เหนืออาคารห้องโถงได้เกิดเสียงฟ้าร้องดังสนั่นขึ้น ในจุดที่ดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวชี้ไปนั้น มิติตรงนั้นได้ถูกฉีกขาดและได้มีหลุมดำขนาดใหญ่เปิดขึ้น รอบๆปากหลุมดำได้มีแสงไฟปีศาจกระพริบขึ้น
ภายในห้องโถง เฉินเสี่ยวเทียน เกิงเคนและคนอื่นๆต่างหน้าซีด
หลายปีก่อนเคยมีข่าวลือกันว่าดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวนั้นสามารถพุ่งเสียบทะลุได้ทั้งสวรรค์และปฐพี แต่มันยังคงเป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีใครเคยเห็นเจียงเทียนหัวใช้ดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ต่อหน้าต่อตาพวกเขา มนได้แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาลของกระบวนท่านี่!
ห้องโถงนิกายพ่อมดนภานั้นถูกสร้างขึ้นโดยใช้โลหะที่แข็งแกร่งที่สุดที่พบได้ในโลกแห่งการต่อสู้แห่งนี้ แม้ว่าเฉินเสี่ยวเทียนจะชกกำแพงด้วยกำลังทั้งหมดหลายครั้ง กำแพงหินพวกนี้ก็ยากที่แตกหรือสั่นไหว แต่ตอนนี้ดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมของเจียงเทียนหัวนั้นสามารถพุ่งทะลุหินเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น ต่อหน้าทุกๆคนที่ตื่นตระหนก ก็ได้เกิดหลุมมิติเกิดขึ้นเหนือหัวหวงเสี่ยวหลง ก่อนที่ทุกคนจะได้ทันเคลื่อนไหว ดัชนียักษ์ได้พุ่งออกมาจากหลุมดำนั่น ดัชนียักษ์อันนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายปีศาจพร้อมกับปกคลุมไปด้วยอักขระปีศาจที่ทำให้บรรยากาศหนาวเย็น การโจมตียังไม่มาถึงหวงเสี่ยวหลงแต่แรงกดดันของมันได้ทำลายพื้นหินแกรนิตไปแล้ว
“นายน้อย ระวัง!”เฉินเสี่ยวเทียนก็ตะโกนออกมาในขณะที่ทุกคนต่างใบหน้าซีดเซียว
หวงเสี่ยวหลงมองดูดัชนียักษ์ที่พุ่งลงมาด้วยใบหน้าไม่แยแส โดยไม่พูดพล่ำทำเพลง หวงเสี่ยวหลงก็ได้ชี้นิ้วสูงขึ้นในทางที่การโจมตีกำลังลงมา
จากมุมของเฉินเสี่ยวเทียนและผู้อาวุโสที่อยู่ด้านล่างนั้น ได้มองเห็นกลุ่มหมอกสีดำแพร่กระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้มีเสียงสัตว์ประหลาดสีดำที่ไม่รู้จักดังแสบแก้วหูจากภายในหมอกสีเทาเข้มในขณะเดียวกันปราณรูปดัชนีได้พุ่งออกไป
ดัชนีวิญญาณสัมบูรณ์!
