Invicinble – โลกอมตะ ตอนที่ 311 พระราชวังราชาผี
ภายในเมืองผี เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดอันหนาแน่น ทุกๆซอกทุกมุมเมืองเต็มไปด้วยร่องลอยการฆ่าฟันกันเต็มไปหมด…..
ด้านนอกของเมืองผีนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายและกลิ่นอายภูติผีแต่ทว่าภายในเมืองนั้นกลับไม่พบกลิ่นอายทั้งสองแม้แต่น้อย แต่หวงเสี่ยวหลงรู้ว่าการไม่มีกลิ่นอายพวกนี้ไม่ได้หมายความว่าภายในนี้จะไม่มีวิญญาณชั่วร้ายและปีศาจ ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกผนึกไว้ซะมากกว่า
เมื่อผนึกเหล่านี้ถูกทำลาย กลิ่นอายชั่วร้ายพวกนั้นก็คงจะพุ่งทะลักออกมาแน่
ในขณะที่เขาเดินไปตามถนน หวงเสี่ยวหลงก็ได้ไหลเวียนปราณฉีไปด้วย เขานั้นเตรียมพร้อมและระมัดระวังทุกๆการเคลื่อนไหว ไม่ว่าหลังจากที่เขาดูดซับไข่มังกรปฐพีแล้วทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 10 ชั้นปลาย-สูงและแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงใด แต่สถานที่แห่งนี้ก็คือเมืองผีซึ่งเป็นสถานที่ที่แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะสามารถตกตายลงได้ตลอดเวลา
หวงเสี่ยวหลงก็ไหลเวียนปราณฉีพร้อมกับเดินอย่างระมัดระวังในสภาพนั้นอยู่เกือบชั่วโมง แต่ถนนหลายเส้นกลับยังคงว่างเปล่าไร้ผู้คน นอกจากกลิ่นอายแห่งความตายที่เป็นสิ่งเดียวที่ติดตามหวงเสี่ยวหลงที่ได้ส่งเสียร้องโหยหวนออกมา
เศษแขนขา ศพไร้หัว ศพสภาพไม่สมบูรณ์หลายร่างที่กองอยู่บนพื้นนั้นราวกับเป็นผลลัพธ์จากการต่อสู่ระหว่างศิษย์หลายนิกายที่ได้เข้ามาในเมืองผีเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งศพพวกนี้ยังคงไม่เน่าเปี่อย
หวงเสี่ยวหลงได้กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปพร้อมกับเดินหน้าไปอย่างระมัดระวัง และในเวลานี้เองเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเบาๆมาจากด้านหน้าซึ่งมันเบาบางมาก แต่หวงเสี่ยวหลงก็ยังได้ยิน
มันเป็นเสียงมนุษย์!
หวงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจภายในเสี้ยววิแล้วพุ่งไปที่แห่ลงกำเนิดเสียง เขามองไม่เห็นใครเลยสักคนตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามาในเมืองผีแห่งนี้ นี่เป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการสอบถามคนที่เข้ามาในเมืองผีก่อนที่เขาจะเข้ามา
ทันที พอติดตามแหล่งที่มาของเสียง หวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินทางไปถึงซากลานรกร้างภายในตรงกลางลาน เขาได้มองเห็นผู้หญิงที่ถือได้ว่าสวยนั้นกำลังขอร้องชายที่ดูกำยำที่กำลังถือดาบอันคมกริบอย่างหวาดกลัว
“ข้าขอร้อง ปล่อยข้าไปเถอะ ตราบใดที่เจ้าปล่อยข้าไป ข้าสัญญาว่าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเจ้าต้องการ” ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องของออกมาอย่างไม่รู้จบ
“เจ้าจะทำทุกอย่างที่พวกเราต้องการหากพวกข้าปล่อยเจ้าไปงั้นหรือ?” ชายชุดเขียวก็หัวเราะออกมาอย่างตื่นกาม “การปล่อยเจ้าไปนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไม่ได้ น้องชายของข้าไม่ได้สนุกสนามมานานแล้วด้วย หากเจ้าช่วยทำให้น้องชายของข้ามีความสุข ข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปก็ได้” จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เป้ากางเกงของเขาที่นูนขึ้นมา
สหายของเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ผู้หญิงคนนี่นก็ส่ายหัวอย่างรุนแรงและพยายามจะกลั้นน้ำตา
ชายชุดเขียวก็เดินปาผู้หญิงคนนั้นแล้วใช้มืออันหยาบกร้านจับไปที่เสื้อตรงหน้าอกของเธอแล้วฉีก ทำให้ปทุมถันอันขาวสวยดั่งหยกปรากฏออกมาให้เห็น ด้วยปทุมถันที่สั่นไหวไปแรงฉีกกระชาก ทำให้ฉากที่เกิดขึ้นนี้กลายเป็นฉากที่กระตุ้นความใคร่และความปรารถนาขึ้นมาทันที
พอมองเห็นฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้า ชายเสื้อเขียวก็กลืนน้ำลายด้วยความอยากทันที จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปและเตรียมจะจับขาอ่อนของหญิงสาว แต่กลับมีแสงอันคมกริบปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา แขนทั้งสองข้างของเขาก็หยุดนิ่งกลางอากาศทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างไปด้วยความตกใจถึงขีดสุดในขณะที่เขานั้นล้มลงกับพื้นในวินาทีต่อมา
หวงเสี่ยวหลงก็ปรากฏขึ้นในลานรกร้างต่อหน้าพวกเขาทั้งสามคน ชายอีกคนหนึ่งก็อ้าปากค้างเมื่อมองสหายของเขากลายเป็นศพ เขาก็จ้องมองหวงเสี่ยวหลงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ผู้หญิงคนนั้นก็ฟื้นฟูกลับมาจากอาการตกใจและรีบจัดแจงเสื้อผ้าของเธอก่อนจะเดินเข้าไปหาหวงเสี่ยวหลงด้วยสีหน้าอับอาย “ขอบคุณนายน้อยมากๆที่ช่วยเหลือ”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เธอพูดเสร็จ ก็ได้มีกระบี่อันคมกริบปรากฏขึ้นในของเธอแล้วเธอก็ใช้ าบแทงใส่หลังของหวงเสี่ยวหลง ถ้าหากกระดูกสันหลังของหวงเสี่ยวหลงได้รับบาดเจ็บหล่ะก็ คนที่ทรงพลังอย่างหวงเสี่ยวหลกงยังได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงกระทั่งเป็นอัมพาตไปด้วย
สีหน้าอันอ่อนแอและดูน่าสงสารบนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ได้ถูกแทนที่ด้วยสีหน้ากระหายเลือดและดุร้าย จากนั้นเธอก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงทารุณ “สารเลวตัวน้อย เจ้าคงโทษได้เพียงตัวเองเท่านั้นที่ทำตัวสอดรู้สอดเห็น แต่อย่ากังวลไปข้าจะเหลือศพของเจ้าไว้ในสภาพสมบูรณ์”
ดาบอันคมกริบก็ได้พิ่มเข้าสู่กรูกสันหลังของหวงเสี่ยวหลง
ในเวลานั้นเอง ชายอีกคนก็ได้หัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นในขณะที่เขาใช้กระบี่ทิ่มใส่หน้าอกหวงเสี่ยวหลง “ไอ้สารเลว เจ้าไม่คิดหรอกว่าพวกเราจะเป็นกลุ่มเดียวกัน! ศิษย์นิกายอื่นๆทั้งหมด 17 คนได้ตกตายภายใต้เงื้อมมือเรา และเจ้าก็จะเป็นคนที่ 18!”
พวกมันทั้งสามตัวเป็นคนกลุ่มเดียวกัน!
พวกมันทั้งสามตัวสมคบคิดแสดงเหตุการณ์พวกนี้เพื่อล่อลวงศิษย์นิกายอื่นๆอย่างหวงเสี่ยวหลงให้เข้ามาหาและฆ่าทิ้งเมื่อคนๆนั้นไม่ระวังและขโมยสิ่งของของผู้ตาย
หวงเสี่ยวหลงก็เหลือบมองใบหน้าทั้งสอง และแสดงสีหน้าดูถูกออกมา “งั้นหรอ?”
ทั้งสองคนก็สังเกตเห็นว่าหวงเสี่ยวหลงยังคงสงบนิ่งแทนที่จะร้องไห้อย่างเจ็บปวด ทำให้พวก ขารู้สึกตื่นตัว พวกเขาแต่ละคนใช้สายตาหันไปมองแผลที่กระดูกสันหลังและที่หน้าอกและตระหนักได้ว่ากระบี่อันคมกริบของเขานั้นได้หยุดลงบนผิวหนังของชายหนุ่ม กระทั่งลอยตัดบนผิวหนังของชายหนุ่มก็ยังไม่มี
“นี่มัน!” ชายหญิงทั้งสองก็ตกใจขึ้น
เป็นไปได้อย่างไร? สิ่งที่พวกเขาคิดนั้นก็คือ- เป็นไปไม่ได้!
หวงเสี่ยวหลงก็ยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ยและมองสีหน้าที่ประหลาดใจของทั้งสอง เขานั้นได้ฝึกเคล็ดวิชากายาหลิงหลงทองคำจากเจดีย์หลิงหลง และในการบ่มเพาะของเขาตลอดหลายปี เขาได้เสียโอสถและสมุนไพรวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วนเขาได้ดูดซับไป แม้กระทั่งก่อนที่เขาจะดูดซับแก่นแท้มังกรของไข่มังกรปฐพี พลังป้องกันของร่างกายของเขานั้นก็แข็งแกร่งมากซึ่งมันเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะขั้นต้น คมดาบและกระบี่ธรรมดานั้นไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้หรือแม้กระทั่งสร้างลอยขีดข่วนบนผิวหนังเขาด้วย
จากนั้นก็ได้มีปราณฉีทะลักออกมาจากร่างของหวงเสี่ยวหลงแล้วพุ่งกระแทกใส่ชายหญิงทั้งสองให้ลอยออกไป อาวุธอันคมกริบทั้งสองของพวกเขานั้นก็ถูกซัดลอยออกไปและแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ใช้มือดูดเอาชายคนๆนั้นกลับมาแล้วบีบคอไว้แล้วหวงเสี่ยวหลงก็ได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คนที่ 18 งั้นหรือ?” สีหน้าของชายคนนั้นก็กลายเป็นหมองคล้ำและพยายามจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่หวงเสี่ยวหลงกลับเพิ่มแรงบีบ ทำให้คอของชายคนนั้นถูกบดขยี้ทันทีและหวงเสี่ยวหลงก็ได้ขว้างออกไปด้านข้างโดยไม่หันไปมอง จากนั้นเขาก็หันมามองหน้าผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นก็แข็งที่อเพราะความหวาดกลัวและรีบขอร้องอ้อนวอน “นายน้อย ได้โปรดเมตตา ได้โปรดเมตตาเถอะ! เป็นเพราะพวกมัน พวกมันบังคับข้า พวกมันบังคับข้าทำเรื่องนี้!” จากนั้นเธอก็ชี้ไปร่างของชายทั้งสองคน
“พูดมาซะ ว่าศิษย์นิกายอื่นๆที่เขามาในเมืองผีนี้ไปที่ไหนกันแล้ว?” หวงเสี่ยวหลงก็ถามออกมา
“พวกเขา พวกเขามุ่งหน้าไปที่พระราชวังราชาผี” ผู้หญิงคนนั้นก็รีบตอบออกมาอย่างรวดเร็ว
“ พระราชวังราชาผึ้งั้นหรือ?” หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้ว
“ใช่ ใช่ทุกคนไปที่พระราชวังราชาผีกัน พระราชวังนั้นอยู่ทางทิศเหนือของเมือง และพระราชวังราชาผีนี้ก็เคยเป็นที่อยู่อาศัยในสมัยอดีต ข้าได้ยินมาว่าภายในนั้นมีสมบัติล้ำค่ามากมายไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะ เคล็ดวิชาต่อสู้ แม้กระทั่งโอสถราชาผีที่ราชาผีเป็นคนปรุงขึ้นเอง”ผู้หญิงคนนั้นก็รีบพูดสิ่งดีๆให้หวงเสี่ยวหลงฟัง
จากนั้นหวงเสี่ยวก็ถามผู้หญิงคนนี้ว่ารู้อะไรเกี่ยวกับพระราชวังผีบ้างไหมและเธอก็ได้ตอบออก มาทุกอย่างอย่างซื่อสัตย์
“นายน้อย ท่าน…?” หลังจากที่ตอบคำถามสุดท้ายของหวงเสี่ยวหลงเสร็จ ผู้หญิงคนนี้ก็ ถามออกมาด้วยความระมัดระวังพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน
หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่แยแส เขาได้ยกแขนขึ้นมาแล้วชี้นิ้วนิ่มใส่หน้าผากของเธอโดยใช้วิชาดัชนีวิญญาณสัมบูรณ์ “ข้าจะปล่อยศพของเจ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้วกัน”
ผู้หญิงคนนั้นก็ล้มลงด้วยสายตาเบิกกว้างอย่างตกใจและล้มลงแน่นิ่งกับพื้นพร้อมกับปทุมถันสีขาวราวกับน้ำนมของเธอที่ชี้ขึ้นท้องฟ้า
“พระราชวังผี” หวงเสี่ยวหลงก็พึมพำกับตัวเองแล้วบินตรงไปทางพระราชวังราชาผี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงไม่พบใครในระหว่างทางเลย ที่แท้ทุกคนก็มุ่งหน้าไปพระราชวังราชาผีนี่เอง
ถ้าเป็นอย่างนั้น งั้นจ้าวเฉินและเหยาเฟยก็คงจุต้องอยู่ที่พระราชวังราชาผีด้วยอย่างแน่นอน!
หวงเสี่ยวหลงก็มุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่มาพบเห็นนั้นเห็นเพียงแค่ภาพติดตา ครึ่งวันต่อมา เขาก็ได้เดินทางมาถึงที่หมาย
พอหยุดยืนอยู่กลางอากาศ หวงเสี่ยวหลงก็มองตรงด้านหน้า ตรงหน้าของเขานั้นคือพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นด้วยรูปทรงที่ซับซ้อน พื้นที่ของมันนั้นใหญ่มากจนยากที่จะคาดคะเนได้ และด้านบนของพระราชวังนั้น มีกลิ่นอายภูติผีและกลิ่นอายปีศาจที่หนาแน่นพอจะรวมตัวกันกลายเป็นเมฆภูติผีและเมฆปีศาจ
นี่คือพระราชวังราชาภูติผี! มันคือสถานที่ที่ราชาภูติผีใช้บ่มเพาะในอดีต