ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 182 สหายตัวน้อยของนางจะต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด!

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 182 สหายตัวน้อยของนางจะต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด!

บทที่ 182 สหายตัวน้อยของนางจะต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด!

หลิงเยว่อยากรู้ยิ่งนักว่าเมล็ดพันธุ์ครึ่งซีกที่ฮวนฮวนพูดถึงคือสิ่งใด ทว่าเด็กน้อยกลับอธิบายไม่ได้

นางเป็นมนุษย์ผู้มีชีวิต ย่อมไม่ใช่เมล็ดพันธุ์ครึ่งซีกอย่างแน่นอน หลิงเยว่จึงนึกถึงระบบขึ้นมา

“ระบบ เจ้าคือเมล็ดพันธุ์ครึ่งซีกอย่างนั้นหรือ?”

[ถูกต้องแล้ว]

ยอมรับแล้วหรือ… ระบบยอมรับแล้ว!

หลิงเยว่ตกใจจนตัวสั่น

“ท่านอาจารย์ ขณะนี้เมล็ดพันธุ์นั้นสุกใสเหลือเกิน เหลืองอร่ามทีเดียว!” ฮวนฮวนจับแขนเสื้อของหลิงเยว่ แล้วมองไปที่หว่างคิ้วของนางด้วยความดีใจ

“ฮวนฮวนเจ้าสัญญากับอาจารย์ได้หรือไม่?”

“อาจารย์หลิงโปรดวางใจ ฮวนฮวนสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องเมล็ดพันธุ์แก่ผู้ใด แม้จะต้องตายก็ตาม!” ฮวนฮวนผู้ฉลาดปราดเปรื่องตั้งคำสาบานจริงจัง พลันมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นสองครั้งข้างหูของพวกนาง

หัวหน้าตะขาบมรกตไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องแต่อย่างใด รวมถึงเสียงของเด็กสาวสองคนที่กระซิบกระซาบอยู่เช่นกัน… พวกนางพูดความลับที่น่าอายกันอยู่หรืออย่างไร?

หึ!

เขาไม่สนใจจะฟังอยู่แล้ว!

หัวหน้าตะขาบมรกตหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยความเบื่อหน่าย

ทันใดนั้น บนแท่นประมูลอันว่างเปล่า หญิงงามผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้น ซึ่งหมายความว่างานประมูลที่ผู้คนเฝ้ารอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!

สมบัติอันล่ำค่าย่อมปรากฏเป็นสิ่งสุดท้าย แน่นอนว่าของที่นำออกมาประมูลก่อนหน้า ทำให้หลิงเยว่ได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย เพียงแต่สิ่งของเหล่านั้นยังไม่ถูกใจนางนัก

หลิงเยว่ยังมีค่าพลังวิญญาณอีกมาก ด้วยเหตุนี้ ของวิเศษเช่น อาวุธวิเศษ นางก็สามารถหาซื้อได้จากระบบแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว!

“ต่อไปเราจะประมูลของสำคัญชิ้นที่สองของงานนี้ หินหงส์ไฟที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นวัสดุชั้นยอดสำหรับการหลอมศาสตราวุธ”

เพียงแค่หลิงเยว่หยิบหินหงส์ไฟขนาดเท่าหัวแม่มือออกมาอากาศในหอประมูลพลันสูงขึ้น

“ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งล้านหินวิญญาณระดับกลาง!”

หนึ่งล้านหินวิญญาณระดับกลาง เทียบเท่ากับสิบล้านหินวิญญาณระดับต่ำ นับว่าเป็นการทุ่มทุนอย่างมาก!

“ข้าต้องการมัน!” ทันใดนั้น อีกาสุริยันตัวน้อยที่หลับใหลอยู่ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาสีทองเข้มของนางมองผ่านตันเถียนของหลิงเยว่ไปยังหินหงส์ไฟ

“สองล้าน!”

“สามล้าน!”

“ห้าล้าน!”

การปรากฏตัวของหินหงส์ไฟที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้การประมูลดำเนินไปอย่างดุเดือด ภายในเวลาไม่กี่พริบตา ราคาประมูลก็พุ่งสูงถึงสิบล้านหินวิญญาณระดับกลาง และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลิงเยว่เหลือบมองหินวิญญาณระดับต่ำจำนวนสามพันของตนเอง แล้วได้แต่ถอนหายใจ

“เจ้าต้องการมันอย่างนั้นหรือ?”

ในดวงตาของอีกาสุริยันตัวน้อย เปลวเพลิงที่ยากจะซ่อนเร้นได้ลุกโชนขึ้น “หากสามารถหลอมรวมกับมันได้ ข้าจะพัฒนาเปลวเพลิงแห่งสวรรค์ให้สูงขึ้นได้อีกระดับ”

“เช่นนั้นหรือ?”

หลิงเยว่เปิดระบบร้านค้า แล้วป้อนคำค้นหาจนพบหินหงส์ไฟที่สมบูรณ์ที่มีขนาดเท่ากำปั้นของนาง และราคา… ห้าหมื่นล้าน!