ดัชน์วิญญาณสัมบูรณ์ได้เข้าปะทะกับดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรม
แรงระเบิดได้ทำให้ห้องโถงสั่นไหว นอกจากเฉินเสี่ยวเทียนและเกิงเคน ผู้อาวุโสที่เหลือต่างก็เกือบจะล้มลงไปกับพื้น พวกเขาทั้งหมดสัมผัสได้ถึงเสียงที่สั่นไหวในหูไม่รู้จบในขณะเดียวกันได้มีลมพายุที่เกิดจากากรปะทุเข้ามาเสียดสีผิวพวกเขารวมกับมันจะกรีดผิวหนังของพวกเขา
หลังจากพวกเขายืนอย่างมั่นคง สิ่งที่พวกเขาได้พบอย่างเดียวก็คือพื้นหินแกรนิตนั้นได้กลายเป็นเศษซาก และเศษหินต่างกระจัดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่
ในขณะที่เจียงเทียนหัวและหวงเสี่ยวหลงทั้งสองสั่นไหวจากแรงปะทะที่เกิดขึ้น ทั้งสองก็กระเด็นถอยหลังไปหนึ่งก้าว อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเจียงเทียนหัวนั้นซีดมากแต่ทว่าหวงเสี่ยวหลงนั่งยังเหมือนดั่งเดิม
แม้ว่าดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมจะเป็นการโจมตีที่ทรงพลัง แต่เจียงเทียนหัวก็ไม่สามารถใช้ออกมาได้เต็มที่ด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา นอกจากนี้ เจียงเทียนหัวนั้นยังฝึกไม่เสร็จถึงขั้นสมบูรณ์
เจียงเทียนหัวนั้นตกใจในขณะที่เขาจ้องมองหวงเสี่ยวหลง เขาไม่เคยคิดว่าหวงเสี่ยวหลงจะต้านทานการดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมได้ เจียงเทียนหัวก็จับต้องหวงเสี่ยวหลงไปพร้อมกับทำการสงบการไหลเวียนของปราณที่ยุ่งเหยิงในร่างของเขา และช่วงที่เขาทำแบบนั้น ดวงตาของเจียงเทียนหัวก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดงสด
“แสงแห่งน้ำพุเหลือง!”เจียงเทียนหัวก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด
ดวงตาสีเลือดหลายดวงบนร่างของเจียงเทียนหัวก็ส่องสว่างซึ่งมันได้ก่อตัวดาบแสงสีเหลือหลายเล่มและได้พุ่งใส่หวงเสี่ยวหลง ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาแห่งน้ำพุเหลืองก็ได้ระเบิดสัญลักษณ์แปลกที่ส่องสว่างออกมา เฉินเสี่ยวเทียน เกิงเคน และคนที่เหลือนั้นต่างรู้สึกเวียนหัวเมื่อพวกเขามองเห็นสัญลักษณ์ที่ส่องสว่างพวกนี้ มันทำให้พวกเขาหวาดกลัว
แสงแห่งน้ำพุเหลืองนั้นเป็นความสามารถของจิตวิญญาณต่อสู้ของเจียงเทียนหัว
หวงเสี่ยวหลงก็มองมวลดาบแสงสีแดงหลายเล่มพุ่งมาทางเขา ทำให้ใบหน้าเขาเย็นชาขึ้น จากนั้นก็ได้มีแสงสว่างขึ้นมาในขณะที่ดาบคู่เทพอสูรปรากฏขึ้นต่อมาเขาก็ได้จับมันพร้อมกับเหวี่ยงออกไป
เกิดเป็นดาบแสงอันเหนาวเหน็บนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปแล้วหมุนตัวขึ้นตรงหน้าหวงเสี่ยวหลงจนกลายเป็นพายุ และในใจกลางพายุกระบี่นั้นก็ได้มีดวงตาสีแดงปรากฏขึ้น
เคล็ดวิชาดาบเทพอสูร กระบวนท่าที่ 6 เนตรจุติ
เนตรจุติได้ปลดปล่อยคลื่นดาบแสงออกไปชนปะทะใส่ดาบแสงสีแดงนับไม่ถ้วนที่ถูกสร้างขึ้นโดยแสงแห่งน้ำพุเหลืองของเจียงเทียนหัว
ชิ้งๆ!!!! ดาบแสงนับไม่ถ้วนราวกับห่าฝนที่ตกในชาวงพายุฟนฟ้าคะนองก็ได้พุ่งเข้าปะทะกัน
โดยไม่รอผลลัพธ์ที่จะออกมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้เหวี่ยงดาบเทพอสูรออกไปอีกรอบ
“ความโกรธเกรี้ยวแห่งราชันย์นรก!”
