ตอนที่ 1448 นายอำเภออยู่ที่ใด
สตรีกลางคนสะบัดตัวออกจากการจับกุมของทหารพลางร้องไห้ออกมาราวกับคนเสียสติ
“พวกเจ้ามันสัตว์เดรัจฉาน สามีของข้าแค่อยากไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาเท่านั้น พวกเจ้ากลับฆ่าเขา! ตอนนี้ยังอยากฆ่าข้ากับลูกสาวของข้าอีก! สวรรค์โปรดมองลงมาที! ตอนนี้คนของทางการไม่ได้ทำเพื่อชาวบ้าน กลับหันมาข่มเหงรักแกชาวบ้านแทน จักรพรรดินีต้าโจวไม่เห็นคนชาวบ้านแคว้นต้าเหลียงอย่างพวกเขาเป็นชาวบ้านต้าโจวอย่างแท้จริง! ไม่เคยมองพวกเราเป็นชาวบ้านของนางจริงๆ!”
เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของสตรีกลางคนมีเลือดออกที่ศีรษะ สตรีกลางคนไม่สามารถสะบัดตัวออกจากการจับกุมของทหารได้บุรุษเลือดร้อนกลุ่มหนึ่งจึงเข้าไปช่วยคนทั้งสองซึ่งมาร้องขอความเป็นธรรมให้สามีของตัวเองที่เสียชีวิตเนื่องจากอยากไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาออกมาจากทางการอย่างทนดูไม่ไหวอีกต่อไป
ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้น
“ทุกคนอย่าเพิ่งวู่วาม พวกเรามาที่นี่เพื่อกดดันให้ทางการไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา มาเพื่อทวงความยุติธรรมให้ผู้กล้าที่เสียชีวิต ไม่ได้มาเพื่อชี้เป็นชี้ตายกับคนของทางการ!”
ทว่า เสียงตะโกนของคนผู้นั้นถูกเสียงตะโกนด้วยความโมโหของบุรุษเลือดร้อนเหล่านั้นกลบจนไม่ได้ยินแม้แต่น้อย
ไม่นานสตรีวัยกลางคนจึงถูกบุรุษเลือดร้อนช่วยเหลือออกมาจากคนของทางการ นางแทบคลานเข้าไปดูอาการของบุตรสาว นางกอดร่างของบุตรสาวไว้แนบอก ใช้มือกุมบาดแผลบริเวณศีรษะของบุตรสาวเอาไว้พลางร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
ผมของสตรีกลางคนยุ่งเหยิง ร่างของนางสะบักสะบอมไปทั้งร่าง นางใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องบุตรสาวเอาไว้พลางมองไปทางกลุ่มคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ด้วยความหวาดกลัวและเลือนลอย นางไม่เคยมาก่อนว่าเรื่องราวทั้งหมดจะกลายเป็นแบบนี้
คนของทางการและชาวบ้านต่อสู้กันเองเรื่องนี้จึงยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในชาวบ้านแย่งดาบไปจากเอวของคนของทางการ จากนั้นฟันไปที่ร่างของคนของทางการ เมื่อกลุ่มบุรุษเลือดร้อนเห็นเลือดจึงยิ่งคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ไหว ต่างถือดาบคิดบุกเข้าไปในจวนทางการ
คนของทางการช่วยกันประคองร่างสหายที่ได้รับบาดเจ็บถอยหลังหนีไปเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถอยไปถึงประตูจวนว่าการพวกก็สัมผัสได้ว่าการปะทะกันครั้งรุนแรงระหว่างชาวบ้านและคนของทางการกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ไป๋ชิงเจวี๋ยและเซี่ยอวี่จั่งพาทหารรักษาพระองค์ที่แต่งกายด้วยชุดธรรมเดินทางมาถึงก่อน พวกเขากระชากบังเหียนม้าให้หยุดลงหน้าจวนว่าการ ชาวบ้านเริ่มบบุกเข้าไปในจวนว่าการแล้ว ประตูของจวนว่าการถูกชนจนเปิดกว้างจนสุด ไม่สามารถต้านทานชาวบ้านเหล่านั้นได้อีกต่อไป
ไป๋ชิงเจวี๋ยตวาดลั่น
ทว่า เสียงของไป๋ชิงเจวี๋ยกลับถูกเสียงตะโกนของชาวบ้านกลบจนไม่ได้ยินแม้แต่น้อย
เซี่ยอวี่จั่งเห็นเหตุการณ์จึงหันไปกล่าวกับทหารในชุดธรรมดา
“ไปจับตัวทุกคนไว้”
“ไม่ได้!”