ราคาแพงกว่าหินขัดเกลาจิตวิญญาณเสียอีก

ทว่าเมื่อฟังราคาประมูลข้างนอกที่สูงถึงสิบแปดล้านหินวิญญาณ สำหรับหินหงส์ไฟที่ไม่สมบูรณ์ขนาดเล็ก หากเทียบกันแล้ว ระบบก็ไม่ได้ขายแพงนัก

“สิบเก้าล้านหินวิญญาณระดับกลางครั้งหนึ่ง!” ผู้ประมูลเคาะค้อนลง

“ยี่สิบล้านหินวิญญาณระดับกลาง!” ผู้ออกราคาผู้นี้ไม่ใช่หลิงเยว่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนางจดจำน้ำเสียงนี้ได้ว่าเป็นของ… ซีชาง

“รีบตัดสินใจ มิฉะนั้นข้าจะออกไปแย่งเอง” อีกาสุริยันตัวน้อยเร่งเร้าและข่มขู่หลิงเยว่

“ข้าไม่มีหินวิญญาณ …” แม้ว่านางจะสามารถนำหินวิญญาณระดับล่างเป็นร้อยล้านก้อนออกมาได้ แต่ทว่าการนำค่าพลังวิญญาณไปแลกเปลี่ยนนั้นไม่คุ้มค่านัก

แต่สหายตัวน้อยของนางจะต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด!

เดิมที คิดว่ามีค่าพลังวิญญาณหลายหมื่นล้านแล้วจะร่ำรวยมหาศาล หลิงเยว่อยากถอนหายใจนัก เหตุใดค่าพลังวิญญาณมากมายเช่นนี้ยังไม่เพียงพออีก

เจ้าอีกาตัวน้อยไม่เชื่อ และกำลังจะกลายร่างเป็นแสงสีแดงพุ่งออกไปปล้น หลิงเยว่จึงได้ท่องคาถาบังคับให้เจ้าอีกานอนหลับทันที

หลิงเยว่ไม่ได้อยากทำเช่นนั้น แต่เมื่อถึงเวลา หลิงเยว่จะนำหินหงส์ไฟที่สมบูรณ์ให้เจ้าอีกาสุริยันตัวน้อยอย่างแน่นอน นางคงจะไม่โกธรแค้นใช่หรือไม่?

“ยี่สิบล้านหินวิญญาณระดับกลางครั้งที่สาม!”

“ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติห้องหมายเลขสี่สี่สี่สี่”

พูดกันตามตรง หินหงส์ไฟที่ไม่สมบูรณ์เป็นเพียงวัสดุในการหลอมอาวุธเท่านั้น ผู้ที่ไม่มีธาตุไฟไม่สามารถใช้ได้ และขนาดที่ค่อนข้างเล็ก การหลอมรวมเข้าไปในศาสตราวุธให้ผลลัพธ์ไม่ดีนัก ราคาจึงไม่สูงมาก และคนส่วนใหญ่ล้วนมาเพื่อชารู้แจ้งที่สามารถแปลงกายได้

“ต่อไปจะเป็นของล้ำค่าชิ้นสุดท้าย ชารู้แจ้งที่สามารถแปลงกายได้!”

ทันใดนั้น ชายเก้าคนก็ถือถาดเดินขึ้นไปบนแท่นประมูล บนถาดแต่ละใบมีขวดไม้สีทองขนาดเท่าหัวแม่มือตั้งอยู่ เมื่อขวดทั้งเก้าปรากฏขึ้นสู่สายตา เสียงหายใจของผู้คนในงานเริ่มแรงขึ้น สายตาของพวกเขาจ้องเขม็ง เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอยากได้มาครอบครอง!

“ช้าก่อน หากไม่ทดลองชิมดูก่อน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าในขวดมีชารู้แจ้งที่สามารถแปลงกายได้จริง? เพราะของชิ้นนี้ไม่เคยปรากฏในโลกผู้บำเพ็ญเซียนมาก่อน!”

เมื่อหนึ่งคนตะโกนจากด้านล่าง จากนั้นคนอื่นอีกไม่น้อยพลันเห็นด้วยทันที

“ถูกต้อง!”

“ให้เราชิมสักหยดเถิด!”

“ของชิ้นนี้มีค่าเกินไป หากเชื่อก็ประมูล แต่ถ้าไม่เชื่อก็เฝ้าดูอยู่เฉย ๆ แล้วกัน” สาวงามผู้นั้นตอบอย่างตรงไปตรงมา

หอประมูลตระกูลเซี่ยของพวกเขาไม่ได้จะปิดกิจการหลังจากงานประมูลครั้งนี้เสร็จสิ้นแล้วเสียหน่อย เหตุใดจะกล้านำของปลอมมาประมูลเล่า?

“ห้าล้าน!”

“สิบล้าน!”