ทำให้เกิดดาบแสงสองสายพุ่งออกไปกลายเป็นลูกบอลพลังงานสองสายที่พุ่งไปด้านหน้าราวกับภูเขาไฟระเบิด และเหมือนกับม้านับหมื่นที่วิ่งตะบึงซึ่งการโจมตีนี้ได้พุ่งผ่านกลางห้องโถงและไปถึงตรงหน้าเจียงเทียนหัวในชั่วพริบตา
ดวงตาของเตียงเทียนหัวก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“กายาปีศาจอมตะ!”เจียงเทียนหัวก็ตะโกนออกมา ในขณะเดียวกันก็ได้มีแสงส่องสว่างออกมาจากร่างเขาพร้อมกับได้มีหมอกสีดำราวกับเกราะเกล็ดปลาปรากฏขึ้นบนผิวหนังของเขาทุกส่วน
แสงปีศาจก็ได้ส่องระยิบระยับไปพร้อมกับได้ปล่อยพลังอันลี้ลับออกมาซึ่งมันได้ปกคลุมรอบตัวเจียงเทียนหัว
ณ ตอนนี้ กระบวนท่าโจมตีความโกรธเกรี้ยวแห่งเทพอสูรของหวงเสี่ยวหลงก็ได้ไปถึงตัวเจียงเทียนหัว
พอความโกรธเกรี้ยวแห่งเทพอสูรเข้าปะทะกับพลังงานลึกลับที่ปกคลุมเจียงเทียนหัวอยู่นั้น มันก็ได้ทำลายกันละกัน กระบวนท่าโจมตีความโกรธเกรี้ยวของเทพอสูรนั้นได้ใช้เวลาหนึ่งลมหายใจในการพุ่งทะลุพลังลึกลับที่เป็นเกราะคุ้มครองรอบตัวเจียงเทียนหัวแล้วพุ่งใส่ตัวของเขา
เปล้ง! ได้มีเสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นในขณะที่เกราะเกล็ดปลาบนร่างเจียงเทียนหัวที่ปล่อยแสงออกมานั้นได้สลัวลง ร่างกายของเขานั้นสั่นไหวไปพร้อมถูกผลักดันไปหลายก้าว เจียงเทียนหัวก็สัมผัสที่หน้าอกของเขาที่การโจมตีของหวงเสี่ยวหลงได้พุ่งใส่แล้วขมวดคิ้ว บนหน้าอกของเขานั้นมีรอยฟันเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
หวงเสี่ยวหลงก็ประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ หลังจากรับการโจมตีจากกระบวนท่าความโกรธเกรี้ยวของเทพอสูรของเขา เกราะเกล็ดปลาของเจียงเทียนหัวนั้นสามารถต้านทานไว้ได้จริงๆด้วย การป้องของกายาปีศาจอมตะของเจียงเทียนหัวผู้นี้ช่างทรงพลังเสียจริง!
นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีปีศาจแห่งความทุกข์ตรมหรือกายาปีศาจอมตะนั้นก็ยังฝึกสำเร็จไม่ถึงขั้นสมบูรณ์ ถ้าพวกมันถึงขั้นสมบูรณ์หล่ะก็ ไม่ใช่ว่าเจียงเทียนหัวผู้นี้จะทรงพลังกว่านี้หรอกหรือ?
แม้ว่าจะประหลาดใจ ผลลัพธ์นี้ก็ทำให้หวงเสี่ยวหลงเข้าใจถึงกายาปีศาจอมตะของเจียงเทียนหัว ใช่แล้ว มันทรงพลังมาก แต่โชคร้ายที่เจียงเทียนหัวยังฝึกไม่สำเร็จขั้นสมบูรณ์ ถ้าหากหวงเสี่ยวหลงต้องการทำลายการป้องกันของเกราะเกล็ดปลาหล่ะก็ มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ครู่ต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้ใช้ความสามารถของมังกรทมิฬเงาปีศาจ ในชั่วพริบตา เขาก็ได้โผล่ตรงหน้าเจียงเทียนหัว แล้วซัดฝ่ามืออกไป
ต่อหน้าสีหน้าที่ตกตะลึงของเจียงเทียนหัว ก็ได้มีวงแหวนสีทองโผล่ออกจากฝ่ามือหวงเสี่ยวหลง
ฝ่ามือผลึกพระเจ้า!