ไป๋ชิงเจวี๋ยรีบเอ่ยห้าม ชายหนุ่มกำบังเหียนม้าแน่นพลางกล่าวขึ้น
“ให้คนไปนำน้ำเย็นมาสาดพวกเขาให้หมด!”
“ขอรับ!”
เซี่ยอวี่จั่งรับคำแล้วรีบทำตามคำสั่งทันที
ตอนนี้ชาวบ้านกำลังโมโห หากพวกเขาเข้าไปขัดขวางชาวบ้านตอนนี้มีแต่จะทำให้ชาวบ้านเดือดดาลมากกว่าเดิม
เมื่อเห็นม้าของไป๋ชิงเหยียนเดินทางมาถึงไป๋ชิงเจวี๋ยจึงหันกลับไปทางพี่สาว เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่นั่งหน้าเครียดอยู่บนหลังม้า
“ข้ามาช้าไปขอรับพี่หญิงใหญ่”
ระหว่างเดินทางมาที่นี่ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่หอสุราเมื่อวานและเรื่องที่ชาวบ้านไม่พอใจราชสำนักต้าโจวและจักรพรรดินีของต้าโจวแล้ว ไป๋ชิงเหยียนหยุดสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหอสุรากับชายชราคนหนึ่งอย่างละเอียด เมื่อเอ่ยถามขึ้นเด็กรับใช้ชายและคนขายของหน้าหอสุรากลับเข้ามาร่วมวงด้วยพลางโทษว่าล้วนเป็นความผิดของราชสำนักต้าโจว
ไป๋ชิงเหยียนฟังถึงแค่คนขายเนื้อเสียชีวิตในคุก ภรรยาของเขาไปทวงความยุติธรรมให้เขาที่จวนของทางการทั้งน้ำตาก็ได้ยินคนมารายงานว่าชาวบ้านกำลังต่อสู้กับคนของทางการ
เมื่อชาวบ้านส่วนใหญ่รู้ข่าวเรื่องที่คนขายเนื้อเสียชีวิตในคุกต่างก็คิดว่าเป็นแผนของทางการ ทางการกลัวว่าคนขายเนื้อจะแอบไปแย่งศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาจนตงอี๋เปิดสงครามกับต้าโจว ตอนนี้ต้าโจวกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยน เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเดิมพัน หานเฉิงอ๋องและทหารเรือที่เสียชีวิตเพราะปกป้องชาวบ้านไม่สำคัญ ชาวบ้านจึงพากันเดินทางไปทวงความยุติธรรมให้คนขายเนื้อด้วยความโมโห
ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่จึงให้ไป๋ชิงเจวี๋ยเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อนางคุยกับชาวบ้านเหล่านี้เสร็จจะรีบตามไป นึกไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเจวี๋ยจึงช้าไปก้าวหนึ่งอยู่ดี
เมื่อเห็นชาวบ้านชนคนของทางการจนล้มลงบนพื้น ไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปทางไป๋จิ่นจื้อที่ขี่ม้าอยู่ด้านข้าง นางใช้แส้ม้าชี้ไปที่แส้ม้าที่เอวของไป๋จิ่นจื้อ
“เสี่ยวซื่อ!”