ผู้ประเมินสมบัติคนที่สองและสาม ปลอมตัวอยู่ในฝูงชนแล้วเริ่มประมูลแข่งกัน ยิ่งไม่มีผู้ใดเชื่อถือ พวกเขาก็ยิ่งใช้หินวิญญาณซื้อชารู้แจ้งที่แปลงกายได้ในราคาถูกลงเท่านั้น

“สิบห้าล้าน!”

ผู้ประเมินคนที่หนึ่งกำลังเสนอราคาแข่งขันเพื่อประมูลชารู้แจ้งเช่นกัน ต่อให้ดื่มอีกหลายครั้งก็คุ้มค่า!

การประมูลดำเนินไปอย่างดุเดือด ผู้เข้าร่วมประมูลต่างตะโกนเพิ่มราคาทีละห้าล้านทำให้ผู้ชมที่มาร่วมงานต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง หลิงเยว่เองก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ นางคิดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่หินวิญญาณระดับล่าง ทว่ากลับกลายเป็นเริ่มต้นราคาที่หนึ่งล้านหินวิญญาณระดับกลาง

หากชาเพียงหนึ่งขวดที่มีหลายร้อยหยดเช่นนั้นทำเงินได้มหาศาล เช่นนั้นนางก็จะรวบรวมเงินมาซื้อหินหงส์ไฟได้เร็วขึ้นไม่ใช่หรือ?

หัวใจของหลิงเยว่เริ่มเต้นแรงขึ้น หากสามารถทำเงินได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ เหตุใดยังต้องมาขายสุราและอาหารวิญญาณพิเศษอีกเล่า!

แต่หากของชิ้นนี้ปรากฏออกมาเป็นจำนวนมาก คงไม่มีมูลค่ามากมายเช่นนี้แล้วกระมัง?

น่าเสียดายนัก หากได้ขายสักสิบหยดก็ยังดี!

บัดนี้ราคาได้พุ่งสูงถึงสามสิบล้านแล้ว หลายคนที่ร่วมประมูลต่างเสนอราคาเท่าที่ไหว แต่สุดท้ายชารู้แจ้งที่สามารถแปลงกายได้ หยดแรกก็ถูกประมูลไปในราคาสามสิบห้าล้านหินวิญญาณ

ผู้ประเมินสมบัติคนที่สามแทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่ได้มาครอบครอง แต่ยังสามารถระงับไว้ได้ ยังมีอีกแปดหยด เขาจะต้องประมูลได้สักหนึ่งหรือสองหยดเป็นแน่!

“อาจารย์หลิง ท่านไม่ประมูลสิ่งใดเลยหรือเจ้าคะ?” ฮวนฮวนที่อิ่มหนำสำราญดีแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย พร้อมกับแกว่งขาไปมา

“อาจารย์หลิงของเจ้าจนยิ่งนัก” ก่อนที่หลิงเยว่จะตอบฮวนฮวนน้อย หัวหน้าตะขาบมรกตก็พูดขึ้นเสียก่อน

หลิงเยว่ “…”

“อืม… อย่างนั้นหรือ?” ฮวนฮวนทำท่าพึมพำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดปุ่มประมูล “ฮวนฮวนมีหินวิญญาณ ขอมอบให้ท่านอาจารย์หลิงหนึ่งขวด!”

“ห้องหมายเลขหกหก ประมูลสี่สิบล้านยังมีราคาที่สูงกว่านี้หรือไม่?!”

เสียงของพนักงานที่ทำการประมูลอยู่ตื่นเต้นขึ้น

ห้องหมายเลขหกหก ไม่ใช่ห้องที่นางอยู่ตอนนี้หรือ!

หลิงเยว่ “…”

ของตนเองแท้ ๆ แต่ต้องซื้อในราคาสี่สิบล้าน! หลิงเยว่อยากร้องไห้เสียจริง!

หัวหน้าตะขาบมรกตกลั้นเสียงหัวเราะไม่อยู่

“สี่สิบล้านครั้งที่สอง!”

หลิงเยว่ทรุดลงบนเก้าอี้ด้วยความอ่อนแรง นัยน์ตาว่างเปล่า

“สี่สิบล้านครั้งที่สาม!”

“การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์!”

“ท่านอาจารย์หลิง ฮวนฮวนประมูลได้แล้ว!” ฮวนฮวนน้อยดีใจตัวสั่น จนแขนเสื้อของหลิงเยว่สั่นไหวไปด้วย

“ขอบใจเจ้ามากนะฮวนฮวน” หลิงเยว่ฝืนยิ้ม นางไม่อาจยอมให้ฮวนฮวนน้อยจ่ายหินวิญญาณจำนวนมหาศาลเช่นนั้นได้ ถึงแม้จะไม่ขาดทุน แต่ก็สูญเสียเงินไปถึงสี่สิบล้าน และยังต้องจ่ายให้กับหอประมูลอีกสองส่วน

ชะตาชีวิตช่าง… ขมขื่นเสียจริง

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท