที่พวกเขาจะเพิกเฉยต่อคำสั่งของบรรพาจารย์เต๋า และนอกจากนี้ มันยังอยู่ภายในขอบเขตอำนาจของท่านและข้าที่จะทำการตัดสินใจได้
หากมีเหตุการณ์สำคัญใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายคุกคามโลกบรรพกาล แน่นอนว่า เราย่อมไม่อาจตัดสินใจโดยไม่ได้รับอนุญาตได้
ทว่านี่เกี่ยวข้องกับเพียงส่วนเล็กๆ ของโลกบรรพกาลเท่านั้น ดังนั้นเราไม่อาจกลัวและละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ฝ่าบาทและองคราชินีทรงมอบหมายให้เราได้เพราะกลัวที่จะรับผลที่ตามมาต่างๆ
ไม่เช่นนั้น ฝ่าบาทจะทรงมองท่านแม่ทัพตงมู่อย่างไร? ”
แม่ทัพตงมู่ใคร่ครวญอยู่สักพักหนึ่งแล้วพยักหน้าช้าๆ
จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “เทพวารีพูดมีเหตุผล!
ขอเทพวารีโปรดเมตตาดูแล และลดผู้บาดเจ็บล้มตายของศาลสวรรค์ให้น้อยลง เช่นนี้แล้ว เมื่อฝ่าพระบาทเสด็จกลับสู่ศาลสวรรค์ ข้าจะได้ชี้แจงให้ฝ่าบาททรงทราบ”
“ไม่ต้องห่วง แม่ทัพตงมู่” หลี่ฉางโซ่วยิ้มอย่างมั่นใจและให้กำลังใจแม่ทัพตงมู่และบรรดาเทพเซียนคนอื่นๆ มากขึ้น
“หากการจัดการตอบโต้สถานการณ์ในครั้งนี้ไม่เป็นผลดี ข้าจะยอมรับการลงอาญาจากฝ่าบาทกับแม่ทัพตงมู่ด้วย!”
แม่ทัพตงมู่รู้สึกขอบคุณทันที
แม้เขาจะรู้สึกอยู่เสมอว่าคำพูดของเทพวารีมีอะไรบางอย่างแปลกๆ
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเทพวารี!
ข้าจะไปเตรียมกองทัพเพื่อรอการออกศึก โถงตำหนักต่างๆ ทั้งหมดในศาลสวรรค์ได้ก็เตรียมพร้อมไว้แล้วเช่นกัน
วันนี้ เราต้องเอาชนะแผนการร้ายของพวกเผ่าปีศาจและเผยความยิ่งใหญ่แห่งศาลสวรรค์! ”
“ขอบคุณท่านแม่ทัพตงมู่ ลำบากท่านแล้ว”
“เพื่อความรุ่งโรจน์แห่งศาลสวรรค์ เพื่อสามอาณาจักรดำรงอยู่เป็นนิรันดร์
แม่ทัพตงมู่กล่าวส่งเสียงด้วยไอพลังองอาจหาญกล้าพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า
จากนั้นเขาก็ทำการคารวะเต๋าให้หลี่ฉางโซ่ว เสื้อคลุมยาวของเขาพลิ้วกระพือขณะที่เขาหันหลังกลับ และจากไปพร้อมด้วยเหล่าแม่ทัพสวรรค์หลายคนที่ตามหลังเขา
หลี่ฉางโซ่วหันกลับมาและโค้งคำนับให้บรรดาเทพเซียนทั้งหมด เขากล่าวว่า “ท่านเทพแห่งหอ วิหารต่างๆ ขอบคุณทุกท่าน ลำบากพวกท่านแล้ว
“เทพวารีไม่ต้องกังวล!”
“ในเมื่อพวกเราไม่อาจออกไปร่วมกับแม่ทัพตงมู่ และเหล่าจอมทัพอื่นๆ ได้ ดังนั้นพวกเราจึงทำได้เพียงทำหน้าที่ในสิ่งที่พวกเราต้องทำอยู่ด้านหลังให้ดีที่สุดเท่านั้น!”
“พวกเราจะทุ่มเททำอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ที่อยู่เคียงข้างเรา
ขอเทพวารีโปรดช่วยดูแลสถานการณ์โดยรวมอย่างสุดกำลังด้วยเถิด! ”
“แน่นอน!”
ในเวลานี้ เหล่าเทพเซียนทั้งเจ็ดแปดคนนี้ก็โค้งคำนับให้และจากไป แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังหอ วิหารต่างๆ
หลี่ฉางโซ่วหันกลับไปมองที่หอสมบัติหลิงเซียวและหยุดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ขี่เมฆ บินกลับไปยังตำหนักที่พำนักเทพวารี
ความจริงแล้ว มีบางสิ่งที่เขาไม่อาจเผยออกไปให้ชัดเจน
………………………………………………………………..