ไป๋จิ่นจื้อรีบหยิบแส้ออกมาจากเอวอย่างรู้งาน สาวน้อยตวัดแส้ออกไป…
เสียงแส้กระทบกลางอากาสเป็นเสียงที่น่าหวาดเสียวยิ่งนัก ชาวบ้านที่กำลังเดือดดาลและไม่รู้ว่าเหตุใดจึงบุกเข้ามาในจวนทางการมีสติขึ้นมาทันที พวกเขาต่างหันไปมองทางด้านหลังของตัวเอง
พวกเขาเห็นร่างผอมเพรียวของสตรีในชุดสีเรียบสวมเสื้อคลุมกันลมสีดำนั่งอยู่บนหลังม้าสีขาวด้วยใบหน้าเรียบเฉย รอบกายเต็มไปด้วยบารมีสูงส่ง
แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนร่างของสตรีที่มีใบหน้างดงามยากจะหาผู้ดเทียบผู้นั้นจนร่างของนางเหมือนอยู่ท่ามกลางกองไฟ แสงไฟอ่อนๆ ไม่สามารถทำลายรัศมีความเด็ดเดี่ยวและทระนงบนร่างของนางได้แม้แต่น้อยจนผู้คนไม่กล้าคิดล่วงเกินหญิงสาวแม้หญิงสาวจะมีใบหน้าที่งดงามมากเพียงใด พวกเขารู้สึกเพียงว่านางเหมือนเทพที่ลงมาจุติจากบนสรวงสวรรค์
ผู้ที่คุ้มกันอยู่ทางซ้ายและขวาของสตรีผู้นั้นคือบุรุษร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาและสาวน้อยที่กำแส้ม้าไว้ในมืออย่างองอาจ
ไป๋ชิงเจวี๋ยกุมบังเหียนม้าด้วยมือเพียงข้างเดียว เขากวาดสายตามองคนของทางการที่พากันกุมบาดแผลลุกขึ้นยืนด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นเอ่ยถามเสียงเยือกเย็น
“นอกจวนว่าการมีเรื่องกันถึงเพียงนี้ นายอำเภออยู่ที่ใด!”
เซี่ยอวี่จั่งลงจากหลังม้า เขากระชากร่างของคนของทางการที่อยู่ใกล้ที่สุดมา จากนั้นโยนป้ายคำสั่งให้คนผู้นั้น
“รีบไปบอกนายอำเภอของพวกเจ้าว่าฝ่าบาทเสด็จมา!”
คนของทางการผู้นั้นกำป้ายคำสั่งไว้ในมือแน่นด้วยความหวาดกลัว เขาตกใจจนเข่าอ่อน จากนั้นรีบวิ่งเข้าไปในจวนว่าการโดยไม่กล้าเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนแม้แต่น้อย
ไป๋ชิงเหยียนไม่คิดว่าการเสียชีวิตของหานเฉิงอ๋องและทหารเรือจะทำให้ชาวบ้านโมโหถึงเพียงนี้ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โตในระยะเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้!
หากวันนี้นางมาไม่ถึงจวนว่าการ เมื่อชาวบ้านบุกเข้าไปในจวนว่าการคนของทางการต้องขอความช่วยเหลือจากกำลังเสริมแน่นอน ถึงเวลานั้นการปะทะกันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นและยากที่จะแก้ไข
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางร่างของสตรีกลางคนที่ขดตัวอยู่มุมหนึ่งหน้าจวนว่าการด้วยสภาพที่สะบักสะบอม สตรีกลางคนผู้นั้นใช้มือกุมศีรษะของบุตรสาวเอาไว้ ใช้ร่างบังร่างของบุตรสาวด้วยแววตาที่เลื่อนลอย…
“ท่านแม่…”
บุตรสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของสตรีกลางคนกล่าวเสียงสะอื้น
“ท่านแม่ไม่ต้องร้องไห้ ข้ามิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ข้าไม่เจ็บ”
ไป๋ชิงเหยียนเห็นสตรีกลางคนผู้นั้นกำลังหนังสือร้องทุกข์ที่เขียนด้วยเลือดในมือแน่นจึงเดาได้ว่านางคงเป็นภรรยาของคนขายเนื้อที่เสียชีวิต
ไป๋ชิงเหยียนลงจากหลังม้า นางโยนแส้ม้าในมือให้เซี่ยอวี่จั่ง จากนั้นเดินตรงไปหาสองแม่ลูก นางประคองร่างของสองแม่ลูกขึ้น ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้สตรีกลางคน จากนั้นเอ่ยสั่ง
“รีบพาฮูหยินและแม่นางผู้นี้ไปโรงหมอ!”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เซี่ยอวี่จั่งรับคำ เขายกมือขึ้น ทหารรักษาพระองค์รีบเดินไปด้านหน้า จากนั้นแบกร่างของสตรีสาวที่น้ำตานองหน้าอย่างน่าเวทนาขึ้นหลัง