ในขณะที่เจียงเทียนหัวต้องการจะโจมตีสวน เขาก็ตกใจแล้วพบว่าแขนเขานั้นไม่สามารถขยับได้ และไม่ใช่เพียงแค่แขนเท่านั้น ทั้งร่างกายทุกส่วนก็ไม่สามารถขยับได้
“นี่มัน?!”เจียงเทียนหัวก็หวาดกลัว สับสน ที่จะต้องแพ้ในขณะที่เขามองฝ่ามือทีที่สองของหวงเสี่ยวหลงที่กำลังจะมาโดนเขาด้วยดวงตาตกใจ อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ปราณฉีสีม่วงดำก็ได้ไหลทะลักออกมาจากร่างเจียงเทียนหัว
“ปราณปีศาจอมตะ!”จากระยะไกล เฉินเสี่ยวเทียนก็ตะโกนออกมาเสียงดัง ผู้ฝึกเคล็ดวิชากายาปีศาจอมตะนั้นจะมีปราณปีศาจอมตะอยู่ภายในร่างของเขา และปราณปีศาจอมตะที่ว่านี้ก็ลึกลับและคาดเดาไม่ได้
ปราณปีศาจอมตะได้ไหลออกมและมันได้ทำการสั่นสะเทือนการผนึกของฝ่ามือผลึกพระเจ้า ซึ่งทำให้เจียงเทียนหัวยกฝ่ามือขึ้นอย่างรวดเร็วและซัดออกไป
ฝ่ามือทั้งสองได้เข้าปะทะกัน
เจียงเทียนได้ถูผลักออกไปด้วยแรงระเบิดจาการปะทำการให้สะดุดถอยหลังไปอย่างอ่อนแรงและใบหน้าของเขานั้นกลายเป็นซีดเซียว ปราณปีศาจอมตะที่อยู่ในร่างของเขานั้นได้ปลดปล่อยเขาออกจากผนึกที่มองไม่เห็นแต่ในขณะนั้นเขากลับไม่สามารถใช้งานปราณฉีของเขาได้เลย และนั่นคือเหตุผลที่เขาไม่สามารถจะรับฝ่ามือของหวงเสี่ยวได้เมื่อครู่ และตอนนี้การไหลเวียนของเลือดและปรษรในร่างของเขานั้นปั่นป่วนทำให้อวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหาย
หวงเสี่ยวหลงก็ตัวสั่นไหวหลังจากการปะทะแต่ในไม่กี่วินาทีต่อมาร่างของเขาก็ได้หายไป
หายไป? เจียงเทียนหัวก็ตกตะลึง ทันทีเขาก็พยายามสัมผัสรอบข้างด้วยสัมผัสวิญญาณ แต่ภายในห้องโถงนี้นั้น กร่อนอายของหวงเสี่ยวหลงกลับหายไป และจากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาพร้อมกับฟาดดาบเทพอสูรใส่
ปราณดาบนับไม่ถ้วนได้รวมตัวกันกลายเป็นดอกไม้อันแปลกประหลาดซึ่งมันได้เบ่งบานขึ้นไปพร้อมกับหมุนควงในอากาศ
ดอกไม้นอกชายฝั่ง!
ดอกไม้ที่เบ่งบานก็ได้หายวับไปในอากาศและปรากฏขึ้นมาอีกครั้งซึ่งมันได้ประทับลงบนหน้าอกของเจียงเทียนหัวและส่งเขาลอยออกไปกระแทกพื้นห้อง เจียงเทียนหัวก็กระอักเลือดออกมา ในขณะที่ปราณปีศาจอมตะรอบตัวของเขานั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
หวงเสี่ยวหลงก็ได้ลอยลงมาบนพื้นและเดินมาหาเจียงเทียนหัวอย่างช้าๆ
“เจ้าต้องการสู้ต่อหรือไม่?”หวงเสี่ยวหลงก็ถามขึ้น
ใบหน้าของเจียงเทียนหัวนั้นซีดเซียวและโศกเศร้า
หวงเสี่ยวหลงนั้นได้ยืนอย่างอดทนรอคอยคำตอบของเจียงเทียนหัว